…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ขณะที่แสงรุ่งอรุณที่สดใสได้สาดส่องลงมายังโลกนั้น
9โมงเช้า ถังซิ่วได้มาที่สนามบินพร้อมกับพี่น้องโม่เพราะพวกเขาได้จองตั๋วรอบ9.30เอาไว้และเหลือเวลาอีกเพียงครึ่งชั่วโมงเท่านั้น หากว่าจะไปยังเกาะเก้ามังกรนั้นจะต้องเดินทางไปยังเกาะไซปันก่อนที่จะนั่งเรือไปยังเกาะเก้ามังกร
ถังซิ่วกำลังถือกระเป๋าที่บรรจุไปด้วยหนังสือมากมายอาทิเช่น บทความเกี่ยวกับธุรกิจ นาโนเทคโนโลยี บทความเกี่ยวกับเลเซอร์พร้อมกับตำราจักรพรรดิเหลือง
ไม่นานมานี้ถังซิ่วเองก็ได้สนใจเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเป็นอย่างมากเพราะที่ดินแดนแห่งนิรันด์นั้นไม่ได้มีของที่ทันสมัยเช่นนี้ทว่าแต่ละที่เองก็มีความโดดเด่นของตัวมันเอง
ถังซิ่วตั้งใจที่จะมั่นใจถึงสิ่งที่ตัวเองคิดเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีและสิ่งที่ทำให้เขารู้สึกพึงพอใจก็คือเขาได้รู้ว่าความก้าวหน้าของมันนั้นมีเยอะมากอย่างเช่นหลักการความรู้พื้นฐานธรรมดาๆนั้นกลับมีกฎที่ลึกลับมากมาย
เป็นการฆ่าเวลา
ทั้งสามคนได้ขึ้นไปบนเครื่องก่อนที่จะเดินทางไปยังเกาะไซปัน ระหว่างที่เครื่องบินกำลังเคลื่อนที่นั้นฉากรอบข้างเองก็ทำให้ถังซิ่วรู้สึกผ่อนคลายอย่างเคย อากาศที่บริสุทธิ์ ท้องฟ้าสีคราม
“บอสครับ เราจะนั่งเรือไปยังเกาะเก้ามังกรทันทีเลยหรือไม่ ? หรือว่าเราจะพักผ่อนที่นั่นชั่วคราว ? ”
โม่อาเหวินเองก็รู้จักกับที่นี่ดีดังนั้นจึงได้เอ่ยปากถามถังซิ่ว
ถังซิ่วได้ตอบกลับไปว่า
“ไปหาเช่าเรือแล้วจะเราตรงไปยังเกาะเก้ามังกรทันที !”
“ครับผม !”
โม่อาเหวินเองก็ได้หยิบโทรศัพท์ออกมาพร้อมกับโทรไปยังเบอร์หนึ่งโดยทันที
หลังจากผ่านไปไม่กี่นาที
โม่อาเหวินเองก็ได้วางสายพร้อมกับมองไปที่ถังซิ่วแล้วพูดว่า
“บอสครับ เรือของเราได้จองไว้ที่ท่าเรือทรายแดงเรียบร้อยแล้วแต่ว่าก่อนที่เราจะเริ่มออกเดินทางนั้นจำเป็นต้องซื้อสิ่งของจำเป็นบางอย่างก่อนเพราะกว่าจะไปถึงเกาะเก้ามังกรก็ใช้เวลาอย่างน้อยถึงสองวัน”
ถังซิ่วนั้นไม่ต้องการที่จะสนใจเรื่องเล็กน้อยเหล่านี้พร้อมกับโบกแท๊คซี่ข้างทางแล้วพูดว่า
“นายไปจัดการแล้วกัน”
ทันใดนั้นเขาก็ได้พูดภาษาอังกฤษออกมาว่า
“ลูกพี่ ไปที่ท่าเรือทรายแดง”
ท่าเรือทรายแดง
ชายรูปร่างสูงใหญ่ชื่อว่า ทอมเรกกี้กำลังนั่งสูบซิการ์ เขาสวมหมวกกันแดดพร้อมกับใส่กางเกงในสีแดงและรองเท้าแตะขณะที่กำลังตะโกนไปทางชายฝั่งว่า
“เร็วๆหน่อยได้ไหม ทำงานเหมือนกับผู้หญิงเลยนะ รีบๆเตรียมตัวลงทะเลได้แล้วเพราะวันนี้ฉันกำลังอารมณ์ดี ฉันจะเตะไข่มันให้แตกเลยหากใครกล้าทำให้ฉันอารมณ์เสีย ”
ที่ชายหาด
ชายรูปร่างกำยำกว่าร้อยคนกำลังดึงเรือลำใหญ่ลงไปในน้ำ มันมีความยาวกว่า80เมตรและดูหรูหราเป็นอย่างมาก
“บอสครับ มีคนมาที่นี่ครับ”
ชายคนหนึ่งได้มาถึงตรงหน้าของทอมเรกกี้พร้อมกับพูดออกมาด้วยความเคารพ
ทอมเรกกี้เองก็ได้หันหน้ากลับไปพร้อมกับมองไปที่ผู้คนที่อยู่ห่างออกไปหลายเมตรก่อนที่สายตาของเขาจะไปหยุดอยู่ที่โม่อาเหวินแล้วก็ได้โบกมือไปทางเขา
โม่อาเหวินเองก็ได้โบกมือตอบรับเช่นเดียวกัน
“ไง……พวก ไม่ได้เจอกันมา8ปีได้แล้วไหมเนี่ย ? ”
ทอมเรกดกี้เองก็ได้พูดภาษาอังกฤษออกมาอย่างคล่องแคล่ว
โม่อาเหวินเองก็ได้ตอบกลับด้วยรอยยิ้มว่า
“ใช่แล้ว 8ปี6เดือน ฉันคิดว่านายจะตายไปแล้วเสียอีก ไม่คิดเลยว่าจะยังมีโอกาสได้เจอกันอีกนะ ฉันล่ะประหลาดใจจริงๆ”
ทองเรกกี้เองก็ได้พูดออกมาขณะที่หัวเราะว่า
“ที่ประเทศของนายเองก็มีคำพูดนี้อยู่ไม่ใช่หรอ ? คนดีนั้นจะอายุยืนแต่คนชั่วนั้นจะอายุยืนกว่าเป็นแสนๆปี ดูเหมือนว่าฉันจะเป็นพวกคนชั่วสินะ ! นี่คือ……..บอสใหญ่ของนาย ? ”
โม่อาเหวินเองก็ได้ตอบกลับไปว่า
“นี่คือบอสของฉัน”
ถังซิ่วได้ยื่นมืออกไปจับมือกับเขาก่อนที่จะพูดออกมาว่า
“ฉันชื่อว่าถังซิ่ว”
ทอมเรกกี้เองก็ได้จับมือกับถังซิ่วก่อนที่จะพูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า
“คุณถัง ฉันล่ะนับถือคุณจริงๆที่สามารถทำให้โม่อาเหวินไปเป็นลูกน้องได้ ฉันล่ะสงสัยจริงๆว่าคุณมีดีอะไร ? หรือว่าเรามาลองประลองกันหน่อยไหม ? ฉันแข็งแกร่งมากๆนะ ”
โม่อาเหวินได้พูดขึ้นว่า
“บอสครับ เขาเป็นคนที่แข็งแกร่งมากเพราะเขาสามารถฆ่าช้างแอฟริกาด้วยมือเปล่าได้ ”
ถังซิ่วเองก็ได้ส่ายศีรษะก่อนทีจะพูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า
“อยากจะประลองกับฉันนั้นก็ต้องเตรียมใจที่จะตายเอาไว้ก่อน หากว่าต้องการก็สามารถลองได้เลยนะตอนนี้ !”
“ไม่ ไม่ ไม่ ไม่ เราเป็นเพื่อนกันแล้วจะต่อสู้กันจนตายไปเพื่ออะไรล่ะอย่าว่าแต่เรื่องที่โม่อาเหวินนั้นเป็นเพื่อนของฉันเลย นายเป็นบอสของเขาและหากว่าฉันฆ่านายตายก็รับรองได้เลยว่าเขาจะต้องเอาคืนชั้นอย่างสุดกำลัง หากว่าให้พูดกันตรงๆคือฉันไม่ใช่คู่มือของเขา”
ทอมเรกกี้เองก็ได้โบกมือก่อนที่จะพูดซ้ำๆ
โม่อาเหวินได้ตอบกลับไปอย่างสงบว่า
“ทอมเรกกี้ ฉันไม่ใช่คู่มือของบอส”
“อะไรนะ ?”
ท่าทางของทองเรกกี้เองก็ชะงักโดยทันทีพร้อมกับความรู้สึกที่ไม่อยากจะเชื่อ จากนิสัยของโม่อาเหวินแล้วก็น่าจะไม่ใช่เรื่องโกหก แสดงว่าเด็กหนุ่มคนนี้แข็งแกร่งขนาดนั้นเลยหรอ ?
ถังซิ่วก็ไม่อยากจะพูดถึงเรื่องนี้ต่อไปจึงได้มองไปที่ชายฝั่งก่อนที่จะถามว่า
“นั่นคือลำที่เราเช่างั้นหรอ ? ”
ทองเรกกี้เองก็ได้พยักหน้าพร้อมกับตอบไปว่า
“ใช่แล้ว มันเพิ่งจะนำมันออกมาเมื่อสักครู่เพราะมันถูกส่งมาเมื่อวานนี้ ลูกเรือเองก็ได้รับการอบรมแล้วซึ่งพวกเขาสามารถควบคุมเรือได้อย่างแน่นอน คนอื่นๆเองก็ได้มาถึงแล้วเราสามารถออกเรือได้ทุกเมื่อ”
ถังซิ่วเองก็ได้ขมวดคิ้วเข้าหากันก่อนที่จะถามออกมาว่า
“ออกเรือวันนี้ไม่ได้งั้นหรอ ? ”
ทอมเรกกี้ได้ยักไหล่พร้อมกับพูดว่า
“วันนี้ออกเรือไม่ได้เพราะเราได้รับรายงานมาว่าจะเกิดคลื่นสึนามิขนาดย่อมตอนพรุ่งนี้เช้าดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันอันตรายเราจึงขอให้นายรอก่อน ”
สึนามิ ?
ถังซิ่วได้เงียบไปครู่หนึ่งก่อนที่จะพยักหน้าแล้วพูดอย่างช้าๆว่า
“ในเมื่อเป็นเช่นนั้นก็คงต้องรอไปก่อนสินะ อาเหวิน ไปหาที่พัก ”
ทอมเรกกี้เองก็ได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า
“ฉันได้จัดการเรื่องที่พักไว้ให้แล้วซึ่งมันอยู่ไม่ไกลจากที่นี่ งานเลี้ยงต้อนรับเองก็ถูกจัดเตรียมไว้เช่นเดียวกัน”
ถังซิ่วเองก็ได้แสดงท่าทางมีความสุขออกมาก่อนที่จะพูดว่า
“ขอบคุณมากๆ”
ทอมเรกกี้ได้ตอบกลับไปว่า
“ไม่จำเป็นต้องสุภาพไปหรอก ฉันติดหนี้ชีวิตอาเหวินตั้งหลายครั้งดังนั้นขอฉันสั่งการพวกเขาก่อนนะแล้วจะให้คนของฉันพาพวกนายไปที่โรงแรมเอง”
ระหว่างทางที่กำลังเดินไปโรงแรมนั้นถังซิ่วก็ได้ถามออกมาว่า
“พวกนายเป็นสหายกันงั้นหรอ ? ”
โม่อาเหวินเองก็ได้พยักหน้าก่อนที่จะตอบกลับไปว่า
“ก่อนหน้านี้ได้ทำงานในองกรเดียวกันครับ ผมและเขาเองก็ได้ทำภารกิจร่วมกันหลายอย่างซึ่งมันเป็นภารกิจที่อันตราย เราทั้งคู่เองก็สู้เคียงบ่าเคียงไหล่กันแทบตาย นอกเหนือจากคนของห้องอาหารแล้วผมก็เชื่อใจเขามากที่สุด จริงๆแล้วผมเองก็ต้องการที่จะชวนเขาเข้ามาเป็นคนของเราทว่าเขากลับปฏิเสธ”
ถังซิ่วได้พยักหน้าก่อนที่จะพูดออกมาว่า
“คนแต่ละคนเองก็มีความทะเยอทะยานที่แตกต่างกัน ดูเหมือนว่าชีวิตของเขาจะเป็นไปได้ด้วยดีนะ”
โม่อาเหวินได้พูดออกมาว่า
“บอสครับ ถึงแม้ว่าผมจะไม่ได้พบกับเขามาถึง8ปีทว่าผมก็ยังรู้ถึงข่าวของเขา ผมรู้มาว่าไม่กี่ปีก่อนเขาอยู่ในช่วงที่ไม่ดีนักเพราะได้ไปล่วงเกินเจ้าถิ่นของที่นี่เข้าซึ่งอำนาจของฝ่ายตรงข้ามเองก็ใหญ่มากๆ มันส่งคนจำนวนมากเพื่อมาสังหารเขาในเวลาสองปี ก่อนหน้านี้ผมก็คิดว่าเขาตายไปแล้วแต่ไม่นึกเลยว่าเขาจะกลับมาที่นี่เงียบๆพร้อมกับฆ่าศัตรูของเขาไปแล้วโดยใช้ขุมอำนาจอื่นๆ หลังจากที่พวกเขาได้เข้าปะทะกันแล้วก็ทำให้อีกฝ่ายถูกล้างบางซึ่งเป็นเหตุให้เขาสามารถอยู่ที่นี่ได้อย่างมั่นคง”
ถังซิ่วก็ได้พูดออกมาด้วยความรู้สึกสงสัยว่า
“ในเมื่อเขาเป็นเพื่อนตายกับนายซึ่งนายเองก็รู้ถึงสถานการณ์ของเขาแล้วทำไมนายถึงไม่ยื่นมือเข้ามาช่วยล่ะ ?”
โม่อาเหวินเองก็ได้ตอบกลับไปว่า
“ชีวิตของเขาก็ต้องดูแลด้วยตัวเอง หากว่าเขาตายผมก็จะไปล้างแค้นให้กับเขาแต่เขาก็จะต้องฝ่าฝันโลกนี้ไปด้วยความสามารถของตัวเองและยิ่งไปกว่านั้นคือผมเป็นคนของห้องอาหารร้อยงานฉลองซึ่งไม่วามารถนำพาความหายนะไปสู่ครอบครัวได้”
ถังซิ่วได้พยักหน้าช้าๆก่อนที่จะพูดว่า
“ดูเหมือนว่าหยานเอ๋อจะฝึกคนมาได้ดีเหมือนกันหนิ”
โม่อาเหวินเองก็ได้พูดออกมาว่า
“พวกเราเป็นเด็กที่บอสเลี้ยงมาตั้งแต่ยังเล็ก เธอได้ช่วยชีวิตเราไว้จากเหล่าพ่อค้าทาส ให้สิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวัน ใช้แรงกายมากมายเพื่อฝึกพวกเราดังนั้นชีวิตของพวกเราเป็นของห้องอาหารร้อยงานฉลอง”
ถังซิ่วได้เงียบไป
เขาเองก็ได้เคยฝึกคนมามากมายทว่าคนที่เหลือรอดนั้นมีไม่มากนัก พวกเขาเหล่านี้มักหลบซ่อนอยู่ในดินแดนแห่งนิรันด์และไม่เปิดเผยตัวตนนัก มีแต่ช่วยหลายร้อยปีเท่านั้นที่พวกเขาจะออกมาเพื่อมาเยี่ยมเขา
ยิ่งคนเยอะก็ยิ่งแข็งแกร่ง
ณ ตอนนี้เจาเข้าใจแล้วว่าการกระทำก่อนหน้านี้นั้นผิดพลาดและตัดสินใจว่าตัวเองจะต้องฝึกผู้เชี่ยวชาญซึ่งมีความภัคดีเป็นจำนวนมาก
โรงแรมไซปัน
หลังจากที่ถังซิ่วได้มาถึงที่แห่งนี้ หญิงสาวที่ทอมเรกกี้ได้เตรียมเอาไว้ก็ได้ยืนรอพวกเขาอยู่ก่อนแล้ว
“คุณคือคุณถัง ? ”
อ้ายโม่ลี่ที่สวมรองเท้าส้นสูงหลายเซนติเมตรได้เดินเข้ามาพร้อมกับสะบัดเอวที่เรียวบางของเธอ หน้าตาและรูปร่างของเธอนั้นน่าหลงใหลเป็นอย่างมาก ผิวที่เรียบเนียนพร้อมกับผมสีบลอนด์ตาสีฟ้าซึ่งแสดงให้เห็นถึงรูปลักษณ์ของชาวต่างชาติ
“ใช่!”
ถังซิ่วได้พยัก
อ้ายโม่ลี่เองก็ได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า
“บอสของเราได้บอกมาแล้วว่าหลังจากที่คุณถังได้มาถึงก็ให้พาไปยังที่พักยิ่งไปกว่านั้นเขาเองก็ได้จัดเตรียมโปรแกรมมาให้เผื่อว่าคุณต้องการอะไรก็สามารถเลือกได้ตามใจชอบเลยเพราะค่าใช้จ่ายทุกอย่างจะถูกยกเว้น”
“โปรดนำทาง !”
ถังซิ่วเองก็รู้สึกสงสัยเรื่องตารางที่เธอพูดถึงเป็นอย่างมาก เมื่อมาถึงวิลล่าที่อ้ายโม่ลี่ได้นำทางมานั้นก็รู้ได้ทันทีว่ามันเป็นวิลล่าวิวทะเลที่งดยามที่สุด
“คุณถัง นี่เป็นโปรแกรมที่เราจัดเตรียมเอาไว้ คุณต้องการบริการแบบไหน ? สามารถเลือกได้เลย ”
อ้ายโม่ลี่ที่ดูมีความสุขนั้นก็ได้ถามออกมา
หลังจากที่ถังซิ่วได้หยิบมันมาพร้อมกับกวาดตามองตั้งแต่บนลงล่างนั้นก็ยังมีบางโปรแกรมที่เขาไม่ค่อยเข้าใจนักแต่บางสิ่งเองเขาก็เคยได้ยินมาก่อน อย่างเช่นนวดแผนไทย ดำน้ำ โต้คลื่น
“มานวดแผนไทย ! ชื่อ เสียงทำนองของ7เทพนี้ฟังดูน่าสนใจดีหนิ เอาไอ้นี่ด้วยส่วนอย่างอื่นฉันไม่สนใจ ”
เมื่อถังซิ่วพูดจบแล้วจึงได้ส่งรายการไปให้โม่อาเหวินพร้อมกับพูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า
“เราถือว่าเรามาผักผ่อนแล้วกัน นายก็เลือกอย่างที่ต้องการเถอะ”
เมื่อโม่อาเหวินได้ยินว่าถังซิ่วเลือกเสียงสำทองของ7เทพนั้นก็ทำให้เขารู้สึกมีความสุขเป็นอย่างมากอย่างไรก็ตามเขาได้ยื่นรายการไปให้โม่อาหวูก่อนที่จะพูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า
“บอสครับ ผมไม่ค่อยสนใจในโปรแกรมพวกนี้ยิ่งไปกว่านั้นที่นี่อยู่นอกเขตของเราดังนั้นผมจ้องดูแลรักษาความปลอดภัยของคุณ อาหวูนั้นชอบของแบบนี้มากดังนั้นคุณควรจะให้เขาเลือก”
โม่อาหวูเองก็ไม่ได้ปฏิเสธพร้อมกับเลือกหลายๆโปรแกรม
อ้ายโม่ลี่มองไปที่ถังซิ่วด้วยดวงตาเหมือนพระจันทร์เสี้ยวก่อนที่จะพูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า

“คุณถัง โปรดตามฉันมา ส่วนคุณอาหวูนั้นเดี๋ยวจะมีคนมาทำทางคุณไปเอง”