บทที่ 180 ทะเลจีนตะวันออกที่เต็มไปด้วยเลือด

เมื่อแสงไฟมากมายตกกระทบใส่ร่างเทียมของเย่เฟิง ชายหนุ่มพลันรีบตอบสนองอย่างรวดเร็วด้วยการควบคุมร่างเทียมให้ว่ายน้ำไปในอีกทิศทางหนึ่งด้วยความเร็วสูงสุด

ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสูงสองคนตลอดจนหลงโม่หรันกำลังไล่ล่าร่างเทียมของเขา! หลัวเฟิงนั้นเป็นศิษย์ที่มีพรสวรรค์สูงส่งแห่งสำนักหมัดเทพทวารา แต่กลับต้องมาถูกเย่เฟิงสังหาร นอกจากนี้ หลงโม่หรันยังพ่ายแพ้อย่างน่าขายหน้าต่อเย่เฟิง ความคับแค้นนี้้ทำให้พวกเขาไม่อาจอยู่ร่วมโลกกับเย่เฟิงได้อีก!

ร่างเทียมของเย่เฟิงสามารถเคลื่อนที่ได้อย่างคล่องแคล่วเช่นเดียวกับร่างจริง และสามารถสำรวจสภาพแวดล้อมรอบๆในรัศมีสั้นๆได้อีกด้วย ซึ่งนั้นไม่ใช่ทักษะเซียนแต่อย่างใด ร่างเทียมร่างนี้เป็นเพียงหุ่นเชิดที่ไม่มีเจินชี่อยู่ในร่างแม้แต่เพียงน้อยนิด

ที่ก้นทะเล ร่างเทียมของชายหนุ่มได้เคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว หลอกล่อให้หลงโม่หรันตลอดจนคนของสำนักหมัดเทพทวาราทั้งสองให้ออกห่างจากปะการังราชันย์

“หมัดเผ่าฉุย!”

ในที่สุดฝ่ายตรงข้ามก็เคลื่อนที่เข้ามาใกล้ได้ หนึ่งในนั้นรวบรวมพลังชี่ภายในที่อยู่ภายในร่าง ปลดปล่อยหมัดคู่ให้พุ่งเข้าใส่ร่างเทียมของเย่เฟิง

ตูม!

ละลอกคลื่นหมุดวนได้พุ่งเข้าใส่ร่างเทียมนั้น พร้อมกับความเร็วของร่างเทียมที่ลดลงไปในทันที ในสายตาของคนภายนอก มันดูเหมือนร่างเทียมของเย่เฟิงกำลังได้รับบาดเจ็บสาหัส

หลังจากนั้น หลงโม่หรันได้ใช้ทักษะมังกรฟาดหางตวัดขาที่ควบแน่นไว้ด้วยพลังชี่ภายใน พุ่งทะล่วงผ่านน้ำทะเลเข้าใส่ร่างเทียมอย่างรุนแรง ทำให้มันเกิดระเบิดกลายเป็นควันสีน้ำเงินพร้อมกับเสียงดัง “ปุ๊” จากนั้นควันก็ค่อยๆกระจายหายไป

เมื่อถูกโจมตีอย่างรุนแรง ร่างวิญญาณหยินเทียมก็ระเบิดและจางหายไปอย่างไร้ร่องรอย

ภาพนี้ทำให้หลงโม่หรันและชายอีกสองคนกลายเป็นโง่งมไปชั่วครู่ นี่มันอะไรกัน! เมื่อครู่นี้พวกเขาได้โจมตีใส่มันแล้วชัดๆ แต่อยู่ๆเจ้านี่ก็กลายเป็นควันสีน้ำเงินแล้วจางหายไปในน้ำ?

นี่มันประหลาดเกินไปแล้ว!

แต่ทั้งสามคนก็ไม่กล้าจะอยู่ที่นี่นาน เพราะผู้ฝึกยุทธ์คนอื่นได้มุ่งหน้าไปหาปะการังราชันย์แล้ว ถ้าพวกเขายังชักช้าอยู่แบบนี้ ก็อาจจะเสียโอกาสในการช่วงชิงปะการังราชันย์มาได้

ทันใดนั้น ทั้งสามคนก็หันตัวกลับและเปิดไฟฉายใต้น้ำ พร้อมกับรีบมุ่งไปยังจุดหมายปลายทางอย่างรวดเร็ว ด้วยที่มัวแต่ไล่ตามเย่เฟิง พวกเขาก็ตามหลังคนอื่นอยู่ก้าวหนึ่งแล้ว……..

…………..

เมื่อร่างเทียมได้หายไป ประสาทสัมผัสของเย่เฟิงก็กลับมาเป็นปกติแล้ว ในตอนนี้ ชายหนุ่มได้สำรวจรอบๆในรัศมี 100 เมตรอีกครั้งหนึ่ง ถึงแม้จะมีกองปะการังอยู่มากมายแต่เขาก็ไม่ได้ใจร้อน เย่เฟิงเคลื่อนที่เข้าไปหยิบปะการังต้นเล็กมา จากนั้นก็ซ่อนตัวอยู่ในระแวกนั้นและรีบดูดซับมัน

ปะการังราชันย์กำลังอยู่ในระหว่างการเติบโตเต็มที่ และในกระบวนการนี้ประมาณได้อย่างหยาบๆว่าอีกครึ่งชั่วโมง ดังนั้น หากเด็ดมันมาในตอนนี้ผลของมันจะลดลงไปมาก เย่เฟิงจึงไม่ต้องการให้เหตุการณ์นั้นเกิดขึ้น

เหล่าผู้ฝึกยุทธ์ทั้งหลายคงมีข้อตกลงร่วมกัน หลังรอให้ปะการังราชันย์โตเต็มที่แล้ว พวกเขาต้องก็จะต้องแข่งขันแย่งชิงกันอย่างยุติธรรม กลุ่มปะการังต้นเล็กก็เช่นกัน การรีบเด็ดพวกมันมาก็จึงไม่ใช่ความคิดที่ดี แต่ตอนนี้ปะการังราชันย์ใกล้โตเต็มที่แล้ว เย่เฟิงจึงไม่คิดอะไรให้มากความอีก

ในเมื่อปะการังราชันย์ตอนนี้ยังไม่โตเต็มที่ เขาจึงหยิบปะการังต้นเล็กหลายต้นมาดูดซับเสียก่อน!

การดูดซับปะการังต้นเล็กช่วยเพิ่มระดับวรยุทธ์ขึ้นได้ 2 ปี ด้วยทางนี้มันช่วยเพิ่มความได้เปรียบในการแย่งชิงปะการังราชันย์ แต่น่าเสียดายที่ปะการังต้นเล็กนี้ คนๆหนึ่งสามารถดูดซับมันได้เพียงครั้งเดียว ไม่เช่นนั้น ปะการังต้นเล็กมากมายเหล่านี้รวมกันแล้วคงมีค่ามากกว่าปะการังราชันย์หลายเท่านัก

เย่เฟิงซ่อนตัวอยู่ด้านหนึ่งในถ้ำใต้ทะเล และเริ่มดูดซับพลังวิญญาณในปะการังต้นเล็ก เขาเชื่อว่าแม้จะเด็ดปะการังต้นเล็กไปหลายต้น ก็จะไม่ดึงดูดความสนใจของผู้คนแน่นอน

10ปี 1เดือน…..

10ปี 2เดือน…..

ระดับวรยุทธ์ของเย่เฟิงค่อยๆเติบโตขึ้นเรื่อยๆ!

ในเวลานี้ ในที่สุดผู้ฝึกยุทธ์มากมายก็เริ่มปรากฏตัวขึ้นมาในระยะการรับรู้ของเย่เฟิงแล้วเช่นกัน อย่างไรก็ตาม คนผู้แรกที่ปรากฏตัวขึ้นมาอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากอย่างถึงที่สุด ชุดดำน้ำของเขามีคราบรอยเลือดอยู่เต็มไปหมด ส่วนที่ขาก็เหมือนถูกบาดด้วยบางสิ่งบางอย่างทำให้มีเลือดไหล่รินออกมาเรื่อยๆ

เย่เฟิงไม่รู้ว่าฝ่ายตรงข้ามมีสำนักสังกัดหรือไม่ คนผู้นั้นรีบเข้าไปหากลุ่มปะการังและมองมันอยู่ชั่วครู่ หลังจากนั้นก็หยิบปะการังมา 3 ต้นพร้อมกับเข้าไปซ่อนตัวอีกด้านหนึ่ง

เย่เฟิงเห็นว่าชุดดำน้ำของชายคนนั้นไม่ได้กว้างนัก ถ้าเขาเก็บปะการังต้นเล็กไป 3 ต้นแล้ว เขาจะเหลือที่ไว้เก็บปะการังราชันย์ได้อย่างไร

คนที่สองและคนที่สามมาถึงที่นี่ติดๆกัน น่าตกใจที่สภาพของพวกเขาก็ไม่ต่างจากชายคนแรก ชัดเจนว่าภายใต้ความมืดมิดพร้อมด้วยเศษน้ำแข็งทำให้ก้นทะเลเต็มไปด้วยความอันตราย ทำให้พวกเขาได้รับบาดแผลมากมาย

เช่นเดียวกันกับชายคนแรก พวกเขาหยิบต้นปะการังต้นเล็กไปคนละ 3 ต้น จากนั้นก็แยกย้ายกันไปหาที่ซ่อน

ไม่มีใครรู้ว่าเย่เฟิงอยู่ที่นี่ แต่ชายหนุ่มสามารถรับรู้การเคลื่อนไหวของพวกเขาได้ทั้งหมด เขาไม่ได้หวาดกลัวอันใดเกี่ยวกับเรื่องของปะการังต้นเล็ก เพราะที่นี่มันมีอยู่มากมายจนเกินกว่าจะเอาไปได้หมด

11ปี 11เดือน!

12ปี!

ไม่นาน เย่เฟิงก็เสร็จสิ้นกระบวนการดูดซับพร้อมกับวรยุทธ์ของเขาที่เลื่อนระดับขึ้นอีก 2 ปี อย่างไรก็ตาม เขาไม่สามารถใช้พลังวิญญาณส่วนเกิดของปะการังเพิ่มระดับวรยุทธ์ขึ้นได้อีก ชายหนุ่มจึงใช้มันเพื่อฟื้นฟูเจินชี่ในร่างที่เสียไปก่อนหน้านี้ ทำให้พลังของเขากลับมาเต็มร้อยอีกครั้งหนึ่ง

‘ถ้าระดับวรยุทธ์ของเราไปถึงระดับ 15 ปี เราจะสามารถใช้มรดกทักษะเซียนอันแรกของสำนักสุสารดาราได้……’

ถึงแม้จะคิดเรื่องนี้อยู่ในใจ แต่น่าเสียดายที่ในปัจจุบัน เส้นลมปราณของเขารองรับวรยุทธ์ได้ถึงแค่ระดับ 13 ปี ต่อให้สามารถช่วงชิงปะการังราชันย์มาได้สำเร็จ ก็ยังไม่สามารถเพิ่มระดับวรยุทธ์ขึ้นในทันทีได้

ที่ใต้ก้นทะเล ถ้าเย่เฟิงต้องเขาต่อสู้ เขาจะสามารถใช้ได้เพียงกระบี่ชี่เท่านั้น สำหรับทักษะเพลิงสีแดงของเขาในขั้นปัจจุบัน มันไม่สามารถใช้ในสภาพใต้น้ำแบบนี้ได้ เว้นแต่เขาจะสำเร็จมันในขั้นที่สอง

เย่เฟิงไม่ได้คิดอะไรมาก เขาปลดปล่อยทักษะสัมผัสวิญญาณออกไปและพบว่ามีผู้ฝึกยุทธ์ 12 คนได้มาถึงที่นี่และรวมตัวกันอยู่รอบๆปะการังราชันย์ พวกเขามากจากหลากหลายนิกายและสำนัก นอกจากนั้นยังมีระดับวรยุทธ์กว่า 50 ปี!

สำหรับหลุ่มคนของตระกูลหลงที่มีระดับวรยุทธ์ต่ำต้อย ไม่มีใครมาถึงที่นี่ ดูเหมือนว่าหลังจากก้าวเท้าลงสู่ทะเล พวกเขาจะถูกสังหารโดยคนอื่นๆ จึงเหลือแค่หลงโม่หรันที่มาถึงที่นี่ได้

ในเวลานี้ ปะการังราชันย์พลันปลดปล่อยรังสีประหลาดออกมา และในที่สุดในช่วงเวลานี้ มันก็เริ่มโปร่งแสงแวววาวระยิบระยับราวกับมันได้เติบโตเต็มที่แล้ว!

หลงโม่หรันและผู้ฝึกยุทธ์คนอื่นๆดับไฟฉายใต้น้ำเพื่อไม่ต้องการเปิดเผยตำแหน่งของตัวเองให้ใครได้รู้ ตอนนี้ เวลาแห่งการฟาดฟันได้มาถึงแล้ว!

‘สภาพแวดล้อมแบบนี้ช่างเป็นใจให้เราจริงๆ!’

เย่เฟิงคิดว่าด้วยอาศัยทักษะสัมผัสวิญญาณ เขาสามารถรับรู้การเคลื่อนไหวของทุกๆคนโดยรอบ แต่สำหรับคนอื่นๆ ไม่เพียงพวกเขาต้องฟาดฟันกับศัตรูของตนเอง พวกเขายังต้องระมัดระวังกระแสน้ำที่ปั่นป่วนและเศษน้ำแข็งเล็กๆมากมายอีกด้วย หลังจากปิดไฟฉายใต้น้ำแล้ว พวกเขาก็ไม่สามารถมองเห็นสิ่งใดได้อีกในก้นทะเลอันแสนมืดมิดแห่งนี้ ยกเว้นเพียงแค่ปะการังราชันย์ที่เปล่งแสงระยิบระยับออกมาเล็กน้อย

ฉึก!

หลงโม่หรันจู่โจมครั้งแรกด้วยสีหน้าที่มืดครึ่ม กระบี่ของเขาแทงเข้าไปที่หน้าอกของใครบางคน ทำให้เลือดยอมน้ำทะเลแห่งนี้ไปในทันที สำหรับหลงโม่หรัน ใครก็ตามที่พยายามขัดขวางเขา มันผู้นั้นต้องถูกกำจัด!

หลังจากนั้น หลงโม่หรันจึงพุ่งตรงไปยังปะการังราชันย์

แต่ก่อนที่จะคว้ามาได้สำเร็จ คนผู้หนึ่งของสำนักหมัดเทพทวาราได้พุ่งเขามาเด็ดมันไปอย่างรวดเร็ว และซ่อนมันไว้ในชุดดำน้ำเพื่อกลบแสงระยิบระยับของปะการังราชันย์

ทันใดนั้น ใต้ก้นทะเลนี้ก็เข้าสู่ความมืดมิดอย่างสมบูรณ์!

เย่เฟิงพลันรู้สึกว่ากลิ่นอายของเลือดในบริเวณนี้เข้มข้นมากขึ้นไปอีก มันไม่ใช่แค่มาจากการกระทำของหลงโม่หรัน แต่คนอื่นๆก็ต่างเข้าฟาดฟันซึ่งกันและกัน ในสมรภูมิใต้ก้นทะเลที่แสนจะอันตรายนั้น ชัดเจนว่าเต็มไปด้วยผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตมากมาย

แต่สำหรับเย่เฟิง ใต้ก้นทะเลแห่งนี้กลายเป็นเวทีของเขาอย่างสมบูรณ์

……………………..

แปลโดย Solar Spark