…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ถังซิ่วรีบวิ่งกลับไปที่โรงเรียนอย่างรวดเร็วและพบว่าแม่ของเขากำลังนั่งอยู่ในห้องทำงานกับฮั่นชิงหวูที่กำลังคุยกับเธอเมื่อเห็นเช่นนี้ความกังวลในใจของถังซิ่วจางหายลงไปอย่างช้าๆเขาคิดว่าจะมอบหมายให้ใครบางคนปกป้องแม่ของเขาอย่างลับๆในกรณีที่วันหนึ่งเขาต้องไปยั่วยุศัตรูที่ทรงพลังเข้า ถ้าพวกเขาไม่สามารถจัดการกับถังซิ่วได้แล้วเปลี่ยนเป้าหมายไปเป็นแม่เขาหละ?

“แม่ครับทำไมถึงมาอยู่ที่โรงเรียน?”

ถังซิ่วมองไปที่แม่ของเขาและถามออกมาด้วยความสงสัย

เมื่อเห็นลูกชายของเธอมาถึงซูหลิงหยุนรีบก้าวมาข้างหน้าเพื่อดึงมือของเขาเข้ามาทันทีและรีบถามว่า

“ซิ่วน้อย,แม่จะถามคำถามกับลูกและลูกต้องตอบมาตามตรงนะ,ลูกไปทำอะไรกับลุงของลูก?สองสามีภรรยานั่นไปที่ร้านของเราและคุกเขาร้องไห้อ้อนวอนขอให้ลูกช่วยยกโทษให้พวกเขานี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันหนะ? ”

ถังซิ่วเงียบสักครู่หนึ่งก่อนที่เขาจะตอบว่า

“คุณแม่ผมไปซื้อของเมื่อสองวันก่อนและได้พบกับสองสามีภรรยานั่นพวกเขาต้องการให้ผมอับอายและจะใช้อำนาจบังคับให้โรงเรียนไล่ผมออก ในขณะนั้นเพื่อนของผมที่ตามไปด้วยนั้นเขามาจากครอบครัวธุรกิจที่มีขนาดใหญ่กว่าบริษัทอสังหาริมทรัพย์ชางเหวินร้อยเท่าและเวลานั้นเพื่อนของผมได้ยื่นมือมาปกป้องผมซึ่งซูชางเหวินได้ดูถูกเขาและสิ่งที่ซูชางเหวินไม่ได้คาดคิดคือพ่อของเขานั้นได้บังเอิญมาที่นั่นเหมือนกัน,พ่อของเขาโกรธมากและสาบานที่จะทำให้บริษัทอสังหาริมทรัพย์ชางเหวินนั้นพังย่อยยับ,ถ้าผมเดาไม่ผิดคงเป็นเขานั้นแหละที่ลงมือจัดการซูชางเหวินเพราะงั้นพวกเขาถึงได้ไปขอร้องแม่เพื่อขอให้แม่มาบอกผมให้ไกล่เกลี่ยให้หน่อยนั่นเอง ”

ท่าทางของซูหลิงหยุนนั้นเปลี่ยนไปอย่างมากความโกรธปะทุขึ้นบนใบหน้าของเธอขณะที่เธอพูดว่า

“ซูชางเหวินเป็นแบบนี้ได้อย่างไรกัน?ไม่ว่ายังไงลูกก็ยังเป็นหลานชายแท้ๆเขานะ!!เขาปฏิบัติกับลูกแบบนี้ได้ยังไงกัน?ลูกไม่ต้องเป็นห่วงถ้าเขากล้าใช้เส้นสายเพื่อให้โรงเรียนไล่ลูกออก,แม่…..แม่จะไปสู้กับเขาเอง! ”

ฮั่นชิงหวูที่ยืนอยู่ด้านข้างก็ดูโกรธเป็นอย่างมากเธอได้นึกถึงทัศนคติของผู้นำโรงเรียนที่มีต่อถังซิ่วและเธอก็รู้ว่าซูเชงเหวินนั้นเป็นคนทำเรื่องพวกนี้,เธอรีบก้าวออกมาพร้อมพูดว่า

“ซู … พี่สาวซูคุณไม่จำเป็นต้องกังวลไป!ขณะที่ฉันยังอยู่ที่โรงเรียนนี้ฉันจะไม่ปล่อยให้ใครรังแกหรือขับไล่เขาออกจากโรงเรียนได้ ”

เมื่อได้ยินเช่นนั้นซูหลิงหยุนก็ตอบด้วยความรู้สึกขอบคุณ

“คุณครูค่ะ,ขอบคุณค่ะฉันเคยได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับคุณมาก่อนแล้วต้องขอขอบคุณสำหรับการปกป้องซิ่วน้อยของฉันนะค่ะ,ซิ่วน้อยของเราเป็นคนที่ฉลาดและมีมารยาทดีมันเป็นความผิดของฉันเองที่ฉันไม่มีความสามารถในการปกป้องเขาและปล่อยให้ต้องกลายเป็นคนผิด ”

ฮั่นชิงหวูรีบกุมมือของซูหลิงหยุนมาพูดอย่างเป็นกันเองว่า

“อย่าพูดแบบนั้นสิค่ะ,ถ้าปีที่ผ่านมาถังซิ่วไม่ได้ช่วยฉันไว้เขาก็คงจะไม่โดนรถชนหรอกค่ะนี่เป็นเพียงสิ่งที่ฉันควรจะทำอยู่แล้วค่ะ ”

ซูหลิงหยุนรู้แล้วว่าลูกชายของเธอได้ช่วยฮั่นชิงหวูไว้แต่เธอยังเต็มไปด้วยรู้สึกของคุณ,หลังจากผ่านไปครู่หนึ่งเธอได้หันศีรษะกลับไปและเผชิญหน้ากับถังซิ่วก่อนที่เธอจะพูดว่า

“ลูกตอนนี้เราควรจะทำอะไรดี?ลุงและป้าของลูก… พวกเขายังคงอยู่ในร้านอาหารของเราและไม่ยอมออกไป แม่…”

ถังซิ่วถอนหายใจยังไงซูชางเหวินก็เป็นพี่น้องแท้ๆของแม่ของเขาแม่ของเขานั้นเป็นคนจิตใจดีไม่สามารถทนต่อการขอร้องของซูชางเหวินได้,ยังไงเธอเองก็คงจะไม่สามารถทนดูเขาต้องจบชีวิตอย่างน่าอนาถได้

“มันขึ้นอยู่กับแม่แล้วว่าจะเอาอย่างไรกับเรื่องนี้? ”

ซูหลิงหยุนลังเลใจเธอไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรออกไปดีนอกจากนี้ซูชางเหวินนั้นก็ได้ทำเกินไปถ้าไม่ใช่เพราะเพื่อนของลูกชายเธออยู่ที่นั่นลูกของเธอจะต้องได้รับความอัยอายแน่นอนแถมไม่รู้ยังจะได้มีที่เรียนอยู่อีกไหมแต่………ยังไงก็ตามเลือดย่อมข้นกว่าน้ำตอนนี้เธอได้ตกอยู่ในสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก

แต่ถังซิ่วก็ได้พูดออกมาว่า

“แม่คราวนี้ผมจะบอกเพื่อนของผมเพื่อให้เขาพูดคุยกับพ่อของเขาเพื่อให้ปล่อยเรื่องนี้ไป!แต่ถ้าซูชางเหวินกล้าที่จะทำอะไรให้เราอับอายอีกครั้งผมขอสาบานว่าผมจะไม่ปล่อยเขาไปอย่างง่ายดายในครั้งต่อไป ”

ถึงแม้ปากของถังซิ่วจะพูดแบบนี้แต่เขาก็หัวเราะเยาะอยู่ข้างในใจเขาไม่สามารถปล่อยให้หลงฮานเหวินและเฉินซีซ่งทำหน้าที่นี้ได้แต่เขาก็ยังสามารถให้หยวนเจิ้งซวนจัดการกับซูเชงเหวินแทนได้เขาไม่ได้รู้สึกว่าสองสามีภรรยาซูชางเหวินและซางเหม่ยหยุนนั้นเป็นครอบครัวของเขาแม้แต่น้อย

ซูหลิงหยุนพูดอย่างกังวลใจ

“ซิ่วน้อยคำพูดของลูกจะมีผล?”

ถังซิ่วพยักหน้าและพูดด้วยความมั่นใจว่า

“เรื่องนี้เกิดจากผมคำพูดของผมแน่นอนว่าพวกเขาจะต้องฟังมันอย่างแน่นอนไม่ต้องกังวล!เมื่อเรากลับไปที่ร้านอาหารแม่จะเข้าใจเอง! ”

ในที่สุดถังซิ่วก็สามารถปลอบซูหลิงหยุนและแนะนำให้เธอกลับไปที่ร้านอาหาร

ที่ประตูห้องทำงาน…

ฮั่นชิงหวูจ้องมองไปที่ถังซิ่วด้วยท่าทางแปลกๆพร้อมพูดว่า

“เธอไม่ได้บอกความจริงทั้งหมดกับแม่ของเธอใช่ไหม?ถ้าพ่อของเพื่อนเธอโกรธมากเพราะซูชางเหวินได้สร้างความอับอายให้ลูกชายเขาและเขาต้องการจะจัดการกับซูชางเหวินต่อให้เป็นคำพูดของนายก็ไม่น่าจะมีน้ำหนักพอใช่ไหมหละ?จงซื่อสัตย์และบอกฉันมาตามตรงว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่? ”

ถังซิ่วยิ้มแบบฝืนๆพลางตอบว่า

“ครูฮั่นผู้หญิงนั้นถ้าฉลาดเกินไปก็ไม่ใช่เรื่องดีนะ”

ฮั่นชิงหวูหัวเราะพร้อมแสดงออกอย่างมีความสุขและภูมิใจพร้อมหลังจากนั้นจึงพูดต่อว่า

“ใครบอกกันว่าผู้หญิงที่ฉลาดไปนั้นไม่ดี?ตอนนี้ไม่ใช่ยุคที่ ‘ผู้หญิงไม่มีพรสวรรค์’ แล้วนะ,อ๊ะไม่ไม่ไม่ใช่เธออย่าได้คิดเปลี่ยนหัวข้อบอกฉันมาเร็วๆนะว่าเกิดอะไรขึ้น? ”

ถังซิ่วไม่มีทางเลือกอื่นและตอบว่า

“เฮ้อเพราะคุณอยากรู้จริงๆผมก็จะบอกคุณ,ผมเคยพูดกับคุณไว้ก่อนหน้านี้ว่าผมได้พบกับนายใหญ่ของบริษัทร้อยคุณธรรมเภสัช,เฉินซีซ่งแล้วใช่ไหม?ผมได้รักษาอาการป่วยของเขาดังนั้นเขาจึงเป็นหนี้ชีวิตผมเมื่อตอนที่ซูชางเหวินกำลังสร้างความอับอายให้ผมเขาก็บังเอิญผ่านมาพอดีและโกรธเป็นอย่างมากพร้อมยืนยันที่จะทำให้ซูชางเหวินได้จ่ายค่าตอบแทนสำหรับการทำให้ผมต้องอับอายนี้ ”

ฮั่นชิงหวูรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก

“จริงเหรอ?จริงๆหรอที่นายรู้จักกับเฉินซีซ่ง? ”

ดวงตาของเขากลิ้งไปมาและตอบว่า

“อย่างไรก็ตามวันนี้ผมจะต้องลาไปเจอกันเฉินซีซ่ง,คุณอยากจะไปกับผมด้วยไหมหละ? ”

ฮั่นชิงหวูโกรธมากพร้อมกับตอบอย่างรวดเร็ว

“นี่เธอจะมาลาพักอีกแล้วงั้นเหรอ!!!!!”

ถังซิ่วยิ้มอย่างฝืนๆและตอบว่า

“ครูฮั่นมันไม่มีคาบเรียนในเวลากลางคืนนะผมต้องการพูดคุยกับเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้,หรือคุณต้องการให้แม่ของผมรู้สึกอึดอัดใจและอับอาย? ”

ความหงุดหงิดของฮั่นชิงหวูหายไปอย่างรวดเร็วขณะที่เธอผ่อนคลาย

“ถ้าเป็นเช่นนั้นแล้วฉันจะปล่อยเธอไปคืนนี้อย่าลืมว่าเธอต้องเข้าชั้นเรียนในวันพรุ่งนี้เช้าและอย่ามาสายหละ ”

“ได้เลยครับ!”

ถังซิ่วยิ้มและพยักหน้า

เขาได้นัดกับเฉินซีซ่งไว้ในคืนนี้และกำลังคิดอยู่ว่าจะทำยังไงดีให้เขาได้ลาพักแต่เขาไม่เคยคิดเลยว่าแม่ของเขาจะมาโรงเรียนและช่วยให้เขาได้ลาหยุดไป

ฮั่นชิงหวูได้พูดต่อว่า

“อ่อใช่ใช่ ครูใหญ่ได้พูดคุยกับฉันในวันนี้เพื่ออนุณาติให้เธอหยุดเป็นเวลา1สัปดาห์ตอบฉันมาอย่างซื่อสัตย์ว่านี้มันเกิดอะไรขึ้น? ”

ถังซิ่วพูดด้วยความประหลาดใจว่า

“ตกลงจริงๆงั้นหรือ?”

ฮั่นชิงหวูรีบพูดอย่างโมโหว่า

“ตกลงงั้นหรือ? บล๊า,มันยิ่งกว่าตกลงด้วยซ้ำ!เขายังบอกฉันว่าจะโกหกแม่เธอว่าเธอจะต้องเข้าร่วมการแข่งขันแต่จากการตัดสินด้วยคำพูดของเธอ,เธอรู้เหตุผลใช่มั้ย?จงซื่อสัตย์และบอกกับฉันมาตามตรงว่าเกิดอะไรขึ้น? ”

ถังซิ่วตอบขณะที่เขายิ้มกว้าง

“คุณครู,มีคนบางคนป่วยและมันค่อนข้างรุนแรงมากทักษะทางการแพทย์ของผมดีมากดังนั้นเขาจึงขอให้ผมไปที่เมืองอื่นและช่วยรักษาอาการเจ็บป่วยของนายคุณก็รู้ว่าผมจะเอาเวลาที่ไหนไปที่เมืองอื่น?ดังนั้นผมได้บอกเขาไปว่าผมไม่มีเวลาและไม่มีเหตุผลเพียงพอเพื่ออธิบายกับแม่และโรงเรียนแต่ผมไม่เคยคิดว่าเขาจะไปหาครูใหญ่หรือแม้กระทั่งสั่งให้คุณโกหกแม่ของผม ”

“เธอไม่ได้โกหกฉันใช่ไหม?”

ถังซิ่วยกมือขึ้นและสาบานว่า

“ในนามของภรรยาในอนาคตของผม,ผมขอสาบานว่าผมไม่ได้พูดโกหกกับคุณ”

“พุฟฟฟฟฟฟ … ”

ฮั่นชิงหวูเหลือบมองไปที่ถังซิ่วขณะที่เธอหัวเราะเยาะด้วยรอยยิ้ม

“เธอยังอายุแค่เท่าไหร่?ยังกล้าคิดถึงเรื่องภรรยาในอนาคตของเธออีก!ดีฉันจะจัดการพูดคุยกับแม่เธอให้!แต่จำไว้!เธอมีเวลาแค่สัปดาห์เดียวเท่านั้น เริ่มต้นที่วันนี้”

ถังซิ่วฝืนยิ้มและพูดออกมาว่า

“ตะ-แต่การลาพักช่วงบ่ายนั้นต้องไม่รวมอยู่สิมันแตกต่างกันนะ!”

“เธอได้รับสิ่งที่สมควรได้รับแล้ว!”

ฮั่นชิงหวูยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เพราะชัยชนะของเธอ

ถังซิ่วได้เดินกลับเข้ามาในห้องและก็ได้เห็นซูเชียงเฟยที่กำลังจ้องมาที่เขาด้วยแววตาที่ดุร้าย,ถังซิ่วมองไปที่ดวงตาของเขาจากนั้นก็ทำเป็นไม่สนใจพร้อมกลับมาที่โต๊ะของตัวเอง,เขามองเห็นหยวนชูหลิงที่กำลังนั่งตั้งใจก็เลยได้เอ่ยปากถามออกไปว่า

“วันนี้นายนั้นเปลี่ยนไปมากเกินไป?ฉันไม่เคยเห็นนายขยันขนาดนี้มาก่อน? ”

หยวนชูหลิงหัวเราะเบาๆแล้วตอบว่า

“นั่นมันคือฉันคนเก่าที่โง่เง่าที่กำลังสับสนยังไงก็ตามถังซิ่ว,นายรู้อะไรไหม?การหย่าร้างของพ่อแม่ฉันเป็นของปลอมแม้ว่าพวกเขาจะยื่นขอใบหย่า แต่ความรู้สึกของพวกเขานั้นมากกว่าเมื่อก่อนด้วย

ถังซิ่วถามด้วยความสับสนว่า

“เป็นอย่างนั้นได้อย่างไร?”

หยวนชวนชิ่งส่ายหัวและพูดว่า

“ฉันยังไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นแม่บอกว่าการหย่าร้างเป็นทางเลือกสุดท้ายของพวกและจะไม่บอกฉันว่าเพราะอะไรในตอนนี้และรอจนกว่าฉันจะจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเท่านั้น,พร้อมมีความสามารถในการอยู่รอดในสังคมพวกเขาถึงจะยอมบอกเรื่องราวทั้งหมด,ฉันมันเป็นคนโง่ที่ตกอยู่ในภาวะซึมเศร้าและละทิ้งตัวเองเพราะฉันไม่เข้าใจพวกเขา ”

ถังซิ่วนั้นตระหนักได้ถึงเรื่องนี้โดยทันทีพร้อมกับแตะไปที่ไหล่ของเขาและพูดพร้อมรอยยิ้มว่า

“ต้องการให้ฉันช่วยนายไหม?”

หยวนชวนสับสน

“หือ?นายจะช่วยฉันได้อย่างไร? เหลือเวลาเพียงหนึ่งเดือนเท่านั้นก่อนที่จะถึงเวลาสอบเข้ฉันกำลังแข่งกับเวลาในตอนนี้เพื่อการศึกษาหาความรู้ฉันต้องการทำให้พ่อแม่ของฉันมีความสุขและได้คะแนนสูงในการสอบเข้า ”

ถังซิ่วยิ้มอีกครั้ง

“รอซักหนึ่งสัปดาห์!แล้วฉันจะสอนนายทั้งหมดเกี่ยวความรู้ทั้งหมดที่ฉันได้รับในการเรียนตราบเท่าที่นายเรียนด้วยวิธีการของฉัน,ประสิทธิภาพของนายจะต้องดีขึ้นอย่างก้าวกระโดด ”

“จริงเหรอ?”

หยวนชูหลิงตอบด้วยความรู้สึกดีใจ

ถังซิ่วตอบด้วยรอยยิ้มที่มั่นใจว่า

“นายก็เห็นเกรดของฉันก่อนหน้านี้แล้วไม่ใช่หรอ?ถ้าฉันต้องการจริงๆมันก็เป็นเรื่องง่ายสำหรับฉันที่จะเป็นนักเรียนชั้นนำของโรงเรียน! ”

ในขณะนี้เฉิงเยี่ยนหนานที่กำลังแอบฟังการสนทนาของพวกเขาทั้งคู่อยู่,ก็ได้หันศีรษะกลับมาและพูดว่า

” ถังซิ่วนายไม่สามารถมอบความโปรดปรานให้เขาเพียงแค่คนเดียวสิพวกฉันเองก็เป็นเพื่อนร่วมห้องนายใช่ไหมในเมื่อนายต้องการที่จะสอนหยวนชูหลิงอยู่แล้วนายคงจะไม่ว่าอะไรนะถ้าจะช่วยสอนฉันด้วยอีกคน? ”

ถังซิ่วอดไม่ได้ที่จะไม่หัวเราะออกมาพร้อมตอบด้วยรอยยิ้มว่า

“ก็ได้ก็ได้,วันนี้ฉันจะยอมเป็นพ่อพระและช่วยเธอ”

เฉิงเยี่ยนหนานพยักหน้าแต่จู่ๆเธอก็พูดขึ้นมาว่า

“ฉันพาเพื่อนผู้หญิงไปพร้อมกับฉัน2คนได้ไหม?ลองคิดดูสิ!ถ้านักเรียนจำนวนมากจากห้องเรามีคะแนนที่โดดเด่นในการสอบเข้าครูประจำชั้นเราจะต้องได้รับรางวัล! ”

ถังซิ่วลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่เขาจะพยักหน้าและพูดว่า

“ตกลง!แต่อย่าพาคนมามากเกินไป ”

ถังซิ่วไม่ได้รู้สึกดีกับเพื่อนร่วมชั้นของเขา,เขาเพียงเห็นว่าเพื่อนร่วมชั้นของเขาเป็นพวกหูเบาที่จะตามคนอื่นอย่างสุ่มสี่สุ่มห้านั้นรวมไปถึงการสาปแช่งคนอื่นถ้าไม่ใช่เพราะเฉิงเยี่ยนหนานแล้วละก็เขาจะปฏิเสธที่จะสอนเพื่อนร่วมชั้นคนอื่นๆ

หยวนชูหลงได้พูดต่อว่า

“พี่ชาย,นายบอกว่าจะต้องรอหนึ่งสัปดาห์ใช่ไหม?ทำไมไม่เริ่มตอนนี้เลยหละ?”

ถังซิ่วยิ้มพร้อมตอบว่า

“ฉันได้ขออนุญาตครูฮั่นเพื่อลาหยุดสำหรับหนึ่งสัปดาห์ไว้แล้วและกำลังจะออกจากโรงเรียนในช่วงบ่ายนี้”

“ห๊ะ,นี้นายขอลาหยุดหนึ่งสัปดาห์? ”

หยวนชูหลิงส่งเสียงดังขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจ

และในพริบตา …

นักเรียนทุกคนในชั้นเรียนหันไปทางถังซิ่วและหยวนชูหลิง,ในความคิดของพวกเขาเห็นว่าถังซิ่วนั้นเป็นนักเรียนที่ไม่มีการศึกษาและไม่มีอะไรดีเขาอาจได้คะแนนเป็นอันดับแรกในการทดสอบก่อนหน้านี้แต่มันก็เป็นเพียงแค่การพึ่งโชคเท่านั้นหลังจากนั้นเขายิ่งออกห่างจากคำว่าการศึกษามากขึ้นโดยการหนีเรียนและลาหยุดพัก