…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ถังซิ่วได้หรี่ตาลงพร้อมกับส่ายศีรษะแล้วพูดว่า
“พวกนายเองเคยเห็นทหารยิ่งไปกว่านั้นคือเป็นทหารระดับผู้เชี่ยวชาญ นายคงรู้สินะว่าชะตากรรมจากการประมาทศัตรูยังไงดังนั้นมีอะไรซุกไว้ก็เอาออกมาให้หมด ”
ชายรูปร่างกำยำคนนั้นเองก็ได้กำหมัดแน่นพร้อมกับพูดออกมาว่า
“ถ้านายเอาชนะฉันได้เท่านั้นถึงจะมีคุณสมบัติพอที่จะสู้กับคนอื่น ฉันจะบอกอะไรให้อย่างว่าเมื่อ4ปีที่แล้วฉันเป็นผู้ชนะของการประลองมวยปล้ำกองกำลังนานาชาติ”
ถังซิ่วได้มองไปที่ท่าทางจริงจังของเขาพร้อมถอนหายใจออกมา
“ช่างมันเถอะ ในเมื่อนายต้องการที่จะสู้ตัวต่อตัวกับฉันงั้นก็เริ่มเลยแล้วกัน”
“ฮึ้ม……..”
ชายรูปร่างกำยำเองก็ได้แสยะออกมาพร้อมกับเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วทันที หลังจากผ่านไปเพียง2วินาทีเขาก็ได้มาถึงตรงหน้าของถังซิ่วก่อนที่จะเหวี่ยงหมัดออกไปตรงหน้า
ความเร็ว !
เรียกได้ว่าเกือบจะอยู่ในจุดสูงสุดที่คนธรรมดาสามารถมีได้ !
ความแข็งแกร่ง !
สามารถที่จะล้มวัวได้อย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม
สิ่งที่เขาไม่คาดคิดคือถังซิ่วไม่แม้แต่จะหลบและทำเพียงแค่การยื่นฝ่ามือออกจับหมัดของเขาเอาไว้
“เป็นไปได้อย่างไร ? ”
ชายรูปร่างกำยำเองก็ได้จ้องมองตาโตพร้อมกับรู้สึกว่าหมัดของเขาไม่ได้ถูกล๊อคเอาไว้โดยมือเปล่าแต่เหมือนก้ามปู ยิ่งไปกว่านั้นเขายังไม่สามารถดึงมือกลับไปได้แม้แต่น้อย
ชายคนอื่นๆเองก็ได้แสดงสีหน้าตกตะลึงออกมาเพราะพวกเขารู้ดีว่าชายคนที่กำลังสู้กับถังซิ่วนั้นเป็นถึงผู้ชนะจากการประลองมวยปล้ำกองกำลังนานาชาติซึ่งหมัดของเขามีน้ำหนักถึง500กิโลกรัม
แต่ !
หมัดที่แข็งแกร่งและรวดเร็วขนาดนั้นกลับถูกหยุดไว้ด้วยมือของฝ่ายตรงข้ามอย่างง่ายดาย ?
ถังซิ่วได้ยิ้มออกมาพร้อมกับพูดว่า
“ฉันได้บอกไปแล้วว่านายเป็นเหมือนกับแมลงวันที่กำลังพยายามจะเขย่าต้นไม้ นายประเมินค่าความสามารถของตัวเองสูงไป บินไปซะ ! ”
ขณะที่คำพูดสุดได้ได้ดังขึ้นถังซิ่วก็ได้ใช้เท้าของเขาเตะไปที่กลางลำตัวของชายคนนั้นพร้อมกับปล่อยมือแล้วชกอัดไปที่แก้มของเขาจนลอยเคว้งออกไป เสียงร้องโหยหวนดังออกมาก่อนที่เขาจะกระแทกกับพื้นที่อยู่ห่างออกไป 4-5 เมตร แม้ว่าเขาจะแข็งแกร่งและไม่หมดสติในทันทีแต่ก็ทำได้เพียงแค่เงยหน้าและคลานอยู่กับพื้น
พื้นที่ทั้งหมดเองก็ได้เงียบลงทันที
ชายอีก29คนเองก็ได้มองไปด้วยความโง่งม พวกเขาไม่เคยคาดฝันเลยว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็นเช่นนี้ ผู้เชี่ยวชาญซึ่งเคยเป็นถึงแชมป์มวยปล้ำจากกองกำลังนานาชาติกลับนอนหมอบอยู่กับพื้น
หาก……
หากว่าถังซิ่วต้องการจะฆ่าเขาจริงๆก็คงจะกลายเป็นศพอยู่ที่พื้นแล้วหรือเปล่า ?
ถังซิ่วได้มองไปที่ท่าทางตกตะลึงของคนอื่นๆก่อนที่จะมองไปที่ชายรูปร่างกำยำแล้วพูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า
“การกระทำของฉันก็แค่เพื่อเตือนคนอื่นๆเท่านั้น รู้สึกถึงความพ่ายแพ้แล้วหรือยัง ? ”
“ฉันประมาทเอง !”
ชายรูปร่างกำยำคนนั้นเองก็ได้พูดออกมาอย่างขมขื่น
รอยยิ้มของถังซิ่วก็จางหายไปพร้อมกับพูดด้วยท่าทางเคร่งขรึมว่า
“มันไม่ใช่แค่นั้นหรอกแต่เป็นเพราะนายมันเหิมเกริมและเย่อหยิ่งเกินไป ฉันคิดว่านายน่าจะเข้าใจคำว่าเหนือฟ้ายังมีฟ้าดีนะ ตอนนี้เป็นไงล่ะ หมดสภาพ หากว่านายยังคงมีความคิดแบบนั้นอยู่ในระหว่างที่สู้กับศัตรูจริงๆตอนนี้ก็คงจะกลายเป็นศพไปแล้ว”
“ผมผิดเองครับ ”
ความรู้สึกละอายใจก็ได้ปรากฏขึ้นเต็มใบหน้าของชายคนนั้น
ถังซิ่วได้มองไปที่ดวงตาของเขาพร้อมกับยักนิ้วไปที่คนอื่นๆอีก 29 คนแล้วตะโกนออกมาเสียงดังว่า
“ตอนนี้เขารู้แล้วว่าความผิดพลาดเป็นอย่างไรแต่พวกนายยัง! ดังนั้นก็เข้ามาให้หมด ! หากว่าพวกนายสามารถชนะฉันได้ก็ขอสัญญาเลยว่าจะได้รับการปฏิบัติที่ดีที่สุดหลังจากนี้แต่หากว่าไม่ก็จะต้องทำงานให้กับฉันและยอมรับคนที่ฉันจะส่งมาฝึกพวกนาย”
“ลุย !”
ชายรูปร่างกำยำเองก็ได้โห่ร้องออกมาพร้อมกับพุ่งเข้าใส่
คนอื่นๆเองก็รู้ว่าถังซิ่วนั้นแข็งแกร่งมากดังนั้นพวกเขาจึงไม่ลังเลก่อนที่จะเข้าล้อมถังซิ่วไว้แล้วโจมตีเขาอย่างรุนแรง
เท้าของถังซิ่วนั้นมั่นคงเหมือนหยั่งรากลึกลงไปในดิน แขนทั้งสองข้างของเขาโบกสะบัดก่อนที่ฝ่ามือของเขาจะปัดป้องการโจมตีทั้งหมด แม้ว่าพวกเขาเหล่านี้จะแข็งแกร่งและพอมีทักษะการต่อสู้อยู่บ้างทว่าสำหรับถังซิ่วแล้วมันยังมีช่องโหว่อยู่มากมาย แม้ว่าจะเป็นเทคนิคเคลื่อนไหวระดับต่ำสุดของดินแดนแห่งนิรันด์เองก็ยังสูงกว่าพวกเขาหลายร้อยเท่า
“ในเมื่อไม่สามารถทำอะไรฉันได้งั้นฉันก็ขอตอบโต้ล่ะนะ ”
ถังซิ่วได้เริ่มเคลื่อนไหวในทันที่ก่อนที่เขาจะจับชายสองคนมากระแทกกันพร้อมกับเหวี่ยงหมัดใส่พวกเขา
ความเร็วของเขานั้นมากกว่าคนเหล่านี้ถึงหลายเท่าตัว
แม้กระทั่งชายเหล่านี้เองยังไม่สามารถเห็นได้ว่าถังซิ่วตอบโต้อย่างไรแต่ภายใน30วินาทีพวกเขาก็ถูกโยนออกไปทั้งหมด
“สวรรค์ ! นี่มันเป็นมนุษย์แน่งั้นหรอ ? ”
“ทำไมเขาถึงได้แข็งแกร่งขนาดนั้นกัน ? ”
“น่ากลัวเกินไปแล้ว !”
“ไม่สามารถเทียบชั้นกันได้เลย !”
“……..”
ชายทั้ง29คนเองก็ได้พยายามระงับความเจ็บปวดของตัวเองเอาไว้พร้อมกับคลานขึ้นมาจากพื้นแต่พวกเขาก็ไม่กล้าที่จะลงมืออีกต่อไปเพราะจากความแข็งแกร่งของถังซิ่วแล้วพวกเขาไม่สามารถเอาชนะได้อย่างแน่นอน
ถังซิ่วเองก็ได้สะบัดมือของเขาพร้อมกับความรู้สึกที่พึงพอใจ หลังจากที่ตัดผ่านมาถึงขั้นเสริมสร้างเลือดเนื้อก็ทำให้ความแข็งแกร่งของเขาเพิ่มมากขึ้นอย่างบ้าคลั่ง การที่จะรับมือคนธรรมดานั้นเป็นเรื่องที่ไม่เป็นปัญหาเลยแม้แต่น้อย หากว่าเป็นก่อนหน้านี้ที่เขาต้องจัดการกับคนทั้ง29คนนั้นถึงเขาจะเอาชนะคนเหล่านี้ได้แต่ก็ต้องบาดเจ็บบ้างเล็กน้อย
แต่ตอนนี้เขาสามารถขยี้คนเหล่านี้ได้อย่างง่ายดาย !
“พวกนายเก่งมากที่รุมฉันแล้วทำให้ฉันต้องใช้เวลาจัดการถึง30วินาที หากว่าเป็นคนธรรมดาก็คงจะถูกขยี้ไปตั้งแต่ก่อนถึง10วินาทีแรกแล้ว ”
ถังซิ่วได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้ม
“สัตว์ประหลาด !”
ทุกคนในที่แห่งนี้ได้คิดแบบเดียวกัน
ใกล้ๆกันนี้หลันเถาเองก็รู้สึกสั่นสะท้านกับความสามารถของถังซิ่ว ครั้งแรกที่เขาได้รู้กับถังซิ่วคือตอนที่อยู่เมืองสตาร์ซิตี้แต่ตอนนั้นถังซิ่วเองก็ไม่ได้ใช้พลังทั้งหมดของเขาแม้กระทั่งตอนที่ออกไปฆ่าคนด้วยกันเขาก็ไม่สามารถรับรู้ได้เลยว่าความสามารถในการต่อสู้ของถังซิ่วจะสูงถึงขนาดนี้
“บอสกำลังซ่อนความแข็งแกร่งของตัวเอง ?”
หลันเถาเองก็ได้คิดถึงเรื่องนี้พร้อมกับรู้สึกไม่สบายใจทันที
“จัดแถว !”
ชายคนแรกที่ถูกถังซิ่วอัดไปก็ได้ลุกขึ้นมาก่อนพร้อมกับไม่กล้ายั่วยุเขาอีกแล้วแต่กลับรู้สึกเทิดทูนถังซิ่วเป็นอย่างมาก
ผู้แข็งแกร่ง ! ย่อมได้รับความเคารพ !
โดยเฉพาะคนที่ผ่านสนามรบและฝ่าดงกระสุนมานับไม่ถ้วน พวกเขารู้ดีว่าผู้แข็งแกร่งนั้นสำคัญอย่างไร
ถังซิ่วได้มองไปที่ชายทั้ง30คนพร้อมกับถามออกมาอย่างราบเรียบว่า
“บอกฉันหน่อยสิว่าหลังจากนี้จะติดตามฉันหรือไม่ ? ”
“พวกเราจะติดตามคุณ !”
ชายทั้ง30 คนเองก็ได้ตะโกนเป็นเสียงเดียวกัน
ถังซิ่วได้พูดออกมาว่า
“การที่นายจะติดตามฉันได้นั้นก็มีเงื่อนไขเช่นกัน ผู้ติดตามของฉันก็คือคนของฉันตลอดไปซึ่งมันแตกต่างจากกองทัพ พวกนายจะได้รับการดูแลที่ดี ที่อยู่ที่ดีและรวมไปถึงภรรยาและลูกๆของพวกนายเองฉันก็จะเป็นคนดูแลซึ่งพวกเขาจะได้รับผลประโยชน์มากมายกว่าคนธรรมดา สุดท้ายแล้วคือพวกนายจะแข็งแกร่งขึ้นแต่สิ่งที่ฉันต้องการจากพวกนายคือความภักดีและทำตามคำสั่งของฉัน พวกนายทำได้ไหม ?”
“ได้ครับ !”
ชายทั้ง30คนเองก็ได้ตอบพร้อมกัน
ถังซิ่วได้พยักหน้าพร้อมกับพูดว่า
“หลังจากนี้อีกไม่นานจะมีแม่บ้านมาที่นี่ เธอจะเป็นคนดูแลเรื่องทุกอย่างและเรื่องลูกเมียของพวกนายเองก็สามารถรายงานกับฉันได้ทุกเมื่อ ไม่ว่าจะมีปัญหาอะไรฉันก็จะช่วยให้ถึงที่สุด นับจากวันนี้เป็นต้นไปพวกนายคือหน่วยรักษาความปลอดภัยของที่นี่ ”
“ได้ครับ !”
ชายทั้งหมดเองก็ได้ตอบกลับพร้อมกัน
ถังซิ่วได้มองไปที่ชายรูปร่างกำยำพร้อมกับถามออกมาว่า
“นายชื่ออะไร ? ”
“รายงาน ! ผมชื่อเหว่ยชางซ่ง”
ชายคนนั้นก็ได้ทำท่าแสดงความเคารพพร้อมกับตอบกลับทันที
ถังซิ่วได้พูดออกมาว่า
“พละกำลังของนายดีมากซึ่งแข็งแกร่งพอๆกับหลันเถาเลยก็ว่าได้ นายจะได้เป็นหัวหน้าหน่วย เห็นเขาไหม ? เขามีชื่อว่าโม่อาหวูซึ่งเป็นหัวหน้าหน่วยเช่นกันแต่พวกนายหัวหน้าหน่วยทั้งสามคนต้องฟังคำสั่งจากโม่อาเหวิน เวลาที่ฉันไม่อยู่ที่นี่อาเหวินก็จะเป็นผู้รับอำนาจไป ”
“ครับผม”
พวกเขาทั้งสี่คนก็ได้ตอบกลับพร้อมกัน
ถังซิ่วได้มองไปที่โม่อาเหวินพร้อมกับพูดว่า
“หลังจากนี้อีกสามวันฉันจะกลับไปที่บ้านเกิด เรื่องทั้งหมดนี้ฝากนายด้วยแล้วกันจำไม้ว่าที่นี่คือฐานทัพของเราซึ่งจะต้องปกป้องเอาไว้ ทุกๆเขตห่วงห้ามต้องมียามสองคนเฝ้าเอาไว้ซึ่งห้ามไม่ให้คนงานคนไหนเข้าไปได้โดนเด็ดขาด อย่าให้พวกเขาเข้าไปรื้อถอนอะไรได้เข้าใจไหม ”
“ครับผม ”
โม่อาเหวินได้ตอบกลับไป
ถังซิ่วได้พูดต่อว่า
“นายเองก็จะเป็นคนจัดการเกี่ยวกับเรื่องวิศวกรด้วย ไปทำสำเนาพิมพ์เขียวที่ฉันได้วาดเอาไว้ส่วนถ้าไม่เข้าใจตรงไหนก็ไปหาคนมาช่วยแต่สุดท้ายนี้ทุกๆอย่างต้องเป็นไปตามที่ฉันได้วาดเอาไว้ ”
“บอสครับ คุณสามารถวางใจได้เลยว่าผมจะไปหาวิศวกรชั้นยอดมาเองซึ่งจะไม่ให้เขายุ่งกับเรื่องอื่นๆแต่ให้เขาทำไปตามแบบแปลนที่วางเอาไว้ทั้งหมดครับ ”
โม่อาเหวินสามารถรู้สึกได้ถึงความสำคัญของโครงการนี้ได้จากท่าทางของถังซิ่ว ดังนั้นเขาจึงได้พูดออกมาด้วยท่าทางจริงจัง
“อื่ม”
ถังซิ่วได้พยักหน้ากลับไป
หลังจากผ่านไปสามวันถังซิ่วเองก็ได้นำโม่อาเหวินและหัวหน้าหน่วยอีกสามคนไปทั่วเขตหวงห้ามทั้ง11แห่ง มันมีอ่าวทั้ง9พร้อมกับจุดศูนย์กลางของเส้นชีพจรวิญญาณ ส่วนเรื่องของหลงเจิ้งหยูและทอมเรกกี้นั้นถังซิ่วก็ได้ติดต่อไปหาพวกเขาแล้วซึ่งให้พวกเขาสั่งห้ามคนงานเหล่านั้น
เวลาสามวันผ่านไปไวเหมือนน้ำไหล
ท้ายที่สุดเมื่อเช้าวันใหม่ได้มาถึงถังซิ่วและหยีเหลียนหยานเองก็ได้ขึ้นเรือกลับไปยังเกาะไซปัน เพราะว่าโครงการได้เริ่มขึ้นแล้วจึงได้มีเรือเข้าออกเกาะมากมาย
