ป่าในดินแดนทางใต้นั้นกว้างใหญ่ไร้ขอบเขต มีพลังงานชีวิตจำนวนมากในป่าซึ่งส่งเสริมพลังของเฮิงหลัว มนุษย์หินและมนุษย์ต้นไม้

จี้เสี่ยวถูกกดลงกับพื้นอย่างแรงโดยแขนผอมๆ ซึ่งมันเกือบจะทำให้คอของเขาหัก จี้เสี่ยวพยายามดิ้นร่นด้วยแรงทั้งหมดที่มี ถึงแม้จะทำให้พื้นสั่นสะเทือน แต่ทว่าแขนนั่นยังคงจับคอของเขาแน่น ไม่ขยับเลยแม้แต่น้อย

กลุ่มควันสีดำลอยขึ้นไปในอากาศ ปรากฏให้เห็นรูปลักษณ์ที่น่ากลัวอย่างช้าๆ มันดูเหมือนมนุษย์ในแวบแรก แต่เขา 6 เขาบนหัวแสดงให้เห็นว่าไม่ใช่มนุษย์
ทั้งตัวของมันเป็นสีดำเงาเหมือนกับโลหะ รูปร่างผอม ตรงท้องมีรูกลวง ในรูของมันมีลูกบอลแสงสีเขียวขนาดเท่าหัวมนุษย์ลอยส่องแสงอยู่

เจียวนาคาทมิฬกำลังยืนมองไปที่สัตว์ประหลาดอย่างตื่นตระหนก ถึงแม้ว่าจี้เสี่ยวจะมีพลังน้อยกว่าเขา แต่จี้เสี่ยวก็เป็นถึงนักรบขั้นสูง แต่กับถูกมันจับกดพื้นได้อย่างง่ายดาย เห็นได้ชัดว่ามันแข็งแกร่งกว่าเขามาก เจียวนาคาทมิฬคิด

“สิ่งมีชีวิตในป่า? ทำไมเจ้ามาทำร้ายพวกเรา? เจ้าไม่รู้พลังของเผ่านาคาทมิฬ?”

นาคาทมิฬเจียวตะโกนเสียงดัง ในขณะนั่นเองเขากัดลิ้นแล้วพุ่งไปที่สัตว์ประหลาด6เขา พร้อมกับพึมพำคาถาบางอย่าง

“เครื่องสังเวย!”

มีเสียงแหบแห้งลอยมาในอากาศ เปลวไฟสีเขียวลุกขึ้นในดวงตาของสัตว์ประหลาดนั่น มันจ้องไปที่นาคาทมิฬเจียว

ขณะที่นาคาทมิฬเจียวกำลังสับสน มีสัตว์ประหลาดอีกตัวโผล่ออกมาจากควัน เจ้าตัวนี้เป็นโครงกระดูกสีขาว มีลักษณะรูปร่างเหมือนเสือไม่ก็สิงโต แต่ส่วนหัวของมันเหมือนมนุษย์แค่มีขนาดใหญ่กว่า มันสูงกว่าร้อยฟุต ทุกครั้งที่มันขยับจะมีเสียงเสียดสีของโลหะดังออกมา

“มนุษย์… พวกเราทำตามข้อตกลง… ใครก็ตามสังเวยเลือดและชีวิตให้เรา เราจะสู้เพื่อคนคนนั้น!”

โครงกระดูกพูด ขณะที่มีกลุ่มควันสีดำๆ 2 กลุ่มหมุนวนอยู่ในลูกตาของมัน
ขณะที่โครงกระดูกกำลังพูดอยู่นั้น มีกลุ่มควันหลากสีลักษณะเหมือนสัตว์เลื้อยคลานพุ่งออกมาจากตัวของโครงกระดูก มันชูคอขึ้นและจ้องไปที่อสรพิษเขาเดียวที่อยู่ข้างเจียวนาคาทมิฬ พร้อมกับส่งเสียงขู่

อสรพิษเขาเดียวชูคอของมันขึ้นและส่งเสียงขู่กลับไป

“นักรบของนาคาทมิฬฆ่าจี้เซีย ฆ่าพวกมันให้หมดทุกคน!”

เจียวนาคาทมิฬตะโกน เขาจดจ่ออยู่ที่จี้เซียตลอดเวลา ทำให้เขาไม่รู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นในป่า เขาตระหนักทันทีที่เห็นพวกสัตว์ประหลาดปรากฏตัวทำให้เขาตะโกนสั่งโจมตีออกไป

ดีหลัว ทูบ้า ทูโอที่กำลังยืนตะลึงอยู่บนตะขาบเหล็ก ได้สติทันทีหลังจากได้ยินเสียงตะโกนของเจียวนาคาทมิฬ ดีหลัวชี้นิ้วไปที่จี้เซียพร้อมกับส่งเสียงแสบแก้วหู
หลังจากสิ้นเสียงตะโกนของดีหลัว ทูบ้ากับทูโอชักอาวุธของพวกเขาออกมาแล้วพุ่งเข้าไปหาจี้เซียด้วยความเร็วสูง พร้อมกับนักรบเขี้ยวโลหิตนับสิบที่อยู่ด้านหลังพวกเขา

จี้ฮ่าวรู้สึกราวกับว่ากำลังเผชิญอยู่กับกองทัพขนาดใหญ่ที่กำลังพุ่งตรงมาที่เขากับจี้เซีย เขากำหอกในมือแน่น ขณะที่เขามองที่ทูบ้า ทูโออย่างวิตก จี้เซียจับไปที่ไหล่ของจี้ฮ่าวแล้วพูด

“ไม่ต้องห่วง ไว้ใจแม่ของเจ้า ฮ่าวแม่ของเจ้าเป็นผู้หญิงที่ยอดเยี่ยม เมื่อนางโกรธจริงๆละก็แม้แต่ข้าก็ยังกลัวนาง!”

ราวกับพิสูจน์คำพูดของจี้่เซีย ทันใดนั้นมีกลุ่มหมอกสีเทาๆพุ่งออกมาจากป่า แล้วห่อหุ้มป่าไว้ภายในรัศมีสิบไมล์ การเคลื่อนที่ของทูบ้ากับทูโอกลายเป็นสะเปะสะปะเหมือนคนเมา

พวกเขาอยู่ห่างจากจี้เซียกับจี้ฮ่าวเพียงแค่ 100 ฟุต พวกเขาสามารถที่จะเคลื่อนที่ไปถึงได้ภายในชั่วอึดใจ แต่หลังจากที่หมอกสีเทาพุ่งออกมา พวกเขารู้สึกเหมือนกับว่ากำลังวิ่งอยู่ในทางที่ไร้จุดสิ้นสุด ทูบ้ากับทูโอพยายามวิ่งด้วยความเร็วสูงสุดที่ได้ แต่พวกเขาก็ยังอยู่ห่างจากจี้ฮ่าวกับจีเซีย 100 ฟุตเท่าเดิม

ทันใดนั้น มีเงาตะคุ่มๆรูปร่างไม่ชัดเจนเริ่มโผล่ออกมาจากหมอก พวกมันให้ความรู้สึกชั่วร้ายอย่างไม่น่าเชื่อ ใบหน้าของพวกมันเบลอๆ ไม่มีใครสามารถเห็นได้ชัดเจนว่าพวกมันมีลักษณะเป็นอย่างไร แต่มันให้ความรู้สึกแปลกๆ ตากว้างๆของพวกมันจ้องไปที่ศัตรูเหมือนหมาป่าที่กำลังจ้องเหยื่อ

มีลมหมุนก่อตัวขึ้นในหมอกและดึงนักรบเขี้ยวโลหิตเข้าไป หลังจากนั้นไม่นานมันก็สลายตัวไป เหลือทิ้งไว้เพียงเศษซากชุดเกราะและอาวุธของนักรบเขียวโลหิตนับสิบไว้บนพื้น พวกนักรบทั้งหมดหายไปโดนไม่เหลือแม้แต่เส้นผมสักเส้น

ดีหลัวตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับนักรบของเขา เขาร่ายมีดสายลมจากดวงตาที่ 3 ของเขา มันหมุนไปรอบๆตัวเขาเพื่อป้องกัน แต่อย่างไรก็ตามการเผชิญหน้ากับหมอกสีเทา และสิ่งลึกลับพวกนี้ทำให้เขาไม่รู้ว่าควรจะทำยังไรต่อไป

“นี่มันคาถาอะไรกัน? มันเป็นพลังของนักเวทย์หรือนักบวชงั้นรึ?”

ดีหลัวขบฟัน ตาของเขาเต็มไปด้วยความโกรธและสับสน

“ท่านปู่ ท่านอยู่ที่ไหน? ข้าไม่สามารถรับมือกับพวกสัตว์ประหลาดกับภูตผีพวกนี้ได้ มีเพียงท่านที่สามารถรับมือกับพวกมันได้ ท่านต้องจัดการพวกมัน พวกเราถึงจะสามารถสังหารจี้เซียที่นี่ได้”

นาคาทมิฬเจียวมองขึ้นไปบนท้องฟ้าและตะโกน

บนภูเขาอีกลูกที่อยู่ห่างออกไป 300 ไมล์จากหุบเขาสายน้ำเย็น กาอัคคีกำลังลอยอยู่ในอากาศอย่างเงียบๆ ร่างกายของมันห่อหุ้มไปด้วยเปลวไฟ ชายแก่คนหนึ่งสวมเสื้อเกราะที่ทำจากหนังสัตว์และหมวกที่ทำจากกระดูก กำลังยืนอยู่บนหัวของกาอัคคีและมองลงมาข้างล่างอย่างเงียบๆ

เขาต่างจากนักบวชที่ผอมบางคนอื่นๆในเผ่ากาอัคคี ชายแก่คนนี้ดูแข็งแรงกำยำ เขาสูงกว่าจี้เซียซะอีก เขาสูงมากกว่า 4 เมตร ทำให้เขาดูเหมือนกับยักษ์ ในมือของเขามีแท่งกระดูกยาวกว่า 20 เมตร มันดูทรงพลัง ส่วนที่บางที่สุดของมันมีขนาดเท่ากับหัวของมนุษย์ มันดูไม่เหมือนกระบองมันเหมือนลูกตุ่มกับค้อนซะมากกว่า

อสรพิษเขาเดียวความยาวมากกว่าพันฟุตกำลังขดตัวลอยอยู่บนอากาศ บนหัวของอสรพิษเขาเดียวมีชายแก่อีกคนกำลังยืนอยู่ เขาคือคนที่มาจับเจียงเสวียเมื่อคราวก่อน เขาจ้องมองไปที่ชายแก่อีกคนที่กำลังยืนอยู่บนกาอัคคี แววตาของเขาแฝงไปด้วยความยำเกรงอีกฝ่าย

“จี้โจ้ว ไม่เคยคิดเลยว่าเจ้าจะมาอยู่ที่นี่ เผ่ากาอัคคีวางแผนจะทำอะไร? แม้แต่เจ้ายังปรากฏตัวที่นี่เพื่อปกป้องจี้เซีย แล้วทำไมปล่อยให้จี้ซูยึดตำแหน่งหัวหน้านักรบของเผ่ากาอัคคี?”

“นั่นเป็นเรื่องภายในของเผ่าเรา ไม่ใช่ธุระอะไรของพวกงูเน่าอย่างเจ้า”
จี้โจ้วพูด

“ไปให้พ้น ไม่อย่างงั้นก็ตายซะที่นี่ แม้มันจะไม่ง่ายที่จะฆ่าเจ้า แต่ข้าก็จะลองพยายามดู!”

ขณะที่จี้โจ้วกำลังพูด เขากระทืบเท้าลงบนหัวกาอัคคี กาอัคคีอ้าปากพ่นลาวาสีทองออกมาปกคลุมไปทั่วท้องฟ้า

ติดตามผู้เเปลได้ที่ Facebook Page : https://www.facebook.com/TheMagasEra/