…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ช่วงกลางดึกแสงแห่งหมู่ดาวได้เปล่งประกายพร้อมกับลมหนาว พลังวิญญาณที่อยู่รอบๆของป่าเขาในแถบย่านชานเมืองของเมืองชิงเหอนั้นได้มีมากกว่าในใจกลางเมือง
ถังซิ่วที่กำลังนั่งขัดสมาธิพร้อมกับอาบแสงแห่งหมู่ดาว เขาได้เปิดใช้งานเทคนิคบ่มเพาะศิลปะเชื่อมต่อแห่งสวรรค์และตอนนี้เขาเองก็ได้มาถึงจุดสูงสุดของขั้นเสริมสร้างผิวหนังแล้ว เขากำลังจะตัดผ่านไปยังขั้นเสริมสร้างเลือดเนื้อได้ทุกเมื่อดังนั้นไม่ว่าทุกวันนี้เขาจะยุ่งอย่างไรแต่ก็ต้องบ่มเพาะพลังต่อไป
“ริ้งงงงงงงงงง ริ้งงงงงงงงงงง ริ้งงงงงงงงงงงงงง……….”
เสียงเรียกเข้าได้ดังขึ้นซึ่งปลุกเขาขึ้นจากการบ่มเพาะพลัง
ถังซิ่วได้หยิบโทรศัพท์ออกมาและท่าทางของเขาก็ต้องเปลี่ยนไปทันทีเมื่อได้เห็นหมายเลขผู้โทร เขาเองก็ได้ตกลงเกี่ยวกับเรื่องของหยวนเจิ้งซวนไปแล้วแต่เขาก็ไม่ได้คิดเงินจนถึงตอนนี้
“ลุงหยวน ? ”
ถังซิ่วได้พูดออกมา
เสียงของหยวนเจิ้งซวนได้ดังออกมาอย่างรวดเร็ว
“ถังซิ่ว เธออยู่ที่ไหน ? เธอไปช่วยหลิงน้อยได้ไหม ? ”
ท่าทางของถังซิ่วเปลี่ยนไปก่อนที่จะถามออกมาอย่างรวดเร็วว่า
“หยวนชูหลิง ? เกิดอะไรขึ้น ? ”
เสียงของหยวนเจิ้งซวนนั้นเบามากแต่ก็ชัดเจน
“เกิดอุบัติเหตุขึ้นในธุรกิจของฉัน ฉันไม่คิดเลยว่าพวกมันจะเล็งผลงานของเทคโนโลยีและเอกสารพวกนั้นเอาไว้ มันถึงกับกล้าซุ่มโจมตีโรงงานของฉันหลายแห่งและลักพาตัวหลิงน้อยไป พนักงานระดับสูงของฉันเองก็ตายไปสองคน คนพวกนี้มันแข็งแกร่งเกินไปฉันไม่สามารถแบกมันไหว”
ถังซิ่วได้ถามออกมาด้วยเสียงโทนต่ำว่า
“ลุงหยวน ลุงอยู่ที่ไหนกัน ? ผมจะรีบไปหาลุงทันที ”
“ถังซิ่ว เธอไม่ต้องมา พวกมันมีมากเกินไปเธอมาก็จะเอาชีวิตตัวเองมาทิ้งเปล่าๆ ”
หยวนเจิ้งซวนเองก็ได้พูดออกมาด้วยท่าทางกระวนกระวาย
ถังซิ่วได้กระโดดลงมาจากหลังคาก่อนที่จะวิ่งออกไปทันที เขาได้ถามออกมาว่า
“บอกที่อยู่มา ! เร็ว ๆ ! ”
“ร้ายขายรถมือสองที่ถูกทิ้งร้างย่านจิงเฟิง”
หยวนเจิ้งซวนเองก็ได้ลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะพูดออกมาด้วยเสียงต่ำ
ถังซิ่วเองก็ได้วางสายทันทีพร้อมกับโทรไปหาซ่งไทกุยแล้วสั่งให้เขาไปที่นั่นทันทีพร้อมกับสตาร์ทรถของเขาแล้วรีบขับไปยังเมืองสตาร์ซิตี้
การช่วยชีวิตก็เหมือนกับการดับไฟ !
แม้ว่าเขาจะรู้ว่าจากการสอบใบขับขี่ของเขานั้นยังไม่ได้รับอนุญาตให้ขึ้นทางด่วนแต่เขาก็ต้องฝ่าฝืนมันพร้อมกับเพิ่งความเร็วโดยทันที
หยวนเจิ้งซวนเองก็ได้หยิบปืนพกขึ้นมาพร้อมกับปาดเลือดที่มุมปากของเขา ไหล่ด้านซ้ายของเขาถูกยิงและที่แก้มเองก็ถูกฟันโดยมีดซึ่งแผลนั้นดูน่ากลัวมาก เขาถูกล้อมรอบไปด้วยคนที่มีแผลมากมาย บางคนนั้นได้ถือปืนและบางคนเองก็ได้ถือมีดแล้วสังเกตการณ์พื้นที่รอบๆ
“บอส เราจะเป็นโล่ให้คุณเอง !”
ชายที่มีรอนสักรูปเสืออยู่ด้านหลังรูปหมีอยู่ตรงหน้าอกได้พูดออกมาก่อนที่จะปลดปล่อยจิตสังหารออกมา
หยวนเจิ้งซวนได้ส่ายศีรษะก่อนที่จะพูดออกมาด้วยเสียงต่ำอย่างขมขื่นว่า
“คนของเราน้อยเกินไปหากว่าเราบุ่มบ่ามปะทะกับพวกมันเข้าก็จะต้องเสียหายมาก ยิ่งเราเสียเวลาไปมากเท่าไหน่เราก็จะยิ่งเสียเปรียบมากขึ้น ”
ชายร่างกายกำยำอีกคนได้ถามออกมาขณะที่ขมวดคิ้วว่า
“บอส ทำไมเราถึงไม่แจ้งตำรวจล่ะ ? หากว่ากองกำลังตำรวจได้มาที่นี่เรา….”
“หุบปากซะ !”
หยวนเจิ้งซวนเองก็ได้ตะโกนออกมา
“อย่าบอกนะว่านายลืมไปแล้วว่าเรากำลังวิจัยเกี่ยวกับเรื่องอะไร ? หากว่าเรื่องนี้ถูกรับรู้โดยตำรวจก็คงจะไม่หลุดพ้นไปจากสายตาของพวกกองทัพ นายคิดว่าถึงเวลานั้นแล้วเราจะยังคงสามารถปกปิดมันได้ ? เอาล่ะ………แม้ว่าสุดท้ายเราจะขายมันให้แก่กองทัพก็ตามแต่มันยังไม่ใช่ตอนนี้ ”
“รับทราบ !”
ชายรูปร่างกำยำคนนั้นได้พยักหน้าขณะที่เขากัดฟันตัวเอง
“ปิ้ววววว…..”
ขณะนี้เองที่กระสุนได้ทะลุกะโหลกของชายรูปร่างกำยำคนนั้นและทำให้เขาเสียชีวิตทันที
ท่าทางของหยวนเจิ้งซวนเองก็เปลี่ยนไปก่อนที่จะตะโกนออกมาว่า
“ระวังหน่อย ! นักแม่นปืนของทางนั้นยิงแม่นมากหากว่าใครปรากฏตัวออกไปก็คงจะตายทันที ประจำตำแหน่งของตัวเองไว้และอย่าบุ่มบ่ามเคลื่อนที่โดยเด็ดขาด เราจะต้องจดจ่ออยู่ตลอดเวลา”
ที่ร้ายขายรถมือสองที่ถูกทิ้งร้างย่านจิงเฟิงนั้นได้มีผู้คนใส่ชุดดำล้อมรอบอยู่ถึง4-5สิบคน พวกเขาทั้งหมดติดอาวุธพร้อมกับใช้ประโยชน์จากความมืดเพื่อหาเป้าหมายของพวกเขา
ข้างหลังพวกเขานั้นได้มีรถจอดอยู่และชายรูปร่างกำยำกำลังส่องกล้องส่องทางไกลเพื่อสังเกตสถานการณ์ภายในที่แห่งนั้นอยู่
ในที่สุดชายต่างชาติคนนั้นก็ได้วางกล้องส่องทางไกลลงก่อนที่จะพูดภาษาอังกฤษออกมาว่า
“มีคำพูดจีนอยู่ประโยคหนึ่งที่บอกว่าการตะเกียกตะกายของสัตว์ที่ติดกับนั้นเป็นการเสียแรงเปล่า หยวนเจิ้งซวนในตอนนี้นั้นก็ไม่ได้ต่างอะไรไปจากเต่าในขวดโหลแม้แต่น้อย เขาไม่สามารถหนีไปไหนได้และตราบใดที่เราจับเขาได้ก็สามารถรับรู้ถึงข้อมูลสำคัญของอาวุธเคมีนั่น เจฟ นายเตรียมตัวไว้เราเสียแผนเพราะพวกญี่ปุ่นเหล่านี้ หลังจากที่เราได้ข้อมูลมาแล้วก็ให้ถอนตัวตามแผนการที่เราวางไว้ ”
เจฟเองก็ได้พูดออกมาว่า
“ตามหลักแล้วแผนการของเราคือจะต้องเคลื่อนไหวพร้อมกองกำลังของทางญี่ปุ่นแต่พวกเขากลับไม่ปรากฏตัวขึ้น ฉันสงสัยว่ามันกะจะให้เราฆ่ากันเองกับหยวนเจิ้งซวนก่อนที่จะทำข้อตกลงลับๆกันภายหลังเราไม่สามารถเชื่อใจพวกคนเหล่านั้นได้ฉันคิดว่าหากเราจะถอนตัวตามแผนการที่ได้วางเอาไว้ก่อนหน้านี้มันจะไม่ปลอดภัยดังนั้น ไทเกอร์ฉันเสนอให้เราถอนตัวไปตามเส้นทางอื่น”
ไทเกอร์เองก็ได้พูดออกมาว่า
“เรื่องของการแย่งข้อมูลนั้นเป็นความรับผิดชอบของฉันส่วนเรื่องเส้นทางการหลบหนีนั้นเป็นหน้าที่ของนาย หลังจากที่ฉันได้ให้ข้อมูลอาวุธเคมีนั่นไปแล้วก็ถือว่างานของฉันจบลงแล้ว เรื่องนี้จะไม่เกี่ยวข้องกับฉันอีกต่อไป”
เจฟเองก็ได้ยักไหล่ของเขาก่อนที่จะหยิบกล่องส่องทางไกลขึ้นมาดูอีกครั้ง
“ปิ้ว ปิ้ว…….”
เสียงปืนที่ไม่สามารถหาที่มาของแหล่งเสียงได้ดังไปทั่วทั้งที่แห่งนั้น
ปืนของทั้งสองฝ่ายเองก็ได้ถูกใส่ที่เก็บเสียงเอาไว้จึงไม่ได้ดึงดูดความสนใจจากคนรอบข้างนักและที่ยิ่งไปกว่านั้นคือโรงงานแห่งนี้ก็ถูกทิ้งล้างมากว่าครึ่งปีแล้ว ที่นี่เป็นที่ไว้ทิ้งซากรถเท่านั้น
ไทเกอร์ที่นั่งอยู่บนรถนั้นได้แสยะออกมาแล้วพูดว่า
“ผู้เชี่ยวชาญที่ฉันนำมานั้นมาจากกองกำลังเคียวของเทพแห่งความตาย พวกเขาได้ผ่านมาหลายสมรภูมิรบและฆ่ามามากมาย แต่กับลูกน้องของหยวนเจิ้งซวนงั้นหรอมันเหมือนกันเป็นเหยื่อที่วิ่งอยู่บนมือของเรา ฉันจำได้ว่ามีใครบางคนได้ชื่นชมประเทศนี้ว่ามันเป็นประเทศที่สงบสุขแต่ก็เป็นดั่งสิงโตที่กำลังหลับใหล พวกผู้คนประเทศนี้เองก็เป็นเหมือนพวกเด็กกระจอกที่ยังใส่ผ้าอ้อม เจพนายรู้ไหมว่าจนถึงตอนนี้เราฆ่าลูกน้องของหยวนเจิ้งซวนไปกี่คนกันแต่ลูกน้องของฉันตายไปแค่2เท่านั้น อย่างมากก็สิบนาทีที่เราจะสามารถฆ่าลูกน้องทั้งหมดของหยวนเจิ้งซวนและจับตัวเขามาได้ ”
เจฟเองก็ได้ยักไหล่ของเขาอีกครั้งก่อนที่จะพูดออกมาว่า
“ฉันเองก็เคยได้ยินชื่อเสียงของกองกำลังเคียวเทพแห่งความตายเหมือนกันถึงแม้ว่าจะไม่สามารถอยู่1ใน10ได้แต่สมรรถภาพทางการรบเองก็ถือว่าสูงมาก ฉันเองก็หวังว่าคนของนายจะจัดการได้ในสิบนาที”
ไทเกอร์เองก็ได้ยิ้มจนเห็นฟันสีขาวออกมาก่อนที่จะพูดออกมาว่า
“เรามาพนันกันไหม ? หากว่าคนของฉันไม่สามารถจัดการพวกเขาในสิบนาทีได้ฉันจะให้นายสิบล้านดอลลาร์แต่หากว่าทำได้นายก็ต้องให้เด็กผู้หญิงญี่ปุ่นที่เพิ่งได้มานั่นให้ฉัน ”
เจฟเองก็ได้กรอกไปบนก่อนที่จะพูดออกมาว่า
“ไทเกอร์ คนที่เห็นค่าของตัวเองสูงไปนั้นก็มักจะตายเสมอ ฉันแนะนำนายอย่างสุภาพนะว่าให้ระวังไว้ หากว่านายไม่คืนคำงั้นฉันก็จะขอเงิน10ล้านดอลลาร์นั่น”
ไทเกอร์เองก็ได้พูดออกมาด้วยความมั่นใจว่า
“ฉันพูดแล้วไม่เคยคืนคำอยู่แล้ว ฉันเองก็ต้องการเด็กสาวชาวญี่ปุ่นนั่นเหมือนกัน !”
พวกเขาไม่รู้ว่าห่างออกไปประมาณร้อยเมตรนั้นได้มีร่างของปีศาจกำลังเคลื่อนที่เข้ามาเรื่อยๆและหายตัวไปมาท่ามกลางความมืดมิดยามค่ำคืน หากว่าไม่ตั้งใจมองดีๆก็คงไม่สามารถเห็นได้อย่างแน่นอน
หลังจากผ่านไป30วินาที มีดบินได้แทงทะลุคอของเจฟทันทีพร้อมกับท่อนเหล็กได้ฟาดไปที่คอของไทเกอร์และเจฟซึ่งทำให้พวกเขาหมดสติทันที
“พวกนายกลุ่มแรกไปจัดการร่วมมือกันเก็บกวาดพวกมดปลวกซะ ”
ซ่งไทกุยได้สั่งการผ่านหูฟังพร้อมกับโบกสัญญาณมือ คนทั้ง18คนนั้นได้แบ่งออกเป็น9กลุ่มทันทีพร้อมกับล้อมกองกำลังเคียวเทพแห่งความตายเอาไว้แล้วค่อยๆฆ่าพวกเขาไปทีละคน
ในมือของพวกเขานั้นไม่ได้มีอาวุธปืนอยู่เลยแต่ถูกแทนที่ด้วยมีดสั้นที่เย็นเฉียบ
ปุ้ก ปุ้ก ปุ้ก ปุ้ก !
เสียงของมีดที่ปักไปที่คอและหัวใจนั้นไม่ได้กระตุ้นคนรอบๆข้างแม้แต่น้อย ภายในสองนาทีนั้นคนจากกองกำลังมากมายก็ได้บ้มตายภายใต้มีดเหล่านั้นส่วนซ่งไทกุยเองก็เป็นคนเก็บปืนทั้งหมดไป
“ศัตรู !”
ทันใดนั้นก็ได้มีเสียงตะโกนดังออกมาจากปากของคนจากกองกำลังเคียวเทพแห่งความตายแต่หลังจากผ่านไปเพียงเสี้ยววินาทีนั้นหัวของเขาก็หลุดออกจากบ่าพร้อมกับมีดที่ปักไปตรงหัวใจของเขาพร้อมกับปืนกลที่ถูกเก็บไป
“หัวหน้า ศัตรูเองก็มีไม่ต่ำกว่า30คน เราถูกค้นพบแล้วเราจะทำยังไงต่อ ? ”
เสียงของสมาชิคได้ดังขึ้นทางหูฟังของซ่งไทกุย
เขาได้คิดอยู่ครู่หนึ่งหลังจากนั้นก็ตอบกลับไปว่า
“ดูพวกมันเอาไว้ ทุกหน่วยมุ่งไปทางทิศ11นาฬิกา เราจะฝ่าพวกมันออกไปเพื่อหาตัวหยวนเจิ้งซวน บอสได้สั่งเอาไว้ว่าจะต้องปกป้องเขาเอาไว้ให้ได้ไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไรก็ตาม”
“รับทราบ !”
เสียงตอบรับเองก็ได้ถูกส่งผ่านมาทางปลายสายของหูฟัง
ซ่งไทกุยได้มองไปที่ไทเกอร์ที่นอนสลบอยู่ตรงเท้าของเขาก่อนที่จะหยิบมีดออกมาแทงลงไปที่ขาของเขาอย่างรวดเร็วพร้อมกับปลุกไทเกอร์ที่สลบอยู่ขึ้นมาก่อนที่จะฆ่าเขาแล้วมุ่งไปทางทิศ11นาฬิกาทันที
ไทเกอร์รู้ถึงความแข็งแกร่งของสมาชิคกลุ่มกองกำลังเคียวเทพแห่งความตายดีแต่ไม่คิดเลยว่าคนพวกนี้จะแข็งแกร่งกว่ามาก
หากว่าเขารู้ถึงชื่อเล่นของคนเหล่านี้ก็จะต้องออกคำสั่งถอนตัวให้เร็วที่สุดอย่างแน่นอน
