Ep.13 – การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในโลกมนุษย์
‘ประตูสู่โลกวิญญาณ’ ในมือถือถูกปิด
ฮังอวี่ลองกะดูคร่าวๆ คาดว่าน่าจะใช้เวลาอีกซักสามวัน มันถึงจะเปิดออกอีกครั้ง
นอกเหนือจากนี้ ยังมีไอค่อนใหม่ที่เรียกว่า ‘ผู้ช่วยโลกวิญญาณ’ ถูกติดตั้งลงในมือถือ
‘ผู้ช่วยโลกวิญญาณ’ สามารถใช้เรียกดูข้อมูลสถานะและพื้นที่เก็บของได้
ไม่ว่าจะเป็นผลเบอร์รี่นับร้อย , ม้วนคัมภีร์อัญเชิญก็อบลินนักรบ , ดาบสั้น , เกราะหนัง ทั้งหมดปรากฏให้เห็นอยู่ในนั้น
วัสดุ , อุปกรณ์ , ความสามารถ และสกิลทั้งหมดจากโลกวิญญาณสามารถนำออกมาสู่โลกแห่งความจริงได้
อย่างไรก็ตาม การนำสิ่งของในโลกวิญญาณออกมาสู่โลกจริงนั้นมีค่าใช้จ่าย
ยิ่งเลเวลของไอเท็มสูงเท่าไหร่ ต้นทุนก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น
อย่างอุปกรณ์ขยะสีเทาขุ่นเลเวล 1 มันต้องจ่ายหินคริสตัลเทา 1 ก้อน จึงจะนำออกมาสู่โลกจริงได้
นี่ถือเป็นค่าใช้จ่ายในราคาต่ำสุดแล้ว ส่วนไอเท็มที่มีระดับต่ำกว่าอุปกรณ์สีเทาขุ่นเลเวล 1 สามารถนำออกจากโลกวิญญาณได้ฟรี ตัวอย่างเช่น ผลเบอรร์รี่ก็อบลินในกระเป๋า ดูเหมือนจะสามารถนำเข้าออกได้อย่างอิสระ ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ
ฮังอวี่ทดลองทำทันที เขาพบว่ามือซ้ายหนักขึ้นเล็กน้อย พร้อมผลเบอร์รรี่แดงปรากฏขึ้นบนฝ่ามือเขา มันสดใหม่และเปล่งแสงสดใส ทั้งยังส่งกลิ่นหอมจางๆ ให้ความรู้สึกว่าเป็นของจริง
“น่าทึ่งจริงๆ!”
“ของในเกมมือถือสามารถเอาออกมาได้!”
“ไม่อยากจะคิดเลยว่าต่อจากนี้โลกเราจะเกิดอะไรขึ้น!”
การปรากฏของผลเบอร์รี่แดงนั้นน่าพิศวงมาก มันเหมือนมาจากจักรวาลคู่ขนาน แล้วจู่ๆก็ถูกส่งเข้ามาในโลกใบนี้ ยากที่จะเข้าใจว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร
แม้จะเตรียมใจเอาไว้แล้วก็ตาม แต่ก็ยังตกใจอย่างสุดซึ้ง
พลังดังกล่าวอยู่เหนือกว่าขอบเขตสติปัญญาของมนุษย์ นี่เป็นสิ่งที่เรียกว่ากฏแห่งการรักษามวลสาร
ฮังอวี่ยังไม่หยุด เขาทดลองทำซ้ำๆรอบแล้วรอบเล่า นำผลเบอร์รี่ออกมา แล้วส่งผลเบอร์รี่กลับเข้าไป
และพบว่าที่น่าสนใจก็คือ หากเขาพยายามจะใส่หนังสือเข้าไป มันจะไม่เกิดปฏิกิริยาตอบสนองใดๆ ดูเหมือนว่าผู้ช่วยโลกวิญญาณจะสามารถใส่สิ่งของที่เป็นของโลกวิญญาณเข้าไปในพื้นที่จัดเก็บได้เท่านั้น
หิว!
หิวจัง!
ฮังอวี่ยังไม่ทันทดลองต่อ จู่ๆความรู้สึกเหมือนไส้จะขาดก็กระหน่ำโจมตีเขา ราวกับมีหนอนแมลงนับร้อยถูกยัดลงไปในท้อง แล้วค่อยๆกัดแทะอวัยวะภายในอย่างช้าๆ
ทุกเซลล์ในร่างกายของเขารู้สึกถึงความหิวอย่างรุนแรง
เกิดบ้าอะไรขึ้นเนี่ย?
เป็นไปได้ไหมว่าตอนอยู่โลกวิญญาณเขาใช้พลังงานมากเกินไป?
ฮังอวี่เปิดผู้ช่วยโลกวิญญาณ เพื่อตรวจสอบข้อมูลส่วนตัวของเขา เวลานี้ เขาพบว่านอกจากข้อมูลพื้นฐานแล้ว ยังมีอีกสถานะหนึ่งเพิ่มเข้ามา
[อ่อนแอเล็กน้อย] : ผู้เล่นอยู่ในสถานะอ่อนแอเล็กน้อย คุณสมบัติทั้งหมดจะถูกบังคับลดลง 30%
ให้ตายเถอะ! แค่หิวทำไมถึงขั้นสูญเสียพลังได้กัน?
ฮังอวี่ค้นข้อมูลจากความทรงจำ และพบว่ามันเป็นแบบนั้นจริงๆ
สถานะนี้จะถูกแบ่งออกเป็นสามประการ คืออ่อนแอเล็กน้อย , อ่อนแอปานกลาง และอ่อนแออย่างรุนแรง โดยค่าคุณสมบัติต่างๆจะลดลง 30%, 60%, 90% ตามลำดับ
สำหรับสาเหตุที่ทำให้เกิดสถานะอ่อนแอน่ะหรือ? ก็มาจากอาการหิวและเหนื่อยล้าอย่างไรเล่า!
ฮังอวี่ในตอนนี้รู้สึกหิวมาก คล้ายกระเพาะอาหารว่างเปล่า เกิดภาพหลอนว่าสามารถกลืนวัวทั้งตัวได้ในลมหายใจเดียว
เขารีบต้มน้ำ แช่เส้นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปพร้อมโยนกะหล่ำดองลงไปอีกสามกระป๋อง
ระหว่างนั่งดูดเส้นหมี่ เขาไถหน้าจอมือถือไปพลาง
และไม่ต้องสงสัยเลย ว่าในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา มนุษยชาติได้ประสบกับสถานการณ์ที่ยากจะเข้าใจที่สุดในชีวิต บ้างตกต่ำถึงที่สุด บ้างตื่นเต้นระทึกใจอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
ตอนนี้ข้อมูลต่างๆบนเน็ตได้กระจายไปทั่ว ครั้งนี้เจ้าหน้าที่ในหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ทำอะไรไม่ถูก ได้แต่อ้อนวอนให้ประชาชนสงบสติอารมณ์ลงก่อน
เกิดการกระจายข้อมูล บ้างก็คาดเดาไปต่างๆนาๆ ทุกข่าวสารปรากฏขึ้นบนอินเทอร์เน็ตอย่างต่อเนื่อง บ่งบอกว่ามนุษย์กำลังปรับตัวหลังผ่านพ้นหายนะ!
กลุ่มแชทในชั้นเรียนมหาวิทยาลัยเกิดการรัวข้อความแทบแตก
“ทุกคน! ฉันมีอะไรจะบอก! ฉันพึ่งข้ามมิติมา!” นักศึกษาคนหนึ่งเอ่ยขึ้น “พวกนายต้องไม่เชื่อแน่ ว่าฉันผ่านอะไรมาบ้าง!”
นักเรียนอีกคนรีบพูดว่า “เชี่ยเถอะ! นายพูดจริงใช่ไหม เพราะฉันก็พึ่งข้ามมิติมาเหมือนกัน!”
“ฉันโดนสัตว์ป่ากัดตายตั้งสามครั้ง แม่งโคตรน่ากลัวเลย!”
นักศึกษาหญิงคนหนึ่งแชทว่า “ส่วนฉัน ไม่ใช่แค่ถูกหมูป่ากัดจนตายนะ แต่ยังโดนมันขืนใจด้วย! ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าความบริสุทธิ์ของฉันจะถูกหมูป่าพรากไป!”
“ถุย! แค่นั้นยังทำมาอวด ฉันนี่สิเจอเรื่องน่ากลัวยิ่งกว่านั้นอีก ตอนนั้นน่ะนะ … ”
“ทำไมจู่ๆทุกคนถึงถูกส่งข้ามมิติพร้อมกัน? มันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นกันแน่?”
“ใครมีข้อมูลเรื่องนี้บ้าง? มันเกิดอะไรขึ้นกับโลกใบนี้?”
“น่ากลัวจัง พวกเราควรทำยังไงดี!”
…
ทุกคนพึ่งผ่านการถูกทรมาน ตกอยู่ในสภาพน่าสังเวชในโลกวิญญาณมา จิตใจของแต่ละคนจึงถูกหล่อหลอมให้แข็งแกร่งขึ้น
แม้พึ่งเผชิญกับสถานการณ์สยองขวัญ แต่ก็ยังไม่ถึงกับหวาดกลัวจนเป็นบ้า มิฉะนั้นคงไม่มีทางมีอารมณ์มาบ่นและคุยกันในกลุ่มแชทได้แบบนี้
ในขณะที่คนส่วนใหญ่กำลังสงสัยว่าใช่ฝันไปหรือไม่ ก็มีบางคนพบการเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่ได้เช่นกัน
“การค้นพบครั้งยิ่งใหญ่! ฉันพบเรื่องใหญ่เข้าให้แล้ว!”
“พลังวิเศษที่ฉันได้มาจากการเดินทางข้ามมิติสามารถนำมาใช้ในโลกนี้ได้!”
“ฉันก็ทดลองใช้มันดูเหมือนกัน นี่เป็นเรื่องจริง! ตอนนี้ฉันยิงกระสุนน้ำออกจากฝ่ามือได้!”
“ส่วนฉันแปลงร่างได้!”
“ไม่อยากจะเชื่อเลย พวกเราได้รับพลังวิเศษมาในชั่วข้ามคืน? โลกนี้มันบ้า หรือเป็นฉันที่เสียสติไปแล้วกันแน่!”
“สวัสดีทุกคน โปรดเรียกฉันว่าพระถังซัมจั๋ง อันที่จริงแล้วฉันยังไม่ตาย ตอนนี้ใครก็ตาม ถ้าโอนเงินให้ฉัน 2,000 หยวน ฉันจะตัดหนังไข่ของตัวเองมาทอดให้พวกนายกิน สาบานเลยว่าหลังกินแล้วพวกนายจะมีชีวิตยืนยาวตลอดไป แล้วไม่ต้องสงสัยว่าทำไมฉันถึงให้ราคาถูก นั่นเพราะไม่มีพ่อค้าคนกลางมาดึงส่วนแบ่งไง!”
“แหวะ! เจ้าอ้วนต้าไห่ ไอ้โรคจิต ในเวลาแบบนี้ยังมีอารมณ์มาพูดล้อเล่นอีก!”
“ … ”
ความสามารถในการปรับตัวของแต่ละคนไม่เหมือนกัน นอกจากการหยอกล้อกันอย่างสนุกสนาน หลังผ่านพ้นสถานการณ์อันน่าหวาดกลัวมาได้แล้ว นักศึกษาส่วนใหญ่อยู่ในภาวะตื่นตระหนกไม่ก็ตื่นเต้น
และไม่ใช่เฉพาะแค่พวกเขา แต่เกรงว่ากระทั่งพวกระดับสูงในกองทัพ นักการเมือง หรือบุคคลสำคัญของประเทศต่างๆ ทุกคนเกรงว่าคงอยู่ในสถานการณ์ไม่ต่างกัน
เพราะท้ายที่สุดแล้ว การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวเกินกว่าขอบเขตจินตนาการของประเทศและสังคมมนุษย์
ตอนนี้สิ่งหนึ่งที่แน่นอน คือไม่ว่าจะประสิทธิภาพการต่อสู้ , ความสามารถ และไอเท็มที่ได้รับจากโลกวิญญาณ ทุกอย่างล้วนสามารถนำกลับมาใช้ในโลกจริงได้!
เวลานี้มียอดมนุษย์วิ่งพล่านอยู่ทั่วโลก ผู้ถือครองพลังวิเศษมีพบเจอได้ทั่วไปมากพอๆกับหมาแมวตามท้องถนน นี่จะกลายเป็นภาพที่สามารถพบเห็นได้ทั่วไปในอนาคตอันใกล้
มนุษย์นับไม่ถ้วนได้รับพลังวิเศษในชั่วข้ามคืน เช่นนั้นแล้วสังคมมนุษย์จะเป็นอย่างไรต่อไป?
นี่คงเป็นเรื่องยากที่จะพูด!
แน่นอน สำหรับตอนนี้ พลังวิเศษของผู้คนยังคงอ่อนแอมาก บวกกับแนวคิดที่ยังคงยึดติดอยู่กับในอดีต ทำให้ทางฝั่งรัฐบาลยังพอสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ แม้จะฝืนเต็มทีก็ตาม อย่างน้อยพวกเขายังถือสิทธิ์ในการออกคำสั่งต่อไปได้ชั่วระยะเวลาหนึ่ง
แต่ในอนาคตจะเป็นอย่างไรต่อไป ใครจะรู้?
อย่างไรก็ตาม ฮังอวี่ตระหนักดี หากอยากอยู่รอดในโลกอนาคต เขาต้องมีพลังรบแข็งแกร่งเข้าไว้!
ข้อมูลในกลุ่มแชทยังคงเด้งขึ้นรัวๆ หัวข้อของทุกคนเริ่มเปลี่ยนไปในเรื่องสกิลติดตัว
ความสามารถของแต่ละคนไม่เหมือนกัน มีทั้งประเภทโจมตี , ตั้งรับ และสนับสนุน นอกจากนี้ยังมีสกิลฝ่ายผลิต และสกิลอื่นๆอีกมากมาย
ซู๊ดดดด!
เส้นหมี่กึ่งสำเร็จรูปพร้อมผักดองคำสุดท้ายถูกกลืนลงท้อง
ฮังอวี่ลูบท้องที่พองเป่งของเขา แต่กลับเกิดความคิดขึ้นมา ‘แปลกจัง ฉันกินหมี่กับผักดองไปตั้งสามกระป๋อง แต่ยังรู้สึกเหมือนอยากกินอยู่เลย ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่ฉันกลายเป็นคนกินจุถึงขนาดนี้?’
แต่สิ่งที่แปลกยิ่งกว่านั้นก็คือ แม้กระเพาะถูกเติมเต็ม แต่สถานะอ่อนแอกลับยังไม่ถูกลบหายไป
มันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นเนี่ย?
ฮังอวี่เค้นสมองอยู่พักหนึ่ง ก่อนหยิบผลเบอรร์รี่แดงจากโลกวิญญาณขึ้นมากินทันที
เมื่อ ‘ผลเบอร์รี่แดงของก็อบลิน’ ถูกกลืนลงท้อง เขารู้สึกเหมือนยกซดกระทิงแดงเข้าไป 20 ขวด แล้วตามด้วยถูกฉีดสารกระตุ้นอีกสิบเข็ม
ความรู้สึกอ่อนแอในตอนแรกหายไป ตั้งแต่หัวจรดเท้ากลายเปี่ยมไปด้วยพลัง
ปรากฏว่าอาหารธรรมดาไม่สามารถเติมเต็มความต้องการได้!
จากช่วงเวลาที่เข้าสู่โลกวิญญาณ ร่างกายของฮังอวี่ได้รับการเสริมความแข็งแกร่งด้วยกฏเกณฑ์ของโลกวิญญาณ
จนตอนนี้เขาขยับขึ้นมาเป็นเลเวล 2 แล้ว ได้รับความสามารถอันทรงพลัง ทำลายโซ่ตรวนที่พันธนาการขีดความสามารถของร่างกายมนุษย์
เนื่องจากร่างกายได้รับการเสริมแกร่งขึ้นเป็นอย่างมาก ดังนั้นพลังงานที่ต้องการจึงเพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว
อาหารธรรมดาทั่วไป แม้สามารถเติมเต็มความหิวได้ แต่มันไม่สามารถตอบสนองต่อความต้องการทางกายภาพได้ เป็นผลให้ไม่สามารถหลุดพ้นจากสถานะอ่อนแอ
ทว่าผลเบอร์รี่เป็นอาหารจากโลกวิญญาณ แม้เป็นอาหารระดับต่ำ แต่ก็ประกอบไปด้วยพลังงานทางวิญญาณ จึงสามารถเติมเต็มสิ่งที่ร่างกายสูญเสียไปได้ บรรเทาความอ่อนแอ
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันเขาอยู่ในเลเวล 2 เท่านั้น ในอนาคตถ้าเลเวลสูงขึ้น ความต้องการในอาหารก็จะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆเช่นกัน
ถึงเวลานั้น อาหารในโลกมนุษย์คงไม่สามารถตอบสนองต่อความต้องการของผู้คนหลายพันล้านได้อีกต่อไป มนุษย์จำเป็นต้องหาวิธีได้รับวัตถุดิบจากโลกวิญญาณ
หรือก็คือตลาดค้าขายสายใหม่กำลังจะถือกำเนิดขึ้น!
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าอาหารจะกลายเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องการอย่างเร่งด่วน อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มใหม่ในอนาคต เห็นได้ชัดว่าโน้มเอียงมามายังทิศทางนี้!
เพราะท้ายที่สุดแล้ว หากไม่สามารถเติมเต็มพลังงานให้เพียงพอกับที่ร่างกายต้องได้รับ มนุษย์ก็จะตกอยู่ในสภาวะอ่อนแอ คุณสมบัติทุกอย่างถูกลดลง
เมื่อถึงเวลานั้น ไม่ต้องกล่าวถึงการล่ามอนสเตอร์ในโลกวิญญาณเพื่อรวบรวมอุปกรณ์ต่อสู้ เกรงว่าแค่เอาชีวิตรอดในโลกมนุษย์ก็ยังยาก! ซึ่งคนที่สามารถแก้ปัญหานี้ได้ บังเอิญอยู่ในเมืองเจียงเฉิงพอดี! ทั้งยังพักอยู่ไม่ไกลจากที่นี่
และมุกตลกพระถังซัมจั๋งในกลุ่มแชท เป็นมันนั่นแหละที่ส่งมา!
“เสี่ยวฮังเพื่อนรัก จู่ๆก็โทรหาฉันมีธุระอะไร?” เสียงแหบของผู้ชายดังออกมาจากปลายสาย
“ฉันว่านายน่าจะรู้แล้วใช่ไหม ว่าโลกใบนี้มันไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว!”
แต่ที่ฮังอวี่โทรหาอีกฝ่ายไม่ใช่เพื่อคุยเรื่องนี้ “เจ้าอ้วนต้าไห่ อ่านจากที่นายพิมไปในกลุ่มแชท แสดงว่านายได้สกิลติดตัว [พรจากเทพแห่งการทำอาหาร] มาใช่ไหม?”
“อย่าพูดถึงมัน พูดเรื่องนี้ไปก็เศร้า นักศึกษาหลายคนในชั้นเรียนได้รับพลังวิเศษอันยอดเยี่ยม จะมากน้อยมันก็ยังใช้ประโยชน์ได้ แต่สกิลของฉันดันเป็นแค่สกิลโง่ๆ ไม่มีประโยชน์อะไรเลย!”
ฮังอวี่พูดแทรกก่อนที่อ้วนต้าไห่จะบ่นไปมากกว่านี้ “ให้อธิบายผ่านมือถือมันไม่ค่อยสะดวก นายออกมาตอนนี้เลยได้ไหม? มาเจอกันหน่อย!”
เผิงต้าไห่ไม่ลังเล ทั้งสองนัดพบกันที่จตุรัสลู่เยว่
ฮังอวี่ไม่ลืมอธิบายก่อนวางสาย “ระหว่างทางระวังตัวด้วย ตอนนี้ข้างนอกเปลี่ยนไปแล้ว ถ้าจะให้ดี หาอะไรมาป้องกันตัวไว้หน่อยก็ดี”
แม้จะคาดการณ์ไว้นานแล้ว แต่เมื่อก้าวลงจากอพาร์ตเมนต์ ฮังอวี่ก็ต้องตกละลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้นภายนอก
–นี่ใช่เมืองเจียงเฉิงที่เขาอาศัยอยู่มาเป็นเวลาเกือบห้าปีจริงๆน่ะหรือ?
