เมื่อถูกชีหยานปลุก คริสก็เรียกระบบฝันร้ายออกมา ก่อนที่จะส่งข้อมูลให้แก่ชีหยาน — เมื่อได้รับมันมาชีหยานก็พยักหน้าก่อนที่ผลักประตูออกไป แต่เดินไปได้เพียงแค่สองก้าว ชีหยานก็หันกลับไปมองคริสแล้วกล่าวว่า

 

“จริงสิ นายกำลังบาดเจ็บอยู่นี่นา ฉันจะบอกอะไรนายให้นะว่าพวกโจรสลัดนะ … พวกเขาไม่ใช่คนดีเลยแม้แต่น้อย พวกเขาสามารถฆ่า ข่มขู่ หรือกรรโชก เพื่อให้ได้สิ่งที่พวกเขาต้องการ ถึงแม้ในตอนที่ฉันอยู่บนเรือจะไม่มีใครกล้าทำอะไรนาย อย่างไรก็ตาม ฉันมีธุระที่จะต้องไปทำที่ท่าเรือ ส่วนนายที่กำลังซ่อนตัวอยู่ก็ไม่สามารถไปด้วยกันได้! ดังนั้นนายจะต้องอยู่แต่บนเรือ — หลังจากที่ฉันไปก็จงต่อสู้ด้วยตัวเองซะนะ!!”

 

พูดจบชีหยานก็หันหลังกลับไป และเขาก็ได้ยินเสียงคริสร้องอ้อนวอนไล่หลังมาราวกับแมวถูกเหยียบหางว่า

 

“สวรรค์โปรด! นายจะทำแบบนั้นกับฉันไม่ได้นะ! นี่มันไม่อยู่ในข้อตกลง!! แถมตอนนี้พวกเราเป็นเพื่อนกันแล้วไม่ใช่หรอ?”

 

ชีหยานยักไหล่ ก่อนที่จะตอบอย่างสงบว่า

 

“คริสเอ๋ย คริส … อย่ามาพูดเรื่องข้อตกลงกับฉันถ้านายยังไม่จริงใจต่อฉัน! และอีกอย่างพวกเราไม่ใช่เพื่อนกัน อย่ามาอ้างเรื่องมิตรภาพกับฉัน!”

 

คริสหัวเราะแห้งๆออกมา ก่อนจะกล่าวว่า

 

“หยาน นายพูดแบบนี้ได้ยังไง?”

 

ชีหยานตอบกลับอย่างแผ่วเบาว่า

 

“แล้วทีนายล่ะ ทำไมถึงไม่ยอมบอกเหตุผลที่ปาร์ตี้ของนายโจมตีปราสาททอทูการ์? ทั้งข้อมูลรายละเอียดของภารกิจระเบิดปราสาท ทั้งรางวัลตอบแทนจากการปล้นทรัพย์ภายในปราสาท …”

 

ได้ยินแบบนั้น สีหน้าของคริสถึงกับเปลี่ยนสี ก่อนที่เขาจะพูดออกมาอย่างตะกุกตะกักว่า

 

“ก็นายไม่เคยถามเรื่องนี้มาก่อน ฉันก็นึกว่านายจะไม่สนใจเรื่องพวกนี้! แต่ฉันไม่รู้อะไรเกี่ยวกับมันเลยนะ! ทั้งหมดนี้ถูกวางแผนโดยบอส! — พวกเราคนอื่นๆในปาร์ตี้ก็เป็นแค่เพลเยอร์ธรรมดาๆ พวกเราเพียงแค่แบ่งหน้าที่กันทำคนละส่วน ไม่ได้รู้ข้อมูลอะไรมากมาย …”

 

คริสนั้นจัดได้ว่าเป็นคนที่เรียบง่ายและตรงไปตรงมา แต่เมื่อถึงเวลาจำเป็น เขาจะกลายเป็นคนที่เด็ดขาดมาก! เขานั้นเป็นหมาป่านคราบลูกแกะที่ไม่ยอมเปิดเผยความลับทุกอย่างที่มี!

 

หลังจากที่ต่อรองกันอยู่นาน ในที่สุดชีหยานก็ได้รับข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องที่ปาร์ตี้ของคริสลอบเข้าไปในปราสาททอทูการ์ — พวกเขาเข้าไปเพื่อชิงไอเท็มสำคัญชิ้นหนึ่ง … แต่ชีหยานก็ยังไม่รู้ว่ามันคืออะไร

 

“ต้องแบบนี้สิ! เอาล่ะ ฉันจะไปที่ท่าเรือแล้ว ส่วนนาย ถ้ามีใครพยายามจะสร้างปัญหาให้นาย ก็ให้อ้างชื่อของฉันได้เลย! ฉันนั้นมีชื่อเสียงเรื่องการต่อสู้อยู่บนเรือลำนี้ แต่ถ้ามันยังไม่ฟัง ไว้กลับมาฉันจะไปอัดมันให้ แค่นี้พวกมันก็จะไม่กล้าหาเรื่องนายอีกเป็นครั้งที่สอง”

 

ความจริงแล้วคริสค่อนข้างที่จะกังวลว่าชีหยานจะไม่สามารถปกป้องเขาได้ แต่เมื่อได้ยินแบบนี้ เขาก็เริ่มรู้สึกผ่อนคลายและค่อยๆสงบใจลง

 

หลังจากเกลี้ยกล่อมคริสเสร็จ ชีหยานก็นั่งเรือไปยังทอทูการ์

 

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าคริสนั้นเป็นคนที่ขี้กลัวจนขึ้นสมอง ซึ่งความกลัวนั้นบดบังไม่ให้สมองของเขาคิดทบทวนเหตุการณ์ต่างๆ เขายังคงไม่รู้ตัวว่า แท้จริงแล้วตัวเขานั้นมีความสำคัญต่อโจรสลัดคนอื่นๆขนาดไหน! — เขาที่เป็นเพียงคนเดียวที่กุมความลับที่ไม่มีใครรู้ของปราสาทตระกูลฟอกค์!

 

หลังจากนี้ กัปตันอัมมานจะต้องรีดข้อมูลจากคริสแน่ๆ แต่นั่นไม่ใช่เรื่องสำคัญ เพราะเหตุผลที่ชีหยานช่วยชีวิตคริสไว้นั่นก็เพราะมันเป็นหนึ่งในแผนการของเขา! — เพื่อที่จะได้ข้อมูลของภารกิจลับจากคริส!

 

ปัจจุบันนี้ท่าเรือทอทูการ์กลับมาคึกคักเหมือนเดิมแล้ว มีโจรสลัดมากมายอยู่ตามท้องถนน แต่ยังคงมีมีเศษซากปรักหักพังอยู่ และยามลาดตระเวณที่เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า! นอกจากนี้เรือขนส่งสินค้าที่มาเทียบท่าก็ลดน้อยลง ดูเหมือนว่าพวกเขาจะเลี่ยงความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น

 

ชีหยานเดินไปตามสถานที่ ที่คริสได้แลกเปลี่ยนข้อมูลกับเขาในระบบฝันร้าย เขาเงยหน้าขึ้นมองป้ายที่แสนจะคุ้นเคย ‘ชิคเค้นแอนด็อก’ มันคือร้านขายของชำร้านแรกที่ชีหยานเข้ามาขอสมัครงาน!

 

ชีหยานจ้องมองไปยังชายชราที่ยังคงสวมผ้าคาดหัวสีขาวเหมือนดั่งครั้งแรกที่เจอกัน ตอนนี้ชายชรากำลังปัดฝุ่นบนชั้นวางของอยู่ ชีหยานจึงเริ่มต้นการสนทนาว่า

 

“คุณโมล วอลเลอร์ เลดี้ทาทาช่า จากอินเดียได้มอบหมายให้ฉันมาส่งข้อความถึงคุณ”

 

เพล้ง—!

 

จู่ๆแก้วไวน์ที่ชายชรากำลังปัดฝุ่นอยู่บนชั้นวางก็ได้ร่วงตกลงพื้น ชายชรากระแอมออกมาสองสามครั้ง ก่อนที่จะค่อยๆก้มตัวลงเก็บเศษแก้วที่แตก แล้วกล่าวออกมาอย่างเชื่องช้าว่า

 

“เฮ้อ … ฉันแก่แล้ว อย่ามายุ่งอะไรกับฉันอีกเลย …”

 

“เอ๋??”

 

เมื่อได้ยินสิ่งที่ชายชรากล่าว ชีหยานก็กลายเป็นโง่งม

 

“ทำไมถึงเป็นแบบนี้? ไหนเจ้าคริสมันบอกว่า เมื่อฉันเอ่ยถึง เลดี้ทาทาช่า ชายชราจะถอนหายใจ แล้วเล่าเรื่องราวในอดีตของเขาให้ฟังนี่นา? แล้วทำไมถึงเป็นแบบนี้?”

 

“อย่าบอกนะว่าเจ้าสลัดผักนั่นหลอกฉัน? แต่ข้อมูลจากระบบฝันร้ายไม่ได้น่าโกงกันได้ … นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน”

 

ชีหยานยังคงพยายามพูดคุยกับชายชราต่อไป อย่างไรก็ตาม ชายชรากลับไม่สนใจเขาและนั่งลงบนเก้าอี้ พลางจ้องมองออกไปยังท้องทะเลอย่างเงียบๆ — ชีหยานรู้สึกหงุดหงิดเป็นอย่างมาก เขาอยากที่จะตะบันหน้าไอ้แก่นี่จริงๆ

 

แต่ในตอนนั้นเอง จู่ๆชีหยานก็นึกไปถึงเหตุการณ์ที่เขาพบกับชายชราครั้งแรก! — ในตอนที่เขาซื้อข้อมูลจากชายชราดูเหมือนว่าในตอนนั้นชายชราจะพยายามขายอะไรบางอย่างให้แก่เขา!

 

เครื่องรางป้องกันเวทย์! ชียานหันขวับไปยังที่ๆเครื่องรางป้องกันเคยแขวนอยู่ แต่เขากลับพบว่ามันได้หายไปแล้ว!

 

หลังจากนั้นชีหยานก็ตรวจสอบหลายๆอย่างภายในร้านและพบว่าของบางชิ้นได้หายเช่นกัน แม้แต่ของที่คล้ายๆกับ เครื่องรางป้องกันเวทย์ก็หายไปด้วย! หัวใจของชีหยานเต้นไม่เป็นจังหวะ ก่อนที่เขาจะชี้ไปยังกิ่งไม้ที่ห้อยอยู่ตรงผนังแล้วถามว่า

 

“ขยะชิ้นนั้นราคาเท่าไหร่?”

 

เมื่อได้ยินชีหยานกล่าว ชายชราก็แทบจะควันออกหู ก่อนที่จะกล่าวอย่างหยาบคายว่า

 

“ไร้สาระ! ขยะที่ไหนกัน! นั่นคือกิ่งไม้ที่ตกลงมาจากต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ บนเขาโอลิมปัส! ฉันจะไม่มีทางขายมันให้แก่คนที่ไม่รู้ค่าของมัแน่ๆ!”

 

ชีหยานไม่กล้าที่จะกระตุ้นอะไร โมล วอลเลอร์ อีก เขารีบพยักหน้ารัวๆ ก่อนที่จะถามว่า

 

“ฉันขอโทษๆ แล้วกิ่งไม้ศักสิทธิ์จากเขาโอลิมปัสนี่ราคาเท่าไหร่?”

 

“2 กินี ถ้าไม่ซื้อ ก็ไสหัวไปซะ!”

 

เมื่อได้ยินว่ามันราคาสองกินี ใบหน้าของชีหยานก็ถึงกับกระตุก ในตอนนี้เขาตระหนักได้ถึงความจำเป็นของค่าสเตตัสสเน่ห์อย่างลึกซึ้ง ก่อนที่จะ กล่าวว่า

 

“ฉันไม่มีเงินติดตัวมากขนาดนั้น คุณช่วยลดราคาหน่อยจะได้ไหม?”

 

โฒล วอลเลอร์ส่ายหัว ก่อนที่จะกล่าวด้วยความเย้ยหยันว่า

 

“นึกว่ามีเงิน ที่แท้ก็ขอทาน! อย่ามาทำให้ฉันเสียเวลา! เดินออกไปจากร้านฉันภายใน 5 วินาทีซะ ไม่อย่างฉันจะเตะตูดแก แถมนอกจากนี้ กิ่งไม้ศักสิทธิ์นั้นก็มีคนจองไว้ก่อนแล้ว ไม่ใช่แค่แกเท่านั้นที่สนใจจะซื้อมัน!”

 

ชีหยานนั้นแทบจะไม่มีเงินติดตัวเลย เนื่องจากเขาเอาเงินเกือบทั้งหมดที่ได้มา ไปถลุงกินเหล้าเพื่อปลดล็อคฉายา ไอ้ขี้เมา จนเกือบหมด! นอกจากเงินเพียงน้อยนิดแล้ว ที่เขามีเหลืออยู่ก็คือ เหรียญทองคำเอ็ดเวิร์ดที่ห้า

 

อย่างไรก็ตาม เหรียญทองคำนั้นเป็นไอเท็มที่แสนจะมีค่า เพราะมันสามารถนำออกจากหนังเรื่องนี้ได้ และสามารถนำไปแลกแต้มฝันร้ายได้ถึง 400 แต้ม! ถ้าไม่ฉุกเฉินจริงๆ ชีหยานก็ไม่อยากใช้มัน

 

แต่โมล วอลเลอร์ดูเหมือนไม่รับฟังอะไรเลย แถมชีหยานก็ไม่มีวิธีหาเงินได้ในเวลาอันสั้น — หัวใจของชีหยานเต็มไปด้วยความหดหู่ ก่อนที่เขาจะควักเหรียญทองคำเอ็ดเวิร์ดที่ห้าออกมา แล้วกล่าวว่า

 

“ตกลง! แต่ฉันยังไม่มี 2 กินีในตอนนี้! ฉันขอใช้สิ่งนี้ค้ำเอาไว้ก่อน แล้วฉันจะมาจ่ายเงินให้คุณทีหลัง”

 

อันที่จริงแล้วชีหยานเพียงแค่ลองหยั่งเชิงดูเท่านั้น เนื่องจากร้านขายของชำร้านนี้เต็มไปด้วยของแปลกๆ — ดูเหมือนว่าโมล วอลเลอร์นั้นจะเป็นนักสะสมของมีค่า ซึ่งตามหลักแล้ว เขาจะต้องสนใจเหรียญทองคำเหรียญนี้อย่างแน่นอน

 

และก็เป็นอย่างที่ชีหยานคาดการณ์ไว้! เมื่อโมลเห็นเหรียญทองคำเอ็ดเวิร์ดที่ห้า ดวงตาของเขาก็เป็นประกาย! เขารีบคว้าเหรียญนั้นโดยไม่พูดอะไรสักคำ ก่อนที่จะกัดมัน จากนั้นก็เป่า แล้วแนบเอาเหรียญแนบหูเพื่อฟังเสียงสะท้อน และยังไม่พอ เขายังหยิบแว่นขยายขึ้นมาแล้วตรวจสอบมันอย่างละเอียด ก่อนที่จะพูดด้วยน้ำเสียงไม่เต็มใจว่า

 

“ไม่จำเป็นที่แกจะต้องเอาเงินมาจ่าย! ฉันยินดีรับซื้อเหรียญทองคำนี้ในราคา 5 กินี และหลังจากที่หักค่าไม้ศักสิทธิ์แล้ว ฉันจะจ่ายให้แกอีก 3 กินี”

 

พูดจบ โมลก็หยิบเงิน 3 กินีออกมา แล้วโยนไปยังชีหยานทันที โดยไม่สนว่าชีหยานจะยินดีตอบตกลงหรือไม่ — เพราะเมื่อชีหยานคว้าเงิน 3 กินีที่เขาโยนออกไปแล้ว ก็เท่ากับว่าชีหยานยอมตกลง!

 

แต่ชีหยานนั้นไหวตัวทัน เขารู้ดีว่าโมล วอลเลอร์กำลังคิดอะไรอยู่ ในขณะที่โมลโยนเหรียญออกมา ชีหยานก็ใช้มือทั้งสองล้วงลงไปในกระเป๋ากางเกง — ทำให้เงิน 3 กินีนั้นร่วงหล่นลงบนพื้น จากนั้นชีหยานก็แกล้งหัวเราะ ก่อนที่จะหันไปนอกร้านแล้วกล่าวว่า

 

“ดูเหมือนว่าพระเจ้าจะได้ยินคำอ้อนวอนของลูกแล้ว! ที่ส่งคนรู้จักมาให้ลูกได้พบเจอในตอนนี้ … ฉันจะไปยืมเงินของเขา 2 กินี มาซื้อกิ้งไม้! ส่วนคุณก็คืนเหรียญทองของฉันมาซะ!”

 

แต่โมล วอลเลอร์ก็กำเหรียญไว้ในมือแน่น เขาไม่ยอมปล่อยมันราวกับหมาที่ไม่ได้กินอะไรมาสองวันแล้วพบเจอกระดูก — เขาจะปล่อยมันไปง่ายๆได้อย่างไร? ทันใดนั้นโมลก็รีบกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เป็นมิตรว่า

 

“จริงๆแล้ว ร้านนี้ยังมี ‘สมบัติ’ อื่นอยู่อีกเยอะเลย ดูนี่สิ! นี่คือกระดูกหางลึกลับที่ถูกร่ายมนต์คาถาด้วยพวกยิปซี มันสามารถเปลี่ยนแปลงดวงชะตาของแกให้ดีขึ้นได้ หือ? แกไม่สนใจ? ยังมีอีกนะ! แล้วชิ้นนี้ล่ะ นี่คือเปลือกหอยยักษ์จากทะเลแอตแลนติสในตำนาน มันสามารถช่วยให้เสียงของแกดังขึ้นได้ถ้า แนบมันไว้กับปาก …“