…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ริมฝีปากของเหมี่ยวเหวินถังขดตัวอย่างรวดเร็วพร้อมรีบไปสะกิดแขนเสื้อของถังซิ่วทันทีแล้วกระซิบว่า
“ถัง …ถังซิ่วการประมูลครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องตลกนะ!หากนายไม่มีเงินเพียงพอและเสนอราคาไปมั่วๆแล้วละก็จะไม่ใช่แค่ต้องเสียค่าชดเชยที่ใหญ่หลวงนะแต่นายยังจะโดนจัดการโดยเจ้าของการประมูลนี้ด้วย เจ้านายใหญ่ที่อยู่เบื้องหลังการประมูลดอกชงโคนี้เป็นบุคคลที่ทรงพลังมาก ”
ถังซิ่วมองไปที่แสงของข้อความสั้นๆที่ส่องออกมาจากหน้าจอโทรศัพท์มือถือของเขาพร้อมมองด้วยรอยยิ้มไปที่เหมี่ยวเหวินถังแล้วพูด
“ใจเย็นไว้ฉันจะไม่ทำอะไรโดยไม่คำนวณถึงสิ่งที่จะตามมาหรือความสามารถของฉัน!”
เหมี่ยวเหวินถังที่กำลังพูดเกลี้ยกล่อมอย่างกระวนกระวายนั้นก็ได้หยุดลง
เขารู้สึกว่าถังซิ่วไม่สามารถใช้จ่ายเงินได้มากขนาดนั้นต่อให้ถังซิ่วจะน่าทึ่งแค่ไหนก็ตาม ทว่าอายุของเขายังน้อยนัก เพียงแค่ประมาณ20ปีเท่านั้น ต่อให้ครอบครัวของเรารวยยังไงก็ตาม ไม่มีทางที่เขาจะโอนเงินถังซิ่วใช้จ่ายมากขนาดนี้แน่นอน
ที่แถวหน้า …
รอยยิ้มและการแสดงออกที่น่าภาคภูมิใจบนใบหน้าของชายอ้วนวัยกลางคนแข็งทื่อในทันที เขาหันศีรษะไปด้วยความยากลำบากและขณะที่เขาเห็นถังซิ่วนั้น เขากระโดดออกจากเก้าอี้ของเขาและคำรามเสียงดังว่า
“ไร้สาระ! เขาต้องจงใจรบกวนการประมูลนี้ ฉันไม่เชื่อว่าเขาสามารถหาเงินได้2.5พันล้านหยวนเพื่อซื้อเกาะแห่งนี้ได้”
คำพูดของเขาเป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่ในสถานที่จัดงานประมูลได้เห็นพ้องกัน ในขณะที่เสียงซุบซิบเริ่มดังขึ้นอีกครั้ง
“ฮะ!? เขาอายุเท่าไหร่? เขาเด็กเกินไป! เขาจะซื้อเกาะแห่งนี้ได้อย่างไร? การประมูลครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องตลก เขาไม่ทราบผลของการปั่นราคา? ”
“บ้า! เด็กคนนั้นมันไม่มีเหตุผลแล้ว ราคาของเกาะเก้ามังกรที่จะซื้อตอนนี้ไม่ใช่250,000หรือ2.5ล้านหยวนแล้ว! แต่มีมูลค่าถึง2.5 พันล้าน แม้แต่ในหมู่ทุกคนที่มีอยู่ตอนนี้ผมมั่นใจว่า4ใน5ของสินทรัพย์ทั้งหมดจะไม่สามารถเท่ากับราคานี้ได้ ”
“หัวของเด็กคนนี้ถูกเตะโดยลา? ก่อนหน้านี้คนอ้วนได้เอาโสมป่าพันปีไปจากเขา อาจจะเป็นได้ว่าเขาเก็บความไม่พอใจและตอนนี้จงใจปั่นราคา? เขาไม่ได้สังเกตเห็นว่าเจ้าอ้วนนั่นได้ถึงขีดจำกัดแล้วและไม่สามารถขึ้นราคาได้อีกแน่นอน ”
“คนโง่จริงๆ ฉันไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไร! เพื่อแก้แค้นถึงกับได้สร้างเรื่องน่าตลกนี้ขึ้นมา เจ้าอ้วนนั่นคงไม่สามารถที่จะเพิ่มราคาได้อีกแล้ว ในเมื่อเขาเลือกที่จะขี่หลังเสือแล้วก็คงจะไม่มีทางลงได้ง่ายๆแน่นอน ”
“คนโง่ … ”
“…”
ถังซิ่วได้ยินเสียงพูดคุยรอบข้างอย่างชัดเจน อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้พูดอะไรและรอยยิ้มบนใบหน้าของเขาก็ค่อยๆปรากฏออกมาเรื่อย ๆ
ในขณะนี้ผู้ประกาศเองก็เต็มไปด้วยความกังวลในหัวใจ เธอรู้สิ่งหนึ่งชัดเจนคือ – ถ้าหากถังซิ่วที่ได้รับสิทธิในการซื้อเกาะเก้ามังกรแล้วดันไม่มีเงินที่จะจ่ายได้ เธอไม่เพียงแต่จะไม่สามารถรับเปอร์เซ็นต์ของรายการประมูลที่ขายได้แล้วเท่านั้น แต่จะทำให้ชื่อเสียงของเธอในธุรกิจประมูลดิ่งลงเหวอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตามเธอก็ตระหนักดีถึงความจริงที่ว่าเมื่อมีการดำเนินการประมูลอยู่เธอไม่มีสิทธิ์หรืออำนาจในการสอบถามเกี่ยวกับจำนวนเงินที่ถังซิ่วมี
ตอนนี้เธอควรทำอะไรดี?
ผู้ประกาศสาวเสี่ยวอ้ายมองที่ชายอ้วนวัยกลางคนด้วยการแสดงออกที่ไร้อำนาจก่อนที่วิสัยทัศน์ของเธอจะตงลงไปที่ถังซิ่ว
ชายอ้วนวัยกลางคนตรงไปที่ถังซิ่วขณะที่เขาตะโกนดังอีกครั้งว่า
“มิสผู้ประกาศผมขอแนะนำให้เด็กคนนั้นพิสูจน์ว่าเขามีเงินทุนเพียงพอ มิฉะนั้นแล้วงานประมูลของคุณจะไม่น่าเชื่อถืออย่างถึงที่สุดและคุณจะทำให้ผู้เข้าร่วมการประมูลทุกคนผิดหวัง ”
ผู้ประกาศมองไปที่ถังซิ่วอย่างลึกซึ้งและในที่สุดเธอก็ตอบกลับชายอ้วนวัยกลางว่า
“ท่าน ฉันขอโทษจริงๆฉันไม่มีสิทธิ์ทำเช่นนั้น ”
ถังซิ่วไม่สนใจไออ้วนนั่นและพูดคุยกับผู้ประประกาศว่า
“ตอนนี้ฉันต้องการถามว่าในกรณีใดๆก็ตามที่ใครบางคนสร้างปัญหาโดยเจตนาในการประมูลของคุณ จะทำอะไรได้บ้าง? ตัวอย่างเช่นเรื่องที่มีไออ้วนตัวหนึ่งที่ยอมรับคำว่าแพ้ไม่ได้แล้วกระโดดโลดเต้นเหมือนคนสิ้นคิดนี้ คุณจะทำอย่างไร? ”
“ไอเด็กเปรต แกอยากตายงั้นหรอ !”
ช่วยอ้วนคนนั้นได้จ้องมองไปที่ถังซิ่วด้วยแววตาที่ดุร้าย
ผู้ประกาศสาวเสี่ยวอ้ายกลัวมากขณะที่เธอเดินก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วและพูดว่า
“ท่าน ไม่ว่าสุภาพบุรุษคนนี้จะซื้อของได้หรือไม่ แต่เพราะเขาประมูลแล้ว งานประมูลของเราจะทำรายการเกี่ยวกับสินค้าที่เขาประมูลเองและนอกจากนี้ เรื่องนี้เป็นเรื่องของงานประมูลของเรากับสุภาพบุรุษคนนี้และคุณไม่มีสิทธิที่จะเข้ามาแทรกแซงได้ โปรดกลับไปที่ที่นั่งของคุณ เราจะทำการประมูลต่อไปและฉันต้องการถามคุณว่า คุณต้องการเพิ่มราคาหรือไม่? ”
“…”
ใบหน้าของชายวัยกลางคนแดงเข้มเนื่องจากความโกรธของเขา แม้ว่าเขาจะมีแบ๊คที่ถือว่าใช้ได้ แต่เขาก็ไม่กล้าที่จะลองดีกับเจ้านายที่อยู่เบื้องหลังงานประมูลนี้ เขาทำได้แค่เพียงเลือกที่จะยอมแพ้ด้วยความอับอายและกลืนความโกรธของเขาไว้ในขณะที่นั่งลงเงียบๆ
ผู้ประกาศรู้สึกโล่งใจ อย่างไรก็ตามเมื่อเธอเห็นชายอ้วนวัยกลางคนไม่เสนอราคาเพิ่มนั้น มันทำให้เธอรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย แต่ก็ยังคงพูดต่อไปว่า
“ข้อเสนอของเก้าะเก้ามังกรในตอนนี้มีมูลค่า2.5พันล้านมีใครต้องการเสนอราคาอื่นๆหรือไม่? ถ้าไม่เช่นนี้เกาะเก้ามังกรเกาะนี้จะขายให้กับสุภาพบุรุษคนนั้น ”
ไม่มีใครพูด …
ทุกคนมองไปที่ถังซิ่วขณะที่พวกเขาต้องการรอผล
“เมื่อเป็นเช่นนั้น จากนี้ฉันขอประกาศว่าสิทธิในการเป็นเจ้าของเกาะเก้ามังกรจะถูกขายให้กับสุภาพบุรุษผู้ประมูลคนสุดท้าย ท่านโปรดนำบัตรประจำตัวของคุณมาและติดตามฉันไปที่หลังเวทีเพื่อดำเนินการต่อด้วยการทำธุรกรรม ”
สายตาของผู้ประกาศมองไปที่ถังซิ่วขณะที่เธอพูดด้วยท่าทางที่เต็มไปด้วยความคาดหวัง
ถังซิ่วลุกขึ้นและเดินไปทางด้านหลังของสถานที่จัดประมูล
ชายอ้วนวัยกลางคนร่างก็ลุกขึ้นยืนขณะที่เขามองไปที่ถังซิ่วด้วยท่าทางที่ขมขื่นและเกลียดชังในขณะที่เขาโห่ร้องออกมาว่า
“ทุกคนอย่าไปก่อน เราตามไปดูที่หลังเวทีกัน!ฉันต้องการจะดูว่าไอเด็กเปรตที่หม*ยยังไม่ขึ้นนั่นจะสามารถจ่ายเงิน2.5พันล้านได้ไหม ”
“ใช่! ไปกันเถอะ ”
“ดีลองมารอดูผลกัน!”
“ตกลง ไปกันเถอะ!”
ไม่มีใครเลือกที่จะออกไปในขณะที่ทุกคนพากันไปที่หลังเวที พวกเขาต้องการจะรู้ว่าถังซิ่วสามารถเอาเงินจำนวนมากออกมาได้หรือไม่ ถ้าเขาสามารถจ่ายเงินได้จริงพวกเขาก็สามารถเป็นพยานในการทำธุรกรรมที่ราคาสูงเสียดฟ้านี้ได้
เหมี่ยวเหวินถังและเซ่าหมิงเซิงยิ้มฝืนๆไปที่กันและกันก่อนที่พวกเขาจะเดินตามฝูงชนไปทางหลังเวที หากเป็นราคาซัก1.8พันล้าน พวกเขาก็อาจจะรวมเงินกันเพื่อช่วยถังซิ่วจ่ายก่อนได้ แต่ด้วยราคามหาศาลถึง2.5พันล้านนั้น แม้ว่าพวกเขาต้องการที่จะให้ มันก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ยากมาก
ที่หลังเวทีการประมูล
ผู้จัดการรู้อยู่แล้วเกี่ยวกับเรื่องที่ทุกคนกำลังรอฟังผล ดวงตาของเขากวาดไปที่ฝูงชนก่อนที่จะตกลงบนตัวถังซิ่วในขณะที่เขาพูดด้วยรอยยิ้มว่า
“ขอแสดงความยินดีด้วยครับคุณถัง ”
“อืม!”
ถังซิ่วพยักหน้าของเขาขณะที่เขายื่นบัตรธนาคารและพูดว่า
“โอนเงิน!”
ผู้จัดการได้นำบัตรธนาคารและเรียกผู้ช่วยหลายคนในขณะที่เขารีบจัดการการโอนออกจากบัญชี เมื่อการโอนเงิน2.5พันล้านได้รับการยืนยันแล้ว เขาได้แจ้งผู้ช่วยหลายคนของเขาเพื่อช่วยให้ถังซิ่วกรอกสัญญาซื้อและพิธีการอื่นๆ
“จริงเหรอ? … เขาซื้อมันจริงๆเหรอ?”
ชายอ้วนวัยกลางคนและคนที่แอบล้อเลียนถังซิ่วก่อนหน้านี้ก็ตกตะลึง พวกเขาจ้องมองด้วยท่าทางโง่งมไปที่ถังซิ่วผู้ซึ่งได้รับคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่ของห้องประมูลเพื่อจัดการกับขั้นตอนต่างๆ ทุกคนต่างมองด้วยความตกใจพร้อมความอับอายได้ปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าของพวกเขา
โดนตบหน้า?
การประมูลครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงสิ่งที่เรียกว่าการตบหน้า
ชายอ้วนวัยกลางคนนั้นอับอายเป็นอย่างมาก เขาเกือบมองหาจุดที่จะขุดและฝังตัวเข้าไปในนั้น คนอื่นๆก็รู้สึกราวกับว่าพวกเขากำลังถูกตบหน้าด้วยฝ่ามือที่ไม่สามารถมองเห็นได้อย่างไร้ความปราณี แม้กระทั่งเหมี่ยวเหวินถังและเซ่าหมิงเซิงเองก็แอบแอบสับสนและรู้สึกอับอายเป็นครั้งแรก
การประมูลดอกชงโคจึงสิ้นสุดลงในที่สุด
หลังจากผ่านขั้นตอนต่างๆแล้ว มีแขกจำนวนมากมารวมตัวกันที่ถังซิ่วเพื่อแสดงถึงเจตนาดีของพวกเขา เนื่องจากคนเหล่านี้มีภูมิหลังที่มีอิทธิพลมากในประเทศนี้ ถังซิ่วจึงไม่ต้องการที่จะยั่วโมโหพวกเขาดังนั้นจึงต้องต้อนรับพวกเขาอย่างไม่เต็มใจหลังจากนั้นเขา,เหมี่ยวเหวินถัง,เซ่าหมิงเซิงและพรตเฒ่าซือยี่ก็รีบกลับไปครึ่งชั่วโมงหลังจากนั้น
ภายในห้องpresidenyial suit ที่ชั้นบนสุดของโรงแรมระดับ5 ดาวจาร์วิส ถังซิ่วได้โอนเงินกู้80ล้านหยวนคืนให้กับเจียหลุยเดา จากนั้นเขาก็โทรหาเฉินซีซ่งเพื่อโอนเงินคืนไปให้เขา500ล้านหยวน ตอนนี้เขาเหลือเงินเพียง90ล้านหยวนเท่านั้น
“หนี้2.5พันล้านหยวน!”
หลังจากที่ได้จัดการเรื่องเหล่านี้แล้ว ถังซิ่วอดไม่ได้ที่จะลูบริมฝีปากของเขาเอง
คำพูดทั่วไปอาจบอกได้ว่า หลายคนกลัวที่จะถูกกัดโดยเหา แต่พวกเขาก็ไม่กังวลเมื่อหนี้ท่วมมาถึงหูของพวกเขา
แต่ประโยคนี้ไม่เหมาะสมสำหรับถังซิ่วเพราะ เขาให้ความแตกต่างระหว่างความกตัญญูและความแค้นและขีดเส้นระหว่างเรื่องประโยชน์ส่วนตัวและส่วนรวม แม้ว่าเฉินซีซ่งจะเป็นศิษย์ที่ไม่เป็นทางการของเขา แต่ความสัมพันธ์ส่วนตัวของพวกเขาไม่ได้มีเอี่ยวกับทรัพย์สินส่วนตัวของพวกเขาและสำหรับเขา เงินนี้ไม่ใช่ความกตัญญูในนามของเฉินซีซ่ง
“มันเป็นเรื่องจำเป็นจริงๆที่จะเร่งแผนสำหรับการทำเงิน”
ถังซิ่วเดินไปที่หน้าต่างในขณะที่เขามองไปที่ม่านในตอนกลางคืน เฝ้าดูอุโมงค์ใต้ดินในขณะที่ความคิดทุกชนิดเพิ่มขึ้นภายในใจของเขา เวลาผ่านไปนานมากในขณะที่เขานึกถึงบางสิ่งบางอย่างและออกจากห้องของเขาและไปเคาะประตูห้องข้างๆ
ภายในห้องข้างๆ
เหมี่ยวเหวินถังและเซ่าหมิงเซิงไม่ได้พักผ่อน พวกเขานั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นที่สว่างไสวในขณะที่กำลังสูบบุหรี่และพูดคุยกัน
“พี่เซ่า ผมอยากรู้เรื่องภูมิหลังของถังซิ่วให้มากขึ้น ฉันคิดว่ายิ่งเราสืบเรื่องเขามากเท่าไรฉันก็รู้สึกว่าเขาลึกลับจนไม่สามารถเข้าใจได้เลย ”
เหมี่ยวเหวินถังพูดด้วยเสียงที่กระหึ่ม
“นายไม่ใช่คนเดียวที่รู้สึกแบบนั้นหรอก ฉันได้ข้อมูลมาว่า ถังซิ่วมาจากครอบครัวธรรมดามาก ถูกเลี้ยงขึ้นมาโดยแม่คนเดียวที่นั่นและไม่มีภูมิหลังที่ใหญ่อะไร ความจริงที่ฉันไม่สามารถเชื่อได้ก็คือเขากลายเป็นคนปัญญาอ่อนเป็นเวลากว่าหนึ่งปีหลังจากที่ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ นายบอกฉันหน่อยสิว่าคนโง่สามารถสร้างแรงสั่นสะเทือนไปทั่วทุกที่ที่เขาไปแบบนี้ได้ด้วยหรอ? ”
เหมี่ยวเหวินถังพยักหน้าและพูดตอบว่า
“เรื่องราวชีวิตของเขาก็เหมือนกับผืนผ้าใบสีขาวถึงแม้ว่าจะถูกหยดบางสีลงไปหมาดๆ แค่หมาดๆนะ มันเป็นเพียงการติดต่อกับ ตระกูลหลงจากเมืองสตาร์ซิตี้เท่านั้น แต่สิ่งที่ฉันอยากรู้มากที่สุดคือนิกายที่อยู่เบื้องหลังของเขาคือใคร? ฉันได้ส่งคนไปสอบสวนเรื่องนี้ แต่ก็ไม่มีเงื่อนงำเลยแม้แต่น้อย ”
เซ่าหมิงเซิงพยักหน้าขณะที่เขาถอนหายใจและร้องอุทานว่า
“จริงๆด้วย! ฉันเองอยากรู้ว่าเขาได้รับการเสี้ยมสอนของนิกายไหนมา!เป็นผู้มีอำนาจคนไหนที่สามารถสอนเด็กอัจฉริยะที่มีประสิทธิภาพเช่นนี้ได้และคืนนี้เขาใช้เงินไปกว่า2.56พันล้านหยวน เงินจำนวนนี้แม้แต่กับเราก็เป็นจำนวนเงินที่มากนักแต่เขาสามารถได้รับมันอย่างง่ายดาย ฉันเองก็สงสัยแหล่งที่มาของเงินนี่เหมือนกัน ”
ท่าทางของเหมี่ยวเหวินถังเปลี่ยนไปทันทีพร้อมพูดออกมาว่า
“อืมฉันควรจะส่งใครสักคนเพื่อตรวจสอบมันดีหรือไม่?ฉันเชื่อว่าเขาควรจะสามารถหาแหล่งที่มาของเงินได้ ”
เซ่าหมิงเซิงส่ายหัวและพูดอย่างจริงจังว่า
“อย่า! การที่ถังซิ่วนั้นได้รับเงินเป็นจำนวนมากได้ นี่ก็สามารถอธิบายว่าเขาจะต้องมีตัวตนที่มีอำนาจมากอยู่เบื้องหลังของเขา ถ้าหากว่าเขารู้เรื่องที่เราส่งคนไปสอบสวนแล้วละก็ นั่นจะทำให้เขาโกรธเป็นอย่างมากและความเป็นเพื่อนที่น้อยนิดของเราในตอนนี้จะต้องถูกทำลายอย่างแน่นอน ”
“อา! นั่นมันก็จริง ”
เหมี่ยวเหวินถังถอนหายใจออกมาอย่างไม่เต็มใจ
เซ่าหมิงเซิงพูดอย่างช้าๆว่า
“เราไม่จำเป็นต้องสำรวจภูมิหลังของเขา สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับพวกเราตอนนี้คือการทำให้ความสัมพันธ์ของเรากับเขานั้นลึกซึ้งมากขึ้นและนี่จะเป็นประโยชน์มากกว่าข้อเสีย พรุ่งนี้เราจะเดินทางไปยังอาณาเขตทะเลมังกรแห่งความชั่วร้าย เราจะต้องต่อสู้เคียงข้างกันและนี่เป็นโอกาสที่ดีที่จะกระชับความสัมพันธ์ของเรากับเขาให้มากขึ้น เราจะต้องคว้าโอกาสนี้ไว้ ”
“ใช่นั่นเป็นโอกาสที่ดีที่เราจะรวย!!!!”
เมื่อเหมี่ยวเหวินถังได้ยินเช่นนั้น เขาก็ตอบออกมาด้วยรอยยิ้ม