บทที่ 102: การผ่าตัดดัดแปลงร่างกาย (2)

 

 

 

“นายกำลังจะบอกฉันว่า… นายบอกคำตอบพวกเราได้งั้นเหรอ?”

โซเฟียมองไปยังเคนด้วยสีหน้าไม่เชื่อถืออย่างมาก

หมอนี่ไม่ใช่คนที่อยู่ในระดับสูงแม้ว่าจะเหลือบมองเพียงผ่านๆ

คนแบบหมอนี่จะรู้ทางไปยังวิหารได้ยังไง?

‘มันอยู่ในสถานที่ที่ใครๆ ก็รู้อย่างนั้นหรือ?’

ถ้ามันอยู่ในสถานที่แบบนั้น เช่นนั้นมันก็ควรจะปรากฏอยู่ในห้องสมุดตั้งแต่แรก

การที่ข้อมูลไม่ปรากฏขึ้นหมายความว่ามันอยู่ในสถานที่ที่เธอไปไม่ได้

และจากคำพูดของหมอนี่ เธออยู่ในระดับราวๆ หกปี

ถ้ามันคือสถานที่ที่คนอย่างเธอไม่อาจที่จะเข้าใกล้ได้ง่ายๆ เช่นนั้นมันย่อมเป็นสถานที่ที่ค่อนข้างจะอันตราย

เคนครุ่นคิดไปชั่วครู่เมื่อได้ยินเช่นนั้น ทว่าก็ตัดสินใจอย่างรวดเร็ว

ชีวิตของเขาจะตกอยู่ในอันตรายถ้าเขาบอกคนอื่นเกี่ยวกับข้อมูลของกิลด์เขา แต่การออกจากสถานการณ์นี้สำคัญยิ่งกว่า

‘เวรเอ้ย ไม่ว่าจะทางไหนก็ตายอยู่ดี’

เขาไม่ต้องการที่จะเอ่ยอะไรออกไป แต่เขามีความรู้สึกรุนแรงว่าเขาจะกลายเป็นกองเนื้ออยู่บนพื้น

ในเมื่อคนที่อยู่เบื้องหน้าเขาดูเสียสติไม่น้อย

คนที่กำลังถือหอกอยู่ดูจะพอมีสติอยู่บ้าง ผู้หญิงคนที่ทำร้ายเขาเองก็ไม่ได้มีกลิ่นอายกระหายเลือดอะไรออกมา แต่ชายหน้าตาธรรมดาตรงนั้นมันต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง

วินาทีที่หมอนั่นได้ยินว่าเขามีคำใบ้ เขาก็พลันเริ่มทรมานเขาราวกับว่ามันเป็นบางอย่างที่เร่งด่วน

‘เวรเอ้ย ฉันไม่ได้สนใจหมอนั่นในเมื่อเขาเงียบจนเกินไป’

คนที่เยือกเย็นที่สุดคือคนที่เสียสติที่สุด

เคนเปิดปากออกหลังจากที่ยอมแพ้

“ฉันไม่เคยไปที่นั่น แต่ฉันรู้จักคนที่เคยไปที่นั่น”

“มันอยู่ที่ไหน?”

เคนส่ายศีรษะ

“มันไม่ยากที่จะบอกพวกนาย แต่… พวกนายจะไปจริงๆ เหรอ? คนพวกนั้นถูกจับไปนะ”

“ถูกจับ?”

“ใช่ พวกเขาถูกจับเอาไว้ลึกในร่างของกรากอซ”

เขาเพียงออกมาเพื่อรวมตัวกัน บนร่างของกรากอซไม่ใช่สถานที่ที่มนุษย์จะสามารถอาศัยอยู่ได้

พวกเขาได้เผชิญหน้ากับอันตรายค่อนข้างมาก

แม้ว่าการจู่โจมจากการที่กรากอซโจมตีกันเองเหมือนก่อนหน้าจะไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นปกติ แต่คนโชคร้ายที่อยู่ข้างบนในช่วงเวลานั้นอาจจะถูกฆ่าได้

หรืออาจจะถูกโจมตีโดนมาร์กอชที่เดินทางไปทั่ว

ทั้งมันยังไม่มีอะไรให้กินมากบนพื้นผิวในเมื่อพวกมาร์กอซได้ดูดกินทุกอย่างไปจนแห้งเหือด

เพราะแบบนี้ คนที่แข็งแกร่งจึงได้ขุดอุโมงค์เข้าไปภายในและเคลื่อนไหวจากอุโมงค์เหล่านั้น

โครงสร้างใหญ่โตที่ยอดมนุษย์นับสิบล้านคนช่วยกันสร้างขึ้นมาเป็นเวลายาวนานเพื่อที่จะเอาชีวิตรอด

<อุโมงค์มด>

อุโมงค์มดเหล่านี้ที่ยังคงขยายออกไปเรื่อยๆ คือสถานที่ที่มนุษย์ส่วนมากบนกรากอซอาศัยอยู่

โอกาสที่จะถูกโจมตีโดยมาร์กอชลดลงอย่างมากในที่นี่ ทั้งมันยังไม่มีโอกาสที่จะกระเด็นออกไปยังทะเลลาวาแม้ว่ากรากอซจะสะบัดร่างของมัน ทั้งพวกเขายังสามารถหาของเหลวในร่างของมันได้อย่างปลอดภัยโดยไม่ต้องต่อสู้กับมาร์กอช

‘แน่นอนว่ามันไม่ได้หมายความว่ามันปลอดภัย’

อุโมงค์มดอันตรายในเหตุผลที่ต่างออกไป

แต่เคนเก็บคำพูดเหล่านั้นไว้กับตนเอง

ในเมื่อมันไม่มีความจำเป็นให้เขามอบข้อมูลให้กับคนที่เพิ่งจะขึ้นมา

จะอย่างไร คุกก็ถูกตั้งอยู่ในสถานที่ลับในส่วนลึกภายในอุโมงค์มด

ฮันซูถามเคน

“ทำไมพวกเขาถึงถูกขัง?”

มันไม่มีอะไรต้องถามว่าพวกเขาถูกขงโดยใคร

เคนยักไหล่ขณะที่เอ่ยตอบ

“ฉันไม่รู้ ไปถามพวกนั้นเอาเองสิ ฉันมีหน้าที่แค่เอาคนไปขังและเอาเสบียงไปให้”

ฮันซูมุ่นคิ้วเมื่อได้ยินคำตอบของเคน

กิลด์รีโรรีโรเร

มันเป็นกิลด์ที่ขยายอำนาจของมันออกได้รวดเร็วที่สุดในเขตสีส้มตามความรู้ของเขา

ผู้คนที่ไม่กระทำสิ่งไร้ประโยชน์และเคลื่อนไหวเพียงเพื่อผลลัพธ์

มันไม่มีเหตุผลให้คนพวกนี้ต้องจับพวกนั้นเป็นตัวประกันหากมันไม่มีความจำเป็น

ซึ่งหมายความว่าพวกนั้นถูกจับเป็นตัวประกันเพราะพวกนั้นมีประโยชน์

และหากพวกนั้นถูกจับเป็นตัวประกัน งั้นพวกนั้นย่อมไม่ถูกปล่อยตัวมาได้โดยง่าย

เคนเอ่ยถามพวกเขาอย่างสงสัย

“ได้โปรดปล่อยฉันไป ในเมื่อฉันบอกพวกนายไปทุกอย่างแล้ว ไม่ใช่ว่าฉันแค่ต้องบอกตำแหน่งของมันให้กับพวกนายเหรอ”

ฮันซูส่ายศีรษะเมื่อได้ยินเช่นนั้น

หมอนี่จะไม่ส่งพิราบสื่อสารออกไปเหรอถ้าหากถูกปล่อยตอนนี้

เขาต้องทะลวงผ่านพวกนั้นไปในขณะที่การป้องกันของพวกนั้นยังไม่เข้มงวดขึ้น

“นำทางพวกเราไปที่นั่น”

“บัดซบ! งั้นมันก็เรียกว่าทรยศแล้ว! ฉันจะตายจริงๆ นะ!”

โซเฟียแสดงสีหน้าเย็นชาออกมาทันทีที่สิ้นเสียงของอีกฝ่าย

แม้ว่าจะได้ยินคำอธิบายของอีกฝ่าย ตำแหน่งของคุกก็ยังคงไม่ปรากฏขึ้นในลักษณะพิเศษของเธอ

ซึ่งหมายความว่ามันคือสถานที่ที่ค่อนข้างยากสำหรับเธอในการไปสำหรับระดับพลังของเธอในยามนี้

‘มันอาจจะมีการป้องกัน’

จะอย่างไร พวกเขาก็ต้องการอีกฝ่ายในเมื่อทิศทางไม่ปรากฏขึ้น แต่หากอีกฝ่ายไม่ต้องการที่จะนำทาง เช่นนั้นเขาก็หมดประโยชน์แล้ว

“งั้นเหรอ? ถ้านายไม่มีประโยชน์แล้วมันก็ไม่มีเหตุผลให้เก็บคนที่ต้องการจะฆ่าฉันไว้”

ทันทีที่สิ้นประโยค บางอย่างก็ได้ปรากฏขึ้นบนฝ่ามือของโซเฟีย

เคนผวาไปเมื่อเห็นสิ่งนั้น

‘นังผู้หญิงเสียสตินี่!’

เคนรีบโบกมือและส่ายศีรษะของเขาอย่างรวดเร็ว

“บัดซบเอ้ย! ได้! อย่าฆ่าฉัน ฉันจะนำทางพวกนายไปที่นั่น!”

‘เวรเอ้ย ฉันไม่อยากไปที่ฝั่งนั้นเลยจริงๆ’

แต่เคนก็มีความคิดของตนเอง

เขาได้ส่งพิราบสื่อสารที่บอกว่าเขาพบโซเฟียออกไปแล้ว

หากพวกนั้นพบว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นกับเขา งั้นพวกนั้นก็จะส่งหน่วยสอดแนมออกมา

เคนปกปิดเจตนาของเขาและชี้ไปยังทิศทางที่แตกต่างออกไปเล็กน้อย

เพื่อที่จะซื้อเวลา

ทันทีที่ฮันซูเห็นทิศทาง เขาก็คว้าคอของอีกฝ่ายไว้และเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว

ฟึ่บ

โซเฟียและเตกิลอนไล่ตามไปพร้อมกับสีหน้างุนงง

“ทำไมนายต้องรีบขนาดนั้น?”

จะอย่างไร พวกเขาได้จัดการให้พวกนั้นไม่สามารถติดต่อกันได้แล้ว

ทำไมพวกเขาถึงต้องรีบในเมื่อคนในคุกพวกนั้นจะไม่หนีไปไหนอยู่แล้ว?

มันจะดีกว่าถ้าจะหาตำแหน่งที่แน่นอนแล้วจึงเคลื่อนไหวหลังจากเตรียมการแล้ว

พวกเขายังเตรียมตัวไม่พอ

‘และคนในคุกพวกนั้นก็จะไม่ไปไหนอยู่แล้ว’

ฮันซูส่ายศีรษะ

‘มันไม่มีเวลาแล้ว’

โซเฟียและเตกิลอนไม่รู้ แต่ฮันซูรู้ว่ามันมีการติดต่อฉุกเฉินระหว่างคนพวกนี้

ฮันซูมองไปยังเคนและเอ่ยขึ้นหลังจากคิดเสร็จ

“ฉันให้เวลานาย 30 นาที ถ้าพวกเรายังไปไม่ถึงที่นั่นภายในเวลานั้น งั้นเราก็จะไป”

“อะไรนะ?”

“เราจะยอมแพ้ มันไม่มีอะไรให้พูดมากว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับนายหลังจากนั้น”

จากการคำนวณของเขา มันมีโอกาสสูงที่คนพวกนั้นจะเผชิญหน้ากับพวกเขาในราวๆ 30 นาที

หากเขาต้องคำนวณในอีกหลายๆ เรื่อง งั้นเขาก็ต้องทำมันให้สำเร็จใน 30 นาที

ไม่งั้นมันจะดีกว่าที่จะถอยไปและแข็งแกร่งขึ้น ซื้อเวลาและจากนั้นจึงมองหาโอกาสครั้งใหม่

‘เหี้ยเอ้ย! หมอนี่รู้ได้ยังไง!’

เคนผวาไปเมื่อได้ยินคำพูดของฮันซู

30 นาทีแทบจะเป็นเวลาเดียวกับที่เขาคาดเดาไว้ว่ากิลด์ของเขาจะลงมือ

การที่ดูออกว่าเขาวางกับดักเอาไว้เป็นเรื่องนี้ แต่นี่กระทั่งสามารถล่วงรู้ถึงเวลาได้

เคนที่ใบหน้าขาวซีดลงจากคำข่มขู่ของฮันซูครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ก่อนจะเปลี่ยนทิศทางของนิ้วของเขา

30 นาทีค่อนข้างที่จะกระชั้นชิดในการไปถึงที่นั่นจากจุดนี้

หากเขาจะซื้อเวลาและหมอนั่นไปตามคำพูดของเขาจริงๆ งั้นเขาก็จบลงตรงนี้แล้ว

โซเฟียแสดงสีหน้าตื่นตะลึงออกมาหลังจากเห็นภาพนั้น

พวกเขาได้ขัดขวางอีกฝ่ายทุกทาง แต่หมอนั่นยังอุตส่าห์วางกับดักไว้ได้

“ดูนี่สิ?”

‘ไอ้เวรนี่’

เขานึกถึงการทรมานที่เขาทนมาก่อนหน้าหลังจากเห็นสีหน้าที่เย็นชาขึ้นของโซเฟียและเตกิลอน

ไม่สิ เคนรู้สึกอยากจะหักนิ้วของตัวเองที่ไปหลอกอีกฝ่ายไว้ก่อนหน้าในเมื่อสถานการณ์ในตอนนี้มันดูแย่ยิ่งกว่าเก่าเสียอีก

 

 

คาร์ลสัน คนที่ได้รับความไว้วางใจให้ดูแลพื้นที่ 21 ของกิลด์รีโรรีโรเรขมวดคิ้ว

‘เวรเอ้ย ทำไมกิลด์ต้องตั้งชื่อแบบนี้ด้วย’

มันไม่มีอะไรให้พูดมากเกี่ยวกับกิลด์ในเมื่อผู้ที่ดูแลพื้นที่ 19 ข้างๆ เขาได้ล้อเขาด้วยชื่อนี้

<ฉันจะให้กิลด์ชื่อนี้! ถ้านายอยากจะรู้ว่าทำไม งั้นมันก็เป็นเพราะฉันชอบการ์ตูนเรื่องนั้น!>

‘ไอ้นักเขียนบ้านั่น’

แต่เขาก็ทำได้เพียงยอมรับในความแข็งแกร่งของหัวหน้ากิลด์

มันเป็นเวลากว่าสิบปีแล้วตั้งแต่ที่กิลด์ที่มีขนาดใกล้เคียงกับพวกเขาถูกสร้างขึ้น

ในทางกลับกัน พวกเขาได้เริ่มขึ้นโดยมีหัวหน้ากิลด์เป็นจุดศูนย์กลาง ยึดครองพื้นที่ผ่านการต่อสู้ด้วยระยะเวลาเพียงสี่ปีก็สามารถเติบโตได้จนมีขนาดใกล้เคียงกับพวกนั้น

หัวหน้ากิลด์เป็นคนที่น่าอัศจรรย์ตั้งแต่การที่เขาสร้างกิลด์ขึ้นจากความว่างเปล่าในระยะเวลาเพียงสี่ปี

‘จะยังไงก็เถอะ ฉันสงสัยจริงว่าการรวมตัวเป็นไปด้วยดีไหม”

คาร์ลสันคิดถึงการรวมตัวที่กำลังดำเนินอยู่ด้านบน

กิลด์ไม่อาจที่จะควบคุมและกดดันลูกกิลด์ทุกคนได้

และเพราะแบบนั้น การประชุมจึงไม่เลวร้ายในความคิดของพวกเขา

ในเมื่อลูกกิลด์จะสามารถกำจัดศัตรูในอนาคตได้โดยใช้การแก้แค้นเป็นเหตุผล

เพราะแบบนี้ กิลด์จำนวนมากจะรวมพลังกันในระหว่างช่วงเวลาของการรวมตัวแล้วจึงสลายตัวไปอีกครั้ง

แต่ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นเพียงในนาม มีหรือที่พวกเขาจะสามารถเชื่อใจกิลด์อื่นๆ ได้อย่างสมบูรณ์?

การกวาดล้างด้านบนนั้นคือพื้นที่ในการแทงข้างหลังที่สมบูรณ์แบบ

ในวันเก่าๆ มันเป็นเรื่องที่ค่อนข้างธรรมดาสำหรับคนจากกิลด์ในการไปยังพื้นที่ของอีกกิลด์เมื่อได้รับข่าวว่าศัตรูจากเขตสีแดงของพวกเขาอยู่ที่นั่นและตายไปด้วยการลอบโจมตีของคนจากกิลด์อื่น

และเพราะแบบนั้น พวกเขาจึงกำหนดจำนวนขั้นต่ำเพื่อความปลอดภัยของผู้ที่เข้าร่วมงานนี้

ในตอนนั้นเอง หนึ่งในตุ๊กตาวูดูทั้งหนึ่งพันเบื้องหน้าดวงตาของคาร์ลสันก็ได้ส่งเสียงดังขึ้น

ปี๊บ ปี๊บ

คาร์ลสันขมวดคิ้วกับตุ๊กตาวูดูที่ข้างหน้าเขา

เสียงที่จะดังขึ้นเมื่อคนที่เข้าร่วมในการรวมตัวครั้งนี้ได้ออกจากพื้นที่ที่พวกเขาควรอยู่อย่างกะทันหันหรือตาย

คาร์ลสันอ่านจดหมายด้านบนตุ๊กตาวูดู

<หน่วยลาดตระเวนและผู้ดูแลคุก: เคน มอร์ริสัน>

  • ตำแหน่งสุดท้ายที่พบ: พื้นที่Z-11ิ
  • ข่าวรายงาน: …

พื้นที่ 21 ที่เขาดูแลอยู่ได้ถูกแบ่งออกเป็นอีกสามส่วน

ในเมื่อขนาดของพื้นที่นั้นใหญ่เกินกว่าที่คนคนหนึ่งจะสามารถควบคุมได้

แม้ว่ามันจะถูกแบ่งออกเป็น 18 พื้นที่ ขนาดของกรากอซก็ใหญ่เสียจนทุกพื้นที่มีขนาดใหญ่กว่าเมืองส่วนมาก

คาร์ลสันตรวจสอบตำแหน่งและข้อมูลที่พิราบสื่อสารส่งมาให้เขา

‘… มันไม่มีเหตุผลอะไรให้หมอนั่นออกจากพื้นที่ปัจจุบัน’

คาร์ลสันขมวดคิ้ว

มันไม่มีเหตุผลให้หมอนั่นออกไปจากพื้นที่แบบนี้

‘ไม่ ไม่’

คาร์ลสันเพ่งสมาธิของเขาไปยังพิราบสื่อสารตัวสุดท้ายที่ถูกส่งมา

โซเฟีย เวอร์จีร่า

หมอนั่นบอกว่าหมอนั่นพบกับหนึ่งในเจ็ดเสี้ยววิญญาณ

‘ฉันเดาว่าฉันคงต้องไปดูสักหน่อย’

จากรายงาน มันบอกว่ามันมีคนอีกสองคนมากับโซเฟีย

‘เอาเถอะ พวกนั้นก็แค่เหลือบไร ฉันไม่ต้องสนใจก็ได้’

ใครจะไปแข็งแกร่งกว่าเสี้ยววิญญาณอีก?

‘จะอย่างไร พวกนั้นก็ไม่มีความรู้สึกหวาดกลัว กับการที่ลงมือแบบนี้ทันทีที่พวกนั้นขึ้นมานี่’

โซเฟียแข็งแกร่ง แต่มันยังมีคนอีกจำนวนหนึ่งในกิลด์ของเขาที่อยู่ในระดับนั้น

และคนจำนวนหนึ่งพวกนั้นก็อยู่ในอุโมงค์มดใกล้ๆ นี่

‘ไหนดูสิ ฉันจะส่งใครไปดี?’

ความจริงแล้ว แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน

คนที่แข็งแกร่งอย่างโซเฟียเป็นเหมือนลูกเสือ

มันจะยากหากเธอพยายามหลบซ่อนตัว แต่การฆ่าเธอก่อนที่เธอจะแข็งแกร่งและเข้าร่วมกิลด์อื่นก็ไม่เลว

ไม่ช้า คาร์ลสันก็คิดถึงคนที่เหมาะสมสำหรับเรื่องนี้ที่สุดออก

คนที่มีความรู้สึกเคียดแค้นต่อโซเฟีย วาร์จีร่าอย่างรุนแรง

คนที่ได้เฝ้ารอมากว่าสองปีในเขตสีส้มนี้หลังจากที่ใส่ชื่อของโซเฟียเข้าไปในรายชื่อ

นักผจญภัยปีห้า หมาบ้า เคล ดอว์สัน

‘ถึงเขาจะเสียสติ แต่เขาก็มีฝีมือ’

การที่นักผจญภัยปีสามพยายามจะข่มขืนนักผจญภัยปีหนึ่งแต่ล้มเหลวและถูกไล่ล่าจนต้องหนีขึ้นมาที่เขตสีส้มนับเป็นเรื่องตลกทุกครั้งที่เขาได้ยิน

แต่มันได้ทำให้หมอนั่นยิ่งแข็งแกร่งขึ้น

ในเมื่อหมอนั่นได้เสริมสร้างความแข็งแกร่งของเขาเพื่อที่จะแก้แค้น

แม้ว่าหมอนั่นจะมีพรสวรรค์มากมาแต่ต้น ความเร็วในการเติบโตของเขาก็เชื่องช้าลงเพราะมัวแต่เอ้อระเหยลอยชาย

‘เอาเถอะ ถึงหมอนั่นดูเหมือนจะยังไม่เลิกนิสัยนั่นก็ตาม’

การที่หมอนั่นยังไม่ตายแม้ว่า เอนบิ อาริน ได้ค้นหาไปทั่วเพื่อที่จะฆ่าเขาและพิสูจน์ความแข็งแกร่งของตนเอง

ใครบางคนที่เหนือกว่านักผจญภัยปีห้าทั่วๆ ไป

โชคดีที่หมอนี่ได้มุ่งหน้าไปยังตำแหน่งนั้นอย่างบ้าคลั่งหลังจากที่รู้ข่าวจากพิราบสื่อสารของเคน

คนอื่นๆ อยู่ค่อนข้างห่างออกไปและกำลังทำอย่างอื่นอยู่ ดังนั้นแล้วคงต้องใช้เวลาสักพัก แต่หมอนี่จะไปถึงตำแหน่งนั้นโดยที่ยังมีเวลาเหลือเฟือ

มันเป็นเรื่องดีหากหมอนั่นจัดการได้ และมันก็ยังคงดีหากคนอื่นๆ มาถึงในขณะที่หมอนั่นกำลังถ่วงเวลาคนพวกนั้นไว้

คาร์ลสันส่งข้อความไปยังอีกฝ่ายในทันที

 


TL: ความวัวยังไม่ทันหาย ความควายก็เข้ามาแทรก สำนวนนี้คงตรงกับเรื่องนี้ที่สุดแล้วล่ะค่ะ//ถอนหายใจ