2/2

 

Ep.161 – คนที่แกร่งกว่ายังไม่หยุดเดินไปข้างหน้า แล้วพวกเราจะหยุดได้ยังไง!

 

สินสงครามได้ถูกแจกจ่ายไปแล้ว

 

เหล่าจ้าวเหยียบย่างสู่เลเวล 5 แล้ว เขาได้รับ ‘หมวกเกราะผู้บัญชาการมนุษย์หมูป่า’ สีเขียว

 

นอกจากนี้เขายังได้รับหินหินสกิล ‘นักรบคำราม’ ที่ดรอปจากนายพลมนุษย์หมูป่า ซึ่งเป็นสกิลที่ปลดปล่อยสถานะมึนงงในระยะกว้าง

 

ฉูเทียนหัวได้รับอุปกรณ์สีเขียวคุณภาพกลาง ‘เกราะผู้บัญชาการมนุษย์หมูป่า’ นอกจากนี้ยังได้รับหินสกิล ‘รวมปราณสะบั้น’ พลังรบเพิ่มพูนไปอีกขั้น

 

เฉินหยูได้รับรองเท้าสีเขียวคุณภาพต่ำ และคทาสีขาวคุณภาพสูงที่ดรอปจากหีบสมบัติใหญ่ นอกจากนี้ยังได้รับหินสกิลสายเวทย์ ‘เทคนิคกรงอัคคี’ ที่ดรอปจากผู้บัญชาการมนุษย์หมูป่า

 

แน่นอน ผลกำไรของทั้งสามไม่สามารถเทียบกับกำไรของฮังอวี่ได้

 

นั่นเพราะพวกเขาต้องคำนึงถึงสมาชิกทีมของตัวเองด้วย

 

สิ่งที่ต้องให้ความสำคัญที่สุดในการต่อสู้ครั้งนี้คือการพัฒนาทีม

 

สมาชิกหลายคนที่มีส่วนร่วมค่อนข้างมากและผลงานโดดเด่นต่างได้รับการแบ่งปันสิ่งดีๆมากมายเช่นกัน

 

ตัวอย่างเช่นจางเสี่ยวเฉียง เขาได้รับอุปกรณ์สีขาวเลเวล 5 นอกจากนี้ยังได้รับหินสกิล ‘เทคนิคหนามปฐพี’

 

เจียงหนานได้รับโล่และรองเท้าสีขาวเลเวล 5 กับหินสกิล ‘พรแห่งชีวิต’ ที่เปิดจากหีบสมบัติ

 

 

มีหินคริสตัลเทา 1000 ก้อน หินคริสตัลขาว 100 ก้อน แล้วหินคริสตัลเขียว 25 ก้อนดรอปจากหีบสมบัติใหญ่ และมีหินคริสตัลเทา 700 ก้อน หินคริสตัลขาว 80 ก้อน และหินคริสตัลเขียว 14 ก้อนดรอปจากมอนสเตอร์มนุษย์หมูป่า

 

ฮังอวี่รับหินคริสตัลขาว 100 ก้อน และหินคริสตัลเขียว 15 ก้อนออกไป

 

ส่วนหินคริสตัลที่เหลือถูกแจกจ่ายให้แก่คนของสามกองกำลัง

 

โดยทั่วไปแล้ว หินคริสตัลเทามักเป็นรางวัลแก่ผู้เข้าร่วมและใช้เป็นค่าชดเชยสำหรับการตาย ส่วนหินคริสสตัลขาวและเขียวมีค่ามาก แถมปริมาณยังน้อย จึงมอบให้แก่ผู้ที่มีผลงานโดดเด่นเท่านั้น

 

สินสงครามถูกแจกจ่ายอย่างเท่าเทียม

 

ทุกคนที่เข้าร่วมล้วนได้รับหินคริสตัลและอุปกรณ์

 

คนตายจะได้รับการชดเชยด้วยอุปกรณ์ในเลเวลเดียวกับตัวเองหรือหากไม่พอ ก็จะได้รับของที่มีค่าเท่าเทียม

 

หากปราศจากคำแนะนำของฮังอวี่ ใครจะคิดว่าเมือกพลังงานจะสามารถใช้กำจัด มนุษย์หมูป่าได้?

 

หากปราศจากพลังรบอันแก่กล้าของฮังอวี่ จะมีกี่คนที่ต้องพลีชีพเพื่อสังหารผู้บัญชาการมนุษย์หมูป่า!

 

แต่ตอนนี้มีผู้บาดเจ็บล้มตายเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

 

ตรงกันข้าม พวกเขาสามารถยึดค่ายใหญ่ที่อุดมไปด้วยทรัพยากรในศึกเดียว

 

พลังรบและความแข็งแกร่งของฮังอวี่ได้รับการยอมรับและชื่นชมอย่างเป็นเอกฉันท์จากสมาชิกทุกคน แม้เขาจะกอบโกยของดีๆและหินคริสตัลไปเป็นจำนวนมาก แต่ก็ไม่มีใครคัดค้าน

 

“ฉันได้รับอะไรดีๆมาเยอะแยะเลยในครั้งนี้”

 

“ต้องขอบคุณพี่มหาเทพที่ช่วยดูแล!”

 

เสียงหวานของเจียงหนานแว่วมา เธอเดินมาหาฮังอวี่เพื่อแสดงความขอบคุณ “ฉันได้อุปกรณ์สีขาวเลเวล 5 สองชิ้น อุปกรณ์สีเทาใสเลเวล 5 สามชิ้น และหินสกิล ‘พรแห่งชีวิต’ ฉันคิดว่าจะเรียนรู้มันทันที! กลับไปพ่อกับแม่ต้องประหลาดใจแน่ๆ! ”

 

เจียงหนานจะไม่มีความสุขได้อย่างไร?

 

นี่คือการเก็บเกี่ยวครั้งใหญ่ที่สุดในโลกวิญญาณของเธอ!

 

อุปกรณ์สีขาวเลเวล 5 สองชิ้น , อุปกรณ์สีเทาใสเลเวล 5 สามชิ้น , หินสกิลและหินคริสตัลอีกหลายก้อน!

 

หากเจียงหนานไม่ได้อัพเลเวลสกิลรักษาบาดแผลขั้นต้นและสกิลแสงแห่งการรักษาจนเต็มแล้วล่ะก็ ระหว่างศึกนี้เธอคงอัพเลเวล 5 เหมือนกับจางเสี่ยวเฉียงและลุงจ้าวแล้ว

 

“ไม่จำเป็นต้องขอบคุณฉันเลย เธอทำผลงานได้ดี สมควรได้รับของพวกนี้” ฮังอวี่สังเกตหินสกิลที่เจียงหนานได้รับ “นอกจากนี้ ฉันขอแสดงความยินดีด้วยที่เธอกำลังจะได้รับมรดกอาชีพแรก ผู้ที่มีอาชีพมรดกในช่วงต้นเกม ถึงฉันไม่กล้าเอ่ยปากว่ามีน้อย แต่กล้าพูดได้เลยว่าหายากมากๆ”

 

พรแห่งชีวิตคือชิ้นส่วนมรดกของผู้รักษา

 

เมื่อเจียงหนานเรียนรู้พรแห่งชีวิต ตราบใดที่เธอกลับฝึกฝนเป็นเวลาสองสามวัน จากนั้นอัพเลเวลสกิลจนเต็ม ก็จะได้รับมรดกผู้รักษา ความสามารถขยับขึ้นไปอีกขั้น

 

แม้ประสิทธิภาพการต่อสู้ของเธอจะไม่ค่อยดีนัก แต่ความสามารถในการรักษาของเธอนั้น หากเทียบกับในสามค่ายแล้ว ตอนนี้เธอคือบุคคลอันดับสูงสุด ไม่ว่าจะเข้าร่วมกับทีมใด ก็จะได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น!

 

“ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นได้เพราะการดูแลของพี่มหาเทพ และฉันจะพยายามต่อไป!” เจียงหนานกล่าวและเสริมว่า “ยังไงก็ตาม ลุงจ้าวกับคนอื่นๆค้นพบบางอย่าง ฉันอยากชวนพี่ไปดูด้วยกัน”

 

มันเกือบจะมืดแล้ว

 

จ้าวหมิง ฉูเทียนหัว และเฉินหยูรวมตัวกัน

 

พวกเขายืนอออยู่เบื้องหน้าแผ่นศิลาโลกวิญญาณที่ชื่อว่า ‘แผ่นศิลาแผนที่มนุษย์หมูป่า’

 

แผ่นศิลานี้มีความพิเศษมาก เนื่องจากต้องใช้หินคริสตัลเทาหลายก้อนเพื่อเปิดแผนที่ขนาดใหญ่ และข้างในมีบอกรายละเอียด ซึ่งจุดศูนย์กลางของแผนที่คือค่าย มนุษย์หมูป่า … นี่นับเป็นการค้นพบที่น่าประหลาดใจ

 

แผนที่มนุษย์หมูป่าไม่เพียงแต่นำเสนอภูมิประเทศโดยรวมทั้งป่าไม้ ภูเขา และแม่น้ำเท่านั้น

 

แต่มันยังมีการทำเครื่องหมายในตำแหน่งฐานที่มั่นหรือรังของมอนสเตอร์ในบริเวณใกล้เคียงไว้ด้วย เช่น หมายเลข ‘5’ ตรงตำแหน่งค่ายมนุษย์หมูป่า และหมายเลข ‘1’ สำหรับค่ายก็อบลิน

 

แผ่นศิลานี้มีค่ามาก

 

ฉูเทียนหัวกล่าวด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น “สมแล้วที่เป็นค่ายระดับสูง แผนที่นี้จะช่วยให้พวกเราลงมือได้ง่ายขึ้นมากในอนาคต”

 

“ใช่ แผนที่นี้มีค่ามาก และตัวเลขที่ทำเครื่องหมายไว้น่าจะเป็นเลเวลมอนสเตอร์โดยเฉลี่ยของพื้นที่” เฉินหยูจ้องแผนที่และกล่าว “เราสามารถใช้สิ่งนี้เป็นข้อมูลอ้างอิงเพื่อหลีกเลี่ยงสิ่งที่ไม่จำเป็นและอันตรายได้!”

 

จ้าวหมิงเห็น ฮังอวี่เดินเข้ามา

 

“นายมาได้เวลาพอดี พวกเราไม่พบค่ายใหญ่เหมือนค่ายมนุษย์หมูป่าในบริเวณนี้ก็จริง แต่ยังมีฐานที่มั่นของมอนสเตอร์และรังมอนสเตอร์อีกมากมายในเลเวล 3 และ 4 ฉันคิดว่าพวกเราควรไปล่าพวกมัน นายมีความเห็นว่ายังไง?

 

ฮังอวี่กล่าวอย่างไม่ต้องเสียเวลาคิด “ในความเห็นผม ด้วยพลังรบของลุงจ้าวตอนนี้ การกวาดล้างมอนสเตอร์เลเวล 3 4 ไม่น่าเป็นปัญหา ลุงจ้าวจะได้รับผลกำไรที่ดีจากสถานที่เหล่านี้”

 

จ้าวหมิงพยักหน้าและพูดว่า “ฉันก็คิดแบบนั้น ทำไมนายไม่ลองเลือกมาซักที่แล้วพวกเราไปสู้ด้วยกันล่ะ?”

 

แม้ฮังอวี่จะต้องเอาสินสงครามไปมากมายหลังจบศึก แต่หากได้ร่วมทีมกับเขา เหล่าจ้าวมีความมั่นใจขึ้นมาก!

 

เหล่าจ้าวค่อนข้างมั่นใจว่าหากมีฮังอวี่ไปด้วย แม้ส่วนแบ่งที่ได้จะน้อยลง แต่ความสูญเสียก็จะน้อยตาม สุดท้ายแล้วยังไงก็คุ้ม ดังนั้นต้องการดึงฮังอวี่เข้าร่วมทีม

 

“ลุงจ้าวเป็นยอดฝีมือเลเวล 5 แล้ว คุณมีสกิลและอุปกรณ์สีเขียวบนตัว ฉะนั้นมั่นใจเถอะ” ฮังอวี่ส่ายหัวและกล่าวว่า “สถานที่พวกนี้น่าจะมีความยากในระดับเดียวกับวิหารเนโครแมนเซอร์ ด้วยความสามารถของคุณ มากพอที่จะรับมือกับพวกมันแล้ว ฉะนั้นผมขอไม่ไปด้วย”

ฉูเทียนหัว และเฉินหยูต่างถอนหายใจโล่งอก

 

พวกเขากังวลเล็กน้อยว่าฮังอวี่กับจ้าวหมิงจะร่วมมือกัน

 

เนื่องจากชื่อเสียงของฮังอวี่ในค่ายใหญ่ทั้งสามตอนนี้ได้ทะยานไปอยู่ในจุดสูงสุดแล้ว หากฮังอวี่ตกเป็นของทีมจ้าวหมิงอย่างสมบูรณ์ คาดว่าสมาชิกจากทั้งสามค่ายคงแห่ไปเข้าร่วมกับทีมของจ้าวหมิง

 

จากนั้นทีมของพวกเขาก็มีโอกาสสุ่มเสี่ยงที่จะถูกยุบ!

 

คิ้วที่ขมวดกันของฉูเทียนหัวคลายลงเล็กน้อย “ถ้าไม่ไปกับเหล่าจ้าว งั้นนายจะทำอะไรต่อ?”

ฮังอวี่ชี้ไปทางแผ่นศิลาที่อยู่ไม่ไกล

 

“แผ่นศิลาเทเลพอร์ต? พวกเราสำรวจมันแล้ว” เฉินหยูอดไม่ได้ที่จะพูด “มันสามารถเคลื่อนย้ายไปยังสถานที่ที่เรียกว่าเขาวงกตหอคอยเขตแดนเท่านั้น แถมค่าเทเลพอร์ตยังแพงมาก ต้องใช้ 10 หินคริสตัลขาว”

 

จางเสี่ยวเฉียงอุทานขึ้น “หอคอยเขตแดนน่าจะอยู่ตรงนี้!”

 

เขาชี้ไปยังพื้นที่แปลกๆบนแผนที่

 

บริเวณแห่งนั้นถูกแยกตัวโดดเดี่ยว

 

มีพื้นที่ขนาดใหญ่ที่ดำสนิทอยู่รอบๆ ไม่แสดงให้เห็นถึงภูมิประเทศใกล้เคียง

 

ใจกลางพื้นที่สีดำ คือหอคอยสูงตระหง่านและรอบๆมันมีโครงสร้างแปลกๆเหมือนเขาวงกต

 

โดยบริเวณเขาวงกตทำเครื่องหมายเลข ‘7’ และบนหอคอยทำเครื่องหมายเลข ‘9’

 

ซึ่งหมายความว่ามอนสเตอร์ที่ปรากฏในเขาวงกตมีเลเวลโดยเฉลี่ย 7

 

และมอนสเตอร์ที่ปรากฎในหอคอยสูงมีเลเวลโดยเฉลี่ย 9

 

ทุกคนสูดหายใจเย็นเยียบ

 

สถานที่แห่งนั้นอันตรายเกินไป!

 

“นั่นคือเขาวงกตของหอคอยเขตแดน ถ้าผมเดาไม่ผิด มันน่าจะเป็นสถานที่ที่ยากที่สุดที่พวกเราสามารถท้าทายได้ในตอนนี้ ซึ่งมันต้องมีเหตุผลที่ปราฏขึ้นและสามารถเทเลพอร์ตเข้าไปได้เท่านั้น”

 

ความสำคัญของหอคอย

 

ฮังอวี่อย่างกระจ่างแจ้งแก่ใจ

 

อย่างไรก็ตาม มันยากที่จะพูดต่อหน้าทุกคน

 

“ดังนั้นผมเลยตัดสินใจว่าจะไปที่นั่นเพื่อทดสอบดู ทั้งหมดนี้ก็เพื่อเป็นการสำรวจเปิดทางให้แก่ทุกคน”

 

ฝูงชนมองหน้ากัน สถานที่น่ากลัวเช่นนั้น เกรงว่าคงมีเพียงฮังอวี่ที่เพียบพร้อมไปด้วยอุปกรณ์คุณภาพสูงและทรงพลังที่สุดในสามค่ายจึงจะไปได้ หากเปลี่ยนเป็นคนอื่นๆ พวกเขาคงไม่กล้าแม้แต่จะคิดถึงเรื่องนี้

 

ค่าเทเลพอร์ต 10 หินคริสตัลขาว!

 

หากขากลับก็ยังต้องจ่ายด้วยเล่า?

 

แบบนั้นค่าเดินทางมันสูงเกินไป!

 

จ้าวหมิง ฉูเทียนหัว และเฉินหยูไม่กล้าเสี่ยงง่ายๆ

 

เพราะท้ายที่สุดแล้ว พวกเขาไม่ได้อยู่คนเดียว จำเป็นต้องมีข้อกังวลมากมายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

 

“ยังเหลือเวลาอีกซักพักก่อนที่โลกวิญญาณจะปิด ผมไม่อยากเสียเวลาที่นี่ เลยตั้งใจจะเทเลพอร์ตไปที่นั่นตอนนี้เลย” ฮังอวี่ตัดสินใจ “ถึงจะสำรวจได้ไม่มาก แต่ก็น่าจะช่วยให้เห็นสถานการณ์ข้างในได้”

 

ไปเดี๋ยวนี้เลย? จะรีบเกินไปแล้ว!

 

เจียงหนานและคนอื่นๆแสดงความกังวลออกมา

 

เพราะช่วงเวลานี้ ฟ้ากำลังจะมืด

 

และสถานที่ที่เขากำลังจะเข้าไปนั้นอันตรายมาก … แล้วถ้ามีอุบัติเหตุเกิดขึ้นเล่า อ๊าาา~~

 

คนอื่นๆยิ่งรู้สึกชื่นชมฮังอวี่มากขึ้นไปอีก ไม่น่าแปลกใจเลยที่คนผู้นี้แข็งแกร่ง และสามารถพาคนหลายร้อยคนทะยานไปพร้อมกับตัวเองได้

 

คนที่แกร่งกว่ายังไม่หยุดเดินไปข้างหน้า แล้วพวกเราจะหยุดได้ยังไง!