2/3
Ep.55 – วิหารเนโครแมนเซอร์
ถ้าเป็นการให้คำแนะนำ เรื่องอะไรพวกนี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร
ฮังอวี่ยึดถือตัวเองเป็นคนใจกว้างและหล่อเหลามาโดยตลอด
แน่นอน เขาไม่ชอบตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ แต่ขณะเดียวกันก็ไม่ต้องการติดหนี้บุญคุณใคร
เหล่าจ้าวใจกว้างควักเงิน 10 ล้านหยวนเพื่อซื้อหินคริสตัลขาวก้อนเดียวกับเขา
ครั้งก่อนอีกฝ่ายมอบเงินทุนให้แก่ฮังอวี่ มาครั้งนี้ยังหาหินสกิลขว้างอาวุธมาให้อีก นี่ถือเป็นบุญคุณใหญ่หลวง
ในเมื่อเป็นเช่นนั้น การให้คำแนะนำที่ดีแก่อีกฝ่ายจึงเป็นเรื่องที่เหมาะสม
ฮังอวี่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับเล่าจ้าว อีกทั้งยังประทับใจอีกฝ่าย เพราะชายคนนี้ไม่ได้เป็นแค่เศรษฐีผู้ร่ำรวย แต่ในแง่ของบุคลิกและความคิดยังน่ายกย่องทุกประการ
จึงเป็นธรรมดาที่เขาจะไม่ปฏิเสธคำขอในครั้งนี้
ฮังอวี่ได้เอ่ยไปหลายสกิลมรดกที่เหมาะกับสไตล์ของเหล่าจ้าว นอกจากนี้ยังชี้ให้เห็นว่ามรดกที่มีชิ้นส่วนหลายชิ้นควรค่าแก่การฝึกฝนในระยะยาว
เหล่าจ้าวรู้สึกซาบซึ้งใจมากสำหรับเรื่องนี้ เพราะข้อมูลที่กล่าวมา ล้วนมีความสำคัญสำหรับเขา
ฮังอวี่สังเกตเห็นตั้งแต่ตอนแรกๆ ว่าเจียงหนานมักแอบมองเขาจากด้านข้างเสมอ ดูกระตือรือร้น พยายามจะหาจังหวะแทรกเข้าวงสนทนา คล้ายต้องการพูดอะไรบางอย่าง
สถานการณ์ฝั่งจางเสี่ยวเฉียงเองก็คล้ายกัน เขาเห็นเจ้านายกับฮังอวี่คุยกันนานไม่มีทีท่าว่าจะจบลง ก็อดไม่ได้ที่จะเกาแก้มอย่างกระวนกระวายใจ เห็นแล้วอดขำไม่ได้จริงๆ
เจ้าสองคนนี้ ดูเหมือนจะเป็นคนประเภทเก็บอาการไม่อยู่
ฮังอวี่เลยต้องเป็นฝ่ายเอ่ยถามด้วยตัวเองว่า “นอกจากเรื่องนี้ ยังมีอะไรให้ผมช่วยอีกไหม?”
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า! ฉันซ่อนมันจากนายไม่ได้จริงๆ!” จ้าวหมิงยิ้ม พูดว่า “อันที่จริงยังมีอีกเรื่องหนึ่ง พวกเราทั้งสามคนหารือกันแล้ว และหวังว่าจะได้ร่วมงานกับนายอีกครั้ง!”
“ใช่ ใช่ ใช่!” เจียงหนานอ้าปากตั้งนาน แต่ไม่มีจังหวะได้แทรกเป็นครึ่งค่อนวัน (หมายถึงนานแล้ว) ในที่สุดเธอก็เอ่ยขึ้นว่า “พวกเราคุยกันว่าจะบุกวิหารที่อยู่ลึกเข้าไปในแดนฝังกระดูก!”
ฮังอวี่ได้ยินแบบนั้น เขาสะดุ้งทันที
วิหารที่อยู่ลึกเข้าไปในแดนฝังกระดูก?
นั่นมันวิหารเนโครแมนเซอร์ไม่ใช่หรอกหรอ!
พวกเขารู้เรื่องวิหารเนโครแมนเซอร์ได้ยังไง?
เหล่าจ้าวอธิบาย “วันนี้ฉันจ้างหน่วยกล้าตายเข้าไปสำรวจแดนฝังกระดูก หวังจะได้ข้อมูลเกี่ยวกับภูมิประเทศ และผลที่ได้รับกลับมา พบว่ายิ่งลึกเข้าไปในแดนฝังกระดูก พวกมอนสเตอร์ก็จะยิ่งแข็งแกร่งขึ้น … นอกจากนี้พวกเรายังพบโบราณสถานที่เหมือนกับวิหารอีกด้วย”
ฮังอวี่เคยเตือนพวกจ้าวหมิงมาก่อน ว่าขอให้เก็บกวาดพวกซอมบี้หรือโนมปล้นศพจากด้านนอกเท่านั้น อย่าพยายามมุ่งหน้าลึกเข้าไป มิฉะนั้นอาจเจออันตรายได้
และเหล่าจ้าวก็เชื่อฟังจริงๆ เขาไม่ได้เข้าไปในส่วนลึกของแดนฝังกระดูกด้วยตัวเอง แต่ส่งคนอื่นเข้าไปแทน!
ผู้คนแม้หวงแหนแต้มวิญญาณและอุปกรณ์ของตน แต่ขณะเดียวกันพวกเขาก็อยากมีกินมีใช้!
ดังคำกล่าวที่ว่า เงินสามารถปลุกได้กระทั่งผีในหลุม เหล่าจ้าวจ่ายเงินสูงลิ่วให้แก่พวกไม่กลัวตาย ว่าจ้างคนส่วนใหญ่ที่ไม่มีอุปกรณ์หรือแต้มวิญญาณให้เสีย แล้วส่งไปยังส่วนลึกของแดนฝังกระดูก รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับมอนสเตอร์ ภูมิประเทศ และมองหาสถานที่ผจญภัยแห่งต่อไป
ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้คุ้มค่าอย่างไม่ต้องสงสัย พวกเขาค้นพบเส้นทางที่ถูกต้อง –เส้นทางที่ใช้มุ่งหน้าไปสู่โบราณสถาน!
โบราณสถานที่กล่าวมานี้เหมือนวิหารเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ในส่วนท้าย เป็นซากปรักหักพังขนาดใหญ่ และมอนสเตอร์ที่อยู่บริเวณนั้นแข็งแกร่งมาก
หน่วยกล้าตายไม่สามารถเข้าไปในซากปรักหักพังได้ พวกเขาถูกมอนสเตอร์น่ากลัวภายนอกสังหารเอาเสียก่อน
ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้ที่จะมีวิหารปรากฏขึ้นอย่างไม่มีเหตุผล จ้าวหมิงเชื่อว่าต้องมีของดีอยู่ข้างในนั้นอย่างแน่นอน!
หรือต่อให้ข้างในไม่มีหีบสมบัติ แผ่นศิลา หรือการผจญภัยอื่นๆก็ตาม แต่การได้กวาดล้างมอนสเตอร์ที่ทรงพลัง ย่อมดรอปอุปกรณ์ที่ดีได้แน่นอน ดังนั้นเขาจึงหวังว่าจะได้ร่วมมือกับฮังอวี่เพื่อพัฒนาไปด้วยกัน!
มอนสเตอร์ข้างในสถานที่แห่งนั้นแข็งแกร่งเกินไป! แต่หากมีฮังอวี่เป็นคนนำทีม ทั้งสามเชื่อมั่น และกล้าที่จะทดลองดู
หากสามารถเปิดแผนที่วิหารโบราณสถานแห่งนี้ได้ พวกเขาก็จะสามารถนำหน้าทุกคน ได้รับผลกำไรก้อนโต เหมือนกับตอนที่ทั้งสี่ร่วมมือกันยึดค่ายก็อบลินเมื่อสิบวันก่อน
คว้าโอกาสทำกำไรก้อนใหญ่ในคราเดียว
ฮังอวี่ครุ่นคิดจนสองคิ้วขมวดเข้าหากัน
เจียงหนานกับเสี่ยวเฉียงรู้สึกประหม่าขึ้นมาทันที เริ่มกลัวว่าจะอัญเชิญมหาเทพองค์นี้ไม่สำเร็จ
จ้าวหมิงเห็นสีหน้าฮังอวี่ก็เอ่ยถามออกมา “มีปัญหาอะไรงั้นหรอ?”
มันก็ต้องมีอยู่แล้ว!
อย่างแรกเลย การบุกวิหารเนโครแมนเซอร์ยังเสี่ยงอันตรายมาก
กระนั้น ฮังอวี่ตระหนักดี ว่าในวิหารเนโครแมนเซอร์มีไอเท็มที่มีประโยชน์อยู่มากมาย
เนโครแมนเซอร์เป็นหนึ่งในมอนสเตอร์ไม่กี่ตัวในบริเวณใกล้เคียงที่สามารถดรอปสัญญาสัตว์วิญญาณได้
หากฮังอวี่ต้องการนำหวังเอ๋อเข้าสู่โลกวิญญาณ เขาต้องมีสัญญานี้เสียก่อน
หรือก็คือจริงๆแล้วการบุกวิหารเนโครแมนเซอร์ เป็นสิ่งที่เขาต้องการเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ความยากของวิหารเนโครแมนเซอร์ค่อนข้างสูง
ข้างในนั้นไม่เพียงแต่จะมีมอนสเตอร์ชั้นยอดเลเวล 4 ขั้นซิลเวอร์เป็นจำนวนมาก แต่ยังมีมอนสเตอร์ชั้นยอดขั้นโกลด์เช่นกัน ซึ่งกล่าวได้เลยว่ามันแข็งแกร่งและยากจะรับมือ
เป็นสถานการณ์ที่ท้าทายมาก อันตรายเป็นอย่างยิ่ง
ทว่าโอกาสทำกำไรก็มากเช่นกัน
สุดท้ายแล้ว ผลตอบแทนจะมากน้อยก็ยิ่งขึ้นอยู่กับความเสี่ยง
“ทุกคนโชคดีจริงๆ ฉันพึ่งได้อุปกรณ์ดีๆมา ถ้ามีชุดเซ็ทพวกนี้ช่วย น่าจะสามารถบุกวิหารแห่งนั้นได้” ฮังอวี่นึกทบทวน ในที่สุดก็ตัดสินใจ “โอเค ฉันตกลง พวกเราจะบุกวิหารนั่นด้วยกัน”
เจียงหนานเงี่ยหูฟังอย่าตั้งใจอยู่ด้านข้าง เมื่อได้รับข่าวดี เธอดีใจจนเนื้อเต้น “ยอด … ยอดไปเลย!” เธอปรบมืออย่างยินดี “พวกเราจะได้ผจญภัยกับพี่มหาเทพอีกครั้ง! ฉันมั่นใจว่าพวกเราบุกวิหารโบราณนั่นได้แน่นอน!”
จางเสี่ยวเฉียงเองก็มีความสุขมากเช่นกัน แม้จ้าวหมิงจะเป็นเจ้านายเขา แต่คนที่เขาชื่นชมมากที่สุดก็ยังเป็นฮังอวี่!
จ้าวหมิงถอนหายใจโล่งอก
ตราบใดที่ฮังอวี่เต็มใจเข้าร่วม นั่นหมายความว่าการสำรวจวิหารโบราณย่อมลุล่วงไปได้ด้วยดี
ทางฝั่งฮังอวี่ หากไม่ใช่เพราะเขารวบรวมชุดเซ็ทต้นไม้ผู้พิทักษ์ได้ครบแล้ว ต่อให้ถูกทุบตีจนตายเขาก็ไม่กล้าบุกวิหารเนโครแมนเซอร์
แต่ตอนนี้ชุดเซ็ทที่ว่าเขามีครบแล้ว ตราบใดที่ฮังอี่อัพเลเวล 4 และสวมใส่มัน เขามั่นใจว่าสามารถรับมือกับมอนสเตอร์หลายชนิดที่ยากจะต่อกร
การผจญภัยในครั้งนี้ หากปราศจากฮังอวี่ ไม่มีทางสำเร็จได้
หลังจากทุกคนตกลงร่วมมือกัน ฮังอวี่ใช้เวลาที่เหลือเรียนสกิล
[ขว้างอาวุธ] : เลเวลสกิล 1 (0/30) ความชำนาญ (300/300) เลเวลสกิลสูงสุด 3 ใช้ 1 ค่าพลังจิตเพื่อโจมตีโดยการขว้างปา ค่าดาเมจขึ้นอยู่กับพละกำลังและการโจมตีทางกายภาพของอาวุธ ระยะหวังผล 20 เมตร เวลาคูลดาวน์ 1 วินาที
ฮังอวี่มีความทรงจำของจอมปราชญ์ ดังนั้นทุกสกิลในขั้นกลางและต่ำ ตราบใดที่เรียนรู้มัน ค่าความชำนาญ จะถูกเติมเต็ม
ที่เขาต้องทำก็แค่จ่ายแต้มวิญญาณเข้าไป ก็สามารถอัพเลเวลสกิลได้เลย
กระนั้น ตอนนี้ฮังอวี่ต้องรีบอัพเลเวล 4 โดยเร็วที่สุด เพื่อที่จะได้สวมชุดเซ็ทต้นไม้ผู้พิทักษ์
ฉะนั้นเรื่องอัพเลเวลสกิลคงต้องเอาไว้ทีหลัง
ในค่ายก็อบลินมีมีดบินให้ซื้อ
อาวุธขว้างเป็นไอเท็มสิ้นเปลืองเหมือนกับลูกศรหน้าไม้ แม้ราคาของมันจะแพงกว่านิดหน่อย แต่ไม่ได้มากอะไร 1 หินคริสตัลเทาสามารถซื้อได้สิบเล่ม
[มีดบินก็อบลิน] × 10 สีเทาคุณภาพต่ำ การโจมตีทางกายภาพ +1 (ต้องใช้หินคริสตัลเทาหนึ่งก้อนในการนำกลับสู่โลกมนุษย์)
ฮังอวี่ทดสอบทันที
เขาชักมีดบินออกจากพื้นที่เก็บของแล้วขว้างออกไป เปิดใช้งานสกิล
เมื่อค่าพลังจิตลดลง ใบมีดทอประกายเย็นยะเยือก ราวกับว่ามันถูกเติมพลังงานบางอย่าง
วูซซซซ!
ประกายสะท้อนวาบ ปลายแหลมของมีดเจาะลึกเข้าไปในก้อนหิน เหลือแค่ด้ามมีดโผล่ออกมาด้านนอก
รวดเร็ว!
รุนแรง!
แหลมคม!
และแม่นยำ!
เรียกได้ว่าร้ายกาจสุดๆ!
ฮังอวี่รู้สึกได้ ว่าภายใต้ความสามารถของสกิลนี้ เขาสามารถกลายเป็นเซียวลี้ปวยตอ (小李飞刀 จากนิยายมีดบินไม่พลาดเป้า)
ซึ่งสิ่งที่ใช้ขว้าง ไม่จำเป็นต้องเป็นมีดบินก็ได้ ต่อให้เป็นไพ่โป๊กเกอร์ แต่หากมันอยู่ในมือเขา ยามขว้างออกไป ก็สามารถตัดคอศัตรูได้
แม้ความสามารถในการสร้างดาเมจของสกิลนี้จะเทียบไม่ได้กับนักเวทย์อย่างจางเสี่ยวเฉียง แต่อย่างน้อยในที่สุดฮังอวี่ก็มีสกิลโจมตีเป็นของตัวเอง นับเป็นเรื่องดีสำหรับเขา มันช่วยให้ฮังอวี่มีพื้นที่ในการเลือกกลยุทธ์มากขึ้น
เจียงหนานเห็นฮังอวี่เล่นมีดบินก็เผยท่าทีอิจฉาตาร้อน แต่ขณะเดียวกันก็รู้สึกโล่งใจ
พี่มหาเทพเดิมทีก็ทรงพลังอยู่แล้ว ตอนนี้เขามีสกิลล่องหน และยังมีสกิลขว้างมีดบินอีก เขาทิ้งห่างฉันไปอีกแล้ว!
ฮังอวี่พอใจมากกับผลกำไรในการเดินทางมายังโลกวิญญาณครั้งนี้
เขานั่งลงแลกเปลี่ยนข้อมูลกับจ้าวหมิง เจียงหนาน และจางเสี่ยวเฉียง เพื่อเตรียมตัวสำหรับการร่วมทีมกันในครั้งต่อไป
“ยังไงก็เถอะ ผมมีอย่างหนึ่งที่อยากขอ หวังว่าลุงจ้าวจะช่วยผมได้”
“ขอแค่บอกมา ตราบใดที่ไม่เกินความสามารถ ไว้ใจฉันได้เลย”
ฮังอวี่กล่าวว่า “ผมต้องการหินสกิลที่ชื่อว่าตาเหยี่ยว หวังว่าลุงจ้าวจะช่วยกระจายข่าว เผื่อลุงโชคดี ได้สกิลนั้นมา”
นักสอดแนมประกอบด้วยชิ้นส่วนมรดกสามชิ้น
ล่องหน , ขว้างอาวุธ และตาเหยี่ยว
ฮังอวี่มีสองในสามแล้ว ยังขาดเพียงตาเหยี่ยว
เมื่อได้มาครบ เขาก็จะได้รับมรดกแบบสมบูรณ์ และนั่นจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการต่อสู้ให้แก่เขาเป็นอย่างมาก!
จ้าวหมิงไม่เสียเวลาคิด รับปากทันที “ไม่มีปัญหา ฉันจะพยายามให้ดีที่สุด”
เหล่าจ้าวผู้นี้มีคอนเนคชั่นที่ดีกับผู้คนมากมาย ด้วยความช่วยเหลือของเขา อะไรๆมันจะง่ายกว่ามาก
ถึงตอนนี้ โลกวิญญาณกำลังจะปิดลงแล้ว หลังจากทุกคนกล่าวอำลา ก็ทยอยกันกลับสู่โลกจริง
