Note
อาจารย์
ฮั่นชิงหวู (อาจารย์ประจำชั้นห้องสิบ)
เหว่ยเซนไต (ครูใหญ่โรงเรียน)
เซี่ยหมิงจี้ (อาจารย์สอนวิทยาศาสตร์ห้อง 5 )
ฮูฉิวเชง (ครูประจำชั้นห้อง 5) (ก่อนที่ถังซิ่วจะโดนย้ายไปห้องสิบ)
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ถังซิ่วกำลังนั่งนิ่งอยู่โต๊ะที่ห้องเรียนของเขาในโรงเรียน พร้อมสีหน้าที่น่าหวังเป็นอย่างมาก
ผ่านค่ำคืนแห่งความพยายาม, แม้ว่าถังซิ่วจะสามารถหาสมุนไพรกับแร่ธาตุล้ำค่าที่จำเป็นในการสร้าง น้ำยาปรับสภาพร่ายกายได้นั้น เขาก็ไม่อาจพบร่องรอยของสัตว์อสูรใดๆเลย ,ดังนั้นเขาเลยไม่มีความคิดว่าจะหาแก่นวิญญาณและเครื่องในของสัตว์อสูรเหล่านี้ได้จากที่ไหน (blood essence แต่ถ้าแปลเป็น แก่นเลือดมันดูแหม่งๆ )
“อาจเป็นได้ว่า เพราะพลังวิญญาณของโลกนี้นั้นเบาบางจนเกินไป มันทำให้สัตว์อสูรเกิดการสูญพันธุ์”
ใบหน้าของถังซิ่วเปลี่ยนไปเป็นซีดเซียวเมื่อคิดถึงความเป็นไปได้นี้
แม้ว่าน้ำยาแปลสภาพร่างกายนั้นจะสามารถสร้างได้โดยไม่ต้องใช้อวัยวะภายในของสัตว์อสูร แก่นวิญญาณ หรือ เส้นเอ็นแต่ว่าผมของน้ำยาแปลสภาพนั้นจะลดลงอย่างมาก รวมไปถึงการเพิ่มอันตรายในการบ่มเพาะพลังของถังซิ่วอีกด้วย
และตั้งแต่ที่เขาไม่สามารถหาส่วนประกอบของสัตว์อสูรพวกนี้ได้แล้วนั้น ซักวันหนึ่งเขาก็อาจจะไม่สามารถหาพวกสมุนไพรหรือแร่ล้ำค่าได้อีกต่อไปเหมือนกัน นั้นมันเท่ากับว่าเขาไม่สามารถที่จะบ่มเพาะวิชาเชื่อมต่อศิลปะแห่งสวรรค์ได้
“ไม่เป็นไร ,ฉันต้องพบสิ่งทดแทนในการสร้างน้ำยาแปลสภาพนี้, ดินแดนแห่งนิรันดร์นั้นมีข้อได้เปรียบของมัน โลกนั้นก็ต้องมีอยู่บ้างแหละ, วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีบนโลกมีการพัฒนาอย่างมากและฉันไม่เชื่อว่าฉันจะไม่สามารถแก้ปัญหานี้ได้ในการเพาะปลูกพลัง! ”
แสงไฟที่สุกใสกระปรี้กระเปร่าในดวงตาของถังซิ่วนั้น ประกายระยิบระยับอย่างช้าๆก่อนที่เขาจะเผยรอยยิ้มอย่างมั่นใจ
“ถังซิ่ว ครูฮั่นต้องการให้นายไปที่ห้องประชุม”
เสียงคมชัดดังมาใกล้หูของเขาขณะที่ถังซิ่วยังคงจมอยู่ในห้วงความคิดของเขา
ถังซิ่วเงยหน้าขึ้นและพบว่า เฉิงเยี่ยนหนานไม่รู้ว่ามายืนข้างเขาตอนไหนพร้อมเอ๋ยปากตอบ
“ขอบคุณที่บอกนะ ฉันจะไปที่นั่นทันที”
ถังซิ่ว เข้าใจได้ทันทีว่าเขากำลังจะต้องเจอกับปัญหาบางอย่าง ในขณะที่เขาพยักหน้าให้เฉิงเยี่ยนหนาน ก่อนที่เขาจะลุกขึ้นและออกไป
มองที่หลังของถังซิ่ว ที่กำลังเดินออกไปแล้ว ริมฝีปากของเฉิงเยี่ยนหนานกระตุก ขณะที่เธอดูเหมือนจะอยากพูดอะไรออกมา แต่ก็ลังเล
เฉิงเยี่ยนหนานเพิ่งออกมาจากห้องประชุม เธอรู้อยู่แล้วว่าถังซิ่วถูกเรียกโดยครูฮั่น ไปเพราอะไร
“คะแนนของนายนั้นอยู่ท้ายสุดเสมอ อย่างมากผู้คนก็แค่จะเยาะเย้ยนาย นายไม่มีอะไรจะเสียอยู่แล้ว ทำไมนายถึงเลือกที่จะโกงข้อสอบ ?”
หลังจากที่ถังซิ่วเดินจากไป เธอได้แต่กระซิบด้วยเสียงนุ่ม ๆ
ฉากที่เฉิงเยี่ยนหนานเพิ่งเห็นนั้นทำให้เธอกลัวจริงๆ ครูทั้งหมดในชั้นปีที่สามจะมารวมตัวกัน แต่ยังมีครูใหญ่รองครูใหญ่และอีกหลายคนจากฝ่ายบริหารของโรงเรียนเพื่อชี้แจงว่าถังซิ่วนั้น ได้โกงจริงหรือไม่ในการสอบรายเดือนครั้งล่าสุด
ครูเกือบทุกคนในออฟฟิศเชื่อว่าถังซิ่วโกงการสอบรายเดือน เนื่องจากคะแนนเขาเกินความจริงไปมาก จากคะแนนเต็ม 750 คะแนน เขาได้คะแนน 712 โดยไม่คาดคิด ซึ่งสิ่งที่น่าสงสัยกว่าเดิมคือหยานเจียง ซึ่งเป็นที่หนึ่งในเดือนก่อนหน้านี้โดนทิ้งห่างคะแนนไปไกลโดยถังซิ่ว ซึ่งเป็นอันดับที่ท้ายที่สุดในทั้งชั้นปี
เฉพาะครูห้องสิบซึ่งก็คือฮั่นชิงหวู คนเดียวเท่านั้นที่เชื่อมั่นว่าถังซิ่วไม่ได้โกงการสอบ เธอไม่ได้ลังเลที่จะทะเลาะกับครูคนอื่นๆ ซึ่งเกือบจะทำให้เธอหน้าแดงขึ้นด้วยความโกรธ
“ถังซิ่ว, ถังซิ่ว… ประเด็นที่นายโกงนั้นไม่สำคัญหรอกนะ แต่นายอย่าลากครู ฮั่น เข้าไปในหลุมอย่างน่าสังเวช”
เฉิงเยี่ยนหนาน ขดริมฝีปากของเธอและรู้สึกผิดหวังมากกับถังซิ่ว
อย่างไรก็ตามรำลึกถึงว่าถังซิ่วที่อยู่ในห้องสิบ เพียงเดือนเดียวและใช้เวลาส่วนใหญ่นั่งอยู่ในห้องเรียนอย่างงุนงงและเมื่อนึกถึงข่าวลือเกี่ยวกับตัวเขา เฉิงเยี่ยนหนานก็ไม่ได้ตำหนิหรือบ่น เกี่ยวกับเขา.
“ผมกล้าที่จะรับรองว่าถังซิ่ว โกงการทดสอบรายเดือนครั้งนี้ ถ้าเขาไม่โกงผมก็จะลาออกทันที ! ” (จะลาออกไหมหว่า????)
ถังซิ่วได้ยินเสียงฮูฉิงเชียง เมื่อเขามาถึงหน้าห้องประชุม
อาจจะเพราะการคำรามของฮูฉิงเชง ที่ทำให้ทั้งห้องประชุมถึงกับเงียบลง และไม่มีใครกล้าเถียงคำพูดเขา
“เฮ้ เสือแก่ฮู (ฉายามัน) คุณมั่นใจในคำพูดของคุณหรือเปล่าว่าถ้าผมไม่ได้โกง คุณจะลาออก ? “
เมื่อฮูฉิงเชงคิดว่าเขาได้ชัยชนะครั้งนี้แล้ว ก็มีเสียงที่ชัดเจนดังตามมาทันทีพร้อมประตูถูกผลักเปิดโดยถังซิ่ว ขณะที่เขาเข้ามาในห้องประชุม
“แก…..แก……ไอเด็กอวดดี ! แกมันไม่มีความเคารพผู้หลักผู้ใหญ่ แกไม่มีความเคารพต่อครูตัวเอง คนอย่างแกจะสามารถที่จะได้คะแนนสูงสุดในการทดสอบได้อย่างไร? ”
เมื่อได้ยินคำนั้นของถังซิ่ว , ฮูฉิวเชงโกรธขึ้นทันที ในขณะที่เขากระโดดขึ้นจากเก้าอี้และชี้ไปที่หน้าของถังซิ่วและสาปแช่งว่า
” ถ้า แกสามารถพิสูจน์ว่าแกไม่ได้โกงในการทดสอบนี้ ฉันฮูฉิวเชง จะเปลี่ยนนามสกุลของฉันไปที่นามสกุลของแกแทน
“เสือแก่ฮู ผมต้องขอโทษด้วยแต่ว่าไม่มีทางเลยที่ผมจะเห็นด้วยกับคำขอของคุณ คุณต้องขอความยินยอมจากพ่อของผมก่อนเพื่อเปลี่ยนนามสกุลของคุณให้เป็นของผม! ”
เมื่อเห็นสีหน้าที่หงุดหงิดและโกรธ ฮูฉิวเชง , ถังซิ่วรู้สึกมีความสุขมาก
ถังซิ่วเคยยึดมั่นกับหลักการของเขา ว่า
“ถ้าใครเคารพเขาหนึ่งเซ็น เขาจะแสดงความเคารพกลับไป 10 เมตร ” ทว่าหากมีใครทำลายข้าวของของเขาซักถุงนึง เขาก็จะปล้นมันกลับมา 3 ถัง ”
เมื่อ ฮูฉิวเชงว่าร้ายเขาและแม่ของเขาแถมยังพยายามจะไล่เขาออกจากโรงเรียน ความสัมพันธ์ระหว่างถังซิ่วและฮูฉิวเชงในฐานะครูและนักเรียนได้สิ้นสุดลงแล้ว เขาไม่ได้มีความเคารพต่อฮูฉิวเชง เหลืออยู่มากนัก และนี่ก็สะท้อนให้เห็นถึงคำหยาบและความไม่เคารพของเขา
คำพูดของถังซิ่วทำให้ทุกคนในออฟฟิศไม่สามารถหยุดยิ้มได้ อย่างไรก็ตามเมื่อพวกเขาเห็นดวงตาของฮูฉิงเชง ที่ดูเหมือนจะถูกเผาด้วยเปลวเพลิง พวกเขาก็หยุดอารมณ์ขำทันที
“ถังซิ่วนายหุบปากเดี๋ยวนี้! วันนี้เราเรียกนายมาที่ห้องนี้เพื่อให้นายมีโอกาสพิสูจน์ความบริสุทธิ์คุณ ถ้านายยังพูดมากอีกเช่นนี้ ฉันจะไล่นายออกไป! ”
เมื่อได้เห็นท่าทางของฮูฉิวเชงที่กำลังจะโกรธจัด ฮั่นชิงหวูก็รีบหยุดถังซิ่วและตะโกนดังขึ้น
“ครูฮั่น ผมขอโทษ ผมหุนหันพลันแล่นเกินไปหน่อย ”
หลังจากที่ถูกฮั่นชิงหวูตะโกนใส่ เขาไม่ได้มีความรู้สึกโกรธต่อฮั่นชิงหวู แต่กลับรู้สึกขอบคุณ
จริงๆหลังจากที่ได้เห็นความเกรี้ยวกราดของถังซิ่ว เมื่อสักครู่ที่ผ่านมา ทำให้ทุกคนในออฟฟิศรู้สึกขุ่นเคืองและหมดความประทับใจต่อถังซิ่ว เป็นอย่างมาก
แต่เมื่อจู่ ๆ พวกเขาก็เห็นถังซิ่วนอบน้อมต่อฮั่นชิงหวู พวกเขากลับรู้สึกว่าต้องประเมินถังซิ่ว ใหม่อีกครั้ง
ทุกคนพบว่าแม้ถังซิ่ว จะสวมเสื้อผ้าธรรมดาๆ แต่ก็สะอาดและเป็นระเบียบเรียบร้อย ผมสีดำสั้นของเขานั้นทำให้เขาดูมีชีวิตชีวามาก คู่กับดวงตาที่สว่าง จมูกโด่งและริมฝีปากบางๆ รวมถึงความสูงที่ถือว่าดี มันทำให้รู้สึกถึงรูปลักษณ์ที่ดีและความมีเสน่ห์ที่งดงาม
เมื่อได้เห็นและรู้สึกถึงความสง่างามที่มองไม่เห็นและเสน่ห์ที่มั่นใจตัวเองที่ส่งออกมาจากตัวถังซิ่วแล้วนั้น พวกเขาก็ยกโทษให้กับความหยาบคายของ ถังซิ่ว เมื่อก่อนหน้านี้และไม่ได้ตำหนิเขาอีกต่อไปเพราะพวกเขารู้สึกว่าฮูฉิงเชง เป็นคนบังคับให้ถังซิ่วนั้นจนมุมและทำให้เขาต้องพูดคำเหล่านั้น
เหว่ยเซนไตจ้องมองมาที่ถังซิ่วสักครู่ แล้วพูดด้วยเสียงลึกว่า
“ถังซิ่ว, เพราะผลการทดสอบรายเดือนของเธอโดดเด่นเกินไป โรงเรียนไม่ทราบวิธีจะจัดการกับผลคะแนนของเธอ แต่ครู ฮั่นเชื่อมั่นว่าผลคะแนนของเธอเป็นจริงและถูกต้อง และเธอขอร้องเราเพื่อให้คุณมีโอกาสที่จะพิสูจน์มัน ฉันเองก็ยังต้องการให้คุณได้รับโอกาสนี้ด้วย ”
“ขอบคุณครับ, อาจารย์ใหญ่, ผมจะรับโอกาสนี้ไว้”
ถังซิ่วตอบในลักษณะที่ไม่อ่อนน้อมถ่อมตนหรือภาคภูมิใจ
“ถังซิ่ว ถ้าตอนนี้เธอยอมรับว่าเธอโกง เราสามารถยกโทษให้เธอได้ แต่ถ้าเธอไม่สามารถพิสูจน์ได้โดยการสอบใหม่และเมื่อความจริงทั้งหมดจะถูกเปิดเผย เธอจะไม่เพียงแค่พบว่าตัวเองกำลังจะตกอยู่ในที่นั่งลำบาก แต่เธอจะลากคุณครู ฮั่น เข้าสู่ความทุกข์ทรมานด้วย ”
“ถังซิ่ว เธอไม่จำเป็นต้องทำตัวเหมือนเป็ดป่วย ที่ไม่เต็มใจที่จะยอมรับความผิดพลาด ในระยะเวลาหนึ่งปีครึ่งนี้เราอาจไม่ชัดเจนเกี่ยวกับสถานการณ์ของเธอ แต่แม้ว่าเธอจะโกงโปรดทำด้วยความรอบคอบและมีเหตุผล เมื่อเทียบกับตารางคะแนนช่วงก่อนกับคะแนนของเธอตอนนี้ที่เกือบจะได้คะแนนเต็ม เธอคิดว่าเราเป็นคนโง่หรือเปล่า? ”
“ถังซิ่ว โปรดซื่อสัตย์และเธอไม่จำเป็นต้องปกป้องตัวเองอย่างจริงจังเกินไป แม้ว่าเธอจะโกง ทุกคนก็สามารถที่จะเข้าใจถึงความรู้สึกของคุณได้ แต่ถ้าพบว่าเธอโกงและเธอไม่กล้าที่จะยอมรับ ผมว่านี่จะเป็นปัญหาต่อจริยธรรมนะ ”
…….
เมื่อเสียงถังซิ่วสงบลง ครูหลายคนในออฟฟิศก็ช่วยไม่ได้ที่จะไม่แนะนำ
คนส่วนใหญ่เป็นครูโรงเรียนมัธยมชั้นปีที่สามที่เคยสอนถังซิ่ว ความอคติของพวกเขาต่อถังซิ่วนั้น ได้รับการหยั่งรากลึกลกไปในหัวใจของพวกเขา แทนที่จะให้คำแนะนำแก่ถังซิ่ว พวกเขากลับเยาะเย้ยและเตือนเขาแทน
ฮูฉิวเชงไม่ได้พูด แต่เพียงกอดอกของเขาและจ้องมองที่ถังซิ่ว ด้วยท่าทางเยาะเย้ย
“ครูใหญู่ เหว่ย เราจะเริ่มกันได้หรือยัง ?”
ถังซิ่วไม่สนใจครูคนอื่น ๆ แต่ถามด้วยความรู้สึกเงียบสงบ
“ตั้งแต่ได้ยอมรับการทดสอบแล้ว ทุกคนหยิบกระดาษทดสอบของตัวเองออกมา ”
ภายใต้คำสั่งของเหว่ยเซนไต ครูชั้น เซี่ยหมิงจี้ได้หยิบเอกสาร 4 ฉบับที่เตรียมไว้ก่อนหน้านี้ และส่งให้กับถังซิ่ว
“ถังซิ่วถ้าเธอสามารถทดสอบได้ภายใน 4 ชั่วโมง และผลลัพธ์ของเธอผ่านเกณฑ์มาตรฐาน โรงเรียนจะยอมรับว่าผลการทดสอบรายเดือนของคุณเป็นจริงและถูกต้อง”
เซี่ยหมิงจี้อธิบายด้วยเสียงที่ชัดเจน
“ถ้าผมทำเอกสารการสอบนี้เสร็จภายในเวลาที่กำหนดและไดคะแนนดี แต่ก็ยังบางคนสงสัยว่าผมโกงหละ คุณจะทำยังไง ?” หลังจากถังซิ่ว ได้รับเอกสารการสอบนี้ เขาไม่ได้เริ่มทำทันที แต่กลับกวาดสายตาไปมองที่ ฮูฉิวเชงอย่างค่อนข้างชัดเจนราวกับว่าตั้งใจจะชี้ไปที่เขา
คำของถังซิ่วทำหน้าของฮูฉิวเชง แดงด้วยความโกรธ แม้แต่เซี่ยหมิงจี้ ก็ได้แต่ไอกลบเกลื่อน
“ฉันได้ขอร้องครูจากโรงเรียนมัธยมที่อยู่ใต้สังกัดมหาวิทยาลัยซิงหัว เพื่อรวบรวมเอกสารการสอบเหล่านี้ด้วยราคาที่สูงมาก เอกสารการสอบเหล่านี้มาถึงเมื่อ 10 นาทีก่อนที่เธอจะเข้ามา ยกเว้นครูในโรงเรียนมัธยมที่อยู่ใต้สังกัดมหาวิทยาลัยซิงหัว ที่รวบรวมเอกสารการสอบเหล่านี้ ไม่มีใครเคยเห็นเอกสารการสอบเหล่านี้อีกเลย ”
“ในตอนแรก เราตั้งใจจะใช้เอกสารการสอบเหล่านี้ในการทดสอบรายเดือนครั้งต่อไป แต่เราได้ใช้เอกสารการสอบเหล่านี้เป็นการชั่วคราวเพื่อใช้ทดสอบกับเธอ เพราะอาจารย์ฮั่น นั้นได้ดิ้นรนและขอร้องสำหรับมัน, ฉันก็ยินดีที่จะให้เธอดูเอกสารการสอบเหล่านี้ นักเรียน ถัง ซิ่ว พวกเราหวังว่าเธอจะไม่ให้เราผิดหวัง! ”
เมื่อได้เห็นฉากระหว่างถังซิ่วและฮูฉิวเชง สองคนที่เหมือนดั่งไฟและน้ำที่เข้ากันไม่ได้แล้วเหว่ยเซนไตหัวเราะอย่างขมขื่นใจ,เพื่อหลีกเลี่ยงข้อพิพาทที่จะเกิดขึ้นอีกครั้ง เขาก็ไม่มีทางเลือกนอกจากจะลุกขึ้นยืนและพูด