…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

หลังจากผ่านไปนาน

หลี่ฮงจี้เองก็ได้โทรไปหาถังซิ่วก่อนที่จะพูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า

“ถังซิ่ว ฉันได้ยินเรื่องของเธอที่นั่นมาจากซังเหวินเฟิงแล้ว เธอได้สร้างเกียรติให้กับโรงพยาบาลของเราอีกแล้ว”

ถังซิ่วที่กำลังเดินทางกลับไปที่วิลล่าเองก็ได้พูดออกมาอย่างใจเย็นว่า

“ไม่มีอะไรมาก มันไม่ได้ยากเย็นเท่าไหร่ ”

หลี่ฮงจี้เองก็ได้ถามออกมาว่า

“ถังซิ่ว หากว่าซังเหวินเฟิงต้องการให้เธอไปประจำอยู่ที่โรงพยาบาลของเขา เธอจะไปหรือเปล่า ? ”

ถังซิ่วได้ตอบกลับไปว่า

“ผมได้บอกคุณไปแล้วไม่ใช่หรอว่าผมไม่เลือกเส้นทางการเป็นหมอ การที่ตอบตกลงไปตรวจที่โรงพยาบาลของคุณนั้นก็เพื่อเป็นการทดแทนที่ดูแลแม่ของผมเป็นอย่างดี ส่วนเรื่องโรงพยาบาลของเขานั้นผมจะไม่ไปอย่างเด็ดขาด ”

หลี่ฮงจี้เองก็ได้ผ่อนคลายทันทีพร้อมกับพูดออกมาว่า

“ฉันเข้าใจแล้ว หากว่าเธอไม่ต้องการที่จะไปก็ไม่มีใครบังคับเธอได้ หากว่าเขาโทรไปหาเธอก็ปฏิเสธเขาไปตรงๆเลย เมื่อกี้เขาเพิ่งโทรมาหาฉันและฉันได้ตอบกลับไปว่าการตัดสินใจนั้นขึ้นอยู่กับเธอ”

ถังซิ่วได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า

“ผู้อำนวยการหลี่ คุณโทรมาหาผมเพราะเรื่องนี้งั้นหรอ ? ”

หลี่ฮงจี้เองก็ได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า

“แน่นอน แน่นอน ฉันไม่ได้จะโทรมาเรียกให้เธอกลับมานี่แต่ว่าวันที่ 1ตุลาคมนี้ฉันหวังว่าเธอจะกลับมาตรวจได้”

“ได้”

ถังซิ่วได้ตอบตกลง

วิลล่าบลูสตาร์

หลังจากที่ถังซิ่วได้มาถึงที่ทางเข้าแล้ว หน่วยรักษาความปลอดภัยซึ่งจำเขาได้ก็ทำความเคารพพร้อมกับพูดออกมาอย่างอบอุ่นว่า

“คุณถัง ยินดีต้อนรับกลับครับ คุณมีแขกมาหาและบอกว่าเขารออยู่ในร้านกาแฟสตาร์บัคฝั่งตรงข้าม ”

แขก?

ถังซิ่วเองก็ได้ถามออกมาอย่างสับสนว่า

“คุณเข้าใจผิดหรือเปล่า ? ผมเพิ่งจะมาถึงเซี่ยงไฮ้ได้ไม่นานและคนที่รู้ว่าผมอยู่ที่นี่เองก็มีน้อยมาก มันจะเป็นไปได้ไงที่จะมีแขกมาที่นี่ ? ”

หน่วยรักษาความปลอดภัยเองก็ได้ส่ายศีรษะพร้อมพูดว่า

“เรื่องนี้ผมเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกันครับ เขาเพียงแค่บอกให้ผมมาแจ้งคุณ”

ถังซิ่วเองก็ได้เงียบไปครู่หนึ่งก่อนที่จะพยักหน้าขอบคุณแล้วเดินไปที่ถนนฝั่งตรงกันข้าม เขารู้จักร้านกาแฟสตาร์บัคดีเพราะเขาได้เคยเดินผ่านอยู่บ่อยๆ

ที่ร้านสตาร์บัค

ด้านในกว้างและหรูหราเป็นอย่างมาก ให้ร้านอาหารเองก็มีแขกอยู่ไม่มาก หนึ่งในนั้นเป็นชายหนุ่มที่กำลังนั่งดีดแป้นพิมพ์และชายรูปร่างกำยำอีก4คนที่ยืนล้อมรอบเขาไว้

หลังจากที่ถังซิ่วได้เดินเข้ามาแล้วก็พบว่าชายหนุ่มที่กำลังดีดแป้นพิมพ์อยู่นั้นคือถังเหว่ยนั่นเอง

“มานี่ได้ไง ? ”

ถังซิ่วได้เดินไปข้างๆเขาพร้อมกับนั่งลงแล้วถามอย่างราบเรียบ

ถังเหว่ยเองก็ได้เงยหน้าขึ้นพร้อมกับดวงตาที่เปล่งประกายทันทีเมื่อพบถังซิ่ว เขาได้เก็บโน๊ตบุคพร้อมกับพูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า

“ผ่านมาเฉยๆน่ะ ได้ยินว่านายเรียนอยู่ที่นี่จึงได้แวะมาเยี่ยม เป็นไงบ้าง ? ขาดเหลืออะไรก็สามารถบอกฉันได้ทุกเมื่อ”

ถังซิ่วได้ส่ายศีรษะพร้อมทั้งพูดออกมาด้วยรอยยิ้มฝืนๆว่า

“อย่าบอกนะว่านายคิดว่าฉันเป็นคนจนๆน่ะ ”

ถังเหว่ยเองก็ได้ยิ้มออกมาพร้อมทั้งพูดว่า

“ฉันรู้ว่าน้องชายของฉันไม่จนอย่างแน่นอนแต่นี้เป็นสิ่งที่พี่ชสยจะมอบให้ อ่อใช่ คุณป้าเองก็รู้ว่าฉันอยู่ที่เซี่ยงไฮ้พอดีจึงได้ให้ฉันเอานี่มาให้นายนะ ”

ถังซิ่วได้ถามออกมาว่า

“อะไรหรอ ? ”

ถังเหว่ยเองก็ได้มองไปรอบๆพร้อมกับพูดออกมาว่า

“ที่นี่ไม่เหมาะที่จะพูดเสียเท่าไหร่ เราไปหาที่อื่นกันดีไหม ? ”

“ได้สิ ”

ถังซิ่วได้พยักหน้า

หลังจากที่ทั้งคู่ได้ออกไปแล้วนั้นชายรูปร่างกำยำเองก็ได้เดินตามพวกเขาไป ถังซิ่วรู้ได้ทันทีว่าชายเหล่านี้เป็นผู้คุ้มกันของถังเหว่ย

เมื่อกลับมาถึงวิลล่าของเขาแล้วชายทั้งสี่คนเองก็รออยู่ที่หน้าบ้าน ถังซิ่วและถังเหว่ยได้เข้าไปที่ห้องโถงชั้นหนึ่งพร้อมกับนั่งลง ถังเหว่ยได้ส่งกระเป๋าไปให้ถังซิ่วแล้วพูดว่า

“คุณป้าถังหมินเองได้บอกว่าให้เอาของข้างในนี้มาให้นาย ”

ถังซิ่วรับกระเป๋ามาพร้อมกับเปิดมันออกซึ่งทำให้ท่าทางของเขาเปลี่ยนไปทันที

ปืนสีเงินพร้อมทั้งแม็กกาซีนปืน4แม็ก ข้างๆนั้นเองก็มีมีดถูกวางเอาไว้เช่นกัน

ถังซิ่วได้เงยหน้าขึ้นมาพร้อมกับถามออกมาด้วยความสับสนว่า

“นี่มันเกิดอะไรขึ้นงั้นหรอ ?”

ถังเหว่ยเองก็ได้ฝืนยิ้มออกมาพร้อมทั้งพูดว่า

“ตอนนี้ตระกูลของเรากำลังมีปัญหาน่ะ คุณป้าเองก็กลัวว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับนายจึงได้ให้ฉันเอาสิ่งป้องกันตัวเหล่านี้มาให้ ยิ่งไปกว่านั้นฉันจะนำผู้คุ้มกันกลับไปสองคนส่วนอีกสองคนนั้นเป็นของนาย นายสามารถวางใจได้เลยว่าพวกเขาจะปกป้องนายอย่างลับๆและไม่ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันของนายแน่นอน”

คิ้วของถังซิ่วได้ขมวดเข้าหากันพร้อมกับถามออกมาว่า

“ตอนนี้สถานการณ์เป็นอย่างไรบ้าง ? ”

ถังเหว่ยเองก็ได้พูดออกมาว่า

“ไม่จำเป็นต้องกังวลไป ที่จังหวัดกวนหยางเองก็ได้ให้คุณลุงไปจัดการด้วยตัวเองแล้ว น่าจะจัดการวิกฤตนี้ได้อีกไม่นาน ตอนนี้สตาร์ไลท์กรุ๊ปที่อยู่ภายใต้ตระกูลของเราถูกเผาวอดและพนักงานของที่นั่นเองก็ได้ถูกย้ายไปตามสาขาต่างๆ”

คิ้วของถังซิ่วเองก็ได้ขมวดเข้าหากันพร้อมกับถามว่า

“เกิดอะไรขึ้น ? ”

ถังเหว่ยเองก็ได้ตอบกลับไปว่า

“ตระกูลเหยาเองก็เตรียมการมาหลายปีแต่ไม่ลงมือเสียทีเพราะว่ามีหลายตระกูลที่จังหวัดกวนหยางและฟูคังที่ไม่ยินยอมทว่าตอนนี้ผู้แข็งแกร่งของตระกูลเหยาเองก็ได้กลับมาจากต่างประเทศแล้ว พวกเขามีผู้เชี่ยวชาญที่เป็นมือสังหารอยู่มากมายดังนั้นตระกูลต่างๆของทั้งสองจังหวัดจึงต้องร่วมมือกับตระกูลเหยา ”

ถังซิ่วเองก็ได้ถามออกมาว่า

“เขามีชื่อว่าอะไร ? ”

ถังเหว่ยได้ตอบกลับไปว่า

“เหยาซินหัว”

ถังซิ่วเองก็ได้ผิดกระเป๋าพร้อมกับส่งคืนไปให้ถังเหว่ยแล้วพูดว่า

“กระเป๋านี่นายเก็บไป ฉันไม่ต้องการ ยิ่งไปกว่านั้นคือไม่จำเป็นต้องทิ้งผู้คุ้มกันไว้กับฉัน อย่าว่าแต่ตระกูลเหยาเลยต่อให้เป็นผู้เชี่ยวชาญวิทยายุทธเองก็มีน้อยคนนักที่สามารถรับมือฉันได้ เอางี้ ฉันจะไปที่จังหวัดกวนหยางกับนาย”

ถังเหว่ยเองก็ได้ชะงักไปพร้อมกับโบกมืออย่างรวดเร็ว

“นายจะไม่รับสิ่งนี้ไปก็ไม่เป็นไรแต่ว่านายห้ามไปที่นั่นกับฉัน หากว่าคุณปู่รู้ว่าฉันมีส่วนด้วยก็จะต้องถูกเขาหักขาอย่างแน่นอน เขาได้พูดเอาไว้แล้วว่าจะต้องให้นายเรียนหนังสืออยู่ที่นี่ แม้ว่าท้องฟ้าจะถล่มลงมาก็ต้องห้ามนำนายเข้ามาเกี่ยวข้อง”

ถังซิ่วเองก็ได้รู้สึกอบอุ่นใจหัวใจก่อนที่จะพูดออกมาว่า

“พี่ชาย อย่าบอกนะว่านายไม่คิดว่าเหตุการณ์แบบนี้พวกเราไม่มีหน้าที่ต้องรับผิดชอบ ? ยิ่งไปกว่านั้นฉันคิดว่าเรียนไปก็ไม่ค่อยจะช่วยอะไรอยู่แล้ว การออกมาเผชิญโลกภายนอกเท่านั้นที่จะทำให้เราเติบโตขึ้น ”

ถังเหว่ยเองก็ได้ยกมือขึ้นมาถูจมูกก่อนที่จะฝืนยิ้มออกมาแล้วพูดว่า

“แต่ว่าคุณปู่เองได้บอกมาว่า……..”

ถังซิ่วได้ขัดจังหวะเขาพูดของเขาพร้อมกับพูดออกมาอย่างจริงจังว่า

“ฉันจะจัดการเรื่องปู่เอง ตอนนี้โรงเรียนเองก็ยังไม่เปิดเรียนอย่างเป็นทางการและฉันเองก็ได้ส่งใบลาฝึกทหารเอาไว้แล้วด้วย ฉันเองก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าศัตรูของเราจะแข็งแกร่งขนาดไหนกัน”

ถังเหว่ยเองก็ได้พูดออกมาว่า

“งั้นนายลองโทนไปคุยกับปู่ดูก่อนสิ ”

ถังซิ่วเองก็ได้หยิบโทรศัพท์ออกมาพร้อมทั้งโทรออกไปทันที

“สวัสดี ซิ่วน้อย ?”

เสียงของถังเกาเชิงได้ดังขึ้นมาจากทางปลายสาย

ถังซิ่วเองก็ได้ตอบกลับไปว่า

“คุณปู่ ผมเอง ”

ถังเกาเชิงเองก็ได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า

“ซิ่วน้อย หลานโทรมาหาปู่ทำไมงั้นหรอ ? ”

ถังซิ่วได้พูดออกมาว่า

“ผมเพิ่งจะพบกับถังเหว่ยและเขาต้องไปที่จังหวัดกวนหยางดังนั้นผมจะไปกับเขา ปู่มั่นใจได้เลยว่าผมจะไม่ทำอะไรบุ่มบ่ามแน่นอน ”

ถังเกาเชิงเองก็ได้แต่ฝืนยิ้มออกมาพร้อมกับพูดว่า

“ซิ่วน้อย ตอนนี้ที่นั่นกำลังปั่นป่วนอย่างมาก เมื่อวานนี้เองผู้เชี่ยวชาญที่เราฝึกมามากมายก็ได้ถูกซุ่มโจมตีที่โรงแรม แม้ว่าจะดูเหมือนเป็นอันธพาลธรรมดาๆแต่แน่นอนว่ามันต้องมีตระกูลเหยาของชักใยอยู่เบื้องหลัง การที่หลานไปที่นั่นในตอนนี้มันอันตรายเกินไป ”

ถังซิ่วเองก็ได้พูดออกมาว่า

“ผมมีวิธีดูแลตัวเองและจะไม่ประมาทอย่างแน่นอน”

ถังเกาเชิงเองก็ได้เงียบไปครู่หนึ่งก่อนที่จะถามออกมาว่า

“หลานตัดสินใจจะไปจริงๆงั้นหรอ ? ”

“ครับผม !”

ถังซิ่วได้ตอบกลับอย่างจริงจัง

ถังเกาเชิงเองก็ได้แต่ถอนหายใจออกมาแล้วพูดว่า

“ในเมือหลานอยากจะไปก็ไปเถอะ ! ส่งโทรศัพท์ให้ถังเหว่ยหน่อย ”

“ได้ครับ”

ถังซิ่วได้ส่งโทรศัพท์ไปให้ถังเหว่ยทันที

ถังเหว่ยเองก็ได้หยิบโทรศัพท์มาพร้อมกับคุยกันอยู่พักหนึ่งแล้วพูดว่า

“ปู่บอกว่าในเมื่อนายต้องการจะไปก็ไปได้แต่ต้องอยู่ข้างๆฉันตลอด 24 ชั่วโมง ”

ถังซิ่วเองก็ทำได้แค่พยักหน้าไปก่อนแล้วพูดว่า

“รอแปปแล้วกัน ฉันไปเก็บของก่อน”

หลังจากผ่านไปไม่นาน

ถังซิ่วเองก็ได้หยิบกระเป๋าธรรมดาๆใบหนึ่งลงมาพร้อมกับจากไปกับถังเหว่ย

“เราไปที่ ร้านคังฮงก่อน ฉันมีของที่ต้องให้กับเพื่อนน่ะ”

ถังเหว่ยเองก็ได้พยักหน้าพร้อมกับไปที่ร้านคังฮงทันที

ที่ร้าน เยวี่ยไค เซ่าเหลียงและคนอื่นๆเองกำลังยืนรายล้อมอยู่รอบๆรถ Audi A4 พร้อมกับที่พนักงานกำลังอธิบายถึงความสามารถของรถคันนี้

“เยวี่ยไค”

หลังจากที่ถังซิ่วเข้ามาข้างในแล้วก็ได้เรียกออกมาทันที

ก่อนหน้านี้เยวี่ยไคเองก็ได้รับสายของถังซิ่วแล้ว ทันใดนั้นเขาก็วิ่งเข้าไปหาถังซิ่วด้วยรอยยิ้ม

“ลูกพี่ ต้องการจะให้ผมเอาอะไรไปให้ครูฮั่นงั้นหรอ ? ”

ถังซิ่วได้เอากุญแจพร้อมกับกระดาษออกมาแล้วส่งไปให้เขาก่อนที่จะพูดว่า

“นายเอานี่ไปให้เธอพร้อมกับขอลาให้ฉันด้วยแล้วกัน ฉันจะลาหยุดช่วงฝึกทหารนะแล้วอาจจะกลับมาก่อนที่จะฝึกจบ ”

เยวี่ยไคเองก็ได้จ้องมองพร้อมกับพูดออกมาด้วยความประหลาดใจว่า

“นายไม่เข้าฝึกทหารได้ด้วยงั้นหรอ ? นี่มันสุดยอดเกินไปแล้ว ? อย่างไรก็ตามจากคำพูดของนายแล้วดูเหมือนว่าจะออกไปจากเซี่ยงไฮ้ใช่ไหม ? ”

ถังซิ่วเองก็ได้ตอบกลับไปว่า

“ใช่แล้วล่ะ ฉันมีเรื่องที่ต้องไปจัดการ”

เยวี่ยไคได้ถามออกมาว่า

“เรื่องอะไรงั้นหรอ ?”

ถังซิ่วได้ตอบกลับไปว่า

“เรื่องของตระกูลน่ะ ”

เยวี่ยไคได้พยักหน้าพร้อมกับพูดว่า

“เอาล่ะ ฉันจะส่งของชิ้นนี้ไปให้ครูฮั่นเองอย่างไรก็ตามอย่าลืมว่านายต้องเลี้ยงฉลองชดเชยที่ไม่ได้มาเลี้ยงในวันนี้นะ”

“แน่นอนอยู่แล้ว”

ถังซิ่วได้พยักหน้าตอบกลับไป

หลังจากนั้น

ถังซิ่ว เซ่าเหลียง ฮูชิงซ่งและคนอื่นๆเองก็ได้ทักทายกันก่อนที่จะออกจากร้านไปพร้อมขึ้นรถแท็กซี่ไปกับถังเหว่ยแล้วตรงไปที่สนามบินโดยทันที

บนรถแท็กซี่

คิ้วของถังเหว่ยได้ขมวดเข้าหากันพร้อมกับพูดว่า

“ฉันได้เช็คมาแล้วว่ามันมีรอบเครื่องบินสุดท้ายจากที่นี่ไปที่จังหวัดกวงหยางในอีก1ชั่วโมงจากนี้แต่ตอนนี้เป็นเวลาเลิกงานพอดีซึ่งจะทำให้รถติดเป็นอย่างมาก ฉันคิดว่าเราไม่น่าจะไปทันนะ ”

“ไม่เป็นไร ฉันจะโทรไปจัดการเอง”

ถังซิ่วได้ตอบกลับไปอย่างสงบ