…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
สายตาของถังซิ่วได้จับจ้องไปที่มู่ชิงปิงก่อนที่จะพูดขึ้นว่า
“พี่สาวมู่ ในห้องของผมยังมีเสื้อผ้าที่ยังไม่ได้ซัก พี่ช่วยจัดการให้ผมด้วยนะ ”
สายตาของมู่ชิงปิงเป็นประกายก่อนที่จะพูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า
“พวกเธอคุยกันก่อนนะ ฉันจะไปจัดการให้เลย ”
เมื่อมู่ชิงปิงได้เดินจากไปนั้นสายตาของถังซิ่วก็ได้หันกลับไปที่ซูหลิงหยุนด้วยท่าทางจริงจังก่อนที่จะถามออกมาว่า
“แม่ครับ ผมคิดว่าระหว่างเราไม่ควรมีความลับต่อกันและกัน ผมจะบอกความลับของผมและแม่เองก็ต้องบอกของแม่”
“อะไรหรอ ? ”
ซูหลิงหยุนได้ถามออกมาด้วยความสงสัย
ถังซิ่วได้ตอบกลับไปว่า
“ผมได้ใช้เงินเพื่อซื้อเกาะส่วนตัวในมหาสมุทรแปซิฟิกและเตรียมที่จะพัฒนามันให้เป็นสวรรค์ของครอบครัวเรา หากว่าวันใดที่แม่เบื่อเมืองนี้ก็สามารถไปที่นั่นได้ทุกเมื่อ”
ซูหลิงหยุนได้ถามออกมาด้วยความไม่อยากจะเชื่อว่า
“เกาะส่วนตัว ? ซิ่วน้อย ลูกใช้เงินไปเท่าไหร่กัน ?”
ถังซิ่วตอบออกไปตามตรงว่า
“2.5พันล้าน”
“เฮื้อกก”
ก่อนหน้านี้เองเธอก็รู้แล้วว่าเขามีเงินอยู่ไม่ต่ำกว่าหลายร้อยล้านแต่เมื่อเธอได้ยินว่า2.5พันล้านนั้นก็ถึงกับทำให้เธอเหงื่อตกเลยทีเดียว
ถังซิ่วได้อธิบายว่า
“จริงๆแล้วเงินที่ใช้ซื้อนี่เป็นเงินที่ผมยืมมาแต่หลังจากนั้นผมก็ทำเงินได้แล้วคืนมันไปหมดแล้ว แม่ไม่ต้องห่วงเลยว่าสถานะของเราจะติดลบ”
สติของซูหลิงหยุนเองก็ยังคงไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแล้วพูดออกมาว่า
“ซิ่วน้อย ลูก….”
ถังซิ่วได้ต้องมองไปที่เธอก่อนที่จะถามออกมาว่า
“คุณแม่ ความลับของผมก็ได้บอกแม่ไปแล้ว เราไม่ควรมีความลับต่อกันและตอนนี้แม่จะบอกผมได้หรือยังว่าทำไมถึงได้คัดค้านไม่ให้ผมไปเรียนที่เมืองหลวง ? ”
บางคำพูดได้หลุดออกมาจากปากเธอว่า
“นั่นก็เพราะ… ครอบครัวพ่อของลูกเขา…..”
คำพูดของเธอ!
หยุดลงตรงนี้ !
ท่าทางของเธอกลายเป็นซีดราวกับกระดาษ
ประกายแห่งความเย็นได้ถูกส่งผ่านออกมาจากดวงตาของถังซิ่ว
พ่อ ?
นั่นมันเป็นประโยคแปลกๆนะ!
เขาเองก็ได้เคยถามคำถามนี้กับแม่ของเขามาตั้งแต่ยังเด็กและไม่เคยที่จะได้คำตอบเลยสักครั้ง ด้วยความที่ว่าเขาโตขึ้นเรื่อยๆมันทำให้เขาตระหนักว่าทุกๆครั้งที่เขาได้ถามออกไปก็จะทำให้แม่ของเขารู้สึกเจ็บปวดเป็นอย่างมาก บางครั้งเขาก็ได้พบกับเธอที่แอบร้องไห้อยู่เงียบๆ
เขาไม่รู้ว่าผู้ชายคนนั้นจะอยู่หรือตายและเขาเองก็ไม่เคยสนใจด้วยซ้ำ คนที่ไม่ได้เลี้ยงดูเขามาไม่มีสิทธิอะไรเลยที่จะได้ชื่อว่าพ่อ
ถังซิ่วถอนหายใจออกมาก่อนที่จะเดินเข้าไปหาซูหลิงหยุนแล้วพูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า
“แม่ ผมเข้าใจคำตอบแล้วและแม่ไม่จำเป็นต้องพูดอีกแล้ว ! ไม่ต้องเป็นห่วงเพราะผมจะไปกรอกใบสมัครในวันพรุ่งนี้และจะเลือกเรียนที่เซี่ยงไฮ้ ยิ่งไปกว่านั้นคือตอนนี้ผมเองก็โตพอที่จะดูแลแม่แล้ว ผมเพียงหวังว่าแม่จะมีความสุขกับชีวิตและมีสุขภาพที่ดี”
น้ำตาได้ไหลพรากลงมาจากดวงตาของเธอก่อนที่จะพยักหน้าอย่างช้าๆ
หลังจากนั้นถังซิ่วได้พูดคุยกับแม่ของเขาก่อนที่จะให้มู่ชิงปิงจัดการเรื่องทุกอย่างเกี่ยวกับแม่ของเขาพร้อมออกจากวิลล่าไป เขาได้เดินกลับไปยังสำนักบริหารของวิลล่าอีกครั้งเพื่อถามว่าหลงเสวี่ยเหยาเสร็จเรื่องแล้วหรือยัง
“เรียบร้อยแล้วใช่ไหม ?”
หลงเสวี่ยเหยาที่ใส่ชุดเป็นทางการได้ถามออกมาด้วยรอยยิ้ม
ถังซิ่วได้ตอบกลับไปว่า
“กวนฮูวิลล่า”
หลงเสวี่ยเหยาถามออกมาด้วยความประหลาดใจว่า
“ไปที่นั่นทำไมงั้นหรอ ? ที่นั่นจำเป็นต้องจองก่อนนะถึงจะเข้าไปได้”
ถังซิ่วได้ตอบกลับไปว่า
“หลงฮานเหวินอยู่ที่นั่น”
หลงเสวี่ยเหยาได้ถามออกมาอีกครั้งว่า
“ลุงของฉัน ? นายไปสนิทกับเขาตั้งแต่ตอนไหนกัน ? ”
ถังซิ่วได้ตอบกลับไปด้วยรอยยิ้มว่า
“สิ่งที่เธอยังไม่รู้นั้นมีอยู่มาก อย่าถามเยอะเถอะ ไปกันได้แล้วฉันกำลังรีบ !”
หลงเสวี่ยเหยาได้มองไปที่ถังซิ่วด้วยแววตาทรงเสน่ห์ เธอได้ขับรถหรูของเธอไปส่งถังซิ่วที่กวนฮูวิลล่าและหลังจากที่ไปถึงแล้วก็สามารถผ่านเข้าไปได้เลยเพราะเธอเป็นผู้อุปการะของที่นี่
เมื่อไปถังที่ลานจอดรถแล้วถังซิ่วก็ได้บอกกับเธอว่า
“หน้าที่ของเธอได้จบลงแล้ว เอาล่ะ เธอกลับไปได้แล้ว”
หลงเสวี่ยเหยาได้รีบพูดออกมาทันทีว่า
“หยุดก่อน ฉันยังมีเรื่องที่ต้องพูดกับนายนะ !”
ถังซิ่วได้ถามกลับด้วยความสงสัยว่า
“เธอมีเรื่องจะพูดกับฉันงั้นหรอ ? ทำไมถึงไม่พูดตั้งแต่ยังอยู่ที่วิลล่า ? เอาล่ะ ช่างเถอะมีอะไรจะพูดก็พูดมา!”
หลงเสวี่ยเหยาได้ตอบด้วยท่าทางหงุดหงิดว่า
“ก็เป็นเรื่องของนายทั้งนั้น ผู้อำนวยการโรงเรียนสอนขับรถได้แจ้งกับฉันมาว่าระยะเวลาที่จะสอบขับรถครั้งต่อไปใกล้เข้ามาแล้ว นายแค่ต้องลองฝึกขับให้คล่องก็พอแล้ว ”
ถังซิ่วได้ตอบกลับไปด้วยรอยยิ้มว่า
“เธอไปบอกเขาแล้วกันว่าพรุ่งนี้ฉันไปจะที่นั่นทันที”
หลงเสวี่ยเหยาได้พยักหน้าก่อนที่จะพูดต่อว่า
“ตกลง หากว่านายสามารถสอบได้ในการสอบที่จะถึงนี้เขาก็จะเป็นคนจัดการทุกอย่างให้นายเองแค่นั่งรอใบขับขี่เท่านั้น”
ถังซิ่วได้ถามออกมาว่า
“ใช้เวลาจัดการนานแค่ไหนกัน ? ”
หลงเสวี่ยเหยาได้ตอบกลับไปด้วยรอยยิ้มว่า
“ภายใน15วัน นานสุดก็ใช้เวลา15วันแล้วนายจะได้รับใบขับขี่อย่างแน่นอน”
“ดี !”
ถังซิ่วได้ตอบตกลงพร้อมหันหลังกลับไปทันที
หลงเสวี่ยเหยาที่ยืนอยู่ด้านหลังได้ทำท่าทางหงุดหงิดออกมาก่อนที่จะพูดว่า
“ไอ้เจ้านี้ไม่มีความสุภาพเลยหรือไง ฉันใช้เส้นสายไปเท่าไหร่กว่าจะจัดการให้ได้ นี่ขอบคุณสักคำก็ยังไม่มี ”
ห่างออกไปหลายเมตร
ถังซิ่วได้หยุดเท้าลงทันทีพร้อมหันหลังกลับมาแล้วพูดว่า
“หลงเสวี่ยเหยา ขอบคุณ ”
“!”
ท่าทางของเธอเปลี่ยนไปทันทีก่อนที่ใบหน้าอันสวยงามของเธอจะปรากฏถึงความรู้สึกแปลกๆ
เขา……..
เขาคงไม่ได้ยินคำพูดเมื่อกี้ใช่ไหม ?
เป็นไปไม่ได้
เสียงของเธอนั้นเบามากแถมเขายังอยู่ห่างออกไปตั้งหลายเมตร เขาไม่มีทางที่จะได้ยินอย่างแน่นอนนอกเสียจากว่าเขาจะเป็นคนที่สามารถได้ยินเสียงจากที่ห่างไกล
หลงเสวี่ยเหยาได้ปลอบใจตัวเองก่อนที่จะโบกมือให้แก่ถังซิ่วพร้อมรีบสตาร์ทรถแล้วขับหนีไปทันที
ถังซิ่วมองไปที่รถที่แล่นออกไปอย่างรวดเร็วพร้อมกับยิ้มออกมา เขาได้ยินคำพูดของเธอชัดเจนแม้ว่ามันอาจจะเป็นเรื่องยากสำหรับคนอื่นแต่สำหรับเขาแล้วมันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลย
ในที่ๆลึกที่สุดในกวนฮูวิลล่า หลงฮานเหวิน เฉินซีซ่ง คังเซี่ยน เหมี่ยวเหวินถัง เซ่าหมิงเจิ้ง โอหยางเหล่ ชูยี่ ใบเต่า หลงเจิ้งหยูและคนอื่นๆได้มาถึงที่นี่แล้ว
สำหรับพวกเขาแล้วคือการทำลายล้างซางกรุ๊ปกำลังจบลงแล้วและพวกเขามารวมตัวกันที่นี่เพื่อแบ่งผลประโยชน์กันเพราะตระกูลซางเองก็มีทรัพย์สินเกินกว่า2หมื่นล้านอย่างแน่นอน
“ขอโทษที ติดธุระนิดหน่อยถึงได้มาสาย”
หลังจากที่ถังซิ่วมาถึงแล้วก็ได้เป็นที่จับจ้องของทุกคนโดยทันที
หลงฮานเหวินก็พูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า
“ไม่เป็นไรหรอก เรื่องที่เราจำเป็นต้องทำก็จัดการไว้หมดแล้ว ถังซิ่วฉันรู้ว่าเธอจะต้องกรอกใบสมัครในวันพรุ่งนี้ ? เป็นอย่างไร ? เธอเลือกแล้วหรือยังว่าจะเข้าเรียนที่ไหน ? ”
“มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้”
ถังซิ่วได้ตอบกลับไปอย่างราบเรียบ
ท่าทางของหลงฮานเหวินเปลี่ยนไปเล็กน้อยก่อนที่จะพูดออกมาด้วยรอยยิ้ม
“อื่ม แน่นอนว่าเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำ ฉันเชื่อจากอุปนิสัยของเธอว่าในเมื่อกล้าที่จะเลือกเธอจะต้องเข้าเรียนได้อย่างแน่นอน มาเถอะ ฉันจะขอดื่มอวยพรให้กับเธอและขอให้อนาคตของเธอรุ่งเรืองและตั้งใจเรียนให้สูงขึ้น”
“มาเถอะ ขอแสดงความยินดีด้วย !”
เหมี่ยวเหวินถังเองก็ยืนขึ้นพร้อมกับพูดออกมาด้วยรอยยิ้ม
ในขณะนี้ผู้คนกว่า20คนก็รู้สึกมีความสุขเป็นอย่างมาก หากว่าไม่ใช่เพราะถังซิ่วพวกเขาคงไม่ได้ทำเงินได้ขนาดนี้ ถึงแม้ว่าจะเป็นเงินกว่า2หมื่นล้านแต่หลังจากแบ่งกันแล้วก็คงไม่ต่ำกว่าคนละหลายพันล้านอย่างแน่นอน
หลายพันล้าน !
แม้ว่าพวกเขาจะเป็นตระกูลใหญ่ก็จริงแต่การที่จะหาเงินหลายพันล้านก็ไม่สามารถทำได้ง่ายๆเช่นกัน
ดื่มชาหนึ่งถ้วย
หลงฮานเหวินได้มองไปที่ถังซิ่วก่อนที่จะถามออกมาว่า
“ตระกูลซางได้มีชะตาที่ต้องล่มสลาย ตอนนี้เรากำลังแบ่งเรื่องทรัพย์สินกัน ถังซิ่ว เธอจะเอาอย่างไรกับคนของตระกูลซางที่เราจับไว้ ? ”
ถังซิ่วได้ส่ายศีรษะพร้อมกับพูดว่า
“ซางดี่ขวินและซางหยงจินต้องตายแต่ผมเองก็ยังไม่ได้คิดว่าจะเอาอย่างไรกับพวกที่เหลือดี พวกเขาอยู่ที่ไหน ? ผมจะไปพบพวกเขา ”
หลงฮานเหวินไดด้พูดออกมาว่า
“ฉันได้ส่งพวกเขาไปไว้ในห้องใต้ดินของวิลล่าแห่งนี้”
ถังซิ่วได้พยักหน้าก่อนที่จะมองไปที่คังเซี่ยนแล้วพูดว่า
“เรื่องการแบ่งเงินก็ฝากเป็นหน้าที่เธอแล้วกัน นอกจากนี้เธอก็เก็บเงิน200ล้านที่ใช้ซื้อข่าวนั่นไว้ส่วนที่เหลือก็จะเก็บไว้ใช้ในโครงการใหญ่ๆที่กำลังจะมาถึง !”
หลังจากพูดจบเขาก็ได้เดินไปทางห้องใต้ดินลับพร้อมกับหลงเจิ้งหยู
ห้องใต้ดินลับ
ตระกูลซางทั้ง21คนได้ถูกมัดไว้ พวกเขาเอาแต่เงียบเพราะพวกเขาได้มีคนที่สงสัยอยู่ในใจแล้วแต่แค่ยังไม่รู้ว่าใครกันที่เป็นคนส่งคนเหล่านี้มาจับพวกเขา
“เอี้ยด…..”
ประตูห้องใต้ดินได้ถูกเปิดขึ้นพร้อมกับชายรูปร่างกำยำสี่คนที่ถือมีดด้วยท่าทางเคร่งครึม
“แกเป็นใครกัน ? ”
ซางดี่ขวินที่ถูกมัดมือมัดเท้าอยู่นั้นได้ตระโกนออกมาด้วยความโกรธ
“ฉันจะบอกเธอเอง ”
ถังซิ่วได้เดินเข้ามาในห้องพร้อมกับมองไปที่ท่าทางโกรธของเธอที่กำลังเปลี่ยนไปแต่หลงเจิ้งหยูเองก็ได้เดินกอดอกเข้ามาพร้อมกับต้องการดูโชว์ครั้งนี้
“เป็นแก……..”
นัยน์ตาของเธอหดเล็กลงก่อนที่จะกรีดร้องออกมา
ซางเฟิงเซี่ยนเองก็ได้ขมวดคิ้วพร้อมกับมองไปที่หลงเจิ้งหยูก่อนที่สายตาของเขาจะตกลงไปที่ถังซิ่ว เขาสังเกตถังซิ่วอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะหันหน้ากลับมาแล้วตะโกนออกมาว่า
“ดี่ขวิน ลูกรู้จักเขางั้นหรอ ?”
ถังซิ่วได้มองไปที่ชายทั้งสี่ที่กำลังยกเก้าอี้มาให้ เขานั่งลงไปพร้อมกับไขว้ขาแล้วพูดออกมาว่า
“แน่นอน เธอรู้จักฉันแน่นอน ! แม้ว่าฉันจะกลายเป็นขี้เถ้าไปเธอก็ยังจำฉันได้แน่นอน! ฉันพูดถูกไหม ? หญิงน้อยซาง”
ท่าทางของเธอนั้นเปลี่ยนไปเป็นหวาดผวาเพราะเธอรู้ตั้งแต่ที่ถังซิ่วโผล่มาแล้วว่าเธอจบแล้วเพราะความโหดร้ายและป่าเถื่อนของถังซิ่วนั้นเธอรู้จักดี แม้กระทั่งมือสังหารที่จ้างมายังตาย เขาต้องไม่ปล่อยเธอไปแน่นอน
ถังซิ่วได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า
“มากลัวตอนนี้มันได้อะไรงั้นหรอ ? ก่อนหน้านี้ฉันอุส่ายกโทษให้เธอสองพี่น้องแต่เธอกล้ามากนะที่จ้างมือสังหารมาฆ่าฉัน แค่เพียงความคิดนี้ฉันก็เกลียดเธอเข้ากระดูกดำและมันเพียงพอต่อการที่ฉันจะส่งทั้งสองพี่น้องไปอยู่กับพระผู้เป็นเจ้าแล้ว !”