บทที่ 122: ทิราดัส (6)

 

 

 

กวานแจลากร่างท่วมเลือดของเขาผ่านป่าฮอร์นไปยังส่วนลึกของมัน

‘… ขอบคุณพระเจ้าที่มาร์กอชวิ่งหนีไปจากทิราดัส ฉันอาจจะถูกฝังอยู่ที่นี่แล้วถ้าพวกมันไม่ไป’

การรับมือกับไม่กี่ตัวในระหว่างทางก็ได้ทำให้ร่างกายของเขาได้รับบาดเจ็บยับเยินแล้ว

หลังจากที่กวานแจวิ่งไปเล็กน้อย เขาก็เจอหลุมขนาดยักษ์ที่ดูเหมือนว่าทิราดัสได้กระโดออกมาจากตรงนั้น

‘มันหลับอยู่ข้างใต้นี่งั้นเหรอ…’

หลุมที่ทิราดัสทะลวงผ่านออกมาถูกหลอมละลายและรวมเข้าหากันเพราะความร้อนจากการปะทะ

กวานแจลากร่างที่เจ็บปวดของเขาไปขณะที่ปีนลงไปด้านล่างหลุมอย่างระมัดระวัง

ในเมื่อมันอาจจะมีไพ่ตายที่สามารถรับมือกับทิราดัสอยู่ได้ในที่แห่งนี้

กวานแจแทบไม่อยากเชื่อสายตาของเขาหลังจากที่เขามาถึงก้นของมัน

‘นี่มันบ้าอะไรกัน…’

เครื่องจักรหน้าตาเหมือนแคปซูลที่คล้ายกับเครื่องข้ามกาลเวลา

มันมีร่องรอยอย่างชัดเจนว่าทิราดัสได้หลับใหลอยู่ข้างๆ เครื่องจักรแคปซูลใหญ่ห้าเมตรนี้

‘มันปกป้องไอ้เครื่องจักรนี่อยู่เหรอ?’

กวานแจรู้ว่าสถานการณ์ในยามนี้วิกฤตอย่างมาก ทว่าเขาก็ไม่อาจเอาชนะความสงสัยใคร่รู้ของเขาได้ขณะที่เขาสำรวจไปทั่วเครื่องจักร

ความสามารถที่แฟรี่มอบให้ทำให้พวกเขาก้าวข้ามกำแพงของภาษาและทำให้เขากระทั่งสามารถอ่านสัญลักษณ์ลึกลับที่เขียนอยู่บนแคปซูลยักษ์นั้นได้

<เครื่องเคลื่อนย้ายวิญญาณ>

กวานแจตระหนักได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติขณะที่เขาสำรวจเครื่องเคลื่อนย้ายวิญญาณ

ปุ่มกดขนาดเล็กที่อยู่ที่มุมหนึ่งของเครื่องเคลื่อนย้ายวิญญาณ

และกราฟที่ดูสำคัญมากๆ กำลังเปลี่ยนเป็นสีดำอย่างช้าๆ

โดยปกติแล้ว สิ่งที่เป็นด้านบวกจะไม่ถูกแทนด้วยสีดำ

กราฟที่เดิมเป็นสีขาวดูจะกลายเป็นสีดำไปเกือบครึ่งแล้ว

‘บัดซบ มันดูเหมือนว่าจะค่อนข้างวิกฤต จะยังไงก็เถอะ… ทิราดัสจะมีความรู้เกี่ยวกับไอ้ของแบบนี้ได้ยังไง?’

กวานแจค้นด้านในของเครื่องเคลื่อนย้ายวิญญาณเพื่อหาสิ่งที่ถูกวาดอยู่ในพิราบสื่อสารที่ฮันซูมอบให้เขา

และไม่ช้า กวานแจก็พบกับอัญมณีสีเหลืองอำพันก่อนที่จะมัดมันกับพิราบสื่อสารสีแดงและส่งมันไปยังบริเวณกิลด์ครอสที่ปรากฏเสียงดังสนั่นออกมา

‘… มันไม่ได้ดูเหมือนว่าจะเป็นระเบิดหรืออะไรแบบนั้น ทำไมเขาถึงต้องการมันกัน?’

กวานแจแสดงสีหน้างุนงงออกมาขณะที่เขามองไปยังพิราบสื่อสารที่บินออกไป

 

 

ตูมมม !

ฮันซูเหวี่ยงหอกของเขาไปยังทิราดัสที่แทบจะกลายเป็นสีดำไปกว่าครึ่งแล้ว

“ไอ้บ้าที่ไหนกัน!”

เอนบิ อารินตะโกนออกมาอย่างเร่งรีบ

พวกเขาสี่คนได้สร้างแนวป้องกันและกดดันมันไว้ไม่ให้มันหนีออกไปได้

เธอรู้ว่าคนพวกนั้นกำลังเข้ามาจากไกลๆ แต่ทำไมจู่ๆ เขาถึงได้ทำแบบนั้น?

ฮันซูมองไปยังเอนบิ อาริน

‘เธอต้องพัก เธอไม่ควรสู้ด้วยสภาพแบบนั้น’

“พักสักหน่อยแล้วค่อยมาสู้ต่อ ไปเอารูนฟื้นฟูจากคนพวกนั้นตรงนั้น”

“อะไรนะ?”

“เดี๋ยวเราจะซื้อเวลาตรงนี้ให้เอง”

ฮันซูเดินขึ้นไปข้างหน้าเมื่อเขาพูดจบ

พร้อมกับอคารอนห้าตนและคนจากกิลด์รีโรรีโรเรทั้งสาม

เอนบิ อารินแสดงสีหน้าแปลกประหลาดออกมาหลังจากที่ถูกดันให้ถอยหลัง

‘ไอ้กลุ่มที่ไม่เข้ากันนี่มันอะไรกัน?’

อคารอน

และกิลด์รีโรรีโรเรที่มุ่งเป้าไปยังพวกนั้น

ใครบางคนที่เธอไม่แม้แต่จะรู้จัก

เอนบิ อารินไม่อาจถอยไปได้ง่ายๆ เมื่อกลุ่มแปลกประหลาดนั้นปรากฏขึ้นเบื้องหน้าเธอ

ในเมื่อมันไม่ได้ดูเหมือนว่าไอ้กลุ่มแบบนั้นจะสามารถขัดขวางทิราดัสได้

แต่จากนั้น เอนบิ อารินก็ตระหนักได้ในไม่ช้าว่าความกังวลของเธอค่อนข้างจะไร้สาระ

‘พวกเขากำลังขัดขวางมันได้ดีกว่าฉันเสียอีก’

กิลด์รีโรรีโรเรที่เธอจัดว่าเป็นคนที่อยู่ในระดับต่ำกว่าเธอได้กลับมาในระดับที่แข็งแกร่งกว่าเธอมาก

อคารอนเองก็ดึงความสนใจของทิราดัสด้วยร่างกายที่ทรงพลังและการร่วมมือกันอันยอดเยี่ยมได้เป็นอย่างดี

และชายลึกลับที่พูดกับเธอเมื่อครู่เองก็ไม่ธรรมดา

‘… แต่พวกเขาจะฆ่ามันแบบนั้นไม่ได้ ทำไมพวกเขาถึงได้สู้แบบตั้งรับมากขนาดนั้น? พวกเขาพยายามจะซื้อเวลาเฉยๆ จริงๆ หรือ?’

เอนบิ อารินขมวดคิ้ว

และอารินไม่ใช่เพียงคนเดียวที่คิดแบบนั้น

ตูมมมม!

อาเคลล่าตะโกนออกมาอย่างหงุดหงิดหลังจากที่ถูกโจมตีจนกระเด็นโดยทิราดัส

“ไอ้สารเลวบัดซบ! ทำไมแกไม่ให้ฉันโจมตีมัน!”

สิ่งที่กระหายเลือดเสียจนถึงจุดที่ร่างกายที่ได้รับการเสริมพลังมาแล้วของเธอรับมือมันได้อย่างยากลำบาก

เธอไม่อาจทนได้นาน

สาดการโจมตีจำนวนมากเข้าไปก่อนที่เธอจะได้รับบาดเจ็บหรือหนึ่งในคนที่สร้างแนวป้องกันจะถูกฆ่าคือตัวเลือกที่ดีที่สุดในการลดความสูญเสียให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

ทว่าฮันซูกำลังควบคุมร่างกายของเธอ และกระทั่งขัดขวางมันในระหว่างที่กำลังโจมตีทิราดัสด้วยตนเองอยู่

และระดับมาร์กอชอีกสองคนจากกิลด์รีโรรีโรเรเองก็กำลังถูกควบคุมเช่นกัน

‘เชี่ย! ฉันไม่อยากจะสู้ยืดเยื้อกับไอ้ตัวแบบนั้น! เขากำลังพยายามจะสลัดพวกเราที่นี่รึไง?’

ในขณะที่อาเคลล่าหงุดหงิดจากการกระทำของฮันซู ฮันซูก็เอ่ยขึ้นหลังจากที่ดึงดูดความสนใจของทิราดัสด้วยการฟาดมันด้วยหอกของเขา

“ทนอีกหน่อย เราต้องควบคุมปริมาณความเสียหายที่เราสร้างให้มัน”

“อะไรนะ?”

ในขณะที่อาเคลล่าแสดงสีหน้างุนงงออกมา พิราบสื่อสารสีแดงตัวหนึ่งก็บินมาจากส่วนลึกของป่า

ฮันซูออกจากระยะของทิราดัสไปชั่วคราวก่อนจะจับพิราบสื่อสารตัวนั้น

‘เขาทำมันทันเวลา ดี’

ฮันซูติดอัญมณีขนาดเล็กที่มาพร้อมกับพิราบสื่อสารไปที่ปลายหอกสายฟ้า

ชึ่บ

ไม่เหมือนกับรูปลักษณ์ที่เป็นอัญมณีของมัน มันค่อนข้างจะนุ่มดังนั้นมันจึงถูกแทงด้วยหอกได้และคาอยู่ที่ปลาย

ฮันซูมองไปยังอัญมณีที่ติดแน่นอยู่บนหอกขณะที่เขาครอบหอกสายฟ้าด้วยมานามังกรปีศาจ

เพียงแค่เล็กน้อย

เพื่อที่อัญมณีจะไม่ร่วงหากมันพุ่งออกไป

ฟึ่บ

จากนั้นเขาจึงว้างหอกไปยังทิราดัสที่กำลังพุ่งเข้ามาหา

กิ้

ทิราดัสส่งเสียงแปลกประหลาดเหมือนโลหะออกมาขณะที่มันมองไปยังหอกที่พุ่งเข้ามาหามัน ทว่าจากนั้นก็เมินมันและไปให้ความสนใจกับคนอื่นๆ

แม้ว่าหอกที่พุ่งเข้ามาหามันจะรวดเร็วและแม่นยำ มันก็ขาดปัจจัยที่สำคัญมากๆ ไป

พลัง

ด้วยแรงแค่นั้น มันไม่อาจแม้แต่จะสามารถใกล้เคียงการทะลวงผ่านชั้นพิเศษของมันไปได้

เก๊ง

หอกสายฟ้าลอดผ่านเข้าไปในช่องว่างเล็กๆ ระหว่างเกราะของเทพโลหะ

ทว่ามันก็แค่นั้น

หอกที่ลอดไปยังทิราดัสพลันร่วงลงไปหลังจากที่มันสั่นร่างของมัน

‘ไอ้เวรสารเลวนี่! ทำให้มันดีๆ หน่อยถ้าแกจะโจมตี’

อาเคลล่าหัวเสียขณะที่เธอป้องกันการโจมตีจากทิราดัสตรงๆ

ทำไมเขาถึงโจมตีหากเขาไม่อาจแม้แต่จะดึงความสนใจของมันไปได้?

ทว่าฮันซูทำเพียงผงกศีรษะอย่างเรียบง่ายขณะที่เขามองไปยังหอกที่กำลังร่วงลง

‘มันเข้าไปแล้ว’

อัญมณีสีเหลืองที่อยู่บนปลายหอกพลันถูกดูดเข้าไปในร่างของทิราดัส

ในเวลาเดียวกัน แสงสีดำที่ค่อยๆ คืบคลานออกมาก็พลันหายไป

เหมือนกับหมึกที่เลอะบนฉากสีขาวได้ถูกเช็ดออกไป

ทว่าทิราดัสไม่ได้รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงของตนเองขณะที่มันยังคงอาละวาดอยู่ ทว่ารูปลักษณ์ภายนอกของมันปรากฏขึ้นอย่างชัดเจนในสายตาของทุกคนที่นั่น

‘หินปิดกั้นทำงานได้ดี’

ฮันซูผงกศีรษะในเมื่อเขาได้หยุดยั้งร่างที่สองของทิราดัสที่เป็นส่วนที่เลวร้ายที่สุดในการรับมือเอาไว้ได้

หากทิราดัสตัดสินว่ามันได้รับความเสียหายมากพอจากคู่ต่อสู้ มันจะใช้พลังงานที่เหลือในการเข้าสู่ร่างที่สอง

จากร่างป้องกันเป็นร่างทำลายล้าง

มันจะสามารถอยู่ในร่างนั้นได้เป็นเวลาราวๆ หนึ่งชั่วโมง

แม้ว่ามันจะสั้น มันก็มากเกินพอในการบดขยี้ทุกสิ่งที่มันตัดสินว่าเป็นอันตรายต่อตัวมัน

ในเมื่อทิราดัสสีดำ ที่เป็นตัวแทนของปีศาจจากสีของมัน สามารถแสดงพลังที่เหมาะสมกับรูปลักษณ์ของมันออกมาได้

การโจมตีมันมากเกินไปจะทำให้มันกลายเป็นสีดำ และการที่ไม่โจมตีมันหรือโจมตีมันเบาเกินไปก็จะทำให้คนเหล่านั้นถูกมันในร่างสีขาวฆ่า

มันเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่ารำคาญมากในหลายๆ ทาง

‘แต่ในเมื่อหินปิดกั้นกำลังทำงาน มันก็จบแล้ว’

หินปิดกั้นจะบังคับให้มันอยู่ในร่างแรก

ตอนนี้พวกเขาสามารถโจมตีมันได้มากเท่าที่ต้องการและมันจะไม่เปลี่ยนไปยังร่างสีดำ

ในตอนนั้นเอง

เคร้งงง!

โซ่ขนาดยักษ์พุ่งผ่านอากาศมาและโจมตีไปยังทิราดัส

ตูมมม!

กรี๊ซซซ!

ทิราดัสมองไปยังตำแหน่งที่โซ่ลอยมาหลังจากรู้สึกหงุดหงิด

เอนบิ อาริน ที่เตรียมตัวจะเข้าไปสู้ต่อหลังจากฟื้นตัวเล็กน้อยเองก็มองไปยังเจ้าของโซ่นั้นเช่นกัน

‘กิลด์โอโคเนลลี่… แอเรียล’

เอนบิ อารินขมวดคิ้ว

ระดับมาร์กอชราวๆ 12 คนได้ปรากฏตัวขึ้นเบื้องหลังแอเรียล

พวกนั้นทั้งหมดคือคนที่กิลด์ครอสขอความช่วยเหลือไป

เอนบิ อารินเอ่ยขึ้นขณะที่ขมวดคิ้ว

“แอเรียล มาได้พอดีอะไรแบบนี้ ดูเหมือนว่าพิราบสื่อสารที่ฉันส่งไปจะช้าเพราะมันมัวแต่ไปหาหนอนกินสินะ?”

แอเรียลที่ยืนอยู่ด้านหน้าสุดยักไหล่

‘ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องถอย’

แม้ว่าคนพวกนั้นจะแข็งแกร่ง เธอก็มีคนระดับมาร์กอช 12 คนอยู่ด้านหลัง

มันอาจจะยากที่จะเถียงเพียงเพราะแค่มาสายไปหน่อย

‘และอำนาจที่จะตัดสินก็ไม่ได้อยู่ในมือเธอเหมือนกัน’

“เราควรจะทำยังไง? เราสามารถถอยไปได้นะถ้านายบอกให้เราทำ”

แอเรียลแสยะยิ้มขณะที่มองไปยังฮันซู

‘ถึงมันจะน่าเหลือเชื่อไปหน่อย แต่… หมอนั่นเป็นหัวหน้า’

แอเรียลตระหนักถึงเรื่องนี้ได้หลังจากที่มองการต่อสู้ไปสักพักอยู่ห่างออกไป

น่าประหลาดใจ หมอนั่นตรงนั้นที่เธอไม่เคยเห็นหน้ามาก่อนคือผู้นำของกลุ่มที่ต่อสู้กับทิราดัส

เขาคือผู้นำของดาวไถและอคารอน

ฮันซูผงกศีรษะ

‘พวกเขาอยากจะทำงาน ไม่มีความจำเป็นจะต้องหยุดพวกเขา’

นี่คือตอนที่ทิราดัสถูกมัดด้วยหินปิดกั้น

ยิ่งมีคนโจมตีมากเท่าไหร่ก็ยิ่งดี

ฮันซูผงกศีรษะเล็กน้อยขณะที่เขาเริ่มสาดการโจมตีไปยังทิราดัส

แอเรียลแย้มยิ้มไปยังเอนบิ อาริน จากนั้นจึงเริ่มสาดการโจมตีไปยังเทพโลหะเช่นกัน

 

 

เคร้งงง

แอเรียลแสดงสีหน้าที่เต็มไปด้วยความคาดหวังออกมาหลังจากเห็นทิราดัสที่ร่วงลงมาจากท้องฟ้าและกระแทกลงกับพื้น

นี่คือเหตุผลที่ทำให้คนระดับมาร์กอชส่วนมากบนกรากอชมารวมตัวกัน

แต่แม้ว่าจะมีคนจำนวนมากขนาดนั้นโจมตีมัน มันก็ยังคงใช้เวลานานในการสอยมันลงมา

แม้ว่าจะเป็นระดับมาร์กอชจากกิลด์ครอสที่มีชื่อเสียงในด้านความทรงพลังแม้จะเป็นในบรรดาระดับมาร์กอชด้วยกันยังได้รับบาดเจ็บสาหัสขณะที่พยายามขัดขวางมัน

‘มันควรจะมีรางวัลบางอย่างถ้าไอ้ตัวนี้แข็งแกร่งขนาดนั้น’

และมันยังมีผลลัพธ์อีกอย่าง

‘อาเคลล่า เธอคงจะรู้สึกดีหลังจากที่เธอแข็งแกร่งขนาดนั้น’

แอเรีนลมองไปยังอาเคลล่าที่ดูเหนื่อยอ่อนห่างออกไป

แม้แต่ลิงยังรู้ว่าอาเคลล่าแข็งแกร่งขนาดนั้นได้ยังไง

การผ่าตัดดัดแปลงร่างกาย

‘ฉันไม่อาจปล่อยอคารอนที่ยืนอยู่ข้างหลังนั่นไปได้เหมือนกัน’

ช่วงเวลานี้สำคัญอย่างมาก

แอเรียลหัวเราะขณะที่เธอมองไปยังฮันซู

“ส่วนแบ่งควรจะเท่าเทียมกันทุกคนใช่ไหม?”

ฮันซูยักไหล่ขณะที่เอ่ยตอบ

“แน่นอน ฉันไม่สนใจแม้ว่าเธอจะแบ่งมันเท่าๆ กันทุกคน”

เขาไม่ได้ต้องการวัสดุทุกอย่างจากมันอยู่แล้ว

ในเมื่อส่วนสำคัญก็คือตัวกระตุ้นอยู่ดี

‘ด้วยสิ่งนั้น ฉันจะสามารถสร้างยารักษาได้’

ในที่สุดเขาก็สามารถเห็นจุดจบของเรื่องนี้ได้

ในตอนนั้นเองที่พิราบสื่อสารจำนวนมากบินเข้ามา

ไปยังแอเรียล

อีกห้ากิลด์ที่เธอส่งพิราบสื่อสารไปในระหว่างสู้ได้ส่งพิราบของพวกเขากลับมาราวกับพวกเขาได้เข้ามาค่อนข้างใกล้แล้ว

แอเรียลหัวเราะขณะที่เธอมองไปยังพิราบสื่อสารที่บินเข้ามาในเวลาที่เหมาะเจาะ

‘กิลด์ครอส กิลด์รีโรรีโรเร พวกนายไม่ควรให้ลูกกิลด์ของพวกนายถอยไปไกลขนาดนั้น’

การแบ่งของไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าใครทำงานหนักกว่า

มันขึ้นอยู่กับว่าใครแข็งแกร่งกว่า

‘และ… หมอนี่อันตรายเกินไป’

ครอส รีโรรีโรเร และกระทั่งอคารอน

ถ้าเธอปล่อยหมอนี่ที่อยู่ตรงหน้าไว้ งั้นกองกำลังที่ไม่อาจแม้แต่จะเทียบกับกิลด์รีโรรีโรเรได้จะเกิดขึ้น

แอเรียลหยุดความคิดของเธอก่อนจะเอ่ยขึ้นกับฮันซูเพื่อที่จะเริ่มการต่อสู้

“ดี แต่ฉันมีข้อเสนออีกอย่างสองอย่าง”

“อะไรล่ะ?”

“ฉันหวังว่านายจะสามารถทิ้งพวกอคารอนข้างหลังนั่นไว้กับเราได้… นายทำอะไรของนาย ไม่แม้แต่จะฟังที่คนอื่นพูดเลย?”

แอเรียลขมวดคิ้วหลังจากที่พูดอย่างมั่นใจออกไปไม่นาน

ในเมื่อฮันซูวุ่นวายอยู่กับศพของทิราดัสไปชั่วครู่ ดึงบางอย่างออกมา ผสมมันกับบางอย่างจากกระเป๋าของเขาและดื่มมันเข้าไปทั้งแบบนั้น

“หืมมม มันไม่ได้มีอะไรมากมาย ช่วงหลังๆ ร่างกายของฉันแค่รู้สึกไม่ค่อยดี แต่เธอพูดว่าอะไรนะ?”

ครึ่ก ครึ่กกก

ปึดดด

ฮันซูเอ่ยตอบขณะที่เขาได้ยินเสียงน่าฟังของการที่โลหะเหลวหลอมรวมเข้ากับกระดูกของเขาและสงบลงในร่าง

 


TL: มันจบแล้วแอเรียล