…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ในวินาทีต่อมาผู้เข้าร่วมงานของห้องอาหารหลง ได้เดินทางมาถึงพร้อมลูกเต๋าชั้นยอด
หลังจากที่เจี่ยหลุยเดาตรวจสอบอย่างรอบคอบ เขาเลือกออกมาคู่หนึ่ง
ถังซิ่วเห็นว่าลูกเต๋าเหล่านี้นั้นถูกเตรียมมาโดยห้องอาหารหลงดังนั้นเขาจึงไม่สนใจที่จะตรวจสอบพวกมันแต่เอาคู่ที่เหลือของลูกเต๋าแบบสุ่มๆกัน
(การเล่นพนันลูกเต๋าเป็นเรื่องง่ายมาก แต่ละคนใช้เพียงแค่ลูกเต๋าคู่หนึ่งกับถ้วย ใส่คนลูกเต๋าลงในถ้วยพร้อมเขย่ามันเละเผยลูกเต๋าออกมา ใครได้แต้มเยอะกว่า คนนั้นก็ชนะไป)
ตราบใดที่พวกเขามีเวลาสักนิดทุกคนก็สามารถเรียนรู้วิธีเล่นพนันนี้ได้ในเวลาอันสั้น เกมนี้เป็นที่นิยมมากในบาร์คาราโอเกะ KTV และสถานบันเทิงอื่นๆ
คนธรรมดาจะขึ้นอยู่กับโชคเมื่อเล่นเกมลูกเต๋านี้ โชคดีคุณก็ชนะและโชคร้ายของคุณก็เสีย
แต่สำหรับการพนันคาสิโนนี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับโชคแต่เป็นเทคนิค
ในขั้นตอนการโยนลูกเต๋า, ผู้เชี่ยวชาญการพนันนั้นสามารถควบคุมเลขของลูกเต๋าได้อย่างแม่นยำ ซึ่งหมายความว่าตัวเลขลูกเต๋าถูกควบคุมโดยทักษะและการคำนวณ ไม่ใช่โชค
“หัวหน้าหลง คุณแน่ใจที่จะปล่อยให้เด็กคนนี้เล่นการพนันกับฉันและคุณไม่เล่นมันเองหนะ? ถ้าเอาโชคมาเทียบ ของคุณอาจจะดีกว่าไอเด็กเวรคนนี้ จริงไหม ? ”
เมื่อเขาจับลูกเต๋าภายในถ้วยเจี่ยหลุยเดาจ้องที่ หลงเซ้งหยูและยิ้มอย่างเจือนๆ
“ปรมาจารย์ เจี่ย คุณก็รู้อย่างชัดเจนว่าโชคสำหรับสิ่งแบบนี้นั้นมันไม่ชัดเจน แต่เมื่อเร็วๆนี้ หัวใจของ หลง คนนี้รู้สึกค่อนข้างพอใจกับชีวิต โชคสำหรับการพนันของฉันนั้นได้หายไปอย่างแน่นอนแล้ว ดังนั้นฉันจะต้องขอให้น้องชาย ถัง มาแทนที่ฉัน ”
หันหน้าไปทางการยั่วยุของเจี่ยหลุยเดา, หลงเซ้งหยูไม่ยอมกินเบ็ด
“ในเมื่อมันมาถึงขั้นนี้ หัวหน้า หลง คงได้แค่รอที่จะส่งมอบหมู่บ้านเขาล้อมมาให้เรา”
หลังจากโดนปฏิเสธโดยหลงเซ้งหยูอย่างจงใจแล้ว, เจี่ยหลุยเดาก็ไม่อยากพูดอะไรอีกต่อไป เขาพูดอย่างเย็นชาขณะที่เขาจับถ้วยลูกเต๋าอยู่ในมือและเริ่มขยับ
เจี่ยหลุยเดาได้รับกาฝึกในเทคนิคการเล่นพนันเป็นเวลาหลายปี เทคนิคของเขาได้ไปถึงจุดสูงสุดแล้ว
พร้อมกับการสั่นข้อมือของ เจี่ยหลุยเดา , ถ้วยลูกเต๋าเหมือนชีวิตขึ้นมาในขณะที่มันสะท้อนภาพอยู่ในอากาศ ทำให้คนไม่สามารถที่จะจับร่องรอยของมันได้อย่างสมบูรณ์
มันเหมือนว่าลูกเต๋านั้นกำลังติดอยู่ในถ้วยเพราะมันไม่มีเสียงใดๆส่งออกมาตอนี่เขาเขย่าเลย ถ้าผู้คนนั้นไม่ได้เห็นว่าเจี่ยหลุยเดาได้เอาลูกเต๋าใส่ลงไปก่อนหน้านี้นั้น พวกเขาคงจะต้องสงสัยว่าภายในถ้วยนั้นไม่มีอะไรอยู่แน่นอน
“ไอเฒ่านี่ก็มีทักษะอยู่บ้างหนิ”
ความสนใจของถังซิ่วไม่ได้มุ่งไปที่ถ้วยลูกเต๋า แต่ล๊อคไปที่ในเทคนิคของเจี่ยหลุยเดา, สังเกตมันอย่างเงียบๆในขณะที่เขาตั้งใจจะจดจ่ออยู่กับมัน
แม้ว่าถังซิ่วจะมีประสบการณ์ในการเล่นพนันที่ต่ำมาก แต่เขาก็รู้ว่าการเล่นการพนันนั้นไม่ใช่แค่ “มีหูและตาและมือที่รวดเร็ว”
เทคนิคของเจี่ยหลุยเดา มีความชำนาญและยอดเยี่ยมจริงๆ แขนของเขานิ่งเฉยพร้อมกับได้ขยับข้อมือของเขาเท่านั้น
สิ่งนี้ทำให้เจี่ยหลุยเดาสามารถลดช่วงการเคลื่อนที่ได้ในเวลาเดียวกัน ไม่เพียงแต่มันจะเร่งความเร็วขึ้นเท่านั้น แต่ยังช่วยลดแรงกายเป็นอย่างมาก ตาของเจี่ยหลุยเดา ไม่ได้มองถ้วยลูกเต๋าเลยแม้แต่น้อยและเขาเองก็ไม่ได้มองไปที่โต๊ะ แต่ค่อยๆกวาดสายตาไปที่ฝูงชนในห้อง เขาได้จ้องมองไปที่ หลงเซ้งหยูและถังซิ่วเป็นเวลานาน
แต่หูของเจี่ยหลุยเดาขยับเล็กน้อยในบางเวลา แต่เนื่องจากความสนใจของทุกคนในห้องจดจ่อไปที่มือของเขา ไม่มีใครสังเกตเห็นการเคลื่อนไหวที่น้อยที่สุดที่หูของเขามี
เพียงแค่เทคนิคการเคลื่อนไหวที่คมกริบและลื่นไหลของเจี่ยหลุยเดา นี้ ที่ได้ทำกับถ้วยลูกเต๋าที่อยู่ในมือของเขาก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ผู้คนช็อค ไม่ต้องพูดความสามารถที่แท้จริงของเขา
แต่น่าเสียดายที่ฝ่ายตรงข้ามของเจี่ยหลุยเดา ตอนนี้คือถังซิ่ว , ไม่เพียง แต่ถังซิ่วมีความสามารถในการรับรู้ที่ดีกว่าคนธรรมดาถึงร้อยเท่าแล้วความเร็วในการทำงานของสมองก็เพิ่มขึ้นเป็นร้อยเท่า
บางคนอาจไม่สังเกตเห็นการสั่นสะเทือนเล็กน้อยในหูของเจี่ยหลุยเดาแต่ เขานั้นสังเกตเห็นพวกมัน
เมื่อเกมเริ่มต้นถังซิ่วก็คิดว่าการเคลื่อนไหวเล็กน้อยของหูเจี่ยหลุยเดา เป็นเพียงพฤติกรรมที่เกิดขึ้นโดยบังเอิญและเขาไม่ใส่ใจกับพวกมัน แต่เมื่อถังซิ่วการสั่นไหวนั้นดูเหมือนจะเป็นรูปแบบ และยังคงเคลื่อนไหวไปเรื่อยๆ เขาก็จดจ่ออยู่กับมัน
“ไม่ใช่ไม่ใช่ว่าไม่มีเสียงลูกเต๋าออกมาจากถ้วย แต่นั่นเป็นเพราะเสียงนั้นเบาบางมาก และคนส่วนใหญ่ไม่สามารถได้ยิน”
ถังซิ่วคิดได้อย่างรวดเร็วว่าเจี่ยหลุยเดา นั้นได้ฟังเสียงกลิ้งของลูกเต๋าในถ้วยในขณะที่ยังปรับจำนวนเลขของหน้าเต๋าโดยการเคลื่อนไหวข้อมือ
ในช่วงเวลานี้ ความสนใจของถังซิ่วจดจ่ออย่างเต็มที่กับเสียงกลิ้งของลูกเต๋า
นี่เป็นครั้งแรกที่ถังซิ่วเล่นลูกเต๋ากับคืนอื่น ไม่ต้องพูดถึงเลยว่าฝ่ายตรงข้ามของเขาตอนนี้คือราชาของนักพนัน ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าแม้แต่เล็กน้อยที่จะมีความประมาท, เขาไม่อยากทำลายความคาดหวังของพี่น้องตระกูล หลง และยังได้รับสถานที่ที่มีเส้นชีพจรวิญญาณในหมู่บ้านเขาล้อมอีกด้วย
ในอีกด้านหนึ่ง เมื่อได้เห็นผลงานที่สวยงามของเจี่ยหลุยเดา ความตื่นเต้นได้ปรากฏบนใบหน้าของซางดี่ขวิง, ซางหยงจิน, ฮูหว่านจุนและซูเรนเฟย์พวกเขามีความสุขมากขึ้นโดยเฉพาะเมื่อพวกเขาได้เห็นท่าทางที่สับสนและงุนงงของถังซิ่ว
ซางดี่ขวิงและกลุ่มของเธอกำลังมองไปที่หลงเซ้งหยูและหลงเซ้งหลิน ด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความเมตตาและเห็นอกเห็นใจเช่นเดียวกับสายตาที่ผู้ชนะมองไปที่ผู้แพ้ ราวกับว่าหมู่บ้านเขาล้อมได้ตกอยู่ในมือพวกเขาแล้ว
ในขณะนี้ หลงเซ้งหยูและหลงเซ้งหลิน กำลังมองด้วยความกังวลที่อยู่บนใบหน้าของพวกเขา
เป็นเพราะผลงานของเจี่ยหลุยเดา นั้นน่าสนใจและดึงดูดอย่างแท้จริง,เห็นได้ชัดว่าเจี่ยหลุยเดาไม่เห็นฝ่ายตรงข้ามในปัจจุบันของเขาในฐานะคนนอกหรือคนธรรมดา เขาเลือกที่จะใช้ทุกอย่างที่เขามีทั้งหมด
หลังจากที่ได้เฝ้าดูการเขย่าของเจี่ยหลุยเดา ที่ตั้งใจแล้ว,หลงเซ้งหยูและหลงเซ้งหลิน หันมามองกันอย่างวิตกและรู้สึกตัวสั่น
เป็นไปได้หรือไม่เพราะพวกเขาเชิญคนนอกเข้ามาเล่นการพนันกับเขา มันทำให้เขาโกรธ?
“เดี๋ยวก่อน !”
ในขณะที่การแสดงของเจี่ยหลุยเดา ครอบครองบรรยากาศภายในห้อง เสียงนี้ก็ได้ดังขึ้นในห้องและทำให้ทุกคนตกใจ ขณะที่การเคลื่อนไหวของ เจี่ยหลุยเดา ก็ชะลอตัวลงซึ่งทำให้เกือบลื่นหลุดออกไปจากมือของเขา
มันกลายเป็นว่านั้นเป็นเสียงของถังซิ่ว ที่พูดในช่วงวิกฤตินั้น
ถังซิ่วได้เห็นว่าการกระทำของเจี่ยหลุยเดา นั้นเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆถ้าเจี่ยหลุยเดา สามารถเล่นถึงขั้นนี้ได้, ถังซิ่วนั้นอาจจะต้องแพ้ให้กับเขาในวันนี้ดังนั้นเขาจึงต้องทำลายบรรยากาศนี้ออกมาก่อน
“ตั้งแต่ที่ ปรมาจารย์ เจี่ย มีความมั่นใจในทักษะการเล่นการพนันของคุณ เราอาจจะเปลี่ยนเกมจากเกม 5 เกม ด้วยการชนะ 3 ครั้งไปเป็น เกม3 เกมด้วยการชนะ 2 ครั้ง”
ภายใต้ดวงตาที่ลุกไหม้ของเจี่ยหลุยเดา, ถังซิ่วพูดอย่างสงบ
เมื่อได้ยินคำพูดของถังซิ่ว, เจี่ยหลุยเดามีความต้องการที่จะเอามีดแทงเขาด้วยแรงกระตุ้นที่มากขึ้น
“อย่าว่าแต่ 3 ชุด 2 ชนะ2ครั้งเลย มาตัดสินกันด้วยเกมเดียวเลยดีไหม ? ”
เผชิญกับการยั่วยุของเจี่ยหลุยเดา , ถังซิ่วตัดสินใจที่จะหลีกเลี่ยงมันในตอนนี้
สำหรับถังซิ่วแล้วนั้นหลังจากที่ขัดจังหวะเจี่ยหลุยเดา ,ไม่ว่าจะเป็น 5 หรือ 3 เกม ก็ไม่สำคัญอีกต่อไป แต่แน่นอนว่าการตัดสินชัยชนะเพียงเกมเดียวนั้นมันเสี่ยงมากเกินไป ดังนั้นเขาจึงไม่อาจยอมรับได้
“ถ้างั้น ก็อย่างที่ปรมาจารย์ได้กล่าวไว้ เราจะตัดสินการพนันนี้ด้วย เกม 3 เกมใครชนะ 2 ก็ถือว่าชนะดีกว่า ”
ถังซิ่วยิ้มขณะที่เขาพูดคำของเขาด้วยท่าทางขอบคุณบนใบหน้าของเขา
“เขากลัวว่าการตายของเขายังไม่เร็วพอ? ด้วย 5 เกม 3 ชนะ เขาอาจจะสามารถชนะการเดิมพัน โดยอาศัยโชค แต่เขากลับต้องการเกม 3 เกม? ”
“ฉันฉัน … ฉันคิดว่าฉันเข้าใจความคิดของเขา ยังไงก็ตาม เขาจะต้องแพ้อยู่แล้ว ดังนั้นเขาก็อยากจะแพ้อย่างมีความสุขตามที่เขาปรารถนาเขาจะได้ไม่ต้องทนทุกข์ทรมานมากนัก ”
“ยังไงก็ไม่เป็นไรอยู่แล้ว ดังนั้นจะได้ไม่เสียเวลาของทุกคน ฉันคิดว่าเด็กเปรตนั้นคงกำลังรู้สึกกังวล ”
เกือบไม่มีใครสามารถคิดออกว่าทำไมถังซิ่ว ขัดจังหวะด้วยเสียงดังอย่างฉับพลัน พวกเขาคิดว่า ถังซิ่วเกรงกลัวในขณะที่เขาอยากจะออกจากสถานการณ์นี้โดยเร็วที่สุด ดังนั้นเขาได้ส่งเสียงรบกวนและขัดจังหวะการเคลื่อนไหวของลูกเต๋าที่ เจี่ยหลุยเดากำลังเขย่า
เจี่ยหลุยเดาจ้องมองไปที่ถังซิ่วด้วยท่าทางที่รังเกียจ ขณะที่เขาส่ายถ้วยลูกเต๋าของเขาอีกครั้ง
อย่างไรก็ตามในครั้งนี้เจี่ยหลุยเดาไม่สามารถดื่มด่ำกับความรู้สึกที่ลึกซึ้งเช่นก่อนหน้านี้ได้อีกแล้ว การเคลื่อนไหวของมือของเขาช้าลง นั่นทำให้เขารู้สึกหงุดหงิด
ไม่กี่วินาทีต่อมามือของเขาได้คว่ำถ้วยลูกเต๋าลงบนโต๊ะ ขณะที่ดวงตาของทุกคนในห้องยิงตรงไปยังถ้วยลูกเต๋านั้น
ภายใต้การจ้องมองที่รุนแรงและความสนใจของทุกคน เจี่ยหลุยเดาเปิดถ้วยลูกเต๋าและเผยตัวเลขอย่างช้าๆ
“ว้าว, 6 แต้ม! ปรมาจารย์เขย่าได้ 6 แต้ม เราชนะในเกมนี้แน่ ”
“สมแล้วที่ถูกเรียกว่าปรมาจารย์ อยากจะได้แต้มมาก เขาก็จะได้แต้มมาก ”
“ถ้าฉันมีทักษะเหมือนปรมาจารย์บ้างก็คงจะดี ”
ทั้งสามสหายคนของซางหยงจิน ได้แต่ตะโกนดังขึ้นอย่างประหลาดใจเมื่อได้เห็นจุดลูกเต๋า รอยยิ้มที่พึงพอใจก็ถูกเปิดเผยบนใบหน้าของซางดี่ขวิง
อีกด้านหนึ่งหลงเซ้งหยูและหลงเซ้งหลินหันหน้าเปลี่ยนไปเป็นน่าเกลียดอย่างผิดปกติ ในขณะที่ใบหน้าของถังซิ่วก็เปลี่ยนไปเป็นเคร่งขรึม
หลงเซ้งหยูและหลงเซ้งหลิน ตกใจกับเทคนิคการเล่นการพนันของเจี่ยหลุยเดาขณะที่ถังซิ่ว ประหลาดใจเพราะเขาไม่เคยคิดว่าเจี่ยหลุยเดา ยังจะสามารถเขย่าหมายเลขลูกเต๋าแต้มสูงในสถานะนั้นได้
“เด็กน้อย เธอต้องการที่จะยกธงขาวหรือต้องการที่จะลองโชคของเธอต่อ ?”
เจี่ยหลุยเดาเหลือบมองที่ถังซิ่วและยั่วยุเขา
“ตาเฒ่า คุณต้องการที่จะกล่อมทหารให้ไม่สู้ ? คุณไม่มีคุณสมบัตินั้น ”
ถังซิ่วจ้องมองที่เจี่ยหลุยเดา แล้วหยิบถ้วยลูกเต๋า, เขาโยนลูกเต๋าลงในถ้วยและค่อยๆเขย่า
เมื่อเห็นการเคลื่อนไหวที่ซุ่มซ่ามและฝืดๆของถังซิ่ว ,การแสดงออกที่เย้ยหยันได้ปกคลุมใบทั่วใบหน้าของเจี่ยหลุยเดา ขณะที่ซางดี่ขวิงนั้นรู้สึกโล่งใจ
“ฮ่าฮ่า,ฉันจะขำตายจริงๆแล้วเนี้ย เขาแทบไม่รู้วิธีจับลูกเต๋าเลย แต่เขายังกล้าที่จะอวดเทคนิคกากๆของตัวเองต่อหน้าปรมาจารย์ เจี่ย… เขาต้องการจะแสดงความสามารถที่น่าสังเวชของเขาต่อหน้าผู้เชี่ยวชาญ ”
“เทคนิคของไอเด็กพังค์นี้ต่ำกว่าของฉันด้วยซ้ำ แต่หนังหน้าของเขาหนากว่าฉันจริงๆ”
“มันยากจริงๆสำหรับหัวหน้า หลง , แต่เขาเก่งจริงๆที่ได้พบกับเด็กอัจฉริยะเช่นเขา คุณจะไม่เสียหน้า แต่เราคิดว่าคุณต้องรู้สึกกลัวอยู่ภายในแน่นอน”
แม้ว่าคนอื่น ๆ ก็รู้สึกว่าเทคนิคของถังซิ่วนั้นไม่ดี แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร แต่ทั้งสามสหาย ไม่สามารถควบคุมความตื่นเต้นของพวกเขาได้ และทำเรื่องพร้อมหัวเราะออกมาอย่างรุนแรง
“ถ้าพวกนายยังรบกวนการเล่นการพนันอยู่ ผมก็ไม่มีปัญหาที่จะเตะคุณออกไป!”
เมื่อทั้งสามสหายโห่ร้องด้วยเสียงหัวเราะ ,หลงเซ้งหยูพูดด้วยเสียงเยือกเย็น
คำพูดของหลงเซ้งหยูทำให้พวกเขารู้สึกราวกับว่ามีคู่มือยักษ์ที่ไม่สามารถมองเห็นได้คว้าคอของพวกเขาไว้ ทันใดนั้นเสียงของพวกเขาก็หายไป
ถึงแม้ว่าเทคนิคการเล่นลูกเต๋าของถังซิ่วจะแย่มาก แต่เนื่องจากการเล่นการพนันได้เริ่มขึ้นแล้ว ในห้องจะถูกห้ามไม่ให้ส่งเสียงรบกวนใดๆ แต่นี่กลับโดนหัวเราะเยาะเย้ยเสียงดัง
การที่บุคคลภายนอกส่งผลกระทบต่อผู้เล่นนั้นถือได้ว่าเป็นการไม่เป็นธรรม, การพนันอาจถูกตัดสินว่าไม่ถูกต้อง ดังนั้นคำพูดของหลงเซ้งหยูจึงมีผลต่อการยับยั้งการกระทำของพวกเขา
เมื่อเห็นทั้งสามคน ถูกยับยั้งด้วยใบหน้าแดงก่ำด้วยความโกรธ รอยยิ้มที่พอใจปรากฏบนใบหน้าของถังซิ่ว ขณะที่มือของเขาที่กำลังเคลื่อนไหวนั้นค่อยๆเร่งความเร็ว