…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

เมื่อนักพนันสูญเสียเหตุผลและตกลงไปหลุมลึก,ถึงจะเสียทรัพย์สินทั้งหมดของพวกเขาไปแต่ก็มักจะไม่สามารถระงับความปรารถนาที่จะโยนทุกสิ่งทุกอย่างลงบนโต๊ะพนันได้ถังซิ่วเคยเห็นนักพนันคนหนึ่งที่ขายลูกและภรรยาของเขาหลังจากที่นักพนันคนนั้นเสียสมบัติของครอบครัวเขา

“เจี่ยหลุยเดายังไม่ได้วางเดิมพันชีวิตของเขาใช่ไหม?ถือว่าเขาก็ยังโชคดีผมได้ฟังเรื่องราวของคุณและอาจารย์แล้วดังนั้นถ้าคุณไม่มีเรื่องอื่นก็ควรออกไปจากที่นี่ได้แล้ว ”

ถังซิ่วได้พูดออกมา

ผิวของกงดาหลงหมองคล้ำลงและรู้สึกท้อแท้เขาไม่เคยคิดว่าถังซิ่วจะชี้ส่งเขาไปที่ประตูแม้ว่าเขาจะได้ฟังเรื่องราวทั้งหมดแล้วความหมายของเขาคืออะไร?ปฏิเสธที่จะช่วยพวกเขา?

“ปรมาจารย์ถัง,คุณ … ”

ถังซิ่วขัดจังหวะเขาและพูดว่า

“อย่าบอกนะว่าคำพูดของผมยังไม่ชัดเจนพอ,ผมไม่สามารถทำอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ ”

กงดาหลงถามด้วยการแสดงออกถึงความยากลำบาก

“ทำไมกัน?อาจารย์ของผมกล่าวว่าเทคนิคการเล่นการพนันของคุณนั้นแกร่งกล้ากว่าเขาถ้ามีใครสอนคุณและฝึกคุณนิดๆหน่อยๆทักษะการพนันของคุณจะก้าวหน้าเกินกว่าอาจารย์ของผม ”

ถังซิ่วตอบด้วยรอยยิ้มว่า

“ผมจะต้องแก้ไขบางจุดของคุณก่อนประการแรกผมไม่มีความสนใจในการเล่นการพนันไม่แม้แต่น้อยประการที่สองชีวิตของนักพนันมืออาชีพก็เหมือนกับการรอคอยการยิงนกตลอดทั้งวันแต่ในที่สุดก็จะพบกับความหายนะหลังจากได้รับความอิจฉาจากห่านป่า,นักพนันเช่นคุณควรจะเตรียมใจเพื่อล้มละลายและสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างประการที่สามผมกำลังจะต้องสอบเข้ามหาวิทยาลัยภายในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้านี้แถมโรงเรียนไม่มีทางให้ผมลาหยุดยาวแน่นอนถ้าแม่รู้ผมก็ไม่มีเหตุผลเพียงพอเพื่ออธิบายกับเธอ”

กงดงหลงกระวนกระวายใจอย่างมากเขาเดินไปตรงหน้าถังซิ่วขณะที่คุกเข่าและขอร้องว่า

“ปรมาจารย์ถัง,ผมขอร้องคุณกรุณาช่วยอาจารย์ของผมด้วย!ตราบเท่าที่คุณยินดีที่จะช่วยเราไม่เพียงแต่ผมจะมอบทุกอย่างของผมให้แก่คุณเท่านั้นผมจะปฏิบัติตามคำพูดของคุณทุกคำเช่นเดียวกับที่ผมปฏิบัติต่อพ่อแม่ของตัวเองผมจะอยู่ที่นั่นทันทีเมื่อคุณต้องการให้ผมรับใช้คุณ! ”

“…”

เมื่อมองไปกงดาหลง,ถังซิ่วก็นึกถึงคนรับใช้เก่าของเขาในดินแดนแห่งนิรันด์เพื่อที่จะจ่ายหนี้ให้บุญคุณ,คนรับใช้คนเก่าของเขามักจะติดตามเขาด้วยความจงรักภักดีอย่างไม่ลดละแต่หลังจากที่เขาได้ถูกหักหลังและได้รับความทุกข์ทรมานแล้วเขาก็ไม่รู้เรื่องของคนรับใช้อีกต่อไป

กงดาหลงขอร้องอีกครั้งว่า

“ปรมาจารย์ถัง,คุณช่วยไม่ได้เพราะติดปัญหาเรื่องที่โรงเรียนและแม่ของคุณใช่ไหม?ผมจะดูแลเกี่ยวกับเรื่องนี้เองและผมให้คำมั่นว่าจะไม่ทำให้คุณมีปัญหาใดๆ ”

ถังซิ่วตกใจและถามด้วยความรู้สึกสับสน

“คุณสามารถจัดการมันได้หรือ?”

กงดาหลงตอบอย่างมั่นใจว่า

“ใช่ผมทำได้ ถ้าผมทำไม่ได้ฉันจะไม่รบกวนคุณอีกต่อไป ”

ถังซิ่วลุกขึ้นและพูดว่า

“ในกรณีนี้ผมก็จะรอดู”

กงดาหลงรู้สึกดีใจมากก่อนหน้านี้เขายังมีความคิดว่าจะต้องใช้ความพยายามอย่างยิ่งที่จะได้รับคำมั่นว่าจะให้ความช่วยเหลือจากถังซิ่วแต่เขาไม่ได้คาดหวังว่าถังซิ่วจะเห็นด้วยอย่างง่ายดายความรู้สึกกตัญญูก็ผุดขึ้นมาในหัวใจของเขาอย่างไรก็ตามเมื่อมองไปที่การแสดงออกของถังซิ่วขณะที่กำลังส่งแขกอยู่นั้นเขาก็พูดว่า

“ปามาจารย์ถังโปรดรอข่าวดีของผม!จอนนี้นั้นดึกแล้วและผมจะไม่รบกวนคุณอีกต่อไป ”

“ดูแลตัวเองด้วย!”

ถังซิ่วพยักหน้าอย่างใจเย็น

คืนที่พลุกพล่านและมีเสียงดังในปักกิ่ง …

Porsche cayenne สีขาวกำลังเคลื่อนตัวอยู่กลางฝูงชนคังเซี่ยนกำลังนั่งฟังเพลงเบาๆอันไพเราะในที่นั่งคนขับจิตใจของเธอกำลังคิดถึงบางสิ่งบางอย่าง

“ลิ้งงงงงงงงงงง ลิ้งงงงงงงงงง ลิ้งงงงงงงงง… ”

โทรศัพท์มือถือของเธอดังขึ้นอย่างฉับพลันขัดจังหวะความคิดของเธอ …

ขณะที่ใส่หูฟังบลูทูธเธอพูดว่า

“คังเซี่ยนพูด”

“ข้อมูลเกี่ยวกับถังซิ่วถูกส่งไปที่อีเมลของคุณแต่เนื่องจากคุณให้ข้อมูลมาเพียงเล็กน้อยฉันต้องกรองข้อมูลอีกและตอนนี้มี2คนที่เป็นไปได้ที่ตรงกับเกณฑ์ของคุณ ”

“เยี่ยม!”

คังเซี่ยนถอดหูฟังขณะหมุนพวงมาลัยเลี้ยวขวาที่สี่แยกด้านหน้าหลังจากผ่านไป100เมตรเธอหยุดที่ริมถนนและรีบนำแล็ปท็อปออกจากที่นั่งผู้โดยสารด้านหน้าและเปิดอีเมลของเธออย่างรวดเร็วเพื่ออ่านจดหมายขาเข้าอย่างเงียบๆ

ไม่นานหลังจากนั้น…

มีการแสดงออกแปลกๆออกมาจากใบหน้าของเธอ,เธอรีบทิ้งข้อมูลเกี่ยวกับชายคนหนึ่งที่ชื่อถังซิ่วที่มีธุรกิจไม้ซุงแต่ที่สอง … มันเป็นแค่เด็กมัธยม?

“เคยเป็นอัจฉริยะและได้รับอุบัติเหตุทางรถยนต์จนกลายเป็นปัญญาอ่อน?”

คิ้วของคังเซี่ยนเหี่ยวย่นความรู้สึกที่เต็มไปด้วยความคิดกระพริบจากดวงตาของเธอถ้าไม่ใช่เพราะโน้ตอันนี้เธออาจจะโยนความคิดภายในใจเธอออก หลังจากนั้นสักครู่เธอวางแล็ปท็อปลงบนที่นั่งผู้โดยสารและตัดสินใจว่าจะต้องไปที่เมืองสตาร์ซินี้

คังเซี่ยนโทรหาหมายเลขก่อนหน้านี้แล้วพูดว่า

“แอนดี้ช่วยฉันจองตั๋วเครื่องบินไปยังเมืองสตาร์ซิตี้พรุ่งนี้ตั้งแต่เช้า”

“ไม่มีปัญหา!”

เสียงของคนที่อยู่ในสายตอบแต่เธอลังเลอยู่ครู่หนึ่งหลังจากนั้นก็ถามอย่างงงงวยว่า

“เจ้านายคุณต้องการทำอะไรในสตาร์ซิตี้?เป็นไปได้ไหมที่คุณอยากพบกับถังซิ่ว? ”

ริมฝีปากของคังเซี่ยนขดตัวตัวเป็นรอยยิ้มที่โค้งงอขณะที่เธอตอบกลับด้วยท่าทางมีความสุข

“ไม่รู้สึกเบื่อหน่ายกับเรื่องยุ่งเหยิงพวกนี้บ้างหรือ?ฉันคิดว่าฉันสามารถได้กลิ่นร่องรอยของโอกาสถ้าการเดินทางไปสตาร์ซิตี้นี้ประสบความสำเร็จเธอจะได้รับเครดิตและจะได้เริ่มงานใหม่อีกครั้ง ”

“ขอให้เจ้านายอายุยืน!”

เสียงตอบกลับมาอย่างสดใสและประหลาดใจมาก

มีคำพูดทั่วไปบอกว่าการวางแผนล่วงหน้าเป็นกุญแจสู่ความสำเร็จและความคิดที่ดีที่สุดมักจะเกิดขึ้นในตอนเช้า

พระอาทิตย์ขึ้นสว่างสไวและสวยงามแผ่นดินส่งความรู้สึกที่อบอุ่นและเป็นกันเองไปทั้งโลกหลังจากที่หายตัวไปนานในที่สุดเขาก็กลัวมาที่โรงเรียน

เขาเดินเข้าไปในห้องเรียนสิบและเห็นว่านักเรียนกำลังรวบรวมกันอยู่ที่เดียวและกำลังซุบซิบกันในห้องเรียนที่วุ่นวายหยวนชูหลิงกำลังนั่งอ่านหนังสือเรียนที่อยู่ในมืออย่างเงียบๆ

“อะไรกันหนะ… ? ธรรมชาติของเด็กคนนี้เปลี่ยนไปหรือเปล่า ”

ด้วยเสียงกระซิบที่ดังในใจถังซิ่วเดินตรงไปยังที่นั่งของเขา

ขณะที่ถังซิ่วเข้าห้องเรียนที่มีเสียงดังและวุ่นวายก่อนหน้านี้เปลี่ยนไปเงียบๆเกือบทุกคนตระหนักถึงการมาถึงของถังซิ่วขณะที่เขามาถึงพร้อมดวงตาของพวกเขาจ้องมองมาที่ถังซิ่ว

“นี้มันอะไรกันแน่?ไอเจ้านี้เป็นกล้าหาญและบ้าบิ่นอย่างแท้จริง!เขายังกล้าที่จะเข้าชั้นเรียนในวันนี้เป็นไปได้ไหมที่เขาไม่กลัวที่จะได้รับการสวดโดยครูฮั่น? ”

เสียงหนึ่งก็โผล่ออกมาและปลุกระดมทันที

“ถูกตัอง! อารมณ์ของครูฮั่นเลวร้ายมากในช่วง2-3วันที่ผ่านมาแม้ว่าเธอจะอยู่ในชั้นเรียนตาของเธอก็มองไปที่ที่นั่งของถังซิ่วเสมอฉันพนันได้ว่าครูฮั่นอยากจะเตะไอระยำนี้ให้ลอยออกจากห้องเลยว่าไหม? ”

“เฮ๊พวก,ฉันเคยพบคนที่อหังการนะ!แต่ไม่เคยเจอใครทำได้เท่าเขาอีกแล้วเขาเพิ่งเดินกลับมาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งๆที่ครูฮั่นนั้นโกรธเป็นอย่างมากเกี่ยวกับเขา! ”

“ไอขยะที่ไม่มีอะไรดี!” (ลืมเกรดที่ถังไปกันหมดแล้วเรอะ)

“…”

ด้วยความสามารถในการได้ยินของเขา,ถังซิ่วสามารถได้ยินคำสาปแช่งถาโถมเข้ามาโดยเพื่อนร่วมชั้นของเขาแต่เขาไม่สนใจคำเหล่านั้น

ถึงจะพูดอะไรก็ตามมันก็ไม่มีประโยชน์อยู่ดี

นอกจากนี้ถังซิ่วชอบคำพูดที่ว่าการทะเลาะวิวาทกับคนโง่เง่าจะทำให้ตัวเองกลางเป็นคนโง่เง่าเช่นกันเห็นได้ชัดว่าเขาไม่อยากให้ตัวเองกลายเป็นคนโง่เง่าดังนั้นจึงเพิกเฉยต่อพวกเขาได้อย่างสมบูรณ์

“พี่,ในที่สุดนายก็มา!”

หยวนชูหลิงได้ตระหนักว่าถังซิ่วได้มาถึงในขณะที่เขาลุกขึ้นยืนด้วยท่าทางตื่นเต้น

ถังซิ่วไม่เคยคิดว่าหยวนชูหลิงจะตอบโต้อย่างไวมากพร้อมเอามือมาแตะไหล่เขาเพื่อส่งสัญญาณให้เขานั่งลงด้วยกันแต่ยังไงก็ตามสิ่งที่ทำให้เขารู้สึกประหลาดใจคือเฉิงเยี่ยนหนานที่นั่งอยู่ด้านหน้าเขาก็ได้หันหัวกลับมาและพูดอย่างเบาๆพอให้ทั้งสามคนได้ยินว่า

“ถังซิ่ว,นายคือคนที่ฆ่าพวกอาชญากรที่ค้าอวัยวะเหล่านั้นใช่ไหม?”

ถังซิ่วแกล้งทำเป็นสับสนและงงงวยในขณะที่เขาถามกลับว่า

“เธอหมายถึงอะไร?ฉันรู้สึกไม่ค่อยเข้าใจ”

เฉิงเยี่ยนหนานขมวดคิ้วและตอบว่า

“ไม่ใช่นายงั้นเหรอ?แต่พี่สาวของฉันบอกว่ามันเป็นเด็กที่ทำมันและตั้งแต่นายออกไปจากโรงเรียนไม่กี่วันที่ผ่านมาฉันคิดว่านายอาจจะเป็นฮีโร่ที่กล้าหาญที่กำจัดความชั่วร้ายเหล่านั้น! ”

ถังซิ่วตอบด้วยรอยยิ้ม

“เฮ้อ, เธอคงม่ได้อ่านนิยายพวกกำลังภายในมากเกินไปหรือ?”

ใบหน้าของเธอแดงขึ้นหลังจากนั้นก็หันกลับไป

หยวนชูหลิงมองไปที่หลังของเธอก่อนที่เขาจะเอนตัวเข้าใกล้ถังซิ่วและกระซิบด้วยความรู้สึกขอบคุณว่า

“พี่ชาย,ขอบคุณนะ!”

ถังซิ่วตกใจแต่เข้าใจอย่างรวดเร็วในขณะที่เขากระซิบกลับ

“นายรู้งั้นหรอ?”

หยวนชูหลิงพยักหน้าและตอบว่า

“แม่ได้เล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดแล้วและหลังจากที่ฟังคำอธิบายของเธอฉันก็รู้ได้ทันทีว่าเป็นนาย,พี่มิตรภาพนี้ฉันจะจดจำมันไว้ในใจหลังจากนี้ฉันจะเป็นคนรับใช้ของนายอย่างเชื่อฟัง ”

“ไปตายซะไป๊!”

ถังซิ่วตอบกลับด้วยการประชด

ห้องเรียนค่อยๆสงบลงเมื่อครูผู้สอนฮั่นชิงหวูก้าวเดินเข้ามาที่ห้องเรียนด้วยการแสดงออกที่หนาวเย็นเมื่อเธอได้เห็นถังซิ่วเธอพูดด้วยเสียงเคร่งขรึมทันทีว่า

“ถังซิ่ว,ตามฉันออกมา”

ถังซิ่วยกมือขึ้นและขยี้จมูกเมื่อเห็นหน้าที่แดงขึ้นเพราะความโกรธของฮั่นชิงหวูเขาก็รู้แล้วว่าอนาคตของเขาต้องจบไม่สวยแน่เหลือบไปที่หยวนชูหลิงที่มองเขาด้วยท่าทางที่เต็มไปด้วยความเห็นอกเห็นใจ,เขาเหยียบลงบนเท้าหยวนชูหลิงที่อยู่ใต้โต๊ะทำให้เขาตะโกนร้องด้วยเสียงเจ็บปวดโดยไม่ได้ตั้งใจขณะที่ถังซิ่วก้าวเดินออกจากห้องไป

ที่ทางเดิน …

ฮั่นชิงหวูจ้องมองไปที่ถังซิ่วด้วยท่าทางมืดมนและมั่นคงเธอไม่ได้พูดอะไรเป็นเวลานาน

หลงจากผ่านไปหลายนาทีถังซิ่วก็ทนไม่ได้ในขณะที่เขาหยุดความเงียบและพูดขณะที่ยิ้ม

“ครูฮั่นเมื่อคุณได้เห็นหน้าผมคุณก็รีบเรียกผมออกมานี่คงไม่ได้เรียกมาเพื่อจ้องหน้ากันใช่ไหม? ”

ได้ยินคำพูดของถังซิ่ว,ฮั่นชิงหวูก็โกรธจัดอย่างฉับพลัน

“เธอ…..นี้เธอยังจะกล้าแสยะยิ้มต่อหน้าฉันอีกงั้นหรอ?เชื่อไหม…….ว่าฉันจะจัดการเธอเดี๋ยวนี้ ? บอกฉันมาเดี๋ยวนี้เลยนะว่าเมื่อไม่กี่วันมานี้เธอโกหกฉันทำไม?เธอหนีเรียนยังไม่พอยังหลอกใช้ให้ฉันให้ไปส่งนี้มันเป็นเรื่องไร้สาระที่ไม่สามารถยอมรับได้! ”

“…”

จู่ๆหัวของถังซิ่วก็เต็มไปด้วยความคิด

ก่อนหน้านี้เขาคิดว่าฮั่นชิงหวูจะโกรธเนื่องจากการที่เขาหนีเรียนแต่ไม่เคยคิดว่าเธอจะโกรธกับเรื่องที่หลอกให้เธอพาเขาหนีเรียนด้วยความรู้สึกสำนึกผิดถังซิ่วตอบกลับด้วยรอยยิ้มที่อับอายว่า

“โอ้นั่นเป็นเพราะ … นั่นเป็นเพราะตอนนั้นผมกำลังรีบและผมสาบานว่าตอนนั้นผมไม่มีเวลาพอแต่ผมรู้ว่าสิ่งที่ผมทำนั้นผิดอย่างไรก็ตามคุณเป็นผู้ใหญ่ที่ดีและมีจิตใจที่ใจกว้างขวางและใหญ่โต?คุณคงจะไม่ลดตัวเองให้อยู่ในระดับเดียวกับนักเรียนที่ซื่อสัตย์และมีมารยาทนี้? ”

“ใจกว้างบ้านเธอสิ!!”

ฮั่นชิงหวูเหลือบมองที่ถังซิ่วด้วยความโกรธเพราะเธอเกือบจะถ่มน้ำลายออกมาพร้อมคำสาปแช่งนั้นถ้าเขาเป็นนักเรียนที่มีความซื่อสัตย์และประพฤติตัวดีแล้วละก็โลกใบนี้คงไม่มีนักเรียนที่ไม่มีความซื่อสัตย์และประพฤติไม่ดีเหลืออยู่แล้วนักเรียนที่ซื่อสัตย์สุจริตพันธุไหนกล้าที่จะหนีเรียน? สิ่งที่อุกอาจกว่านั้นคือการที่เขากล้าที่จะหลอกลวงครูเพื่อพาเขาออกจากโรงเรียนเพื่อหนีเรียน ( *ไอดอลเลยอ๊ะ )

“ดี! ในเมื่อเธอบอกว่าเธอมีเหตุผล,ฉันเองก็อยากจะฟังเหตุผลเหล่านั้นไหนบอกมาสิว่าเธอหนีเรียนไปทำอะไร ”

ฮั่นชิงหวูไม่ต้องการปล่อยถังซิ่วไปง่ายๆเธอรู้สึกขุ่นเคืองในช่วง2-3วันที่ผ่านมาเธอรู้สึกว่าจำเป็นต้องผลักดันให้ถังซิ่วเสียน้ำตาให้ได้ยิ่งไปกว่านั้นการทดสอบเข้ามหาวิทยาลัยเริ่มใกล้เข้ามามากแล้วและไม่มีเวลาเหลือมากนักเธอต้องมั่นใจว่าถังซิ่วจะทบทวนการเรียนในโรงเรียนของเขาและได้ผลลัพธ์ที่ดีในการทดสอบ

(ที่แท้ก็ห่วงนี้หว่า :p)