…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ที่ชั้นสอง ห้องวีไอพี่
เท็กเกอร์ได้เชิญให้ถังซิ่วและเฒ่าอ้วนหลี่นั่งลง ครั้งนี้เฒ่าอ้วนหลี่เองก็มีหลายๆความรู้สึกผสมกันเพราะเขาไม่คิดเลยว่าถังซิ่วจะสามารถชนะเงินรางวับได้ถึง1พันล้าน
1พันล้าน !
เขาเองก็ทำธุรกิจขนาดใหญ่แต่ว่ารายได้ต่อปีของเขาก็ไม่ได้มากมายขนาดนั้น อิจฉา เขาอิจฉามากๆแต่เขาก็รู้สึกว่าเรื่องนี้มันจะต้องสร้างปัญหาไม่น้อยเลยทีเดียวเพราะอย่างไรก็ตามคนที่สามารถเปิดบ่อนพนันได้นั้นก็มักจะไม่ใช่พวกเป็นมิตรเท่าไหร่นัก พวกเขาคงไม่ยอมส่งเงินนั่นมาให้ง่ายๆอย่างแน่นอน
“ยังไงถังซิ่วก็ยังเป็นเด็กอยู่และคงจะไม่เข้าใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ ”
เฒ่าอ้วนหลี่เองก็ได้ถอนหายใจออกมาก่อนที่จะตัดสินใจว่าต่อให้ฝ่ายตรงข้ามต้องการผิดสัญญาแต่เขาก็จะไม่สร้างปัญหาเพราะอย่างไรก็ตามมังกรที่แข็งแกร่งก็ไม่ควรจะไปสู้กับงูเจ้าถิ่น การจะไปสร้างผลกำไรในถิ่นคนอื่นนั้นเป็นเรื่องที่ยากอย่างมาก
“ทั้งสองคน เรามาคุยกันหน่อยโอเคไหม ? ”
เท็กเกอร์เองก็ได้นั่งลงตรงกันข้ามกับพวกเขาก่อนที่จะจุดบุหรี่แล้วนั่งไขว่ข้าง
ถังซิ่วเองก็ได้ถามออกมาอย่างสงบว่า
“ต้องการจะพูดอะไรงั้นหรอ ? ”
เท็กเกอร์ได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า
“ทุกคนเองก็เป็นคนที่มีไหวพริบและฉันเองก็ไม่อยากจะพูดอ้อมค้อม สิ่งที่ฉันจะบอกก็คือธุรกิจของเรานั้นดีมากและแต่ละปีเองก็สามารถทำเงินได้มากมายแต่เงินจำนวน1พันล้านนั้นไม่ใช่จำนวนน้อยๆ ฉันเองยังสงสัยอยู่เลยว่านายไม่ได้ไปทำอะไรกับเครื่องเล่นใช่ไหม ? และมันเป็นเหตุให้นายไม่สามารถได้รับเงิน1พันล้านได้”
ถังซิ่วเองก็ได้พูดออกมาว่า
“ความหมายของนายคือตั้งใจจะผิดสัญญาใช่ไหม ? ”
รอยยิ้มของเท็กเกอร์เองก็กว้างขึ้นพร้อมกับกระกายแห่งความเย็นยะเยือกที่ถูกส่งออกมา เขามองไปที่ถังซิ่วก่อนที่จะส่ายศีรษะแล้วถามว่า
“นายมีชื่อว่าอะไรงั้นหรอ ?”
“ถัง”
ถังซิ่วได้ตอบกลับไป
เท็กเกอร์เองก็ได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า
“แม้ว่านายจะยังเด็กแต่ฉันคิดว่าก็คงจะเป็นคนที่ฉลาด เงินบางอย่างนั้นก็เอาไปได้แต่บางอย่างนั้นก็ไม่ได้ สิ่งที่ฉันอยากจะบอกนั้นก็คือที่นี่เป็นถิ่นของเราและต่อให้เราให้เงินนายไปจริงๆก็คงจะไม่มีโอกาสได้ใช้มันอย่างแน่นอน เอางี้ไหม ? เราจะให้เงินนาย10ล้านแล้วเรามาจบเรื่องนี้กันเป็นไง ? ”
ถังซิ่วได้ยิ้มออกมาก่อนที่จะพูดชื่นชมว่า
“ว้าว สุดยอดใช้ได้เลยนิ ให้ฉันตั้ง 1 % ของเงินทั้งหมด คิดว่าฉันจะสนใจเงิน10ล้านงั้นหรอ ?”
เท็กเกอร์เองก็ได้ขมวดคิ้วทันทีพร้อมกับถามออกมาว่า
“นายไม่เข้าใจสิ่งที่ฉันเพิ่งพูดไปงั้นหรอ ? บางอย่างก็สามารถเอาไปได้แต่บางอย่างก็ไม่ใช่ คิดว่าได้เงินไปแล้วจะสามารถออกไปจากเกาะไซปันนี่ได้ ? ”
ถังซิ่วเองก็ได้ตอบกลับไปว่า
“ฉันคิดว่าฉันออกไปได้ !”
รอยยิ้มบนใบหน้าของเท็กเกอร์ได้หายไปทันทีพร้อมกับถูกแทนที่ด้วยท่าทางมืดมน เขาได้สูบบุหรี่เข้าไปเฮือกใหญ่ก่อนที่จะสังเกตถังซิ่วเพราะเขาไม่เชื่อว่าหลังจากที่ถังซิ่วได้รับเงิน1พันล้านไปแล้วจะสามารถออกไปจากเกาะนี้ได้
เจ้านายของเขาเป็นคนที่มีอำนาจและไร้ความปราณี
โรงแรมแห่งนี้นั้นมีผู้ถือหุ้นที่มีอำนาจอยู่มากมาย อาจจะพูดได้ว่าหากพวกเขาร่วมมือกันก็ไม่มีใครในเกาะนี้กล้าหาเรื่องพวกเขาอย่างแน่นอน
“พวกเขาอยู่ที่ไหน ? ”
อ้ายโม่ลี่เองก็ได้ถามออกมาที่ทางเดินด้านนอก
“ในห้องวีไอพีครับ”
ชายคนหนึ่งก็ได้ตอบเธอกลับไป
ขณะที่อ้ายโม่ลี่ได้เข้ามาในห้องนั้นถังซิ่วเองก็ได้ยิ้มออกไปให้เธอส่วนเฒ่าอ้วนหลี่เองก็รู้สึกกังวลเป็นอย่างมากเพราะเขาไม่รู้ว่าหน้าของถังซิ่วจะใหญ่พอสำหรับเรื่องนี้ไหมเพราะอย่างไรก็ตามสำหรับโรงแรมแห่งนี้แล้วก็นับว่าถังซิ่วเป็นถึงแขกผู้ทรงเกียรติ
หลังจากที่เธอเข้ามาในห้องพร้อมกับกวาดสายตามองไปที่ถังซิ่วและเฒ่าอ้วนหลี่แล้วก็ถึงกับมีท่าทางเปลี่ยนไปพร้อมกับพูดออกมาว่า
“เป็นคุณถังหรอค่ะที่ชนะเงินรางวัล1พันล้าน ? ”
ถังซิ่วเองก็ได้ยิ้มออกมาจางๆก่อนที่จะพูดออกมาว่า
“ทำไงได้ คนมันโชคดีเกินไปถึงได้ทำกำไรได้เล็กน้อย อย่างไรก็ตามผู้มีอำนาจของที่นี่เองก็ใช่ย่อยหนิ เขาตั้งใจที่จะผิดสัญญาพร้อมกับเพิ่งจะขู่ฉันไปหยกๆ ”
เท็กเกอร์ที่ได้เห็นการมาถึงของอ้ายโม่ลี่นั้นก็ได้ขยี้ก้นบุหรี่ทันทีพร้อมกับยืนตรงด้วยความเคารพอย่างไรก็ตามหลังจากที่เขาได้ยินการสนทนาแล้วก็ถึงกับทำให้ท่าทางเปลี่ยนไปทันทีเพราะเขาไม่เคยคิดเลยว่าอ้ายโม่ลี่เองจะรู้จักกับถังซิ่ว
คิ้วของอ้ายโม่ลี่เองก็ได้ขมวดเข้าหากันก่อนที่จะหันหน้าไปมองที่เท็กเกอร์แล้วพูดออกมาด้วยน้ำเสียงต่ำว่า
“ขอโทษคุณถังเดี๋ยวนี้ !”
เท็กเกอร์นั้นกลัวเธอเป็นอย่างมากเพราะเขารู้สถานะของเธอดีว่าเธอคือหนึ่งในผู้หญิงของเจ้านายและเป็นคนหนึ่งที่เขาเชื่อใจที่สุด
“ขอโทษครับคุณถัง”
ถังซิ่วเองก็ได้ยิ้มออกมาก่อนที่จะถามอ้ายโม่ลี่ว่า
“เธอคิดว่าฉันมีคุณสมบัติพอที่จะรับเงิน1พันล้านนั่นไหม ? ”
อ้ายโม่ลี่เองก็ได้คิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะพูดออกมาด้วยความเคารพว่า
“คุณถังค่ะ เรื่องนี้ฉันไม่สามารถตัดสินใจได้ดังนั้นฉันขอเวลาติดต่อบอสสักครู่ได้ไหมค่ะ ? ”
“ได้ !”
ถังซิ่วเองก็ได้แสดงท่าทางเชิญ
ท่าเรือทรายแดง
ทอมเรกกี้กำลังปาดเหงื่อที่หน้าผากของเขาพร้อมกับมองไปที่เรือที่ลงไปในน้ำแล้วก็ทำให้เขารู้สึกโล่งใจ ทันใดนั้นเสียงเรียกเข้าก็ได้ดังขึ้น
“มีเรื่องอะไร ? ”
“บอสค่ะ คุณถังได้ชนะการพนันในบ่อนของเราเป็นเงิน1พันล้าน คุณต้องการจะจัดการเรื่องนี้อย่างไร ?”
ท่าทางของทอมเรกกี้ก็เปลี่ยนไปพร้อมกับเงียบไปครู่หนึ่ง
เขาไม่ได้บอกถังซิ่วและโม่อาเหวินว่าโรงแรมแห่งนั้นเป็นของเขาเพราะเขาถือหุ้นอยู่ 51 % ดังนั้นถังซิ่วก็ไม่น่าจะจงใจชนะเงินพนันจากบ่อนของเขา
และ
เขาเองก็รู้สึกสงสัยถึงสถานะของถังซิ่วเป็นอย่างมากเพราะการที่จะทำให้โม่อาเหวินเป็นลูกน้องนั้นก็แสดงให้เห็นว่าถังซิ่วมีเบื้องหลังที่ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน เขารู้จักโม่อาเหวินที่แข็งแกร่งกว่าเขาดีซึ่งก่อนหน้านี้พวกเขาเป็นเพื่อนที่สนิทสนมกันและพวกเขาก็มีความแข็งแกร่งเท่าๆกันทว่าไม่กี่มีมานี้โม่อาเหวินเองก็ยิ่งแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆจนถึงขั้นที่เขาไม่สามารถสู้ได้เลยแม้แต่น้อย
ยิ่งไปกว่านั้น
เมื่อตอนที่เขาได้เห็นถังซิ่วในวันนี้ก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายคล้ายๆกับโม่อาเหวินแบบลางๆจากตัวของถังซิ่วซึ่งทำให้เขารู้สึกใจสั่นเล็กน้อย
เขาสามารถตัดสินได้ทันทีว่าฝ่ายตรงข้ามนั้นเป็นคนที่แข็งแกร่งอย่างแน่นอน
พันล้านนั้นเป็นอะไรที่เขาไม่ค่อยสนใจนักแต่สิ่งที่เขาสนใจคือความสัมพันธ์กับโม่อาเหวินและสถานะของถังซิ่ว
ทอมเรกกี้ที่ได้เงียบไป30วินาทีนั้นก็ได้พูดออกมาช้าๆว่า
“เอาเงินให้เขา หากว่าเขายังอยากจะเล่นต่ออีกก็ให้เขาเล่นไป ”
“บอสจะไม่ปรึกษากับผู้ถือหุ้นคนอื่นๆก่อนงั้นหรอค่ะ ? ”
คิ้วของอ้ายโม่ลี่เองก็ได้ขมวดเข้าหากันก่อนที่จะถามออกมา
ทอมเรกกี้เองก็ได้ตอบกลับไปด้วยเสียงทุ้มต่ำว่า
“ฉันจะบอกพวกเขาเองและเงินรางวัลที่ให้ไปจะเป็นเงินในส่วนของฉันทั้งหมด”
หัวใจของอ้ายโม่ลี่เองก็กระสับกระส่ายทันที เธอรู้สึกตกตะลึงอย่างมากเพราะเธอไม่คิดเลยว่าบอสจะตัดสินใจแบบนั้น
ถังซิ่วมีสถานะอะไรกันแน่ ?
สามารถทำให้บอสถึงกับทิ้งเงินได้ถึงพันล้าน
“ฉันเข้าใจแล้วค่ะบอส ! ”
อ้ายโม่ลี่เองก็ได้ปฏิบัติตามพร้อมกับรีบเดินกลับไปยังห้องวีไอพีทันที รอยยิ้มของเธอได้มีมากขึ้นพร้อมกับท่าทางเคารพของเธอ
“คุณถังค่ะ บอสของเราได้บอกมาแล้วว่าหากคุณยังต้องการที่จะเล่นต่อก็ไม่เป็นไรค่ะยิ่งไปกว่านนั้นเราจะส่งเงินจำนวน1พันล้านเข้าบัญชีของคุณทันที ”
“อะไรนะ ? ”
เท็กเกอร์เองถึงกับสั่นด้วยความรู้สึกไม่อยากจะเชื่อ เขามองไปที่ถังซิ่วด้วยความรู้สึกหวาดกลัวเพราะไม่คิดว่าบอสของเขาจะให้เงินฝ่ายตรงข้ามอย่างเชื่อฟัง เด็กหนุ่มคนนี้…….เขามีเบื้องหลังที่น่ากลัวขนาดไหนกัน ?
ถังซิ่วเองก็ได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า
“หลังจากนี้ก็ไปหาโม่อาเหวินเพื่อโอนเงินไปให้เขาแล้วกัน ! ฉันไม่อยากจะเล่นพนันต่อแล้ว ช่วยฝากข้อความไปถึงทอมเรกกี้ด้วยว่า เขาเป็นคนที่ดีมาก ”
“ได้เลยคะ”
อ้ายโม่ลี่เองก็ได้พยักหน้าด้วยรอยยิ้ม
ทันใดนั้นเธอก็ได้พูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลว่า
“คุณถังค่ะ ในเมื่อคุณชอบการพนันงั้นทำไมไม่อยู่รอดูการแข่งพนัน ? หนึ่งในพวกเขาเองก็มาจากประเทศเดียวกับคุณนะ ”
การพนัน ?
ก่อนหน้านี้ถังซิ่วเองก็ได้ยินเรื่องนี้มาจากเฒ่าอ้วนหลี่แล้วซึ่งในตอนนี้มันกระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นของเขาเช่นเดียวกัน
เฒ่าอ้วนหลี่ในตอนนี้เองก็ยิ่งสงสัยถึงสถานะของถังซิ่วมากขึ้น หากว่าที่นี่ไม่ได้มีเท็กเกอร์และอ้ายโม่ลี่อยู่แล้วล่ะก็ เขาก็คงจะกระโจนเข้าไปถามถังซิ่วแล้ว เมื่อเขาได้ยินคำพูดของอ้ายโม่ลี่นั้นก็ถึงกับทำให้ดวงตาของเขาเปล่งประกายก่อนที่จะพูดออกมาอย่างรวดเร็วว่า
“น้องถัง การแข่งขันพนันนี้หาดูได้ยากมากๆนะ ยิ่งไปกว่านั้นคือขวินเชิงฉานคนนั้นด้วย การที่เขาจะเข้าร่วมนั้นหาได้ยากยิ่งนัก เราจะอยู่รอดูกันไหม ? ”
ถังซิ่วเองก็ได้คิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะพูดออกมาขณะพยักหน้าว่า
“งั้นรอดูก็ได้ !”
อ้ายโม่ลี่เองก็ได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า
“ยังเหลือเวลาอีกครึ่งชั่วโมงก่อนที่การพนันจะเริ่มขึ้น พวกคุณทั้งสองไปหาอะไรทานกันก่อนไหมค่ะ ? ฉันจะได้ให้คนครัวจัดเตรียมให้”
ถังซิ่วเองก็นึกได้ว่าตัวเองมีนัดทานอาหารค่ำกับทอมเรกกี้จึงได้ส่ายศีรษะทันทีก่อนที่จะพูดว่า
“ช่างมันเถอะ ยังไงก็เหลือเวลาอีกครึ่งชั่วโมงดังนั้นฉันจะไปเล่นกับเฒ่าอ้วนหลี่ก่อนแล้วกัน”
“เอางั้นก็ได้ค่ะ ”
อ้ายโม่ลี่เองก็ได้พูดออกมาว่า
“หลังจากที่การพนันจะเริ่มแล้วฉันจะส่งคนไปเชิญคุณมาที่ห้องวีไอพีนะคะ ”
ขณะที่อ้ายโม่ลี่และเท็กเกอร์ได้เดินออกไปนั้นเฒ่าอ้วนหลี่เองก็ได้พูดออกมาอย่างจริงจังว่า
“น้องชายถัง ฉันอุส่าเชื่อใจนายนะ นายยังกั๊กอะไรไว้จากฉันอีก ? บอกมาสิว่านายเป็นใครกันแน่ ? ทำไมบอสของที่นี่ถึงได้กลัวนายกัน ? ”
ถังซิ่วเองก็ได้พูดออกมาว่า
“ฉันได้บอกไปแล้วไงว่าบอสของที่นี่นั้นเป็นเพื่อนตายกับลูกน้องของฉัน ”
เฒ่าอ้วนหลี่เองก็ได้ส่ายศีรษะก่อนที่จะพูดออกมาว่า
“ในสังคมสมัยนี้นั้นคงจะมีน้อยมากที่เพื่อนจะให้เงินกันถึง1พันล้าน”
ถังซิ่วอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาแล้วพูดว่า
“งั้นหากว่านายมีเพื่อนตายนั้นและเขาต้องการเงิน1พันล้าน นายจะให้เขาไหม ? ”
“แน่นอน !”
เฒ่าอ้วนหลี่เองก็ได้ตอบกลับอย่างไม่ลังเลแม้แต่น้อย
ทันใดนั้นท่าทางของเขาก็เปลี่ยนไปก่อนที่จะยิ้มออกมาอย่างขมขื่นแล้วพูดว่า
“ช่างมันเถอะ ในเมื่อนายไม่อยากจะพูดฉันก็จะไม่ถามอีกแล้ว อย่างไรก็ตามฉันจะคิดว่านายเป็นนักศึกษาที่มาพักผ่อนและการที่เราได้รู้จักกันครั้งแน่นี้เป็นสิ่งที่บริสุทธิ์แล้วกัน”
ถังซิ่วเองก็ได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้มจางๆว่า

“ใช่แล้วมันบริสุทธิ์ อย่างไรก็ตามฉันจำได้ว่ามันมีใครบางคนที่จะแข่งพนันกับฉันหนิ หรือว่านายยอมแพ้แล้ว ? แน่นอนว่านายเป็นคนที่ตรงไปตรงมาดังนั้นการที่จะพูดยอมแพ้ออกมาตรงๆก็คงจะไม่เป็นอะไรใช่ไหม ?”