บทที่ 150: หมู่บ้านของผู้เหนื่อยล้า (3)

 

 

 

นักล่า เครอน มองไปยังไอ้เด็กเหลือขอที่กำลังแสยะยิ้มมาเบื้องหน้า ทว่าเขาค่อนข้างจะประทับใจอยู่สองอย่าง

การทีอีกฝ่ายได้รับข้อมูลเกี่ยวกับนักล่าในเวลาสั้นๆ แม้ว่าจะเพิ่งมาถึงโลกใบใหม่เอี่ยม

และการที่อีกฝ่ายตัดสินใจมาเป็นนักล่าด้วยข้อมูลนั้นเป็นพื้นฐาน

ไม่ว่ามันจะเป็นโชคหรือว่าความสามารถจริงๆ ของอีกฝ่าย การตัดสินใจจนถึงจุดนี้นับว่าค่อนข้างน่าประทับใจ

ในเมื่อการมีชีวิตอยู่ในฐานะของชาวนาที่นี่มันไม่ใช่เรื่องดีนัก

‘แต่… นายก็ควรจะคิดถึงผลของมันด้วย’

เฮลลัมหัวเราะขณะมองไปยังเครอนที่แสยะยิ้มชั่วร้ายออกมาและอธิบายกฎอย่างสั้นๆ

“อืม มันก็ง่ายๆ นายไม่จำเป็นต้องชนะ นายก็แค่ต้องแสดงให้พวกเราเห็นว่านายมีคุณสมบัติในการเป็นนักล่า ง่ายใช่ไหมล่ะ?”

เขาแค่ต้องแสดงความสามารถบางอย่างออกมา

‘อืม ฝั่งนั้นเองก็ไม่มีความคิดที่จะแพ้ซะด้วยสิ’

ในตอนที่ฮันซูส่งพลังไปยังหอกสายฟ้าในมือเขาขณะที่มองไปยังเครอนที่กำลังกระแทกถุงมือทั้งสองเข้าหากัน ทุกคนก็หันไปมองยังทิศทางหนึ่ง

และเฮลลัมที่กำลังจะเอ่ยเริ่มการต่อสู้ก็เดาะลิ้น

“ชิ เอคิดู”

‘เอคิดู?’

ขณะที่อัลแตร์ขมวดคิ้วจากชื่อที่ไม่คุ้นเคยนั้นเอง

“หยุด!”

ตุบ

คนคนหนึ่งกระโดดลงมาจากระหว่างตึกและทิ้งตัวลงระหว่างเครอน เฮลลัม และฮันซูพร้อมกับที่เธอตะโกนออกไปเสียงดัง

‘ว้าว สวยอะไรขนาดนี้’

ในขณะที่อัลแตร์กำลังชื่นชมความงดงามของอีกฝ่ายนั้นเอง

เอคิดู ผู้หญิงที่กระโดดลงมามองไปรอบๆ ตัวเธอก่อนจะเอ่ยขึ้น

“ขอโทษด้วย มันดูเหมือนว่าจะคนของเราบางคนทำเรื่องผิดพลาด”

เฮลลัมขมวดคิ้วเล็กน้อยและเอ่ยออกไป

“เอคิดู ฉันไม่ได้ทำพลาด เจ้าหมอนั่นเป็นคนขอเลื่อนขั้นก่อน”

“อย่ามาโกหก เด็กใหม่จะไปรู้เรื่องแบบ…”

แต่เอคิดูตระหนักได้ทันทีว่ามันเป็นความจริงหลังจากที่เห็นสีหน้าของเฮลลัม ฮันซู และอัลแตร์

เฮลลัมเอ่ยตอบอย่างมั่นใจเมื่อเขาเห็นเอคิดูหัวเสีย

“ฉันบอกเธอแล้ว ฉันไม่ได้ทำอะไรเลย”

‘จะยังไงเดี๋ยวพวกนี้ก็ไปแล้ว’

“มันก็ยังคงเกินไปหน่อยอยู่ดี ทำไมถึงเป็นเครอน? เครอนอยู่ที่นี่มาเกิน 11 เดือนแล้วนะ”

เฮลลัมไม่อาจตอบกลับได้ราวกับว่าเขาเองก็ไม่มีอะไรจะพูดเกี่ยวกับเรื่องนี้เช่นกัน

ฮันซูทำเพียงส่ายศีรษะขณะที่มองภาพนั้น

‘ฉันมองต่อไปไม่ได้แล้ว’

เขาไม่มีเวลามาเสียที่นี่

‘มันอาจจะต่างออกไปถ้ามีเวลาเหลือสำหรับเครื่องสังเวยเกิน 7 วัน แต่… ถ้ามันน้อยกว่านั้น งั้นการเตรียมการเพื่อมันก็ยากมากพอแล้ว’

ขณะที่ฮันซูเตรียมตัวนั่นเอง

ครืนนนนน

กลิ่นอายเข้มข้นก็ระเบิดออกมาจากทั่วร่างของฮันซู

ครึ่กกกก

ร่างของเขาขยายตัวออกจนถึงจุดที่มันเกือบจะระเบิดออกมาจากของเหลวสีเงินที่ถูกใส่เขามาในร่างของเขาผ่านการผ่าตัดดัดแปลงร่างกาย

ดาบแก่นแท้มังกรภายในร่างของเขาเสริมพลังให้กับกระดูกของเขาและพลังที่อยู่ภายในดาบนั้นก็ได้ไหลทะลักไปทั่วทั้งร่างของเขา

สกิลเสริมพลังมังกรปีศาจได้โอบล้อมทหารพันเกราะเอาไว้พร้อมกับที่สปอร์ของคมมีดระบาดเริ่มจะแทรกซึมออกมาจากมัน

วูบบบบ

แสงสีเงิน ทอง ดำ และเหลืองได้หมุนวนรอบร่างของฮันซูพร้อมกับที่พื้นดินรอบๆ สั่นสะท้านและระเบิดออก

และเฮลลัมแสดงสีหน้าเหลือเชื่อออกมาเมื่อเห็นภาพนั้น

‘เชี่ยอะไรเนี่ย… ไม่มีทาง เขาเป็นแค่เด็กใหม่ มันได้ยังไงกัน’

เหตุผลที่นักผจญภัยไม่อาจที่จะคาดคะเนความแข็งแกร่งของคนอื่นๆ ได้ด้วยเพียงแค่รูปลักษณ์ภายนอกของอีกฝ่ายนั้นถือเป็นเรื่องธรรมดา

ในเมื่อรูนคือความลึกลับของธรรมชาติที่ประสาทสัมผัสทั้งห้าไม่อาจรับรู้ได้

พวกเขาจะไม่อาจรับรู้ได้ว่าอีกฝ่ายแข็งแกร่งแค่ไหนเว้นเสียแต่ว่าคนคนนั้นจะลงมือเต็มที่

ในทางกลับกัน มันก็หมายความว่าหากผู้ใช้ต้องการให้คนอื่นเห็น พวกเขาก็สามารถแสดงมันออกมาได้เท่าที่ต้องการ

และอาร์ติแฟคของฮันซูเองก็ดูไม่ธรรมดาเช่นกัน

เซ็ทเกราะที่ส่องประกายวิบวับและหอกที่ดูเหมือนว่ามันสามารถทะลวงผ่านทุกสิ่งได้ด้วยแค่กลิ่นอายของมัน

‘ดูเหมือนว่าแหวนของเขาเองก็มีบางอย่างเหมือนกัน… เขายังขึ้นมาได้ไม่นาน เขาได้ไอ้ของพวกนั้นมาจากพื้นที่เริ่มต้นของเขตสีเหลืองเหรอ?’

เฮลลัมที่ค้นหาคำตอบของสถานการณ์แปลกประหลาดเบื้องหน้าเขาพลันได้ข้อสรุป

‘โอ้พระเจ้า นี่ทุกอย่างบนร่างเจ้าเด็กนี่เป็นอาร์ติแฟคเติบโตหมดเลยเหรอ? แถมเป็นพวกระดับพิเศษด้วย?’

เฮลลัมขยี้ตา

ระดับพิเศษ

สกิลทุกสกิลและไอเทมทุกชิ้นมีมูลค่าในตัวเอง

พวกเขาเรียกสกิลและไอเทมที่มีค่ามากเป็นพิเศษว่า <ระดับพิเศษ> เพราะว่าพวกมันพิเศษมาก

เคยมีใครบางคนเอ่ยว่าหากพวกเขาหาของระดับพิเศษพวกนี้ได้ทั้งหมด พวกเขาก็จะสามารถเรียงลำดับมันได้จาก 1 ถึง 1000 ตามพลังของพวกมัน แต่นี่คือเรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากนี้

สิ่งหนึ่งที่ชัดเจนคือสกิลและอาร์ติแฟคระดับพิเศษมีพลังที่ราวกับสัตว์ประหลาดเมื่อเทียบกับพวกที่หาได้จากสัตว์อสูรทั่วๆ ไป

และมูลค่าของพวกมันก็ยิ่งมากกว่เดิมหากพวกมันเป็นอาร์ติแฟคเติบโตด้วย

ฮันซูที่ทั้งร่างถูกโอบล้อมไปด้วยแสงเอ่ยขึ้นกับเครอน

“เข้ามา”

“เชี่ย… ฉันรู้สึกเหมือนเป็นขอทานเลย บ้าเอ้ย”

เครอนเร่งพลังในร่างของเขาจนถึงขีดสุดจากคำพูดที่ดังขึ้นอย่างกะทันหันของฮันซูและเพ่งประสาทสัมผัสทั้งหมดของเขาไป

ในเวลาเดียวกัน เขาก็เก็บถุงมือของเขาไปและหยิบเอาอาวุธล้ำค่าของเขา <กระบี่สายฟ้า> ออกมา

เขาคิดว่ามันจะเป็นเหมือนการเดินเล่นในสวน แต่การที่จู่ๆ มันดันกลายเป็นงานหนักแบบนี้

ไม่สิ ไม่ ความยากของงานนี้ไม่ใช่ส่วนสำคัญ

‘เดี๋ยว หรือฉันจะแพ้ให้กับเด็กใหม่นี่?’

แต่เครอนลบความกระวนกระวายที่คืบคลานเข้าไปในสมองของเขาอย่างช้าๆ ออกไป

‘ไม่มีทาง ไม่ เขายังมาที่นี่ได้ไม่นาน ถึงแม้ว่าเขาจะมีอาร์ติแฟคพิเศษ พวกมันก็คงยังไม่เติบโตขนาดนั้น’

โดยสรปแล้ว อาร์ติแฟคระดับพิเศษจะเติบโตอย่างเหมาะสมได้เพียงยามที่พวกมันกินรูนสีเหลือง

ดังนั้นแล้ว ระดับการเติบโตของฮันซูและอาร์ติแฟคของเขาควรจะอยู่ในระดับล่างๆ

รูนของเขาเติบโตขึ้นเกือบ 40% แล้ว

เมื่อเป็นแบบนี้ แม้ว่าฮันซูจะมีรูนถึง 1% จาก 0 ความแข็งแกร่งระหว่างพวกเขาก็แตกต่างกันราวกับฟ้าดิน

และอาร์ติแฟคที่เขามียังเป็นชิ้นพิเศษที่จะมอบให้กับนักล่าในหมู่บ้านเท่านั้น

‘ใช่แล้ว ไม่มีความจำเป็นต้องกลัว ไอ้ฉิบหายเอ้ย มาลองกันสักตั้ง’

ถ้าเขาถูกอัดยับที่นี่ งั้นมันก็ไม่มีอะไรที่จะเป็นการเสียหน้าไปมากกว่านี้แล้ว

และเครอนที่เตรียมตัวเสร็จจึงเหลือบมองไปยังเอคิดูเล็กน้อย

ด้วยความหวังเล็กๆ ว่าเอคิดูจะหยุดการต่อสู้นี้

แต่เครอนก็ทำได้เพียงสบถอยู่ภายใน

ในเมื่อสีหน้าของเอคิดูเต็ไปด้วยความสดใสและยินดี

‘นังผู้หญิงบ้านี่ การที่ฉันแพ้ทำให้เธอรู้สึกดีขนาดนั้นเลยรึไง?’

แต่ไม่เหมือนกับที่เครอนคิด เอคิดูไม่ได้รู้สึกแบบนี้เพราะเครอนกำลังจะถูกฮันซูกระทืบ

ไม่สิ เหตุผลของเธอต่างออกไปมาก

‘ฉันเจอเขาแล้ว ใครบางคนที่มีค่าพอสำหรับตำแหน่งผู้นำของหมู่บ้าน…’

แต่เธอไม่อาจรับรู้ได้อย่างทะลุปรุโปร่งหากมองเขาแค่เพียงแบบนี้

‘ได้โปรด รีบๆ แสดงให้ฉันเห็น’

เอคิดูรับรู้ได้ถึงหัวใจที่เต้นรัวขณะที่เธอมองไปยังฮันซูด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความคาดหวัง

 

 

 

“เฮ้! เครอน! ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า! ฉันได้ยินมาหมดแล้ว! ว่านายแพ้ให้กับเด็กใหม่คนหนึ่ง!”

“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!”

ขณะที่มินชูล หัวหน้าหน่วยของหน่วยที่ทำหน้าที่ดูแลพื้นที่ 11 หัวเราะ นักล่าของพื้นที่ 11 ที่เหลือก็หัวเราะเยาะเครอนไปพร้อมกับเขา

พวกเขาทำได้แค่แบบนั้น

การถูกเด็กใหม่จัดการ

มันน่าขายขี้หน้าแค่ไหนกัน

มันเป็นเรื่องน่าตลกแบบนั้น ทำให้การพ่ายแพ้ของเครอนแพร่กระจายไปทั่วทั้งหมู่บ้านอย่างรวดเร็ว

“เครอน ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า! เจ้าเด็กใหม่นั่นแข็งแกร่งขนาดนั้นเชียว?”

เฮลลัม เอคิดู และกระทั่งเด็กใหม่คนอื่นๆ ต่างก็ปิดปากเงียบเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นในการต่อสู้นั้น

มันก็แค่เรื่องราวเรียบง่ายที่เด็กใหม่ได้รับการเลื่อนขั้นเป็นนักล่าถูกแพร่ออกไป

‘ชิ ฉันสงสัยจริงว่าเขาแพ้ได้ยังไง แต่มันไม่มีทางที่จะรู้ได้ในเมื่อทุกคนที่เห็นเหตุการณ์ปิดปากเงียบกันหมด’

เครอนมองไปยังมินชูลที่กำลังเยาะเย้ยเขาและเอ่ยตอบด้วยสีหน้าหนักอึ้ง

“… นายก็ลองไปสู้กับเขาดูสิ”

“ทำไมเราต้องทำด้วยล่ะ? ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า! ตอนนี้เขากลายเป็นนักล่าเหมือนพวกเราแล้ว แล้วทำไมต้องทำล่ะ? ฮี่ฮี่ฮี่”

“…”

“แล้วทำไมพวกเราต้องไปแตะต้องใครบางคนที่กำลังจะถูกฆ่าในหนึ่งอาทิตย์ด้วยล่ะ? ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า! พวกเราไม่สนใจจะเป็นแบบนายหรอกนะ!”

มันอาจจะต่างออกไปถ้าเจ้าหมอนั่นสั่นสะท้านทั้งหมู่บ้านและต้องการจะต่อต้านพวกเขา

งั้นมันย่อมดีกว่าที่จะบดขยี้เจ้าหมอนั่นในตอนนี้

แต่โอกาสที่เจ้าหมอนั่นจะกลายเป็นเครื่องสังเวยมันแน่นอนว่า 99.99%

ทำไมพวกเขาจะต้องไปเสี่ยงขายหน้าโดยไร้เหตุผลด้วย?

เครอนตรงนั้นอาจจะกลายเป็นเรื่องตลกไปหลังจากช่วงสัญญาใหม่เริ่มขึ้น หนึ่งเดือน หรือกระทั่งตลอดปีหลังจากนั้น

‘เขาอาจจะไม่ต่อสัญญา ไม่หลังจากที่ขายขี้หน้าขนาดนี้’

เมื่อนักล่ากลายเป็นนักผจญภัยหนึ่งปีของเขตสีเหลือง พวกเขาจะได้รับตัวเลือกใหม่

ว่าจะถูกเลื่อนขั้น

หรือถูกเตะออกไป

แต่ส่วนมากเลือกที่จะจากไป

ในเมื่อคนส่วนมากที่อยู่มาหนึ่งปีสามารถออกสำรวจ <ถนนสีเขียว> ที่นำพวกเขาไปสู่จุดหมายต่อไปได้แล้ว ลำดับขั้นหลังจากนักล่าไม่ได้ดีขนาดนั้น

‘อืม เราควรจะหยุดล้อเขาไหม?’

มินชูลเริ่มหยุดหัวเราะอย่างช้าๆ

ในเมื่อดวงตาของเครอนที่สั่นสะท้านกำลังบอกพวกเขาว่าการแหย่อีกฝ่ายไปมากกว่านี้ไม่ใช่ความคิดที่ดี

การที่หมอนั่น ที่มักจะเดินไปรอบๆ และสบถใส่ทุกอย่างรอบกายกำลังยืนนิ่งอยู่เงียบๆ เป็นหลักฐานชั้นดี

ว่าเขากำลังจะระเบิด

‘ชิ เขาค่อนข้างลำพองในความแข็งแกร่งของเขา… ตอนนี้เขาคงค่อนข้างหัวเสีย’

ไม่เหมือนกับพวกเขาที่รับผิดชอบพื้นที่ 11 เครอนล่าอยู่ในพื้นที่ 1

พื้นที่ 1

พื้นที่ที่อันตรายที่สุดรอบหมู่บ้าน และสถานที่ที่คนที่แข็งแกร่งที่สุดรับผิดชอบ

และเมื่อเขาอาศัยอยู่ในพื้นที่ 1 บุคลิกของเขาก็ยิ่งดุดันโหดเหี้ยม

มินชูลตัดสินใจที่จะเอ่ยทิ้งท้ายไว้ก่อนจะตัดบท

“อืม ฉันได้ยินมาว่าอย่างน้อยนายก็ได้รางวัล งั้นนายก็สามารถไประบายความโกรธได้ตรงนั้นนี่ นายก็รู้ ผู้หญิงพวกนั้นที่นายค่อนข้างพอใจช่วงนี้ ใช่ที่ชื่อว่าเอมิลี่กับคาชิรากิไหม?”

ในเมื่อเขาทำงานของเขาเสร็จสิ้น เขาก็ยังคงได้รับรางวัล

เครอนมองไปยังเหรียญเล็กๆ สองเหรียญในเมื่อของเขาจากคำพูดของมินชูล

แม้ว่าพวกมันจะดูธรรมดา เหรียญทั้งสองนี่ก็ถูกสร้างขึ้นโดยสกิล ดังนั้นแล้วพวกมันจึงไม่อาจถูกปลอมแปลงได้

ฟรีพาสระดับสองสามวันไปยังชาวนาสองคน

แม้ว่าแต่เดิมแล้วมันจะเป็นสองวัน แต่เฮลลัมมอบสามวันให้เขาแทน

และนี่ได้ทำให้เครอนยิ่งโมโหกว่าเดิม

ในเมื่อเขารู้เหตุผลที่ทำให้เฮลลัมเพิ่มวันให้เขาอีกวัน

ครึ่กกก

เครอนกำเหรียญในมือแน่นราวกับว่าเขาอยากจะทำลายมัน

เอมิลี่และคาชิรากิ

ผู้หญิงสองคนที่เขาคงจะวิ่งไปหาทันทีถ้าเขาได้เหรียญมา

แต่ตัวเขาในตอนนี้ไม่ได้อยู่ในสถานการณ์ที่จะทำแบบนั้น

ในเมื่อความรู้สึกอีกอย่างกำลังไล่อารมณ์ทางเพศของเขาออกไป

กร๊อบ

เครอนกัดฟันกรอด เก็บเหรียญ จากนั้นจึงเดินไปยังที่ที่เอคิดูพักอยู่ที่อยู่ระหว่างใจกลางหมู่บ้านและที่พักของนักล่า

สำนักงานของหัวหน้าหมู่บ้าน

ก่อนหน้า ความรู้สึกว่าสถานที่แห่งนั้นเต็มไปด้วยความสูงส่งและพวกเขาต้องให้ความเคารพค่อนข้างรุนแรง แต่ความรู้สึกนั้นได้หายไปหลังจากที่เอคิดูกลายมาเป็นหัวหน้าหมู่บ้าน

<ในเมื่อการรับฟังความเห็นของชาวบ้านเป็นเรื่องสำคัญ มาได้ตลอดเวลาถ้ามีเรื่องจะพูด>

‘นังผู้หญิงไร้สมองเอ้ย ยายนั่นไม่มีแม้แต่ความต้องการในพลัง นั่นเป็นเพราะว่ายายนั่นเป็นผู้หญิงหรืออะไรแบบนั้นรึเปล่า?’

แต่เธอก็ยังคงเป็นหัวหน้าหมู่บ้าน

เธอยังคงมีอำนาจอยู่มาก

“เอคิดู ฉันมีเรื่องจะพูด”

“เข้ามา”

ที่อยู่อาศัยของเอคิดูอยู่สูงขึ้นไปอีกหน่อย แต่สำนักงานของเธออยู่ข้างล่างมัน

เครอนไปถึงยังสำนักงานในเสี้ยววินาทีและเอ่ยขึ้นในทันทีหลังจากที่เปิดประตูออกอย่างแรง

“เด็กใหม่จากก่อนหน้านี้ ให้เขามาที่พื้นที่หนึ่ง”

“หืมมม.. นายก็เห็น”

เครอนรู้สึกโกรธมากขึ้นขณะที่เขามองไปยังเอคิดูที่แสดงสีหน้างุนงงออกมา

“ทำไมเธอถึงต้องลังเลด้วย? เธอก็น่าจะรู้ถึงกฎของหมู่บ้าน”

คนที่แข็งแกร่งต้องรับผิดชอบตำแหน่งที่อันตราย

และคนที่อ่อนแอจะต้องจ่าย

นั่นคือกฎของหมู่บ้าน

‘ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด… เธอคงจะอยากให้หมอนั่นไปยังที่ไหนสักแห่งที่ไม่อันตราย’

เอคิดูอาจจะอยากให้ไอ้เวรนั่นมีชีวิตอยู่อย่างมีความสุขสักอาทิตย์ในเมื่อหมอนั่นคือเครื่องสังเวย แต่เขาไม่อาจปล่อยให้มันเกิดขึ้นได้

‘เชี่ยเอ้ย ฉันยังไม่แพ้’

เจ้าหมอนี่ต้องมารับผิดชอบพื้นที่หนึ่งไม่ว่าอย่างไรก็ตาม

เครอนกัดฟันกรอดขณะที่เขาคิดถึงการต่อสู้ก่อนหน้าและเอ่ยถามเอคิดู

“เธอจะไม่บอกว่ามันทำไม่ได้ใช่ไหม? ถึงจะเป็นเธอ…”

แต่เอคิดูยักไหล่

“ไม่ ถึงนายจะไม่พูดแบบนั้น… เขาก็บอกเองกับปากว่าเขาจะไปยังพื้นที่หนึ่ง”

“อะไรนะ?”

“นับตั้งแต่พรุ่งนี้ไป เขาจะไปอยู่กับนาย”

“…”

 

 

 

ครืนนนน

ฮันซูยืนอยู่เหนือเครื่องกั้นไม้ที่ส่วนนอกสุดของหมู่บ้านและมองไปยังพื้นที่หนึ่งที่มืดมิดเป็นพิเศษ

พื้นที่หนึ่ง

สถานที่ที่อันตรายเสียจนกระทั่งชาวบ้านต้องค่อยๆ สำรวจอย่างระมัดระวังใน 19 ปีที่ผ่านมา

และมันกลายเป็นสถานที่ที่ถูกปล่อยไว้เป็นเรื่องลึกลับเพราะแบบนั้น

‘รอก่อนเถอะ’

ฮันซูมองไปยังระหว่างที่อยู่ของนักล่าและป่าของพื้นที่หนึ่งหลายครั้ง และทิ้งท้ายไว้ด้วยคำพูดที่ดูเหมือนจะส่งต่อไปยังใครบางคนก่อนจะกระโดดลงจากเครื่องกั้น

 

 


TL: แพ้แล้วพาลไปอีกก