…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ถังซิ่ว ?

โอหยางลูลู่เก็บชื่อนี้ไว้ในหัวใจของเธอ เธอรู้ดีว่าถ้าคนๆหนึ่งสามารถได้รับความสนใจอย่างมากจากชูยี่และใบเต่าได้ เขาจะต้องเป็นคนที่โดดเด่นและมากไปกว่านี้เขายังถูกชื่นชมอย่างมากโดยหลงเซ้งหยูซึ่งหมายความว่าเขาไม่ได้เป็นคนธรรมดาๆอย่างแน่นอน

นอกจากนี้หากผู้จัดการทองคำในตำนานคังเซี่ยนได้เดินทางไปเมืองสตาร์ซิตี้เพื่อพบเขาแล้วละก็ เขาน่าจะเป็นคนที่โดดเด่นจริงๆ ไม่ว่าคังเซี่ยนจะทำงานให้เขาหรือไม่แต่ว่าสามารถทำให้เธอไปพบด้วยตัวเองได้นั้นหมายความว่าเขามีวิธีที่น่าอัศจรรย์เป็นอย่างมาก

“พูดตามตรงความสนใจของฉันที่มีต่อถังซิ่วนั้นมากกว่าหลงเซ้งหยูซะด้วยซ้ำ ”

เธอส่งชาให้พวกเขาทั้งสองด้วยรอยยิ้มพร้อมพูดออกมา

ใบเต่าระงับความช๊อคในใจเอาไว้พร้อมรับถ้วยชาและพูดต่อว่า

“ฉันรู้สึกเหมือนกันชูยี่ได้ทำให้ความรู้สึกสนใจในตัวฉันเพิ่มขึ้นถ้าเขาเป็นคนที่น่าอัศจรรย์จริงๆฉันก็อยากเป็นเพื่อนกับเขา ”

ชูยี่ส่ายหัวและพูดว่า

“ฉันไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องง่ายที่จะสนิทสนมกับถังซิ่วเพราะตอนที่เราอยู่ในเมืองสตาร์ซิตี้ถ้าฉันเดาไม่ผิดหลงเซ้งหยูนั้นไม่ใช่เพื่อนแท้ของถังซิ่วแม้ว่าเขาจะให้วิลล่าของเขาแต่ก็ดูเหมือนว่าเขาไม่ได้ให้ทุกอย่างแก่ถังซิ่ว ในโลกนี้มีบางคนที่ง่ายต่อการเป็นเพื่อนกับพวกเขาถ้าหากไม่มีความขัดแย้งระหว่างกันแต่เมื่อผลประโยชน์เพิ่มขึ้นมันจะเป็นสิ่งที่ยากมากเมื่อต้องการจะเป็นเพื่อนแท้กัน ”

โอหยางลูลู่ยิ้มแล้วตอบว่า

“พักเรื่องนี้ไว้ก่อน พวกนายมาที่เกาะจิงเหมินนี้คงไม่ใช่เพียงเพราะแค่อยากจะมาพูดถึงเรื่องเก่าๆระหว่างเรากันใช่ไหม ไหนบอกมาสิว่ามีเรื่องอะไรเผื่อฉันจะช่วยอะไรได้ ”

ใบเต่าและชูยี่มองกันและกันขณะที่ชูยี่หัวเราะแล้วพูดว่า

“ฉันได้รับสายเมื่อ2วันก่อนว่าน้องชายคนเล็กของฉันมีตัวแทนการเดิมพันการพนันอยู่ในเกาะจิงเหมินและเขาบอกฉันว่าเขาได้หลอกล่อเด็กคนหนึ่งในการเล่นพนันและเมื่อเด็กแพ้คนแก่ก็มาเล่นแทนซึ่งน้องชายคนเล็กของฉันนั้นได้หยกคุณภาพสูงจากชายแก่นั่นมาเธอก็รู้ว่าฉันสนใจหยกเหล่านี้มากและตัวฉันเองก็อยู่ในอุตสาหกรรมธุรกิจหยก ดังนั้นฉันจึงมาดูที่นี่ ”

โอหยางลูลู่พูดพร้อมรอยยิ้มว่า

“ฉันรู้เรื่องนี้ ชายชราที่ต้มมีชื่อว่าเจี่ยหลุยเดา เขาเป็นนักพนันมืออาชีพที่รู้จักกันดีและสามารถเรียกได้ว่าเป็นระดับปรมาจารย์ แต่น่าเสียดายที่ครั้งนี้เขาต้องเจอกันคู่แข่งที่ไม่สามารถเทียบกันได้เพราะฝ่ายตรงข้ามของเขาเป็นหนึ่งในสามอันดับแรกจากออสเตรเลีย,นิ้วทองคำเย่ไทฟูและนั่นทำให้เจี่ยหลุยเดาต้องแพ้อย่างน่าสังเวช เขาไม่เพียงแต่ล้มละลายแต่เขายังยืมเงินหลายร้อยล้านจากเพื่อนของเขาที่นี่ ฉันคิดว่าเขาจะต้องเสียเงินนั่นในเร็วๆนี้ ”

ชูยีหัวเราะออกมาว่า

“ฉันไม่สนใจเล่นการพนัน แต่ฉันต้องการหยกชิ้นนั้น”

โอหยางลูลู่มองไปที่นาฬิกาและพูดว่า

“วันนี้บังเอิญเป็นเกมการพนันของพวกเขา นายต้องการที่จะไปดูพวกเขาไหม? อ้าใช่แล้วตั้งแต่ที่พวกนายมาถึงที่นี่นายก็คงรู้อยู่แล้วว่าพวกเขาพนันกันในพาราไดซ์คลับของฉัน?”

“ก๊อกก๊อก…”

ประตูถูกเคาะและชายวัยกลางคนเดินเข้ามาในห้อง

“ว่าไง?”

โอหยางลูลู่ถามลวกๆ

ชายวัยกลางคนตอบว่า

“เจ้านาย การพนันของเจี่ยหลุยเดาและเย่ไทฟูที่กำลังจะถึงนั้นอยู่ดีๆก็ได้ยกเลิกไปพร้อมออกจากพาราไดซ์คลับของเราพวกเขาบอกว่าการพนันจะเริ่มขึ้นในวันพรุ่งนี้ ”

คิ้วของเธอขมวดขณะมองไปที่ชูยี่ด้วยรอยยิ้มและบอกว่า

“ดูเหมือนว่าวันนี้พวกนายไม่รับชมได้ เราหากินอาหารค่ำกันเถอะฉันเลี้ยงเอง ”

“ดีเหมือนกัน!”

ชูยี่และใบเต่าไม่ได้สนใจเรื่องการพนันเพราะฉะนั้นพวกเขาจึงไม่รู้สึกผิดหวังอะไร

เกาะจิงเหมิน…

เจี่ยหลุยเดายืนอยู่หน้าประตูทางเข้าของโรงแรมระดับ5ดาวจาร์วิสพร้อมใบหน้าของที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น ดวงตาของเขาจ้องไปที่จุดๆหนึ่งในที่ห่างไกลศิษย์คนที่สองของเขาซางเตี่ยชุนที่ยืนอยู่ด้านข้างก็เต็มไปด้วยความคาดหวัง ผู้ช่วยชีวิตของพวกเขาได้มาถึงในที่สุด! พวกเขารู้ดีว่าแขกที่ได้เชิญมานั้นเป็นฟางเส้นสุดท้ายของพวกเขา

“อาจารย์ครับ ปรมาจารย์ถังน่าจะใกล้ถึงแล้วใช่ไหม?”

ซางเตี่ยชุนยกข้อมือขึ้นพร้อมมองไปที่นาฬิกาและถามออกมา

เจี่ยหลุยเดาตอบว่า

“ใช่! พวกเขาควรจะมาถึงได้แล้วตอนนี้ มันเป็นไปได้ไหมที่เกิดอุบัติเหตุทางถนนขึ้น?

ตาของซางเตี่ยชุนจ้องมองขณะที่เขาชี้ไปที่ถนน

“อาจารย์ครับมันควรจะเป็นรถคันนั้นใช่มั้ย?”

เจี่ยหลุยเดามองไปตามทิศทางที่ศิษย์ของเขาชี้และพร้อมความตื่นเต้นและพูดว่า

“ใช่แล้วนั่นเป็นรถของศิษย์น้องของเธอ ไปพบกับพวกเขากันเถอะ ”

รถหยุดลง

เจี่ยหลุยเดาวิ่งไปที่รถขณะยื่นมือขึ้นเพื่อเปิดประตู

“พี่ถัง!”

เมื่อเจี่ยหลุยเดาเห็นถังซิ่วนั้นเขารีบเรียกออกมาด้วยความตื่นเต้น

อย่างไรก็ตามคำพูดของเขาทำให้ศิษย์ทั้งสามคนมองกันและกันด้วยความอับอายบนใบหน้าของพวกเขาเพราะยังไงก็ตามคนที่อายุน้อยที่สุดในหมู่พวกเขาก็ยังมีอายุมากกว่าถังซิ่วราว5-6ปีนี้ทำให้ความอาวุโสของพวกเขาลดลงไปอีกขั้น

ถังซิ่วพยักหน้าและถามว่า

“เอ่อไม่ใช่ว่านายเล่นพนันอยู่เหรอ?แล้วออกมาที่นี้ได้อย่างไร? ”

“ฉันไม่มีเงินมากและต้องเก็บเงินไว้สำหรับการพนันในวันพรุ่งนี้ดังนั้นฉันจึงหยุดไว้กลางคันและรีบกลับมา ”

เจี่ยหลุยเดากล่าวด้วยท่าทางที่ขมขื่น

ถังซิ่วพูดต่อว่า

“ไปเถอะ! เราไปคุยกันข้างใน ”

ในห้องpresidential suitที่ชั้นบนสุดของโรงแรมถังซิ่วและเจี่ยหลุยเดากำลังนั่งอยู่บนโซฟาในห้องนั่งเล่นและศิษย์ทั้งสามคนกำลังยืนอยู่ข้างหลังเขา ตาของเจี่ยเย่ลี่เหลือบมองไปที่พ่อของเขาเป็นครั้งคราวด้วยความกังวลและความกลัว

“พี่ถัง,ฉันไม่รู้ว่าจะพูดอะไรสำหรับพระคุณนี้ คุณบินมาจากหลายพันไมล์มาช่วยฉัน ความกตัญญูนี้จะถูกแกะสลักไว้ในใจถ้าคุณต้องการความช่วยเหลือในอนาคตแม้ว่าจะต้องผ่านภูเขาแห่งเปลวเพลิงและมีดหลายล้านเล่มฉันก็จะไม่ถอย! ”

เจี่ยหลุยเดาพูดด้วยความจริงใจ

ถังซิ่วตอบว่า

“บอกข้อมูลเกี่ยวกับฝ่ายตรงข้ามของฉันมาหน่อยสิ”

เจี่ยหลุยเดาพยักหน้าไปที่ซางเตี่ยชุนทันทีหลังจากนั้นไม่นานข้อมูลได้ถูกยื่นไปให้ถังซิ่วพร้อมพูดว่า

“ฝ่ายตรงข้ามของเรามีชื่อว่าเฉินไก เพลย์บอยที่โด่งดังในเกาะจิงเหมินแห่งนี้ เขาใช้จ่ายเงินเป็นจำนวนมากเพื่อเชิญเยไทฟู ไม่เพียงแต่ศิษย์ของฉันจะแพ้เขาแต่ตัวฉันเองก็แพ้ไปหลายครั้ง เย่ไทฟูเป็นหนึ่งในสามอันดับแรกจากออสเตรเลียเขายังเป็นที่รู้จักกันดีในชื่อนิ้วทองคำและฉันเคยคิดว่าแม้เขาจะเก่งกว่าฉันแต่ก็คงไม่มากเท่าไหร่นัก แต่ … เห้อออ .. ! ”

ขณะที่กำลังกวาดตาผ่านเอกสารในมือ ถังซิ่วยังคงฟังเรื่องราวที่เจี่ยหลุยเดาเล่าออกมา หลังจากนั้นไม่นานเขาก็รู้ถึงกระบวนการทั้งหมดของเรื่องราวและประเมินสถานการณ์ของฝ่ายตรงข้าม

“เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญที่ยากที่จะจัดการด้วย”

ถังซิ่วแอบถอนหายใจ เขามองไปที่เจี่ยหลุยเดาและพูดต่อว่า

“ฉันสามารถช่วยเล่นการพนันได้ แต่มีเงื่อนไขหนึ่ง”

เจี่ยหลุยเดาตอบว่า

“ได้โปรดกล่าวออกมา!”

ถังซิ่วพูดต่อว่า

“ก่อนอื่นฉันต้องบอกก่อนว่าเกี่ยวกับเทคนิคการเล่นการพนันของฉันนายก็น่าจะรู้เรื่องนี้เป็นอย่างดี ครั้งแรกที่เราพบกันในการแข่งขันการพนันนั้นฉันขโมยความเทคนิคของนายดังนั้นถ้าฉันแพ้นายไม่สามารถตำหนิฉันได้ ”

เจี่ยหลุยเดาตอบอย่างจริงจังว่า

“ฉันอย่างจะไม่ทำอย่างนั้น”

ถังซิ่วพูดต่อว่า

“ถ้าฉันจะชนะไม่ว่าจะมีมูลค่าเท่าไหร่ฉันก็จะเอาไปครึ่งหนึ่ง”

เจี่ยหลุยเดาตอบโดยไม่ลังเลว่า

“ฉันต้องการของดูต่างหน้าภรรยาเท่านั้น ทุกสิ่งที่คุณชนะทั้งหมดจะเป็นของคุณ ”

ถังซิ่วส่ายหัว

“ไม่ฉันได้กล่าวไว้แล้วว่าฉันขอเพียงครึ่งหนึ่ง”

เจี่ยหลุยเดาลังเลใจแต่เมื่อเห็นว่าถังซิ่วดูเหมือนจะไม่ต้องการต่อรองเรื่องนี้ เขาก็จะพยักหน้าและพูดออกมาว่า

“ตกลง”

ถังซิ่วกวาดตามองไปที่พวกเขาทุกคนและบอกว่า

“เงื่อนไขของฉันได้หมดลงแล้ว นายก็รู้ว่าฉันไม่รู้จักเทคนิคอะไรนอกจากการเล่นลูกเต๋า ดังนั้นนายต้องเป็นคนสอนและอธิบายทุกอย่างให้ฉันในวันนี้และสอนทักษะเหล่านี้ด้วย ”

“ดี!”

มันเป็นสิ่งที่เจี่ยหลุยเดาคิดไว้แต่แรกแล้วดังนั้นเขาจึงปฏิบัติตามอย่างมีความสุข

เจี่ยหลุยเดาบอกกับลูกศิษย์ของเขาให้ไปหาเครื่องมือเล่นพนันทั้งหมดมา เขาได้เน้นไปที่การสอนลูกเต๋า,โปกเกอร์, ป๊อกเด้ง,ไพ่นกกระจอก,แบล๊คแจ๊คและหยิบดอกทอง (*grip golden flower ไปหาดูแล้วยังไม่คุ้นเลยว่าเกมไพ่แบบไหน ) …

“คุณได้เล่นลูกเต๋าและคุณดีมากในเรื่องนี้ดังนั้นฉันจะไม่สอนคุณเรื่องนี้ ฉันจะสอนคุณแบล็คแจ็คซึ่งเป็นวิธีการพนันที่พบมากที่สุดและเกมที่ฉันมักจะเล่นกับเย่ไทฟูในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาส่วนใหญ่เป็นเกมนี้

“แบล็คแจ๊คมักใช้1-8การ์ดดีลเลอร์แจกไพ่สองใบแก่ผู้เล่นแต่ละคนมีไพ่หนึ่งใบที่ถูกเปิดขึ้นและแต้มของทั้งสองใบจะถูกเอามารวมกัน … (*ดีนะที่อธิบายเกมนี้เพราะแอดเคยเล่นอยู่บ้าง เกมอื่นนี้ตาย)

“การเล่นการพนันโดยเฉลี่ยอาจต้องพึ่งพาโชคที่จะชนะหรือแพ้ แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านการพนันจริงๆนั้นขึ้นอยู่กับเทคนิคต่างๆทั้งหมด พูดตรงๆเกือบทั้งหมดเทคนิคเหล่านี้เป็นม่านควันเพื่อหลอกตาของฝ่ายตรงข้าม

“เหมือนดั่งคำพูดที่ว่า ‘แทงสิบโกงเก้า’ ”

ระหว่างที่อธิบายอยู่นั้นเจี่ยหลุยเดาก็ได้แสดงให้ถังซิ่วเห็นถึงมือของเขาที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาขณะที่เขาสับไพ่และผสมไพ่ด้วยความเร็วสูงจนแม้แต่ตัวถังซิ่วเองก็แอบชมเขา ในศูนย์กลางของชีวิตนับไม่ถ้วนจะมีผู้ที่เข้าใจทักษะของของตนอยู่เองเสมอ การฝึกเทคนิคการเล่นการพนันได้ในระดับที่ยอดเยี่ยมนั้นจะสามารถได้รับผลตอบแทนที่มหาศาล

แต่แน่นอนว่าต้องมีโอกาสที่จะชนะเงินพร้อมยังมีชีวิตอยู่เพื่อใช้จ่ายมัน

“ประการที่สองคือ โปกเกอร์ … ”

“คนที่สามคือป๊อกเด้ง … ”

“ที่สี่คือ … ”

“…”

เวลาผ่านไปอย่างช้าๆแปปเดียวก็ถึงช่วงเวลากลางคืน เจี่ยหลุยเดาและถังซิ่วยังไม่ได้ทานอาหารอะไรเลยราวกับว่าพวกเขาลืมความรู้สึกหิวไปแล้ว ทั้งสองรู้สึกเหมือนว่าพวกเขามีความสนุกสนานในการเรียนการสอนอย่างเต็มที่ พวกเขาไม่ได้ตระหนักว่าช่วงเวลากลางคืนนั้นได้มาถึงแล้ว

“เกมสุดท้ายคือหยิบดอกทอง”

เจี่ยหลุยเดา เอาไพ่สำรับใหม่ออกมาและดึงไพ่คิงและควีนออก เขามองไปที่ถังซิ่วแล้วพูดว่า

“กฎของเกมนี้คือ … ”

ถังซิ่วโบกมือขัดจังหวะแล้วพูดว่า

“ฉันเล่นเกมนี้ได้เพราะฉันเคยเห็นมาก่อนแล้ว นายเพียงแค่ต้องสอนเทคนิคเกมนี้เท่านั้น ”

เจี่ยหลุยเดารู้ว่าถังซิ่วนั้นโดดเด่นเพราะเขาเคยได้รับประสบการณ์มาก่อนและวันนี้ได้เปิดโลกทัศน์ของเขาขึ้น ถังซิ่วสามารถเรียนรู้ทักษะการพนันทุกๆอย่างที่เขาสอนได้อย่างรวดเร็ว แม้แต่ความชำนาญและทักษะของเขาก็ก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว ดังนั้นเขาจึงไม่ได้มีความโกรธแม้แต่น้อยเมื่อถังซิ่วขัดจังหวะเขาแต่กลับมีความสุขอย่างลับๆ ”

“หยิบดอกทอง ส่วนใหญ่มีสองประเด็นหลักที่เราต้องใส่ใจ อันดับแรกคือโกงและหลอกลวง การเล่นนี้ขึ้นอยู่กับจิตวิทยาบางคนอาจได้รับไพ่แต้มน้อยๆแต่พวกเขาสามารถชนะได้ด้วยเทคนิค’ปั่นประสาท’นี้ บางคนอาจถือไพ่แต้มใหญ่แต่เนื่องจากกลัวว่าฝ่ายตรงข้ามจะมีไพ่ใบที่ใหญ่กว่าพวกเขาก็ยอมแพ้

“ประการที่สองคือหาจังหวะเพื่อเปลี่ยนไพ่ ผู้เชี่ยวชาญด้านการพนันจำนวนมากมีไพ่ลับซ่อนอยู่ในร่างกายของตนเอง ไพ่ประเภทนี้แทบเป็นไปไม่ได้ที่จะถูกสังเกตโดยผู้อื่น ดังนั้นการที่มีมือที่ไวมีบทบาทสำคัญในการเล่นการพนันโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับในเกมนี้… ”

(*ใครที่ถามว่าทำไมตอนต่อไปติดรหัสนะครับ คือมันต้องอยู่ในกลุ่มลับอะครับหรือใครที่ไม่อยากจ่ายตังก็รอก็ได้ครับผม เพราะผมจะปลดให้ 1-2 วันตอนครับ ขอบคุณค๊าบบบ  ส่งข้อความมาทางนี้เลยครับ  https://goo.gl/CeevTV )