บทที่ 60

 

เพียงกระบี่เดียว โลกหล้ากลายเป็นเงียบงัน

 

เม็ดฝนสีแดงโปรยปรายจากบนฟ้า นี่มิใช่เม็ดฝนธรรมดา แต่มันคือเลือดสัตว์ร้าย!

 

ฉินห่าวถือมีดเล่มบาง ยืนอยู่ท่ามกลางฝนเลือด ตัวเขาตอนนี้ประหนึ่งปีศาจที่คืบคลานจากนรก เป็นนักฆ่าที่ไม่มีผู้ใดเทียบได้!

 

“นี่ … นี่ … ”

 

บนกำแพงเมือง ทุกคนมองภาพนี้ด้วยหนังศีรษะด้านชา เมื่อพวกเขาสัมผัสได้ถึงแรงกดดันที่มองไม่เห็นพวยพุ่งเข้าหา ใบหน้าก็เริ่มซีดเซียว

 

และยิ่งมองไปยังฉินห่าวที่ยืนอยู่ท่ามกลางฝนเลือด พวกเขาคล้ายเกิดความรู้สึกว่าได้เห็นขุมพลังอันแก่กล้าไร้เทียมทานคนหนึ่งที่กำลังถือกำเนิดขึ้น!

 

“ศิษย์พี่ฉิน!”

 

ในเวลานั้นเอง ใบหน้าของสาวกคนหนึ่งแดงก่ำ เกิดความรู้สึกภาคภูมิใจในนิกายตัวเอง

 

“ศิษย์พี่ฉิน!”

 

ทุกคนได้สติแล้ว ยกมือขึ้นร้องตะโกน

 

เสียงนั้นดังจนกลบเสียงคำรามของฝูงสัตว์ร้าย

 

“ฮ่า ฮ่า! แม้สวรรค์มิได้ให้กำเนิดนิกายเซียวเหยา แต่นิกายเซียวเหยาให้กำเนิดข้าผู้คคงอยู่ชั่วนิรันดร์ประหนึ่งราตรีอันยาวนาน!”

 

ฉินห่าวร้องคำราม แหงนหน้าขึ้นฟ้าพร้อมชูมีดบางในมือ

 

สาวกนิกายเซียวเหยาล้วนได้ยินประโยคนี้ ผู้คนในเมืองอู่กวงก็ได้ยิน พวกเขาพากันออกมานอกเมือง กระทั่งเหล่าผู้อาวุโสของนิกายที่มาฟังข่าวก็ได้ยินมันเช่นกัน

 

ทุกคนตกตะลึงกับคำพูดอันแสนอหังการและเหนือชั้นนี้!

 

“นิกายเซียวเหยา!”

 

“นิกายเซียวเหยา!”

 

“นิกายเซียวเหยา!”

 

เหล่าสาวกตื่นเต้นจนหน้าแดง ร้องตะโกนเสียงดัง แม้แต่ผู้คนในเมืองก็ยังไม่สนการห้ามปรามของทหาร พากันปีนขึ้นไปบนกำแพงเมือง แล้วก็ได้พบกับฉากอันน่าตื่นตะลึงที่ทำให้พวกเขาไม่มีวันลืมไปชั่วชีวิต!

 

“ฮ่า ฮ่า! ช่างเป็นบทกวีอันยอดเยี่ยม! แม้สวรรค์มิได้ให้กำเนิดนิกายเซียวเหยา แต่นิกายเซียวเหยาให้กำเนิดข้าผู้คงอยู่ชั่วนิรันดร์ประหนึ่งราตรีอันยาวนาน!”

 

เทียนหยุนหัวเราะเสียงดัง เลือดลมและแรงฮึดที่สูญเสียไปในช่วงหลายปีกลับคืนมาอีกครั้ง

 

ในสนามรบ ฉินห่าวค่อยๆลดมือลง ปากเอ่ยเพียงคำสั้นๆ

 

“ค่ายกลกระบี่เทพเต๋า!” 

 

พลังปราณก่อตัวเป็นกระบี่ศักดิ์สิทธิ์นับหมื่นเล่มในพริบตา พวกมันฟาดฟันอย่างรุนแรง เปิดแผนฟ้าแยกเป็นสองฟากฝั่งและ–

 

–บรึ้มมมมม!

 

รอยแยกที่ลึกและมองไม่เห็นก้นบึ้งปรากฏขึ้น รอยแยกนี้ทอดยาวดั่งเส้นสายฟ้า โลกหล้าสั่นสะเทือน ข่มขวัญเหล่าสัตว์ร้าย พวกมันนับหมื่นวิ่งหนีเตลิด พวกมันนับไม่ถ้วนเหยียบย่ำกันเองจนตาย!

 

ฉินห่าวค่อยๆยกร่างตัวเองลอยขึ้นไปกลางอากาศ

 

สายตาเขามองเข้าไปในเมือง

 

“ผู้ที่ล่วงเกินนิกายเซียวเหยาของข้า จักต้องถูกประหารอย่างไร้ปรานี!”

 

ค่ายกลกระบี่เทพเต๋าที่ฟาดฟันลงพื้นเริ่มลอยขึ้นอีกครั้ง มันกระจัดกระจายเป็นเส้นแสงนับไม่ถ้วน พุ่งข้ามกำแพงเมือง ตรงเข้าสังหารเหล่าผู้ศรัทธาของเซี่ยถูข้างในเมืองโดยตรง!

 

ในวันนี้! ชื่อของคนๆหนึ่งล้วนสลักลงในใจของผู้คนในเมืองอู่กวง!

 

ฉินห่าว!!

 

ชายผู้สังหารสัตว์ร้ายนับหมื่นและกุดหัวเหล่าผู้ศรัทธาของเซี่ยถู เลือดหลั่งไหลเป็นสายน้ำ รอยแยกบนพื้นดินที่ฉินห่าวฟันทอดยาวไปไกลเป็นร้อยลี้ก็ไม่ได้รับการซ่อมแซม!

 

ชาวเมืองเชื่อว่าสิ่งนี้คือสัญลักษณ์ที่วีรบุรุษทิ้งไว้ ดังนั้นไม่สมควรถูกลบเลือน ควรค่าแก่การจดจำโดยคนรุ่นหลัง ว่าครั้งหนึ่งเคยมีวีรบุรุษยอมต่อสู้นองเลือดเพื่อให้พวกเขารอดชีวิต!

 

ไม่เว้นกระทั่งเจ้าเมืองอู่กวงที่ประทับใจกับเรื่องนี้ เขาถึงขั้นยอมเปลี่ยนชื่อเมืองตัวเองให้สอดคล้องกับวีรกรรมดังกล่าว

 

เมืองห่าวเทียน!

 

 

“พวกเราล้มเหลว! เจ้ารู้ไหมว่าทำไมพวกเราถึงล้มเหลว?”

 

ในภูเขาไม่ไกลจากเมืองห่าวเทียน ผู้พิทักษ์ธรรมสองคนดูลำบากใจยิ่ง

 

“พวกเราประเมินพลังของนิกายเซียวเหยาต่ำไป … ไม่สิ พวกเราประเมินพลังของฉินห่าวต่ำไป!” ผู้พิทักษ์ธรรมคนผอมเมื่อนึกถึงความแข็งแกร่งของฉินห่าว เขาก็รู้สึกสั่นสะท้านในหัวใจ

 

แข็งแกร่งเกินไป! นี่ไม่ใช่ความแข็งแกร่งในระดับมนุษย์แล้ว!

 

“ถูกต้อง ใครจะคิดว่าขอบเขตแก่นทองคำจะมีพลังรบแก่กล้าเช่นนี้ หากสู้กันตัวต่อตัว น่ากลัวว่ากระทั่งมนุษย์ในขอบเขตผันแปรสู่เซียน หากไม่ระวังก็อาจตายด้วยน้ำมือเขา คำว่าอัจฉริยะไม่อาจใช้อธิบายได้อีกต่อไป เขาคู่ควรกับคำว่าสัตว์ประหลาดเท่านั้น!”

 

ผู้พิทักษ์ธรรมคนอ้วนถอนหายใจ แม้พวกเขาจะเป็นศัตรูกัน แต่ก็ต้องยอมรับว่าฉินห่าวแข็งแกร่งมาก และประเด็นสำคัญมันไม่อยู่ที่ฐานบำเพ็ญเพียร

 

แต่มันอยู่ที่แรงกดดัน! แรงกดดันของฉินห่าวนั่นมหาศาลเกินไป เขาระเบิดมันออกมาประหนึ่งว่าต่อให้กระดูกทั่วร่างแหลกสลายก็ไม่เกรงกลัว

 

“แล้วเรื่องท่านศาสดาจะเอายังไง?”

 

หลังจากเงียบไปพักหนึ่ง ผู้พิทักษ์ธรรมคนผอมเอ่ยถามเสียงขรึม

 

“พวกเราต้องทำให้สถานการณ์ในเซี่ยถูมั่นคงก่อน ครั้งนี้เกิดปัญหาใหญ่เกินไป พวกเราคงตกที่นั่งลำบากแน่ๆ แต่ยังไงก็ต้องช่วยท่านศาสดา!”

 

เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ประกายแสงเย็นเยียบทอวาบในดวงตาของผู้พิทักษ์ธรรมคนอ้วน “ในเมื่องใช้คนหมู่มากไม่อาจกดดันเขา เช่นนั้นก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผู้อาวุโสลอบสังหารเขาซะ!”

 

ผู้พิทักษ์ธรรมคนผอมเงียบ เดิมทีพวกเขาไม่จำเป็นต้องส่งผู้อาวุโสออกมาก็ได้ เพราะท้ายที่สุดแล้ว นี่คือหนึ่งในไพ่ตายของพวกตน แต่ตราบใดที่ส่งออกมา มันก็จะถูกเปิดเผย กระนั้น ตอนนี้พวกเขาไม่สามารถทําอะไรได้แล้ว มีแต่ต้องเลยตามเลย!

 

ช่องทางการอ่านล่วงหน้าเปิดแล้วนะครับ สมัครได้ที่  เพจ facebook : นิยาย by Muntra

 

*ช่องทางปกติจะปรับเป็นลงวันละตอนให้ติดตามกันได้เหมือนเดิม ส่วนอ่านล่วงหน้าจะลงวันละ 6 – 10 ตอนเหมือนที่ผ่านๆมาครับ