…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

เมืองชางซี่

ที่ถนนไฮเวย์ตรงทางขึ้นภูเขา ได้มีไฟส่องสว่างไปทั่วลานกว้าง

ที่ลานกว้าง เต็มไปด้วยหนุ่มสาวกว่าร้อยคนซึ่งนั่งเรียงกันอยู่บนโต๊ะชั่วคราวที่เพิ่งถูกนำมาจัดวาง ตรงโต๊ะเองก็มีอาหารและไวน์ชั้นเลิศถูกจัดวางเอาไว้ให้ชายและหญิงเหล่านั้นรับประทานขณะที่3-4คนตรงเองก็กำลังพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน

รอบๆลานนั้นเองก็มีรถจอดอยู่มากมายและตรงลานจอดรถเองก็มีรถหรูหราอยู่หลายสิบคันซึ่งบางคนเองก็กำลังถือแก้วไวน์พร้อมกับนั่งอยู่บนฝากระโปรงหน้ารถบ้าง บางคนกำลังกอดสาวสายอยู่ข้างประตูรถบ้าง

ชายคนหนึ่งที่กำลังนั่งดื่มไวน์อยู่ท่ามกลางโต๊ะเหล่านั้น เขาเป็นชายที่มีอายุราวๆ30ปีพร้อมกับหญิงสาวสวยที่นั่งอยู่ตรงตักขณะที่พูดคุยและหัวเราะไปกับชายหนุ่มอีกหลายคน เขามีชื่อว่าจี่มู่และคนอื่นเรียกเขาว่ามู่ซี่

“ริ้งงงงงงงง ริ้งงงงงงงงง ริ้งงงงงงงง…….”

เสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์เขาก็ดังขึ้นแต่เพราะเสียงรอบๆข้างนั้นดังจนเกินไปจึงทำให้เขาไม่สามารถได้ยินมัน ทว่าการสั่นเองก็ทำให้เขารับรู้และเมื่อเขาหยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วเห็นชื่อเจ้าของหมายเลขนั้นก็ถึงกับทำให้เขาปล่อยมืออกจากผู้หญิงที่นั่งอยู่ตรงตักพร้อมทั้งโบกมือให้คนอื่นเงียบๆก่อนที่จะกดปุ่มตอบรับแล้วพูดว่า

“พี่สาวหนาน คนที่ยุ่งๆแบบพี่โทรมาหาผมทำไมงั้นหรอครับ ?”

“วันนี้มีแข่งรถที่ไฮเวย์หรือเปล่า ? ”

เสียงคำถามของฉีหนานเองก็ได้ดังออกมาทางปลายสาย

จี่มู่เองก็ได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า

“มีครับ มันจะเริ่มในอีกครึ่งชั่วโมงนี้ พี่สาวต้องการมาเล่นด้วยหรือเปล่า ? ”

ฉีหนานเองก็ได้พูดออกมาว่า

“ให้เลื่อนเวลาออกไปอีก1 ชั่วโมง ฉันกำลังพาคนที่สำคัญไปที่นั่น”

คนที่สำคัญ ?

จี่มู่เองก็ได้จ้องมองพร้อมกับพูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า

“พี่สาวหนาน ผมจะรอพี่มาที่นี่นะ เอาล่ะไม่ต้องเป็นกังวลไป เดี๋ยวผมจะแจ้งคนอื่นๆเองว่าให้เลื่อนเวลาออกไป อ่อ ใครกันคือคนที่สำคัญที่พี่พูดถึง……..”

ฉีหนานเองก็ได้ตอบกลับไปว่า

“ไม่จำเป็นต้องถามแต่ให้จำไว้ว่าให้ปฏิบัติต่อเขาให้เหมือนกับที่ปฏิบัติต่อฉัน”

“…….”

จี่มู่ที่ได้ยินเช่นนั้นเองก็ได้ทำให้ใบหน้าที่หล่อเหลาของเขาเปลี่ยนไป เขารู้ถึงสถานะของฉีหนานดี รองผู้จัดการห้องอาหารร้อยงานฉลองและเป็นผู้หญิงที่เก่งกาจโดยเฉพาะการแข่งรถซึ่งเขาไม่สามารถเทียบได้เลย

ก่อนหน้านี้เองก็ได้มีนักแข่งรถมืออาชีพจากฮ่องกงมาที่นี่และเขาพ่ายแพ้อย่างน่าอนาถ เขาที่เป็นถึงราชานักแข่งรถกลับแพ้อย่างน่าอนาถซึ่งทำให้เขาเสียหน้าเป็นอย่างมาก สุดท้ายเขาก็ได้โทรไปขอความช่วยเหลือจากฉีหนานและท้ายที่สุดถึงจะต้องใช้ความพยายามเป็นอย่างมากแต่พวกเขาก็สามารถชนะนักแข่งเหล่านั้นและกู้หน้าเขากลับมาได้

!

สามารถนับได้ว่าเขาติดค้างฉีหนานเอาไว้

“เฮาซี่ ไปแจ้งสิว่าวันนี้การแข่งจะเลื่อนออกไปอีก 1 ชั่วโมง”

จี่มู่ได้จุดบุหรี่พร้อมกับพูดออกมา

ชายรูปร่างผอมบางที่ชื่อเฮาซี่เองก็ได้แสดงใบหน้าที่ตื่นเต้นออกมาก่อนที่จะถามว่า

“บอสครับ คนที่คุณคุยด้วยเมื่อกี้คือพี่สาวหนาน ? เธอจะมาเล่นด้วยหรือเปล่า ? ”

จี่มู่เองก็ได้พยักหน้าก่อนที่จะพูดว่า

“เธอกำลังมาและมีคนที่สำคัญนั่งมาด้วยดังนั้นไปบอกพวกเขาซะว่าเราจะเลื่อนเวลาออกไป ”

เฮาซี่เองก็ได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้มฝืนๆว่า

“บอสครับ แล้วหลี่เจิ้งเขาจะยอมหรอครับ ? ผมคิดว่าคุณก็น่าจะเข้าใจถึงเป้าหมายที่เขามาในวันนี้ดีว่าเพื่อล้างแค้นที่แพ้ไปเมื่อเดือนที่แล้วและได้ยินมาว่าเขาได้จ้างนักแข่งรถชื่อดังมาจากฮ่องกง ไอ้เจ้านั่นมันชนะการแข่งขันรถระดับอาเซี่ยนเลยนะครับ”

จี่มู่เองก็ได้พูดออกมาว่า

“ฉันเองก็เคยได้ยินชื่อของคนที่หลี่เจิ้งมันเชิญมาเหมือนกัน มันได้ชื่อว่าเป็นเทพนักแข่งเลยก็ว่าได้ การแข่งขันรถในรอบ7ปีนี้มันพลาดแค่นิดเดียวก็จะได้รับชัยชนะแล้ว ฉันเองก็เคยได้แข่งกับมันมาแล้วและแพ้อนาถอย่างมาก ไม่คิดเลยว่าพี่สาวหนานเองก็จะมาที่นี่ด้วย , ดูเหมือนว่าโอกาสชนะของฉันจะเพิ่มขึ้นอีก 50% สินะ , ก็ได้แต่หวังว่าจะชนะ”

เฮาซี่เองก็ได้พูดออกมาว่า

“หวังว่าจะชนะ”

หลังจากผ่านไปไม่กี่นาที

กลุ่มของชายหนุ่มและหญิงสาวได้ไล้อมชายหนุ่มผมขาวคนหนึ่งก่อนที่เขาคนนั้นจะเดินมาหาจี่มู่และคนอื่นๆ

“เพื่อนจี่ ได้ยินว่านายอยากจะขอเลื่อนเวลาออกไป1ชั่วโมง ? หรือว่ากลัวที่จะแพ้แบบอนาถจึงได้หาคนมาช่วยงั้นหรอ ? ….ฉันบอกไว้เลยว่าต่อให้มีคนมาช่วยนายผลลัพธ์ก็ยังจะเป็นเหมือนเดิมซึ่งก็คือแพ้แบบย่อยยับและน่าสมเพช”

ชายหนุ่มคนนั้นเองก็ได้ยั่วยุจี่มู่ทันที

จี่มู่เองก็ได้พูดออกมาอย่างไม่แยแสว่า

“ชนะหรือแพ้มันก็เป็นเรื่องธรรมดา แม้ว่าวันนี้ฉันจะแพ้ก็เป็นครั้งแรกเท่านั้นแต่สำหรับนายแล้วถ้ายังแพ้อีกก็จะหน้าแตกเป็นครั้งที่สอง หลี่เจิ้ง หากฉันเป็นนายก็คงจะรอการมาถึงของคู่แข่งก่อนอย่าได้ทำตัวเหิมเกริมให้มันมากเพราะหลังจากที่แพ้แล้วมันจะน่าอนาถยิ่งไปกว่าตอนนี้ ”

หลี่เจิ้งเองก็ได้กรอกตาพร้อมกับพูดเยาะเย้ยออกมาว่า

“ครั้งแรกมันเป็นเพราะฉันประมาทแต่ฉันกล้าพูดได้เลยว่าหากว่าฉันยังแพ้อีกพ่อคนนี้ก็จะไม่ขอมาเหยียบที่นี่อีกแล้ว ”

จี่มู่เองก็ได้พูดออกมาว่า

“ฉันได้เตรียมเงินมาไว้20ล้านแล้ว หากว่านายสามารถชนะได้ก็เอาเงินนั่นไปเลย ”

หลี่เจิ้งเองก็ได้พูดออกมาหลังจากที่กรอกตาว่า

“ในเมื่อนายต้องการจะเลื่อนเวลางั้นฉันก็ขอเพิ่มเงื่อนไขว่าเรามาเปลี่ยนจำนวนเงินพนันเป็นเท่าตัวไหม นายกล้าหรือเปล่า ? ”

จี่มู่เองก็ได้ยิ้มออกมาพร้อมพูดว่า

“เพิ่มแค่เท่าตัวมันกระจอกไป 4เท่าไปเลยก็ยังได้ เอาตามที่นายต้องการเถอะ ”

หลี่เจิ้งเองก็ได้พูดออกมาอย่างมีความสุขว่า

“ในเมื่อเป็นเช่นนั้นก็เตรียมตัวส่งเงินมาให้ฉันอย่างนอบน้อมแล้วกัน ฉันเองก็ได้บอกเรื่องนี้ไปกับคนอื่นที่เข้าร่วมแล้วว่าใครที่ชนะก็จะได้เงินพนันจำนวน80ล้านของพวกเรา”

จี่มู่เองก็ไม่ได้ขาดเงินแม้แต่น้อย หลังจากที่เขาบริหารการแข่งรถทุกๆปีนั้นสามารถทำเงินได้เป็นพันๆล้าน เขายังเสียเงินไปกับการเล่นไพ่มากกว่านี้ด้วยซ้ำดังนั้นสำหรับเขาแล้วเงินแค่40ล้านนั้นแทบไม่ต่างไปกับ20ล้านเลยแม้แต่น้อย

คนอย่างพวกเขาคือคนจำพวกที่มีสถานะและบางครั้งเงินเองก็สำคัญน้อยกว่าชื่อเสียง ยิ่งในหมู่เพลย์บอยยิ่งแล้วใหญ่

เวลาได้ผ่านไป

10.40 รถ Lamborghini สีดำก็ได้มาถึงลานกว้างนี้พร้อมกับเสียงดริฟท์อย่างดังซึ่งเรียกความสนใจจากผู้คนมากมาย

จี่มู่เองก็ได้นำกลุ่มคนมากลุ่มหนึ่งพร้อมกับเดินไปทางรถคันนั้นและเห็นฉีหนานที่นั่งอยู่ที่ที่นั่งคนขับ เธอได้เปิดประตูออกมาพร้อมเดินไปเปิดประตูฝั่งข้างคนขับก่อนที่ชายหนุ่มคนหนึ่งจะเดินออกมา

“เขาเป็นใครกัน ? ”

ผู้คนกว่า 70 -80 % นั้นรู้จักฉีหนานดีและรู้ว่าเธอเป็นรองผู้จัดการห้องอาหารร้อยงานฉลองแต่พวกเขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่าคนที่มักจะหยิ่งทะนงแบบเธอจะเป็นคนขับรถให้คนอื่นพร้อมกับเปิดประตูให้เขาท่ามกลางการจ้องมองของคนมากมายเหมือนกับว่าเธอเป็นเพียงแค่ลูกน้องของเขาเท่านั้น

หลี่เจิ้งเองก็รู้จักกับฉีหนานเช่นกันและรู้ว่าเธอชนะการแข่งรถกับนักขับมืออาชีพจากฮ่องกงอยู่หลายครั้งแต่เขามั่นใจในความสามารถของเทพนักแข่งที่เขาเชิญมาดังนั้นเขาจึงไม่ได้ให้ความสนในเท่าไหร่นัก

“พวกเขาเป็นใครกัน ? ”

ชายที่ยืนอยู่ข้างๆหลี่เจิ้งเองก็ได้ถามออกมา

หลี่เจิ้งเองก็ได้พูดออกมาว่า

“ฮ่วนหยู ผู้หญิงคนนั้นคือคนที่ฉันเคยบอกนายไปไง ฉีหนาน ผู้ซึ่งสามารถชนะนักแข่งรถจากฮ่องกงได้ส่วนเด็กหนุ่มข้างๆเธอนั้นฉันเองก็ไม่รู้จักเช่นกัน ”

ฮ่วนหยูเองก็ได้พยักหน้าก่อนที่จะพูดออกมาว่า

“อ่อ ที่แท้คนที่ฉีหนานแข็งด้วยนั้นฉันเองก็เคยแข่งกับพวกเขามาแล้ว ถึงจะต้องใช้ความพยายามแต่ฉันก็ชนะมาได้ การที่เธอสามารถชนะพวกเขามาได้ก็แสดงให้เห็นว่าเธอไม่ได้มีความสามารถน้อยไปกว่าฉันเลย อย่างไรก็ตามนายสามารถวางใจได้เลยว่าตั้งแต่ที่ฉันรับเงินมาแล้วฉันก็จะช่วยให้นายชนะแน่นอน ”

หลี่เจิ้งเองก็ได้พูดออกมาว่า

“นายได้ชื่อว่าเป็นเทพนักแข่งดังนั้นฉันเชื่อใจความสามารถของนายมาก สู้ๆเข้าไว้ หลังจากที่จบการแข่งแล้วฉันจะชวนนายไปดื่ม ”

“ไม่มีปัญหา ”

ฮ่วนหยูเองก็ได้ตอบกลับไปด้วยความยินดี

จี่มู่เองก็ได้นำชายและหญิงกลุ่มหนึ่งไปหาฉีหนานและถังซิ่วก่อนที่จะพูดออกมาด้วยใบหน้าที่อบอุ่นว่า

“สวัสดีพี่สาวหนาน นี่คือ ……..”

ถังซิ่วได้ก้าวออกไปพร้อมกับจับมือเขาแล้วพูดว่า

“ฉันชื่อว่าถังซิ่ว คิดเสียว่าฉันเป็นคนไม่สำคัญก็พอ หวังว่ามาเล่นในวันนี้จะไม่สร้างปัญหาให้นายใช่ไหม ? ”

จี่มู่เองก็ได้จับมือกับถังซิ่วก่อนที่จะพูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า

“นายและพี่สาวหนานเป็นเพื่อนกันดังนั้นก็เป็นเพื่อนกับฉันเช่นกัน การที่นายมาที่นี่ได้ทำให้ฉันดีใจจริงๆ ”

ถังซิ่วได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า

“เอาตรงๆแล้วฉันเองก็เคยเห็นการแข่งรถในทีวีอยู่บ้างแต่นี่เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นกับตาตัวเอง ฉันลงเล่นด้วยได้ไหม ? ”

“เพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรก ? ”

จี่มู่เองก็ได้มองไปที่เขาด้วยแววตาแปลกประหลาด

ตอนแรกเขาเองก็คิดว่าฉีหนานเองจะสามารถนำนักแข่งผู้เชี่ยวชาญมาได้และคิดว่าจะแบกหน้าไปขอร้องให้เธอช่วยให้ชนะการพนันในวันนี้แต่ไม่คิดเลยว่าถังซิ่วจะไม่เคยแข่งรถมาก่อน

ถังซิ่วได้พูดออกมาว่า

“ใช่แล้วไม่เคยแข่ง”

จี่มู่เองก็ยิ้มแห้งๆออกมาแล้วพูดว่า

“ไม่เป็นไร สามารถเข้าร่วมได้อยู่แล้ว ”

เมื่อพูดจบแล้ว เขาก็ได้หันหน้าไปทางฉีหนานก่อนที่จะฝืนยิ้มออกมาแล้วพูดว่า

“พี่สาวหนาน พี่จะเล่นด้วยหรือเปล่า ? มีคนบางคนมาเพื่อทำลายงานนี้และสถานะของฝ่ายตรงข้ามเองก็ไม่ใช่ธรรมดาๆด้วย หากว่าพี่ไม่ออกตัวผมก็คิดว่าเราต้องแพ้แน่นอน ”

ฉีหนานเองก็ได้มองไปที่ถังซิ่วก่อนที่จะพูดว่า

“ฉันเป็นแค่แขกเท่านั้น ฉันไม่คิดว่าจะมาลงแข่งหรอกนะ ”

“นี่…..”

จี่มู่เองก็ได้มองไปที่ถังซิ่วด้วยความอึดอัดเพราะเขารู้ว่าฉีหนานขึ้นตรงต่อถังซิ่ว หากว่าเขาต้องการให้เธอเข้าร่วมก็คงจะต้องขอจากถังซิ่ว

ถังซิ่วได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า

“ในเมื่อคนอื่นขอร้องก็เล่นไปเถอะ ! อย่างไรก็ตามฉันคิดว่ารถของเราไม่น่าจะพอนะ ”

จี่มู่เองก็ได้พูดออกมาอย่างรวดเร็วว่า

“ฉันจะให้รถฉันแก่พี่หนาน ”

ฉีหนานเองก็ได้พยักหน้าก่อนที่จะพูดออกมาว่า

“ฉันเล่นก็ได้ แต่ชนะหรือแพ้ก็ไม่เกี่ยวกับฉันนะ ฉันจะทำเท่าที่ฉันทำได้เท่านั้น”

จี่มู่เองก็ได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า

“แค่ได้ยินคำว่าทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้ของพี่สาวหนานผมก็โล่งใจแล้ว พี่สบายใจได้เลยว่าหากว่าชนะนั้นเงินพนันทั้งหมดจะตกเป็นของพี่ส่วนถ้าแพ้ก็จะไม่ต้องรับผิดชอบแม้แต่น้อย ”

ถังซิ่วได้พูดออกมา

“พนันเงินงั้นหรอ ? มากแค่ไหนกัน ? ”

จี่มู่เองก็ได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า

“ปกติแล้วคนละ20ล้านและหลี่เจิ้งเองมันต้องการจะสู้กับฉันให้ตายไปข้างดังนั้นจึงได้เพิ่มเงินพนันเป็นคนละ 40ล้าน ส่วนคนอื่นๆ 20ล้าน ”