…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

เด็กหนุ่มคนนั้นมีชื่อว่าฮวงซูเป็นนายน้อยคนโตของตระกูลฮวงแห่งเมืองบลูซิตี้และมีฉายาเป็นเพลย์บอยหนุ่มคนหนึ่ง เหตุผลที่เขามาที่เมืองนี้นั้นก็เป็นเพราะว่าเขามาเจอกับเพื่อนเก่าและมาพบผู้มีพรสวรรค์คนหนึ่ง

เมื่อได้ยินคำพูดของแอนดี้นั้นเขาก็ได้สวนกลับทันทีต้องเอามือมาชี้ที่หน้าตัวเองแล้วพูดว่า

“เธอบอกว่าฉันเป็นอันธพาล ? ฉันเนี่ยนะ ? เธอนั้นแหละที่เป็นคนพูดจาน่าอายโดยการป่าวประกาศไปทั่วว่าอยากจะเป็นที่รักของผู้ชายคนนั้น การที่ฉันบอกว่าจะเป็นที่รักของเธอนั้นมันเป็นอันธพาลอย่างไรกัน ? หากว่าฉันเป็นอันธพาลแล้วเขาหละ ? ”

เมื่อพูดจบเขาก็ได้เอามือชี้ไปที่ถังซิ่วทันที

แอนดี้หันหน้ากลับไปมองที่ถังซิ่วขณะที่ดวงตาของเธอเป็นประกายพร้อมพูดออกมาว่า

“เขาเป็นบอสของฉันและฉันเองก็มีเป้าหมายว่าจะเป็นที่รักของเขา ฉันไม่รู้หรอกนะว่านายเป็นใครแต่ฉันรับประกันได้เลยว่านายเทียบไม่ได้ถึง1/10ของบอสฉันด้วยซ้ำ ไม่สิ นายเทียบกับขนของเขาไม่ได้ด้วยซ้ำ”

“พุฟฟฟฟฟฟ”

แขกคนอื่นที่กำลังรับชมฉากอย่างสนุกสนานนั้นก็อดไม่ได้ที่จะส่งเสียงหัวเราะออกมา

ท่าทางของฉวงซูนั้นเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วพร้อมยืดหน้าอกแล้วพูดว่า

“สาวน้อย เธอดูดีๆสิว่าพี่ชายคนนี้สามารถเข้ามาในร้านอาหารแห่งนี้ได้ก็แดสงให้เห็นว่าสถานะของฉันนั้นไม่ธรรมดา ไม่อยากจะโม้หรอกนะว่าเธอสามารถถามชื่อฉันได้จากทุกคนในเมืองบลูซิตี้ได้อย่างแน่นอน ! หากว่าเธอยอมติดตามฉันรับรองได้เลยว่าเธอจะได้นอนนับเงินคนตะคริวกินอย่างแน่นอน เป็นไง ? ดีไหม ? ”

แอนดี้ได้มองอย่างวนเพศไปที่ฮวงซูพร้อมพูดออกมาว่า

“มีเงินแล้วทำไมต้องโชว์ ? นายคิดว่านายเป็นใครกันห๊ะ ? ผู้นำประเทศ ? มหาเศรษฐีระดับโลกงั้นหรอ ? คนทั้งบลูซิตี้รู้จักนายแล้วทำไม ? ”

หยาบ!

ดูถูก !

คำพูดของแอนดี้นั้นเปรียบเสมือนมีดที่ทิ่มแทงหัวใจของฮวงซูและทำให้ท่าทางของเขานั้นสลดทันที เขาไม่เคยคิดเคยฝันเลยว่าผู้หญิงที่ดูดีเหมือนเทพธิดาตัวน้อยนี้จะปากร้ายถึงขนาดนี้

ถังซิ่วที่ยืนอยู่ข้างๆได้ตบไหล่ของแอนดี้เบาๆพร้อมมองไปที่ฮวงซูแล้วพูดว่า

“อย่าได้สร้างหายนะให้แก่ตัวเอง รีบๆไสหัวไปได้แล้ว พวกเรายังมีเรื่องที่ต้องทำและหากว่านายต้องการจะหาคนเล่นเป็นเพื่อน ฉันเองก็จะเล่นไปกับนายเอง”

แม้ว่าฮวงซูนั้นจะเป็นเพลย์บอยแต่ก็สามารถเห็นได้ชัดว่าถังซิ่วนั้นไม่ใช่คนที่ง่ายต่อการข่มเหงเพราะคนที่สามารถอยู่ในห้องอาหารแห่งนี้ได้นั้นล้วนแต่เป็นคนที่มีสถานะ ยิ่งไปกว้านั้นคือที่นี่คือสตาร์ซิตี้และเป็นเหมือนดั่งคำพูดที่ว่ามังกรไม่อาจจะข่มเหงงูเจ้าถิ่นได้ หากว่าหนุ่มคนนี้มีสถานะเท่าๆเขาในเมืองแห่งนี้แล้วละก็ เขาจะต้องได้รับหายนะอย่างแน่นอน

แต่เขาเองก็เข้าใจคำพูดที่ว่า คนที่ฉลาดมันจะต้องเรียบรู้ศัตรูของตังเองก่อนเสมอ

ดังนั้น

ฮวงซูจึงได้มองไปที่ถังซิ่วพร้อมถามออกมาว่า

“คุณผู้สูงส่งเป็นใครอย่างงั้นหรอ ? ทำไมถึงได้พูดจาใหญ่โตขนาดนี้ !”

ถังซิ่วพูดออกมาอย่างไม่แยแสว่า

“ฉันจะเป็นใครนั้นก็ไม่ใช่เรื่องของนาย พวกเรานั้นเป็นเพียงแค่คนแปลกหน้ากันเท่านั้นและไม่มีความสัมพันธุ์อะไรกัน”

คิ้วของฮวงซูนั้นขมวดเข้าหากันโดยทันทีพร้อมพูดออกมาว่า

“นายต้องการจะพูดอะไร ? ”

ถังซิ่วได้พูดออกมาว่า

“หากว่านายฉลาดนั้นก็ไม่ควรที่จะไปจีบผู้หญิงไปทั่ว นายอาจจะไปหาร้านอาบอบนวดหรืออะไรก็ตามที่ราคาถูกเหล่านั้น ฉันจะให้คนไปส่งนายเอง”

“อะไรนะ ? ”

ฮวงซูนั้นตกใจโดยทันที

เขามองไปที่ถังซิ่วด้วยความไม่อยากจะเชื่อ เขามีสถานะอะไร ? ฉันจะต้องไปพึ่งพาของอย่างร้านอาบอบนวดงั้นหรอ ?

หากว่าเขาต้องการนั้นเพียงแค่กระดิกนิ้วก็มีผู้หญิงมากมายอยากจะเป็นของเขา! สมองของไอเด็กนี้มันมีปัญหา ?

ถังซิ่วไม่ได้สนใจฮวงซูแม้แต่น้อยพร้อมจูงมือของแอนดี้เข้าไปในห้องส่วนตัวที่หลงเจิ้งหยูรออยู่เพราะในความคิดของเขานั้นฮวงซูก็เป็นเพียงแค่คนแปลกหน้าเท่านั้น

ห้องA1608

หลงเจิ้งหยูกำลังนั่งกอดเด็กสาวสวยคนหนึ่งที่สวมชุดลายดอก ในห้องนี้นั้นมีสาวสวยอยู่มากมาย บางคนนั้นกำลังนั่งหัวเราะหรือเล่นอะไรบางอย่าง บางคนนั้นกำลังพร้อมเพลงและบางคนกำลังเสิร์ฟไวน์

เมื่อถังซิ่วได้เปิดเข้ามานั้นสายตาทั้งหลายก็ได้จับจ้องมาที่เขาคนเดียว

“ที่นี่ดูคึกคักดีหนิ !”

ถังซิ่วได้พาแอนดี้เข้ามาในห้องพร้อมกับนั่งลงและมองไปที่หลงเจิ้งหยูด้วยรอยยิ้ม

หลงเจิ้งหยูเองก็ได้โบกมือให้กับสาวๆที่ร้องเพลงเพื่อให้เธอหยุดแล้วพูดกับถังซิ่วด้วยรอยยิ้มว่า

“วันนี้ได้มีเพื่อนมากมายจากบลูซิตี้และฉันได้เชิญให้พวกเขามากินดื่มที่นี่ ไม่เคยคิดเลยว่าหนุ่มหล่อผู้โด่งดังจะมาที่แห่งนี้ ! และมาพร้อมกับเทพธิดา……….สุดสวยที่น่าหลงใหลคนนี้ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเธอถึงได้สามารถอยู่ในสายตาของนาย”

“ปากหมาไม่เปลี่ยนเลยนะ !”

ถังซิ่วพูดออกมาด้วยความอับอาย

หลงเจิ้งหยูได้หัวเราะออกมาแล้วมองไปที่ชายหนุ่มที่อยู่ข้างๆแล้วพูดว่า

“เฟย์ฉาน เขาคือถังซิ่วที่ฉันพูดถึงไง ถังซิ่วนี่คือเฟย์ฉานเป็นนายน้อยคนกลางของตระกูลเฟย์ของบลูซิตี้ เขาอาจจะดูบ้าๆแต่ก็เป็นคนที่คุ้มค่าที่จะเป็นเพื่อนกันอย่างยาวนานได้อย่างแน่นอน”

ถังซิ่วเองนั้นไม่ได้สนใจกับการแนะนำของหลงเจิ้งหยูด้วยซ้ำแต่เขาเห็นแก่หน้าของเขาจึงได้พยักหน้าไปชายคนนั้น

เฟย์ฉานเองก็ได้ยิ้มออกมาแล้วพูดว่า

“สวัสดีถังซิ่ว ฉันได้ยินเรื่องของนายมาเยอะเชียวล่ะ ตั้งแต่ที่ได้มาถึงเมืองนี้ก็ได้ยินแต่ชื่อของนายจากหลงเจิ้งหยูไม่มีหยุดเลยแม้แต่น้อย”

“มีเรื่องอะไรกันงั้นหรอ ?”

ถังซิ่วได้ถามออกมา

!

เฟย์ฉานที่ได้ยินคำพูดของถังซิ่วก็ได้ยิ้มออกมาอย่างขมขื่นแล้วคิดในใจว่า

“หรือว่าไม่ดีที่มาเจอเขากัน ? ”

เมื่อหลงเจิ้งหลินเห็นอย่างนั้นจึงได้พูดออกมาอย่างรวดเร็วว่า

“ไม่ๆๆๆ ฉันเองก็ก็ได้พูดเรื่องนายไปเยอะเหมือนกัน ในอนาคตถ้านายมีเรื่องที่บลูซิตี้แล้วล่ะก็ นายสามารถติดต่อหาเขาได้ทันที เขานั้นเป็นเจ้าถิ่นอยู่ที่นั่นและสามารถช่วยนายได้หลายเรื่องเลยล่ะ”

เส้นสาย ?

ถังซิ่วเขาใจความหมายของหลงเจิ้งหยูดี ก่อนที่เขาจะมองไปที่เฟย์ฉานแล้วพูดออกมาว่า

“วันนี้ฉันมีเรื่องที่ต้องการจะคุยกับหลงเจิ้งหลิน หลังจากนี้หากว่ามีเวลาว่างแล้วฉันจะไปหาที่ดื่มกับนายอย่างแน่นอน”

“ฉันจะรอ !”

เฟย์ฉานได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้ม

ในขณะนี้นั้นประตูของห้องก็ได้ถูกเปิดขึ้นพร้อมกับฮวงซูด้วยใบหน้าเต็มไปด้วยความอับอาย เมื่อเขาเห็นแอนดี้และถังซิ่วแล้วก็ได้แต่จ้องมองขณะที่ใบหน้าของเขากลายเป็นบูดบึ้งพร้อมกับตะโกนไปที่ถังซิ่วด้วยความโกรธว่า

“เด็กน้อย เมื่อกี้ถือว่านายหนีออกมาได้เร็วนะ ไม่คิดเลยว่าจะมาอยู่ที่นี่ นายคิดว่าอยู่ที่เมืองนี้แล้วฉันจะจัดการกับนายไม่ได้งั้นหรอ ? ”

ถังซิ่วมองไปที่ฮวงซูอย่างไม่สนใจพร้อมหันไปที่หลงเจิ้งหยูแล้วถามออกมาว่า

“นายรู้จักเขางั้นหรอ ? ”

หลงเจิ้งหยูเองก็ได้พูดออกมาอย่างรวดเร็วว่า

“ถังซิ่ว นายเกิดเรื่องเข้าใจผิดอะไรกันงั้นหรอ ? เขาเป็นเพื่อนอีกคนของฉันชื่อฮวงซูซึ้งเป็นนายน้อยตะกูลฮวงจากบลูซิตี้”

ถังซิ่วส่ายหัวขณะที่พูดออกมาว่า

“หลงเจิ้งหลิน ก่อนหน้านี้ฉันเคยเชื่อคำพูดที่ว่า ของเหมือนๆกันก็จะอยู่ด้วยกันและคนประเภทเดียวกันมักจะรวมกลุ่มกันเสมอ คำพูดนี้นั้นมีเหตุผลเป็นอย่างมากแต่แล้วฉันก็ต้องคิดผิดในในวันนี้ ชายคนนี้นั้นไม่ใช่คนที่ดีนักแต่นายกลับอยู่กลุ่มเดียวกับเขา ช่างมันเถอะ นายอยู่ของนายไป ! ฉันขอตัวลา”

“อย่าเพิ่งไป!!!!”

หลงเจิ้งหยูได้รีบวิ่งไปขวางทางถังซิ่วไว้พร้อมยิ้มออกมาอย่างขมขื่นหลังจากนั้นเขาก็มองไปที่ฮวงซูอย่างดุร้ายแล้วตะโกนออกมาด้วยความโกรธว่า

“ไอเด็กคนนี้ นี่มันเรื่องอะไรกัน? อยากจะให้ฉันพามาเจอถังซิ่วแต่นายกลับไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง ? ฉันรู้จักนิสัยของเขาดีว่าถังซิ่วนั้นจะไม่เป็นคนเริ่มล่วงเกินใครก่อน นายไปทำอะไรไว้กัน ? ถึงได้ทำให้น้อยชายถังอารมณ์เสีย ? ”

ฮวงซูได้จ้องมองด้วยความประหลาดใจว่า

“เขาคือถังซิ่ว ? ”

หลงเจิ้งหลินพูดออกมาด้วยความโกรธว่า

“ใช่แล้ว ! หนึ่งเดียวคนนี้ ! คนที่ฉันเคยเล่าให้นายฟัง ! ฉันบอกแล้วว่าเขาจะมาในวันนี้ ”

ท่าทางอึดอัดได้ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของฮวงซูทันทีหลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้น เขารวบรวมความกล้าพร้อมยิ้มออกมาแล้วพูดว่า

“พี่ชายถัง ก่อนหน้านี้ผมผิดเองและไม่คิดว่าคุณคือถังซิ่วและผมชื่นชมคุณเป็นอย่างมากหลังจากที่ได้ฟังเรื่องราวมาจากหลงเจิ้งหยู ฮีฮี ……”

ถังซิ่วได้ถอนหายใจออกมาเพราะเขาไม่ชอบคนประเภทนี้ที่มักจะก่อปัญหาและชักนำหายนะเพราะยังไงตอนที่เขาอยู่ในดินแดนแห่งนิรันด์นั้นก็ได้ฆ่าคนประเภทนี้มานับไม่ถ้วนแต่อย่างไรก็ตามในเมื่อเขาเป็นเพื่อนของหลงเจิ้งหยูและเขาเองก็มีเรื่องที่ต้องขอช่วยเช่นกัน เขาจึงไม่จำเรื่องนี้มาใส่ใจแล้วพูดออกมาว่า

“ช่างมันเถอะ ! ถือซะว่าเรื่องก่อนหน้านี้ไม่เคยเกิดขึ้นแต่นายควรจำอะไรไว้นะว่าก่อนที่นายจะไปล่วงเกินใครก็ควรที่จะรู้ประวัติของอีกฝ่ายเสียก่อนไม่อย่างงั้นนายจะต้องทุกข์ทรมานอย่างแน่นอน”

ฮวงซูเองก็รู้สึกไม่ดีเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำสั่งสอนของถังซิ่ว แต่เขาก็ยังคงพยักหน้ายอมรับมัน

หลงเจิ้งหยูได้ลากถังซิ่วมานั่งที่โซฟาพร้อมกับไล่ผู้หญิงเหล่านั้นออกไปแล้วถามออกมาว่า

“น้องชายถัง ก่อนหน้านี้นายบอกว่ามีเรื่องที่ต้องการจะคุยกับฉัน มันเป็นเรื่องอะไรงั้นหรอ ? ”

ถังซิ่วได้พูดว่า

“อย่างแรกคือหาอะไรมาให้แอนดี้ทานก่อน”

หลงเจิ้งหยูได้กดปุ่มเรียกพนักงานมาอย่างรวดเร็วพร้อมกับสั่งอาหารมากมายแล้วพูดกับถังซิ่วว่า

“เอาล่ะ ตอนนี้ก็ว่ามาได้แล้ว ? เรื่องอะไรกันงั้นหรอ ? ”

ถังซิ่วได้พูดต่อว่า

“ฉันนั้นได้ให้คนบางคนช่วยหาครูแม่บ้านมาจากต่างประเทศและจะมาถึงเมืองนี้ในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องการที่จะให้พวกเขาพักอยู่ในโครงการเดียวกับฉันและนายเองก็เป็นเจ้าของโครงการเหล่านั้น ฉันจึงต้องการจะถามนายว่าพอมีใครที่ต้องการจะปล่อยเช่าวิลล่าบ้างไหม ฉันจำเป็นต้องใช้มันอยู่ไม่กี่เดือน”

หลงเจิ้งหยูมองไปที่ถังซิ่วด้วยท่าทางแปลกๆพร้อมพูดว่า

“นี่นายจงใจหรือเปล่า ? อย่าบอกนะว่านายรู้ว่าฉันเพิ่งซื้อบ้านที่โครงการเดียวกับนาย ? ”

ถังซิ่วถามออกมาด้วยความประหลาดใจว่า

“นายซื้องั้นหรอ ? ในเมืองประตูทิศใต้ ? ”

หลงเจิ้งหยูได้ฝืนยิ้มออกมาแล้วพูดว่า

“ฉันนั้นซื้อตั้งเอาไว้เพื่อตัวเองและไม่มีทางให้นายอย่างแน่นอน ! ก่อนหน้านี้ฉันมีเพื่อนที่ได้มาซื้อวิลล่านี้ไว้แล้วต้องการที่จะย้ายไปต่างประเทศ ดังนั้นฉัยจึงได้ซื้อต่อเขามาและต้องการที่จะตกแต่งที่นั่น !”

“ฮ่า ฮ่า”

ถังซิ่วหัวเราะออกมาอย่างดังพร้อมกับมองไปที่หน้าตาที่ดูรันทดของหลงเจิ้งหยูพร้อมพูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า

“ให้ฉันเช่าก่อนนะ หลังจากที่ครูเหล่านั้นฝึกแม่บ้านเสร็จแล้วฉันจะให้มันคืนแก่นาย”

หลงเจิ้งหยินส่ายหัวพลางถอนหายใจออกมา

“นายนี่มันคู่อริของฉันอย่างแท้จริง เฮ้อ ยังไงก็ตามฉันเองก้ยังไม่ได้ย้ายไปอยู่ที่นั่น! หากว่านายต้องการที่จะใช้ก็เอากุญแจไปเลย ฉันจะฝากมันไว้กับญาติผู้พี่ของฉัน ”

“ญาติผู้พี่ของนาย ? ”

ถังซิ่วรู้สึกสับสนเล็กน้อย