เด็กหนุ่มไม่ได้เตรียมพร้อม สำหรับการจู่โจมอย่างกะทันหัน แต่นักรบของเผ่าอีกาอัคคีทุกคนมีพรสวรรค์ ในการควบคุมไฟอยู่แล้ว เด็กหนุ่มโกรธจัดเขารีบใช่มือตบไปตามตัวเพื่อดับไฟ เหลือเพียงควันที่ยังลอยปกคลุมตัวเขาอยู่

จี้ฮ่าวจ้องไปที่หัวของเด็กหนุ่ม ที่ถูกไฟของเขาเผาจนหัวโล้น เขาหัวเราะเสียงอันดัง

“ฮาฮ่าๆ ไฟแค่กำมือเดียว เจ้ายังไม่มีปัญญาจะป้องกันได้ เจ้ากล้าดียังไง มาโวยวายที่นี่ ”

จี้เซียยืนกอดอก มองดูจี้ฮ่าวด้วยท่าที่สนุก

เหล่าผู้อาวุโส นั่งพยักหน้า หัวเราะชอบใจกับการกระทำของจี้ฮ่าว มีชายคนหนึ่งลุกยืนขึ้น เขาคือจี้ซู่ เขามีรูปร่างสูงไม่น้อยไปกว่าจี้เซีย รูปร่างของเขาดูไม่เหมือนนักรบ เขาผอม ไม่มีมัดกล้าม ผิวขาวดูบอบบาง เขาดูไม่เหมือนคนอื่นๆในเผ่า เขาดูแปลกออกไป ผมยาวของเขาถักเป็นเปียมัดด้วยแหวนหยกสามวง ตาของเขาเรียวแลดูเป็นคนเจ้าเล่ห์

“หวู่ อย่าทำให้ครอบครัวเราต้องเสียหน้า ” จี้ซูกล่าวด้วยเสียงที่เยือกเย็น และนุ่มนวล

เด็กหนุ่ม ตะโกนและพุ่งเข้าใส่จี้ฮ่าว

“เจ้าสารเลวน้อย แกกล้าดียังไงมารอบกัดข้า ข้าคือจี้หวู่ ลูกชายของจี้ซูผู้ทรงพลัง ” แค่ก้าวเดียวของเขาก็ไปได้ไกลกว่าสิบฟุต เขาชกเข้าไปที่หน้าของจี้ฮ่าว
เพียงแค่ลมที่เกิดจากการชก ก็ทำให้เส้นผมของจี้ฮ่าวแทบจะหลุดออกจากหัวเลยทีเดียว ช่างแข็งแกร่งอะไรขนาดนี้ จี้ฮ่าวตระหนักว่าจี้หวู่นั้นแข็งแกร่งกว่าเขา อย่างน้อยก็สามเท่า จี้ฮ่าวรู้ดีว่าไม่มีทางที่จะทนทานแรงหมัดของจี้หวู่ได้

จี้ฮ่าวใช้นิ่วมือผสานกันอีกครั้ง ร่างกายของเขาแยกออกมาเป็นเงา 7 – 8 ร่าง ทำให้หลบหมัดของจี้หวู่ไปได้

จี้ฮ่าวร่ายคาถาต่อไป ทันใดนั้นมีงูพุ่งออกมากจากกองไฟกว่าสิบตัว พุ่งเข้าใส่จี้หวู่

จี้เซียยืนยิ้มอย่างสบายอารม เขามองไปที่งูที่พุ่งออกมา แล้วพูดว่า

“ท่านผู้อาวุโวเเละผู้มีเกียรติทุกท่าน ช่วงหลายปีมานี้ ฮ่าวเรียนรู้เวทย์มนตร์ จากทุกๆท่านและ ตอนนี้ดูเหมือนว่าเขาจะฝึกมันสำเร็จแล้ว ”

เหล่าผู้อาวุโสหัวเราะชอบใจ

“ดูเหมือนว่า ฮ่าวมีพรสวรรค์ในการใช้ คาถาเวทย์มนตร์ น่าจะกลายเป็นสุดยอดผู้ใช้ด้านคาถา ของเผ่าเราในรอบหลายพันปี ” หนึ่งในผู้อาวุโสกล่าว

จี้เซียและเหล่านักรบที่นั่งอยู่ข้างๆเขา พากันยิ้มอย่างภาคภูมิใจ ตรงกันข้ามกับฝั่งจี้ซูที่พากันนั่งหน้าตาบึ้งตึง

“หวู่ จี้ฮ่าวเป็นอัจฉริยะในตำนาน คุณต้องระวังเขาให้มาก ” พ่อหนุ่มหน้าหวานกล่าวเตือนจี้หวู่

จี้ซูเหลือบมองไปทาง เหล่าผู้อาวุโสอย่างไม่สบอารมณ์นัก เขารู้สึกว่าพวกผู้อาวุโสดูจะให้ความสำคัญกับผู้ใช้คาถามาก พวกเขาเข้าข้างจี้ฮ่าวอย่างเห็นได้ชัด

จี้หวู่เริ่มคำรามอีกครั้ง รอยสักรูปโล่บนแขนซ้ายของเขาสว่างขึ้น โล่ปรากฎออกมาจากแขนของเขาพร้อมกับเปลวไฟ มันเป็นโล่ที่ทำจากโลหะสัมฤทธิ์อย่างประณีต มีสัญลักษณ์รูปดวงตาอยู่บนตัวโล่

“โล่นี่มันดูคุ้นๆนะ ” จี้ฮ่าวจ้องไปที่ดวงตานั้น ทันใดนั้นเขาเหมือนจะถูกสะกด นิ้วมือของเขาผสานเพื่อร่ายคาถาตามจิตใต้สำนึก เขาใช้พลังแค่สามส่วนเพื่อควบคุมงูที่เขาเรียกมา

ทันใดนั้น งูทั้งสิบเริ่มกินตัวที่อยู่ข้างๆ ในเวลาไม่นานมันก็กลายร่างเป็นมังกรสามตัว ขนาดกว่าร้อยฟุต! มันพุ่งเข้าชนโล่ทันที

มีวงเวทย์ขนาดเท่ากำปั้นสิบสองวง ปรากฏขึ้นบนผิวโล่ มันส่องแสงสีฟ้าหนาสิบฟุต เข้าประทะกับมังกรทั้งสามตัว เกิดเสียงดังสั่นราวกับระเบิด จี้หวู่ถือโล่เข้าประทะกับมังกรทั้งสามตัว ตัวเขาสะเทือนเล็กน้อยจากการปะทะ แต่ดูเหมือนความแรงจากการปะทะไม่ทำให้เขาถอยแม้แต่ก้าวเดียว

“ฮาฮ่า แค่นี้เองเหรอ จี้ฮ่าว เด็กในตำนาน ที่สามารถพูดได้ตั้งแต่เกิด วิ่งได้ตั้งแต่อายุหนึ่งวัน ควบคุมไฟได้ตั้งแต่ตอนอายุได้แค่หนึ่งเดือน ? ” จี้หวู่ต้านทานไฟจากมังกรด้วยโล่และตะโกน ” แล้วทำไมแกช่างอ่อนแอขนาดนี้ แกไม่สามารถทำอะไรได้แม้แต่เส้นผมของข้าได้ ”

จี้ฮ่าวหัวเราะ เขาคลายคาถาอัญเชิญ มังกรทั้งสามหายไป และมองไปที่จี้หวู่

“ไม่สามารถทำอะไรเส้นผมรึ? แกยังเหลือเส้นผมอะไรให้ข้าทำลายอีกรึ? นี่ยังไม่รู้ตัวอีกเหรอว่าหัวตัวเองมันโล้นขนาดไหน? ” จี้ฮ่าวพูดยั่ว จนจี้หวู่โกรธหัวแทบจะระเบิด

ขณะที่จี้ฮ่าวกำลังหัวเราะ เขาเอามือสัมผัสไปที่กำแพง ทันใดนั้นก็มีหอกพุ่งออกมาจากกำแพง มาอยู่ในมือของเขา จี้ฮ่าวคำรามพร้อมกับควงหอก ที่มีความยาวกว่าตัวของเขาถึงสองเท่า พลังจากมือของเขาถูกส่งไปที่หอก วงเวทย์สีแดงปรากฏขึ้นบนหอก จากนั้นเปลวไฟลุกขึ้นมาปกคลุมปลายของหอก

จี้ฮ่าวใช้หอกไฟของเขาพุ่งเข้าไปปะทะกับโล่ของจี้หวู่ ไฟขนาดใหญ่ลุกโชนขึ้นรอบๆตัวของทั้งจี้ฮ่าวเเละจี้หวู่ หอกของจี้ฮ่าวดูราวกับมังกรในกองไฟ จี้ฮ่าวโจมตีอย่างต่อเนื่อง เขาโจมตีไปมากกว่าร้อยครั้ง กระหน่ำไปที่โล่ เปลวไฟจากหอกปะทะกับแสงสีฟ้าของโล่ เกิดเสียงดังสนั่น

หลังจากโจมตีไปกว่าร้อยครั้ง จี้ฮ่าวหยุดและสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ทันใดนั้นจี้หวู่พุ่งเข้ามาพร้อมกับโล่ของเขา พลังอันรุนแรงพุ่งออกมากจากโล่ มันเกินกว่าที่จี้ฮ่าวจะต้านทานได้ จี้ฮ่าวลอยขึ้นไปในอากาศพร้อมกับหอก

จี้หวู่ยกแขนขึ้นมา ทันใดนั่นลอยสักรูปขวานส่องสว่าง มีขวานโลหะสีดำปรากฏขึ้นในมือของจี้หวู่
จี้หวู่ใช้ขวานของเขาไล่สับไปที่หัวของจี้ฮ่าวอย่างไม่ลดละ จี้ฮ่าวเห็นแววตาที่กระหายเลือดของจี้หวู่ เขารู้ได้ทันทีว่าจี้หวู่ต้องการจะฆ่าเขาจริงๆ

เขาผสานนิ้วมืออีกครั้งแล้วร่ายคาถาที่ซับซ้อน ทันใดนั้นจี้ฮ่าวได้หายไปในอากาศ เกิดลมหมุนที่ข้างหลังของจี้หวู่ จี้ฮ่าวปรากฎตัวข้างหลังของจี้หวู่ เขาฟาดหอกไปที่หลังของจี้หวู่สุดแรง

จี้หวู่กระเด็นไปที่กำแพง อาวุธนับสิบบนชั้นวางตกลงมาทับไปที่หัวเขา

จี้ฮ่าวทุ้มพลังทั้งหมดในการโจมตีครั้งต่อไป เขารีดกำลังภายในของเขาออกมาทั้งหมด มันปรากฏให้เห็นเป็นจุดส่องแสงระหว่างคิ้วของเขา หลังจากพลังประทุขึ้น เขาทุ้มพลังทั้งหมดส่งไปทีจี้หวู่ กำลังภายในของจี้ฮ่าวแทรกซึมเข้าสู่ร่างกายของจี้หวู่ กระดูก กล้ามเนื้อ และอวัยวะภายในของเขาสั่นเทา เขารู้สึกเหมือนพลังจะระเบิดออกมาจากอกของเขา มีเลือดทะลักออกมากจากปากของเขา เลือดออกมาไฟ และเผาไหม้พื้นบริเวณนั้น

จี้ฮ่าวดุเหมือนหมีที่บ้าคลั่ง เข้าหยิบขวานขึ้นมาแล้วเตรียมจะจู่โจมต่อไป

“พอแค่นั้นแหละ ” จี้เซียลุกขึ้นและตะโกนห้ามจี้ฮ่าว ” พอได้แล้วนี่เป็นสถานที่ประชุม ไม่ใช้ที่สำหรับมาต่อสู้กันเอาเป็นเอาตายกัน ”

“พี่ใหญ่จี้เซีย ทำไมไม่ให้เด็กพวกนี้สู้กันให้รู้แพ้รู้ชนะกันไปเลย เราสองคนกำลังแข่งขันกันเพื่อตำแหน่งหัวหน้านักรบ ให้ลูกของพวกเราร่วมแข่งด้วยให้ทุกคนเห็นกันไปเลย ” จี้ซูกล่าวด้วยเสียงอันนุ่มนวลเหมือนผู้หญิง

จี้เซียสุดหายใจเข้าลึกแล้วพูดว่า

“ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎที่บรรพชนตั้งเอาไว้ ในพิธีบูชาในอีกสองอาทิตย์ เราจะจัดการทุกสิ่งทุกอย่างด้วยพลังทั้งหมดของเรา ”

จี้หวู่หน้าแดงด้วยความอับอาย เขาทิ้งโล่และขวานลงบนพื้น แล้วมองไปที่จี้ฮ่าวและตะโกน

“จี้ฮ่าวแกกล้ามาสู้กับข้าในพิธีบูชาไหม? ถ้าแกแพ้ก็จะต้องอยู่อย่างอับอายไปตลอดชีวิต ”

จี้ฮ่าวยกมือขึ้นมาพาดบนคออย่างช้าๆ มันแสดงถึงท่าทางว่าเขารับคำท้า !