…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ที่ห้องอาหารหลงที่มีมังกรสองตัวกำลังขดอยู่กลางห้องโถงนั้นสามารถเห็นถึงความหรูหราตั้งแต่ที่ไกลๆ ด้านนอกของมันก็มีหน่วยรักษาความปลอดภัยรูปร่างกำยำยืนอยู่ถึงสี่คนพร้อมกับพนักสาวต้อนรับสาวสวยที่กำลังยิ้มอยู่ขณะที่เธอกำลังต้องรับแขกระดับวีไอพี

ที่หน้าประตูทางเข้า

เต็มไปด้วยรถหรูหราเต็มไปหมดแต่เมื่อเห็นว่ามีรถแท็กซี่แล่นมาจอดตรงนี้นั้นก็ได้กลายเป็นจุดสนใจของคนทั้งหมดในทันที

ถังซิ่วได้ลงมาจากรถพร้อมกับเฉินเหว่ยที่ท่าทางแปลกๆขณะที่เดินไปที่หน้าทางเข้าแล้วพูดว่า

“ขอโทษทีฉันลืมเอาบัตรสมาชิกมา ”

พนักงานต้อนรับสาวสายเองก็ทำท่าทางขอโทษออกมาพร้อมพูดว่า

“ท่านค่ะ ที่นี่จำเป็นต้องแสดงบัตรสมาชิกทุกคน ยกเว้นว่าคุณเป็นลูกค้าประจำของที่นี่ คุณ………”

ท่าทางของเฉินเหว่ยนั้นเปลี่ยนไปทันที หน้าตาของเธอนั้นกลายเป็นน่าเกลียดอย่างรวดเร็ว เธอกำลังข่มใจตัวเองไม่ให้หันหลังเดินกลับออกไป

น่าขายหน้า!

นี่มันน่าขายหน้าเกินไปแล้ว !

เพราะว่าเธอได้ตระหนักว่าถังซิ่วไม่ได้มีบัตรสมาชิกของที่นี่และต้องการที่จะหลอกลวงเพื่อเข้าไปในนั้น

คิ้วของถังซิ่วขมวดเข้าหากันก่อนที่จะมองไปที่หน่วยรักษาความปลอดภัยทั้งสี่คนที่เขาเคยพบ เขาได้โบกมือให้แก่พวกเขาแล้วพูดว่า

“พวกนายมานี่”

หน่วยรักษาความปลอดภัยที่ได้เห็นว่าถังซิ่วกำลังโบกมือเรียกอยู่นั้นก็ได้เดินเข้ามาแล้วพูดอย่างนอบน้อมว่า

“คุณถัง มีเรื่องอะไรให้เรารับใช้งั้นหรอครับ?”

ถังซิ่วได้พูดออกมาว่า

“บอกเธอไปว่าฉันเป็นลูกค้าประจำของที่นี่”

หน่วยรักษาความปลอดภัยก็ได้มองไปที่พนักงานต้อนรับก่อนที่จะพูดว่า

“คุณถังนั้นมาที่นี่บ่อยๆและเป็นแขกผู้ทรงเกียรติของเรา เขายังเป็นเพื่อนของนายน้องหลงเช่นกัน”

ท่าทางของพนักงานต้อนรับเปลี่ยนไปทันทีก่อนที่เธอจะพูดออกมาด้วยความเคารพว่า

“คุณถัง ต้องขออภัยสำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ เชิญค่ะ”

ถังซิ่วได้พยักหน้าขณะที่มองไปที่ท่าทางงงงวยของเฉินเหว่ย เขาได้ก้าวเท้าเข้าไปข้างในทันที

เฉินเหว่ยเองก็ไม่คิดเลยว่าสถานการณ์จะกลับกันถึงขนาดนี้ เขามองไปที่ถังซิ่วอย่างไม่อยากจะเชื่อก่อนที่จะรีบวิ่งตามเขาไป

“สวรรค์ ที่นี่มันช่างหรูหราเกินไปหรือเปล่า ? นี่มันหรูยิ่งกว่าโรงแรมห้าดาวตั้งหลายเท่า ถังซิ่ว นายเป็นสมาชิกของที่นี่จริงๆงั้นหรอ ? ”

เฉินเหว่ยได้มองไปรอบๆก่อนที่จะถามออกมาด้วยท่าทางสงสัย

ถังซิ่วได้ตอบกลับไปว่า

“หากว่าฉันไม่ใช่สมาชิกของที่นี่แล้วเธอคิดว่าเราจะสามารถเข้ามาได้งั้นหรอ ? ”

เฉินเหว่ยเองก็ได้ถามออกมาด้วยความรู้สึกสงสัยว่า

“แต่คนขับรถแท็กซี่บอกว่าคนที่จะเป็นสมาชิกของที่นี่ได้จะต้องเป็นคนที่มั่งคั่งและมีอำนาจ แล้วนาย….”

ถังซิ่วได้แสยะออกมาแล้วพูดว่า

“เธอคิดว่าฉันไม่ใช่คนใหญ่คนโตงั้นหรอ ? ”

เฉินเหว่ยได้พูดออกมาด้วยท่าทางหงุดหงิดว่า

“คนใหญ่คนโตบ้าอะไรห๊า ? อย่างมากก็แค่นักเรียนดีเด่นเท่านั้นแหละ !”

ถังซิ่วส่ายศีรษะด้วยรอยยิ้ม

“สมองเธอน่าจะมีปัญหาอย่างแท้จริง อ๊า ช่างมันเถอะนอกจากปากที่ไวของเธอแล้วฉันก็ไม่ได้คาดหวังว่าเธอจะมีสมองอยู่แล้ว ไปกันเถอะ ! ”

เฉินเหว่ยได้มองไปที่ถังซิ่วด้วยความโกรธแต่ก็พบว่าเขาไม่ได้สนใจเธอแล้วพร้อมกับเข้าไปข้างในทันที เธอก็ทำได้เพียงแค่ระงับอารมณ์โกรธเอาไว้แล้วเดินตามเขาไป

ห้อง presidential suite ! ถังซิ่วไม่ต้องการมันเพราะว่าเขาคิดว่าแค่ห้องส่วนตัวก็น่าจะเพียงพอต่อการสร้างความบันเทิงให้เธอแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นคือมันมีราคาที่สูงเสียดฟ้าเขาจึงไม่ต้องการที่จะใช้จ่ายเงินมากมายนัก

“หรูหรา ! โครตจะหรูหรา !!! นี่มันกว้างเกินไปแล้ว นอกหน้าต่างนี่เราสามารถมองเห็นเมืองๆนี้ได้เกือบครึ่งเมืองเลยนะ !”

ถังซิ่วได้แต่ส่ายศีรษะของเขาพร้อมกับมองไปที่พนักงานที่กำลังอมยิ้มอยู่และพูดว่า

“เอาชุดพิเศษมาให้เรา ขอเป็นเนื้อและปลาพร้อมซุปด้วย ”

“ค่ะ โปรดรอสักครู่ ”

พนักงานได้เดินออกไปจากห้องพร้อมนำชามาเสิร์ฟโดยทันที

เฉินเหว่ยที่กำลังมองออกไปยังทิวทัศน์ด้านนอกนั้นก็ได้ถอนหายใจออกมา

“เกิดเป็นคนรวยนี่มันดีจริงๆ อ๊า ! หากว่าป้าคนนี้ไปได้ไม่ดีก็แค่หาสามีรวยๆเท่านั้น ทุกๆวันก็อยู่แบบสบายๆ ร้องเพลงไปวันๆ”

ถังซิ่วได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า

“ฉันรับประกันเลยว่าเธอจะต้องรับผิดชอบชีวิตของตัวเองไม่ได้อย่างแน่นอนเมื่อถูกผู้ชายของเธอทุบตี”

“นายนั่นแหละที่รับผิดชอบตัวเองไม่ได้ ! อ่อใช่ ห้องน้ำอยู่ไหน ? ก่อนที่จะทานอาหารฉันจะไปแต่งหน้าเสียหน่อย”

เฉินเหว่ยได้ตอบโต้ทันทีก่อนที่เธอจะถามออกมา

ถังซิ่วได้ตอบกลับไปว่า

“เดินไปถามพนักงานข้างนอกได้เลยแล้วพวกเขาจะนำทางเธอเอง”

“ดี !”

เฉินเหว่ยได้ปฏิบัติตามพร้อมกับเดินออกไปด้านนอกนั้น

หลังจากผ่านไป45นาที เสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์ถังซิ่วก็ดังขึ้นแต่เมื่อเขาหยิบมันออกมาดูนั้นก็ถึงกับงงงวยและขมวดคิ้วทันทีเพราะเจ้าของหมายเลขนั้นคือเฉินเหว่ย

“อย่าบอกนะว่าเธอไม่ได้เอาแพมเพิสคนแก่เข้าไป ? บอกไว้ก่อนเลยนะว่าฉันเป็นสุภาพบุรุษและไม่มีทางเข้าไปในห้องน้ำผู้หญิงโดยเด็ดขาด !”

ถังซิ่วอดไม่ได้ที่จะหยอกล้ออกมา

“ถัง…..ถังซิ่ว ฉันได้สร้างปัญหาใหญ่แล้ว !นายมาช่วยฉันทีสิ”

เสียงที่หวาดกลัวของเฉินเหว่ยได้ถูกส่งผ่านมาทางปลายสาย

ท่าทางของถังซิ่วเปลี่ยนเป็นเยือกเย็นโดยทันทีก่อนที่เขาจะถามออกมาว่า

“เกิดอะไรขึ้น? ตอนนี้เธออยู่ที่ไหน ? ”

เฉินเหว่ยได้ตอบกลับไปว่า

“ที่ทางเดินข้างหน้าห้องน้ำ …..ฉัน ..ก่อนหน้านี้ฉันได้ทำกระถางบอนไซแตกใส่ชายคนหนึ่งและอีกฝ่ายก็จะให้ฉันจ่ายเงิน”

ถังซิ่วได้ตอบกลับไปว่า

“เธอรออยู่ที่นั่นแหละ ฉันกำลังไป”

เมื่อวางสาย ถังซิ่วก็ได้ลุกออกไปจากห้องอย่างรวดเร็วพร้อมกับถามทางไปห้องน้ำโดยทันที

“จ่ายมาซะ เสื้อฉันราคา58000 รองเท้า 26000 รวมทั้งหมดเป็น84000 ขาฉันเองก็รู้สึกเจ็บมากเพราะงั้นเธอต้องเสียค่ารักษาให้ฉัน ฉันจะขอเรียก16000ก็พอ รวมทั้งหมดเป็น100000หยวน หากว่าไม่สามารถจ่ายได้ก็คงไม่จบแค่ที่เธอโดนตบเท่านั้นหรอกนะ !”

เสียงที่ฟังดูหยิ่งผยองได้ดังอยู่ที่ทางเดิน

“รอสักครู่ได้ไหม เพื่อนของฉันกำลังมาที่นี่ ?”

เฉินเหว่ยได้ตอบกลับไปด้วยท่าทางหวาดกลัว

“อะไร ฉันบอกเธอไว้เลยว่าต่อให้เป็นเทพองค์ไหนจุติลงมาก็ไม่สามารถช่วยเธอได้หรอก วันนี้เธอจะต้องเสียเงิน ”

ท่าทางของชายคนนั้นก็ยังคงโอหังอยู่เช่นเคย

ถังซิ่วที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลนั้นได้มองไปที่รูปลักษณ์ของฝ่ายตรงข้ามและสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นเพราะเขาเองก็ได้เคยสั่งสอนชายคนนี้ไปแล้ว

“โอ้อวดดีหนิ ฉันเองก็อยากจะเห็นเหมือนกันว่าจะเกิดนอะไรขึ้นหากเธอไม่ยอมจ่ายเงิน ”

ถังซิ่วได้พูดขึ้นเสียงดังขณะที่เขากำลังเดินเข้ามา

ฮูหว่านจุนที่กำลังโกรธหนักอยู่นั้นได้หันหน้ามาโดยทันทีก่อนที่จะเห็นรูปร่างของถังซิ่ว ทันใดนั้นนัยน์ตาของเขาก็หดเล็กลงโดยทันทีพร้อมกับท่าทางที่หวาดกลัวเริ่มปรากฏขึ้นในสายตาของเขา เขาได้ยินเรื่องของซางดี่ขวินและซางหยงจินมาแล้วแม้กระทั่งพวกเขาเองก็ได้ร่วมมือกันแต่ตอนนี้ยังไม่รู้เลยว่าพวกเขาหายตัวไปอยู่ที่ไหนแล้ว เขาคิดว่าเรื่องเหล่านี้น่าจะมีความเกี่ยวข้องกับถังซิ่ว

“เป็นนายได้ไง ? ”

ถังซิ่วได้แสยะออกมาว่า

“ทำไมถึงเป็นฉันไม่ได้ ? เธอเป็นเพื่อนของฉันและฉันได้ยินมาว่ามีใครบางคนสร้างปัญหาให้เธอ ”

ฮูหว่านจุนที่ปกติจะพึ่งพาแต่อำนาจของตระกูลนั้นรู้ดีว่าถังซิ่วมีพลังรบที่แข็งแกร่งเป็นอย่างมากแต่เพื่อไม่ให้เขาเสียหน้าจึงพูดขึ้นว่า

“ก็แล้วทำไมล่ะ ? คนที่ผิดไม่ใช่ฉันแต่เป็นเธอเพราะเธอได้ทำให้กระถางนั่นตกใส่ฉันและการที่จะเรียกเงินจากเธอนั้นเป็นเรื่องที่ยุติธรรมแล้ว”

ถังซิ่วก็ได้พูดออกมาอย่างราบเรียบว่า

“ต้องการเงินเท่าไหร่ ฉันจะจ่ายเอง”

ฮูหว่านจุนจ้องมองไปที่เฉินเหว่ยก่อนที่จะพูดออกมาอย่างมีความสุขว่า

“100000หยวน”

ถังซิ่วได้หยิบบัตรเงินสดออกมาทันทีพร้อมกับยื่นให้แก่ฮูหว่านจุนแล้วพูดว่า

“ในบัตรนี้มีเงินอยู่ล้านหยวน ฉันชดใช้ให้นายสิบเท่า นายพอใจไหม ? ”

ฮูหว่านจุนจ้องมองอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะคิดว่าถังซิ่วกลัวเขา จากนั้นเขาก็ยิ้มออกมาพลางพยักหน้าแล้วตอบว่า

“ช่างมันเถอะ ฉันไม่ถือสา !”

ถังซิ่วได้พูดต่อว่า

“นายพอใจแล้วแต่ฉันยังไม่พอใจ หากว่าฉันเดาไม่ผิดคนที่เป็นคนตบเธอน่าจะเป็นนายใช่ไหม ? ร่างกายของเพื่อนฉันนั้นล้ำค่ายิ่งกว่าทองคำ หากว่าใครทำให้ขนสักเส้นบนตัวเธอร่วงฉันก็จะไม่ปล่อยไปอย่างแน่นอนไม่ต้องพูดถึงการที่เธอถูกตบเลยดังนั้นนายก็จะต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลเธอเช่นกัน ”

รอยยิ้มบนใบหน้าของฮูหว่านจุนหายไปทันที เขามองไปที่ถังซิ่วและบัตรเงินสดในมือของตัวเองด้วยความไม่อยากจะเชื่อก่อนที่จะตะโกนออกมาว่า

“ถ้าไม่ให้แล้วนายจะฆ่าฉันงั้นหรอ ? ”

ถังซิ่วได้แสยะออกมาว่า

“หากว่าฉันจะฆ่านายจริงๆตอนนี้ศพของนายก็น่าจะลอยอยู่แถวๆมหาสมุทรแปซิฟิกแล้ว ฉันจะให้โอกาสนายได้ชดใช้ค่าเสียหายให้เพื่อนของฉันและจบเรื่องนี้ลงแต่หากว่าไม่ฉันก็จะไม่ปล่อยนายไปแน่นอน!”

ท่าทางของฮูหว่านจุนได้เปลี่ยนไปก่อนที่มองไปที่ห่างไกลพร้อมกับถามออกมาว่า

“นายต้องการเงินเท่าไหร่ ? ”

ถังซิ่วได้ตอบกลับไปว่า

“11ล้านหยวน”

“เฮื้อก……”

ใบหน้าของฮูหว่านจุนได้ซีดลงทันทีส่วนเฉินเหว่ยเองก็กำลังเต็มไปด้วยความรู้สึกไม่อยากจะเชื่อ

ถังซิ่วได้พูดต่อว่า

“ฉันจะให้เวลานายหนึ่งชั่วโมงและหากว่านายยังไม่เอาเงินมาให้ฉันรับประกันได้เลยว่าตระกูลของนายจะหายไปจากเมืองนี้เหมือนกับตระกูลซางอย่างแน่นอน จำคำขู่นี้ไว้ให้ขึ้นใจล่ะ ”

เมื่อพูดจบถังซิ่วก็ได้จับข้อมือของเฉินเหว่ยพร้อมกับนำเธอกลับมายังห้องอาหาร

เฉินเหว่ยที่กำลังโดยลากอยู่นั้นไม่ได้ขัดขืนแม้แต่น้อย เธอรู้สึกอบอุ่นภายในหัวใจของเธอแต่ภายในความรู้สึกอบอุ่นนั้นก็ยังมีความรู้สึกถึงอันตรายเช่นกัน

กลับมาที่ห้องอาหาร

เฉินเหว่ยที่ท่าทางซีดเซียวนั้นได้ถามออกมาว่า

“ถังซิ่ว นายคิดว่าเขาจะยอมจ่ายงั้นหรอ ? เมื่อกี้นายเพิ่งจะให้เขาไปล้านหยวนนะ ! ล้านหยวน !”

ถังซิ่วได้พูดออกมาอย่างสงบว่า

“เขาไม่กล้าที่จะไม่ให้หรอกแต่ฉันก็หวังจริงๆที่เขาจะไม่ให้”

เฉินเหว่ยได้กลืนน้ำลายของเธอกลับลงไปพร้อมกับไม่ได้พูดอะไรออกมาอีกเลย

ตรงทางเดิน

ฮูหว่านจุนที่กำลังกำบัตรเงินสดอยู่นั้นก็รู้สึกเหมือนว่ามันเป็นมันเผาร้อนๆที่อยู่ในมือ ก่อนหน้านี้เขาไม่ได้สนใจคำขู่ของถังซิ่วแม้แต่น้อยแต่หลังจากที่ได้ยินเขาพูดถึงตระกูลซางแล้วนั้นก็ทำให้เขารู้สึกหวาดกลัวและสั่นสะท้านโดยทันที อย่าบอกนะว่าที่ตระกูลซางล่มสลายนั้นเป็นเพราะถังซิ่ว ?