ในขณะนี้ ทั่วทั้งสนามรบเงียบงันไปชั่วขณะ เนื่องจากถูกพลังอันมหาศาลที่ชีหยานแสดงออกมาข่มเอาไว้ และในเสี้ยววินาทีต่อมา โจรสลัดที่เหลืออยู่บนเรือก็คว้าอาวุธคู่กายของพวกเขาขึ้นมา จากนั้นก็คำรามลั่นด้วยความบ้าคลั่ง! ภายใต้สถานการ์ปกติ ทหารสเปนคงหยิบปืนขึ้นมายิงชีหยานจนพรุนแล้ว อย่างไรก็ตาม เรือลำเล็กนั้นแกว่งไปมาตามแรงคลื่น ทำให้พวกเขาไม่สามารถเล็งปืนได้ และอีกอย่างปืนยิงระยะไกลก็มีข้อเสียที่ร้ายแรง! นั่นก็คือเมื่อปืนสัมผัสกับน้ำทะเล มันก็จะไร้ผลทันที!

 

ในเวลานี้เรือเบลแอนมัคนั้นไม่จำเป็นที่จะต้องใช้คนจำนวนมากเข้าต่อสู้กับผู้รุกราน — แต่พวกเขานั้นขาดเพียงแค่ความกล้าที่จะปกป้องดาดฟ้าเรือจากทหารสเปนที่ปืนเชือกขึ้นมา!

 

แต่เมื่อได้เห็นการกระทำอันกล้าหาญของชีหยาน เหล่าโจรสลัดผู้ผ่านประสบการณ์การต่อสู้มามากมาย ก็รีบเอาผ้าพันบาดแผลของตัวเองที่ได้รับบาดเจ็บอย่างลวกๆ  ก่อนที่จะคว้าอาวุธและคำรามก้อง จากนั้นก็ดาหน้ากันไปยังจุดที่ชีหยานยืนอยู่ — แต่พวกเขานั้นไม่ได้ทำเหมือนชีหยาน เพราะเหล่าโจรสลัดเลือกที่จะตัดเชือกตะขอที่พวกทหารสเปนใช้ไต่มา แทนที่จะดักฆ่าเมื่อพวกมันขึ้นมาถึง! — ตราบใดที่ทหารสเปนขึ้นมาบนดาดฟ้าเรืออันสูงตระหง่านไม่ได้แค่นั้นก็เพียงพอแล้ว!!

 

ในบางครั้ง การกระทำเล็กๆในสนามรบ ก็อาจเปลี่ยนผลลัพท์ของการต่อสู้ทั้งหมดได้! เพียงแค่การกระทำของคนเพียงคนเดียวกลับกระตุ้นขวัญกำลังใจของเหล่าโจรสลัดให้กลับมาพลุ่งพล่าน!

 

ในขณะเดียวกัน เรือเล็กของสเปนอีกสองลำก็ได้มาประชิดเบลแอนมัคแล้ว และได้เริ่มต้นบุกขึ้นมา อย่างไรก็ตาม พวกเขากลับพบว่าฝ่ายตรงข้ามต้านทานไว้อย่างสุดความสามารถ — เมื่อพวกเขาโยนเชือกตะขอขึ้นไป มันก็ถูกตัดออกในทันที!

 

ทหารสเปนจึงเลือกที่จะปีนขึ้นไปด้วยมือเปล่าแทน อย่างไรก็ตาม การกระทำเช่นนั้นส่งผลร้ายต่อพวกเขา! เพราะเมื่อนิ้วมือของพวกเขาสัมผัสกับดาดฟ้าเรือ — นิ้วมือของพวกเขาก็จะถูกตัดออกทันที!!

 

ในตอนนี้ชีหยานไม่มีความจำเป็นที่จะต้องช่วยเหลือเหล่าโจรสลัดบนดาดฟ้าเรืออีกแล้ว สายตาของเขาจ้องมองไปยังเรือรบสเปนที่กำลังพัวพันอยู่กับแบล็คเพริ์ล

 

“ถ้าหากการแผนการโจมตีในครั้งนี้เป็นของเพลเยอร์จริงๆ … พวกเขาจะต้องไม่หยุดอยู่แค่นี้แน่! มันจะต้องมีแผน 2!! โดยปกติแล้วเรือโจรสลัดจะมีตัวหลักๆก็คือกัปตันและหัวหน้าหน่วย ภายใต้สถานการณ์ปกติ กัปตันมักจะอยู่ข้างหลังพร้อมกับมีเหล่าหัวหน้าหน่วยคอยคุ้มกัน ดังนั้น เพลเยอร์ฝ่ายตรงข้ามจะต้องมีแผนที่จะสามารถเอาชนะพวกหัวหน้าหน่วยและโจรสลัดส่วนที่เหลือที่ทำหน้าที่ป้องกัน!”

 

ทันใดนั้นเอง จู่ๆโจรสลัดคนหนึ่งก็กรีดร้องออกมา พลางเอามือปิดหน้า ก่อนที่จะเซไปข้างหลัง พร้อมกับมีเลือดทะลักออกมาจากร่องนิ้วที่ปกปิดใบหน้าของเขาอยู่ จากนั้นก็ทรุดลงกับพื้น แล้วกลิ้งไปรอบๆด้วยความทุกข์ทรมาน!

 

จากนั้นชีหยานก็เห็นว่ามีทหารสเปนปีนขึ้นมา พร้อมกับก้าวมายังข้างหน้า ชีหยานใช้ขวานหนักกวาดใส่ทหารคนนั้นทันที ส่งผลให้ทหารคนนั้นกระเด็นตกลงไปบนเรือเล็ก

 

อย่างไรก็ตาม ชีหยานก็ต้องรู้สึกประหลาดใจ เมื่อพบว่าเรือเล็กของข้าศึกลอยสูงขึ้น ในตอนแรกเรือลำเล็กของทหารสเปนอยู่ห่างจากดาดฟ้าเรือเบลแอนมัคราวๆ 3 เมตร แต่ตอนนี้มันกลับห่างไม่ถึง 2 เมตร!! และเนื่องด้วยระยะห่างที่สั้นขนาดนี้ ทำให้ทหารสเปนสามารถใช้อาวุธชั้นดีของพวกเขา เข้าห้ำหั่นกับเหล่าโจรสลัดที่อยู่บนดาดฟ้าเรือได้! แม้ว่าพวกทหารสเปนจะอยู่ด้านล่างทำให้เสียเปรียบเล็กน้อย แต่ก็ยังดีกว่าสถานการณ์เลวร้ายแบบในตอนแรก!

 

ทันทีนั้นความคิดแวบหนึ่งก็โผล่เข้ามาในจิตใจของชีหยาน เขานั้นสั่งสมประสบการณ์การแล่นเรือมามากมาย ไม่นานนัก เขาก็รู้แผนการอันน่าหวาดกลัวของศัตรู! — พวกมันใช้วัสดุหนักเพื่อถ่วงท้องเรือ!

 

เรือนั้นก็เปรียบดั่งถังที่ว่างเปล่า เมื่อน้ำหนักไม่เพียงพอ การทรงตัวของมันก็จะไม่มั่นคง ท่ามกลางสภาพอากาศในหนังไพเรตที่เต็มไปด้วยพายุและคลื่นลมแรง การที่เรือมีน้ำหนักไม่เพียงพออาจทำให้คว่ำได้ ดังนั้น เมื่อเรือเล็กทั้งสามลำเริ่มเปิดฉากโจมตี พวกเขาจึงทิ้งวัสดุที่ใช้ถ่วงน้ำหนักเรือ เพื่อให้เรือลอยสูงขึ้น!! — ผลก็คือเรือเล็กของทหารสเปนน้ำหนักเบาลง และยกสูงขึ้นจากพื้นทะเล!

 

วัสดุหนักที่ทหารสเปนใช้ถ่วงน้ำหนักเรือนั้นเป็นลังไม้ที่ยาวกว่า 1 เมตร และมีหินบรรจุอยู่ภายในถัง หลังจากที่พวกเขาโยนหินลงทะเลแล้ว พวกเขาก็นำลังไม้มาวางใกล้ๆเรือเบลแอนมัค จากนั้นก็ปีนขึ้นไป! และเมื่อพวกเขายืนอยู่บนลัง หัวของพวกเขาก็สูงจนสามารถเห็นดาดฟ้าเรือเบลแอนมัค และนั่นก็ช่วยให้พวกทหารสเปนสามารถต่อสู้ได้สะดวกขึ้น นอกจากนี้ พวกเขายังสามารถกระโดดขึ้นมาบนดาดฟ้าเรอโดยไม่จำเป็นที่จะต้องใช้เชือก!

 

“น่าสนใจดีนี่”

 

ชีหยานหัวเราะออกมาอย่างเย็นเยียบ เขาก้าวไปข้างหน้า ก่อนที่จะตบหัวโจรสลัดที่อยู่ใกล้ๆคนหนึ่งที่กำลังวิ่งไปวิ่งมาอย่างไร้จุดหมาย

 

“หยุดวิ่งไปมาซะที! รีบไปช่วยคนอื่นๆซะ!”

 

ไม่มีใครชอบที่จะถูกตบหัว และยิ่งเป็นพวกโจรสลัดยิ่งแล้วใหญ่ อย่างไรก็ตาม เมื่อโจรสลัดคนนั้นเงยหน้าขึ้นและพบว่าคนที่ตบหัวเขาคือชีหยาน เขาก็ตกใจและตอบกลับไปอย่างสุภาพว่า

 

“ครับ หัวหน้า!”

 

จากนั้นก็รีบวิ่งไปยังจุดที่ชี้หยานชี้ให้เขาไป

 

ในเวลานี้ชื่อเสียงของชีหยานเพิ่มขึ้นสูงเป็นอย่างมาก ท่ามกลางโจรสลัดที่อยู่บนเรือ คำพูดของเขาเปรียบดั่งเป็นคำสั่งอันสมบูรณ์แบบ! และนั่นทำให้โจรสลัดบนเรือเชื่อฟังและเลือกที่จะปฏิบัติตาม!!

 

ชีหยานนั้นเหมือนกับนักผจญเพลิงที่ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เมื่อจุดใดเกิดปัญหาขึ้น เขาจะรีบวิ่งไปตรงจุดนั้นทันที ส่วนเหล่าโจรสลัด หลังจากที่เรียกขวัญกำลังใจกลับมาได้ พวกเขาก็รู้ได้ทันทีว่าเหตุการณ์ในตอนนี้มันเป็นเรื่องคอขาดบาดตาย!

 

แม้ว่าทหารเรือสเปนจะเต็มไปด้วยความกล้าหาญ แต่เหล่าโจรสลัดก็ยืนอยู่ในตำแหน่งสูงกว่า ได้เปรียบกว่า นอกจากนี้ พวกโจรสลัดยังสามารถใช้ปืนได้อีกด้วย! ภายใต้สถานการณ์การต่อสู้ที่ใกล้ถึงจุดแตกหักของทั้งสองฝ่าย ชีหยานได้แสดงความสามารถในการต่อสู้อันน่าหวาดกลัวของเขา ตลอดจนทักษะการเป็นผู้นำ และความสามารถในการสั่งการจนทำให้ทุกคนต้องตกตะลึง!

 

ต้องไม่ลืมนะว่า ในโลกจริง ชีหยานนั้นเคยทำงานเดินเรือสมุทร เขาได้สั่งสมประสบการณ์มามากมายในการเดินเรือไปต่างประเทศ และนั่นทำให้เขาได้เรียนรู้วิธีการบริหารและจัดการบนเรือ ที่ก้าวหน้ากว่าในยุคนี้ถึง 1000 ปี!

 

นอกจากนี้ พวกโจรสลัดที่เหลือไม่พิการ ก็อายุเยอะ แล้วยังขี้โรค แต่พวกเขาก็ยังมีความกล้าที่จะสู้ในขณะที่กำลังเผชิญกับความสิ้นหวังและความตาย! ภายใต้เสียงตะโกนสั่งการของชีหยาน พวกเขาก็ได้กลายเป็นแนวป้องกันเหล็กอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้น ชีหยานก็รวบรวมปืนหลายกระบอก แล้วนำมาให้พวกเขา จากนั้นก็สั่งให้เล็งเตรียมยิงไว้ เมื่อคลื่นทหารสเปนพุ่งเข้ามา ก็ให้ลั่นไกออกไปทันที!

 

ต่อให้พวกมันเป็นทหารเรือฝีมือฉกาจ ก็ยังต้องถูกบังคับให้ถอย!

 

เมื่อเห็นเหตุการณ์นี้ อัมมานที่อยู่บนดาดฟ้าเรือพาณิชย์ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

 

หลังจากที่ถูกล้อมจากทั้งสองด้าน หัวใจของเขาก็ถูกโยนลงไปในความสิ้นหวัง นั่นก็เพราะเขารู้ดีว่ามันจะเกิดเรื่องเลวร้ายขนาดไหนขึ้น นอกจากนี้ กัวทัส ศัตรูของเขาก็ช่างเป็นคนที่น่าหวาดกลัวและเจ้าเล่ห์ แม้ว่าพลังของเขาจะไม่สามารถเทียบกับอัมมานได้ แต่กัวทัสก็เคลื่อนไหวได้อย่างลื่นไหล และสามารถหลบการโจมตีโดยการวนไปรอบๆ ในตอนแรก อัมมานทั้งกังวลและกดดัน แต่เขาก็จำเป็นที่จะต้องจัดการกัวทัส มิฉะนั้นไม่ต้องพูดถึงเบลแอนมัค แม้แต่ชีวิตของเขาก็จะต้องจบลงที่นี่

 

ไม่เพียงเท่านั้น สมาธิของอัมมานส่วนใหญ่นั้นเอนไปทางเรือเบลแอนมัค แต่เมื่อเขาเห็นชีหยานยืนหยัดขึ้นมาและสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ หัวใจของอัมมานก็อดไม่ได้ที่จะตื่นเต้นอย่างบ้าคลั่ง! ดาบสีเงินในมือของเขาแวววับ ปลายแหลมของดาบพุ่งทะลุร่างของทหารรับจ้างคนหนึ่งที่อยู่หน้ากัวทัส และเมื่อดาบถูกกระชากออกมา ความแวววาวของมันก็มิได้หมองลง ราวกับว่าไม่มีเลือดซักหยดติดมากับปลายดาบ

 

ในขณะเดียวกัน ซากศพอันเดธได้ฆ่าลูกน้องของคารอนตาเดียวอย่างโหดเหี้ยม ในช่วงเวลาที่คารอนกำลังจะสิ้นใจนั้นเอง เขาก็ระเบิดความโกรธออกมา จากนั้นก็ราดน้ำมันจนชุ่มตัวของเขา แล้วก็จุดไฟ! พร้อมกับพุ่งเข้าหาซากศพอันเดธอย่างบ้าคลั่ง! ร่างอันเน่าเปื่อยของอันเดธถูกแผดเผา มันกรีดร้องออกมาซ้ำๆ พร้อมกับโบกมือไปมาด้วยความลนลาน และพยายามใช้มือปัดไปรอบๆอย่างไม่มีจุดหมาย — ตัวมันในตอนนี้ได้สูญเสียการควบคุมไปแล้วอย่างสิ้นเชิง!

 

ในตอนนี้เรือโจรสลัดที่เหลือก็ได้มาเข้าร่วมการต่อสู้แล้ว และเริ่มทำการปิดล้อมเรือพาณิชย์อีกสองลำและกำลังเข้าต่อสู้กันอยู่ สถานการณ์ได้มาถึงจุดสุดยอด ส่วนทางด้านกองเรือรบพารากอนที่อยู่ห่างออกไปก็ได้ส่งเรือเล็กหลายลำมาช่วยเหลือเรือพาณิชย์ของพวกเขาเช่นกัน — ส่วนทางด้านเบลแอนมัค หลังจากที่เรือเล็กอีกสองลำเข้าเทียบเรือได้ ทำให้ทหารสเปนที่ต้องรับมือเพิ่มจำนวนมากขึ้น และสถานการณ์กลับมาเลวร้ายอีกครั้ง!!

 

แน่นับว่ายังโชคดีที่เหล่าโจรสลัดชั้นยอดที่บุกไปบนเรือพาณิชย์ได้กลับมายังเบลแอนมัคแล้ว และพวกเขาก็เข้าร่วมการต่อสู้ทันที! ขวัญกำลังใจและความเชื่อมั่นกลับมายังฝั่งโจรสลัดอีกครั้ง แต่ชีหยานก็ยังคงสั่งพวกที่พึ่งมาสมทบด้วยความหยาบคาย และตะโกนด้วยเสียงอันดัง ว่าให้ไปยังจุดที่ต้องการการสนับสนุนมากที่สุด ถึงแม้ว่าโจรสลัดเหล่านั้นส่วนใหญ่จะไม่เต็มใจที่จะฟังคำสั่ง แต่ความสามารถของชีหยานที่พึ่งแสดงออกมาก่อนหน้านี้ ทำให้พวกเขายอมปฏิบัติตาม!

 

อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างต้องมีข้อยกเว้นเสมอ ในขณะที่โจรสลัดส่วนหนึ่งไปสนับสนุนจุดที่ชีหยานบอก พวกเขาก็ถูกขวางโดยชายผู้สวมผ้าโพกหัวสีน้ำตาล ชายคนนั้นเอียงศีรษะของเขาพร้อมกับคว้าดาบตรงเอว แล้วกล่าวอย่างเยาะเย้ยว่า

 

“ฉันคิดว่า จุดที่ทอมมี่อยู่ต่างหากที่ต้องการการสนับสนุน เพราะเป็นจุดที่อาจจะแนวป้องกันจะแตกได้ตลอดเวลา!”

 

ชีหยานกวาดตาไปมองชายผ้าโพกหัวสีน้ำตาล ก่อนที่จะจ้องมองมันอย่างเย็นชา แล้วกล่าวว่า

 

“แกเป็นใคร?”

 

ชายผ้าโพกหัวสีต้ำตาลยกอกขึ้น แล้วกล่าวว่า

 

“บนเรือในตอนนี้ไม่มีกัปตัน ส่วนหน้าบากแฮรี่ก็สลบไม่ได้สติ แล้วทำให้หน้าใหม่อย่างแกถึงได้มาออกคำสั่ง! มันควรจะเป็นฉันต่างหาก! ฉันผู้มีนามว่า เอลวิ่น! ทุกคนตามฉันมา!!”

 

ชายผ้าโพกหัวหันไปสั่งกลุ่มมือปืนที่อยู่เบื้องหลังชีหยาน ชีหยานแสยะยิ้มออกมา ก่อนที่จะตอบอย่างนุ่มนวลว่า

 

“แกอาจจะพูดถูก”

 

เพื่อที่จะได้สั่งการได้อย่างคล่องแคล่ว ชีหยานจึงวางขวานหนักที่เป็นอาวุธของเขาลงในก่อนหน้านี้ แต่ในตอนนี้เขาได้คว้าดาบคาดเอวของทหารสเปนที่พึ่งตายบนเรือ จากนั้นก็ตวัดมันไปยังเอลวินอย่างฉับพลัน! —

 

ตวัดฉับตั้งแต่หัวลงมา!