1/2

 

Ep.119 – ดีกว่าฆ่ามอนสเตอร์

 

ฮังอวี่แทงนักรบเลเวล 3 ตายในทวนเดียว

 

ไม่ใช่แค่ไอเท็มดรอปทั่วพื้น แต่ยังได้รับแต้มวิญญาณมาอีก 8 แต้ม

 

เขาพบว่าความรู้สึกที่ได้จากการฆ่าคนพวกนี้ มันสนุกกว่าการฆ่ามอนสเตอร์ชั้นยอดซะอีก

 

เอาจริงๆหากให้ฮังอวี่รับมือกับมอนสเตอร์ขั้นบรอนซ์ในเลเวลเดียวกับตัวเอง เขายังไม่กล้าฟันธงว่าชนะแน่ 100% อย่างแรกเลยเพราะไม่อาจสังหารมันได้ในกระบวนท่าเดียว และหลังจากนั้นต้องตอบโต้กันไปมา

 

ประมาทเลินเล่อเพียงครั้ง ต่อให้เป็นมือฉมังก็อาจพลาดท่าได้

 

แต่การฆ่าไอ้พวกนี้ ศัตรูที่สามารถโจมตีทีเดียวจอด สำหรับฮังอวี่แล้ว มันไม่ต่างอะไรกับการไล่บดขยี้เพียงฝ่ายเดียว!

 

สังหารเพียงหนึ่งแต่กลับสามารถดรอปไอเท็มได้ 4-8 ชิ้น ไม่สำคัญว่าของที่ดรอปจะดีหรือไม่ แค่ฉากไอเท็มพรั่งพราวต่อหน้าต่อตา แค่นี้ก็ทำให้ฮังอวี่ฟินมากแล้ว!

 

ส่วนทางฝั่งโจรโลกวิญญาณ พวกมันย่อมตกตะลึงอย่างไม่ต้องสงสัย

 

พวกมันรู้ตัวนานแล้วว่า ฮังอวี่กำลังย่องเข้ามา เดิมต้องการให้เขาเข้าใกล้จะได้โจมตีทีเผลอ แต่ไม่นึกฝันเลย ว่าการตัดสินใจครั้งนั้นจะเป็นการล่อหมาป่าเข้าบ้าน!

 

เจ้าหมอนี่ยังเป็นมนุษย์อยู่ไหม?

 

นี่มันชาวคริปโตเนี่ยนชัดๆ!

 

และผลลัพธ์หลังจากที่สัตว์ประหลาดตัวนี้หลุดเข้ามากลางวง คงพอจะจินตนาการได้!

 

“ไป! ทุกคนโจมตี! ฆ่ามันให้ฉัน!” ลูกพี่หัวเถิกคำราม ขณะเดียวเดียวกันก้าวถอยหลัง “ใครฆ่ามันได้ ฉันจะให้รางวัลเป็นอุปกรณ์สีขาวสองชิ้น!”

 

ทันทีที่ประโยคนี้เปล่งออกมา

 

ความดุร้ายของสมุนโจรโลกวิญญาณถูกปลุกขึ้นอีกครั้ง

 

สู้ก็สู้วะ! ต่อให้แข็งแกร่งแค่ไหน สุดท้ายศัตรูมีคนเดียว

 

ลำพังคนๆเดียวจะสู้กับคนทั้งกลุ่มได้หรือ? ไม่มีทางหรอกน่า!

 

“พันธนาการ … ใช้สกิลพันธนาการเขาไว้!”

 

ฮังอวี่สัมผัสได้ว่าเถาวัลย์และวัชพืชเริ่มไต่ขึ้นมาจากเท้าเขา ทว่าเจ้าตัวไม่ตื่นตระหนกใดๆ หยิบหอกก้างปลาด้ามสุดท้ายออกมาอย่างใจเย็น

 

ด้วยสกิลขว้างอาวุธเวอร์ชั่นอัพเกรดเลเวล 3 + โบนัสจากมรดกนักสอดแนม + อาวุธขว้างคุณภาพสีขาว เมื่อโจมตีคงรู้ว่ามันจะระเบิดพลังอำนาจชนิดใดออกมา!

 

หอกก้างปลาหลุดจากมือเขา!

 

นักเวทย์ที่ใช้สกิลพันธนาการถูกหอกแทง ทำดาเมจ -23 โดยตรง!

 

และหอกก้างปลายังเจาะทะลุไปแทงนักรบที่อยุ่เบื้องหลังเป็นรายต่อไป สร้างดาเมจ -18!

 

หอกก้างปลาทะลุหน้าอกนักรบ พุ่งไปแทงนักบวชอีกคนที่อยู่หลังสุด ทำดาเมจ -15 หน่วย และยกตัวเขาลอยไปตอกตรึงอยู่บนต้นไม้

 

สามคนถูกสังหารพร้อมกัน!

 

ลูกบอลแสงกระดอนเต็มฟ้า ดรอปลงทั่วพื้นดิน

 

สกิลขว้างอาวุธอันทรงพลังสามารถสังหาร 3 คนได้ในพริบตาเดียว!

 

อย่างไรก็ตาม ระหว่างขว้างอาวุธ ฮังอวี่ถูกเถาวัลย์พันธนาการได้สำเร็จ ทำให้ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ พวกมันรัดแน่นตามแขน ขา และลำคอ สร้างดาเมจเล็กๆหลายจุด เพียงแต่การโจมตีเหล่านี้ มันแทบไม่อาจสร้างภัยคุกคามแก่เขาได้เลย ตรงกันข้าม กลับกระตุ้นเอฟเฟกต์ ‘ซึมซับไอวิญญาณ’ ของชุดเซ็ทขึ้นมาแทน

 

“อาศัยแค่สกิลนี้ คิดหรือว่าจะหยุดฉันได้?”

 

ค่าความต้านทานเวทย์ของเขาสูงมาก พละกำลังในตัวก็ไม่เลวเช่นกัน ดังนั้นด้วยการออกแรงเพียงครั้งเดียว จึงสามารถหลุดจากพันธนาการได้ทันที

 

ในเวลาเดียวกัน นักรบคนหนึ่งวิ่งมาเบื้องหน้าเขา ยกดาบขึ้นเตรียมสับฮังอวี่

 

แต่ความเร็วในการโจมตีของฮังอวี่ไวกว่า ทวนแทงสวนในฉับพลัน สูบพลังชีวิตศัตรู 2 ใน 3 ส่วนหายวับในพริบตา

 

ทวนที่สองตามมาติดๆ

 

และนัดนี้สามารถสังหารฝ่ายตรงข้ามได้อย่างหมดจด

 

ความห่างชั้นระหว่างเลเวล สกิล และอุปกรณ์ของทั้งสองฝ่ายต่างกันมากเกินไป! ไม่ใช่คู่มือฮังอวี่เลย

 

ฮังอวี่เสมือนดั่งรถถังขับเคลื่อนเข้าบดขยี้ ทยอยสังหารพวกที่อาจเป็นภัยคุกคามแก่ก่อนเขาตามลำดับ

 

และท่ามกลางสนามรบ ไม่มีใครสามารถรับการโจมตีจากฮังอวี่ได้เกิน 2 ทวน แม้พวกโจรโลกวิญญาณจะสามารถโจมตีฮังอวี่ได้เช่นกัน แต่ดาเมจที่สร้างได้กลับน้อยมาก

 

การต่อสู้นี้จึงมีแนวโน้มเอียงไปทางถูกโจมตีฝ่ายเดียว

 

จากบรรดาสมาชิกโจรโลกวิญญาณที่เหลืออยู่ 13 คน ตายไปแล้วกว่า 10 คนในการโจมตีสั้นๆ

 

ฮังอวี่ได้รับแต้มวิญญาณเพิ่มขึ้น 40-50 ภายในลมหายใจเดียว กลางป่าทึบเรืองรองไปด้วยลูกบอลแสง กะด้วยสายตาคร่าวๆมีถึง 40 ลูก และครึ่งหนึ่งเป็นอุปกรณ์ สามารถมองเห็นว่ามีสีขาวประมาณ 6 ชิ้น

 

แม้อุปกรณ์เหล่านี้จะไม่ใช่ระดับสูงมากมายอะไร แต่อย่างน้อยด้วยปริมาณของมัน มูลค่าโดยรวมถือว่าสูงมาก พูดได้เลยว่าเป็นการต่อสู้ที่คุ้มค่าสุดๆ!

 

อย่างไรก็ตาม ระหว่างฮังอวี่วุ่นอยู่กับการสังหารสมุนโจรโลกวิญญาณ ลูกพี่หัวเถิกเห็นท่าไม่ดี แยกตัวหลบหนีไปก่อนพร้อมกับลูกน้องอีกสองคน

 

แต่ฮังอวี่ไม่สนใจเลย เพราะเขารู้ว่าพวกมันอย่างไรก็ไม่สามารถหนีไปได้ ดังนั้นไม่ตื่นตระหนก ก้มเก็บรวบรวมไอเท็มที่ปล้นมาได้ทั่วพื้นดิน

 

มีอุปกรณ์สีขาวเลเวล 1 จำนวน 4 ชิ้น , สีขาวเลเวล 2 จำนวน 2 ชิ้น ที่เหลือทั้งหมดเป็นชุดขยะสีเทาเลเวล 1 ไม่ก็ 2

 

อย่างไรก็ตาม ขยะในสายตาฮังอวี่ ในมุมมองของคนธรรมดามันคือสมบัติล้ำค่า!

 

อุปกรณ์ได้รับความนิยมมากที่สุดในตลาดซื้อขายคืออุปกรณ์สีเทาเลเวล 2

 

ฮังอวี่สามารถนำพวกมันไปขายให้เหล่าเซี่ยงได้

 

เหล่าเซี่ยงเป็นพ่อค้าโลกวิญญาณ ถ้าได้เห็นอุปกรณ์พวกนี้ เขาคงยิ้มแก้มปริและอ้าแขนรับซื้อมันทันที

 

 

ลูกพี่หัวเถิกวิ่งหนีเอาชีวิตรอดพร้อมกับสมุนของเขาอีกสองคน

 

‘ไอ้ทุเรศเอ๊ย’

 

‘ให้ตายเหอะ! ไม่คิดเลยว่าจะดันไปเตะแผ่นเหล็กเข้า ไม่สิ! ไอ้หมอนั่นมันไม่ใช่แผ่นเหล็ก แต่มันคือแผ่นเพชรต่างหาก! (เพชรเฉยๆนั่นแหละแค่ให้คล้องจองกับแผ่นเหล็ก)’

 

พลังรบของเจ้าเด็กนี่จะเกินจริงไปหน่อยไหม? ช่วงเริ่มต้นแบบนี้จะมีคนที่ทรงพลังเช่นนี้อยู่ได้อย่างไร?

 

แม้ไอวิญญาณโลหิตจะช่วยลดปริมาณแต้มวิญญาณที่ต้องสูญเสีย แต่ส่วนที่ช่วยเหลือยังมีจำกัด หากถูกฆ่าตายเพียงครั้ง มีโอกาสสูงที่เลเวลอาจลดลงไป 1 ขั้น และที่สำคัญที่สุดคืออุปกรณ์และไอเท็มเกือบทั้งหมดดรอป … นั่นแทบจะเรียกได้ว่าหมดตัว

 

สมุนโจรถามด้วยความตื่นตระหนก “ลูกพี่พวกเราจะทำยังไงกันต่อดี?”

 

ลูกพี่หัวเถิกกล่าวด้วยใบหน้ามืดมน: “เราอยู่ที่นี่ต่อไปไม่ได้แล้ว! ต้องย้ายไปดักปล้นที่อื่น เริ่มต้นใหม่อีกครั้ง”

 

แต่ในตอนนั้นเอง เกิดเสียงกรอบแกรบดังขึ้นจากพุ่มไม้ข้างๆ มีบางอย่างเคลื่อนไหวอยู่ในนั้น!

 

ที่นี่คือท่ามกลางป่าทึบ มันเต็มไปด้วยสัตว์ร้าย!

 

เดิมสติลูกพี่หัวเถิกกำลังแตกกระเจิง แต่เมื่อเห็นว่าที่โผล่หน้ามาเป็นแค่หมาจิ้งจอก เขาถอนหายใจด้วยความโล่งอก กระซิบบอกสมุนทั้งสองว่า “ไม่ต้องกังวล ก็แค่หมาจิ้งจอก บริเวณนี้อยู่ใกล้กับถิ่นพวกมัน ไม่น่าแปลกใจที่จะมีหมาจิ้งจอกโผล่มา”

 

หมาจิ้งจอกมีพลังรบรวมๆอยู่แค่เลเวล 2 เท่านั้น เหมาะสำหรับให้พวกผู้เล่นใหม่ขัดเกลาฝีมือ

 

สำหรับทั้งสามคนที่พึ่งประสบกับฝันร้ายมา มอนสเตอร์หมาจิ้งจอกตัวนี้ เป็นแค่เจ้าตัวน้อยน่ารักน่าชังเท่านั้น

 

ด้วยพลังรบของลูกพี่หัวเถิกกับสมุนอีกสองคน สามารถรับมือกับหมาจิ้งจอกสองสามตัวได้อย่างง่ายดาย

 

อย่างไรก็ตาม ไม่ช้าพวกเขาก็พบว่าสถานการณ์ไม่เป็นเหมือนที่คิด หมาจิ้งจอกตัวที่สอง สาม และสี่กระโจนออกมาจากพุ่มไม้ โผล่มาแล้ววิ่งหายเข้าไปยังอีกพุ่มไม้หนึ่ง

 

“ลูกพี่ ชักไม่เข้าท่าแล้ว จำนวนของพวกมันเริ่มเยอะขึ้นเรื่อยๆ!”

 

“ดูเหมือนพวกเราจะถูกฝูงหมาจิ้งจอกล้อม” ลูกพี่หัวเถิกบ่นอุบ เขาอารมณ์เสียมาก “แม่งเอ๊ย! แม้แต่หมาจิ้งจอกยังยังกล้าล้อเล่นกับบิดา ฆ่าพวกมันให้หมด!”

 

ลูกพี่หัวเถิกยกมือขึ้นและปลดปล่อยใบมีดสายลม สมุนคนหนึ่งเริ่มร่ายคาถาตาม ส่วนคนสุดท้ายโจมตีด้วยหน้าไม้

 

แต่เนื่องจากหมาจิ้งจอกซ่อนตัวอยู่ในป่า บวกกับการเคลื่อนไหวอันรวดเร็วของพวกมัน ทำให้การโจมตีของทั้งสามพลาดเป้า

 

และแทบจะในทันทีที่การโจมตีชุดแรกล้มเหลว หมาจิ้งจอก 8-9 ตัว จู่ๆก็กระโจนเข้ามาโจมตีจากทุกทิศทาง

 

เกิดอะไรขึ้น?

 

หมาจิ้งจอกพวกนี้ดูแปลกๆ ทำไมพวกมันถึงเคลื่อนไหวอย่างเป็นระเบียบขนาดนี้!

 

ตอนแรกพวกมันแกล้งโดดไปโดดมา แต่พอพวกเราโจมตีออกไป และสกิลอยู่ระหว่างคูลดาวน์ พวกมันกลับตีกรอบเข้าโจมตีทันที

 

“ไม่ได้การ!”

 

“พวกเราวิ่ง!”

 

สายเกินไปแล้ว!

 

ลูกพี่หัวเถิกถูกจิ้งจอกตะปบจากเบื้องหลัง เสียหลักล้มลง

 

หมาจิ้งจอก 3-4 ตัวที่อยู่ใกล้ๆรุมทึ้งเขาทันที ท่ามกลางเสียงกรีดร้องน่าสังเวช เขาค่อยๆถูกแทะเนื้อทั้งเป็น

 

อุปกรณ์สวมใส่บนตัวรวมไปถึงไอเท็มทั้งหมดในมิติเก็บของ เริ่มระเหยกลายเป็นบอลแสงนับสิบเตรียมดรอปออกมา

 

“ไม่!”

 

ก่อนลูกพี่หัวเถิกจะตาย ดวงตาของเขาเบิกกว้าง สีหน้าเต็มไปด้วยความไม่ยินยอมพร้อมใจ

 

อุปกรณ์เหล่านี้เขาใช้เวลาตั้งนานกว่าจะสะสม เขาจัดตั้งทีมเพื่อซุ่มโจมตีมนุษย์อย่างบ้าคลั่ง เพียรพยายามอย่างหนัก ถึงรวบรวมพวกมันมาได้ แต่เวลานี้ทั้งหมดกำลังหายไป

 

ของที่สะสมมาทั้งหมดกำลังจะหายไปในคราเดียว แม้จะเกิดใหม่สามารถแต่ก็สูญเสียพวกมันทั้งหมดไป

 

เป็นแบบนี้คงยากมากหากจะกลับมาลุกขึ้นได้อีกครั้ง

 

“มันจบแล้วล่ะ ต่อหน้านักฆ่าหวัง พวกแกไม่มีใครหนีพ้น!”

ฮัสกี้กระโดดออกจากพุ่มไม้ด้วยใบหน้าทะเล้น

 

อันที่จริงด้วยพลังรบของหวังเอ๋อในตอนนี้ หากลอบโจมตียังพอสามารถกำจัดทั้งสามคนได้

 

อย่างไรก็ตาม โชคดีที่มันพบรังหมาจิ้งจอก เลยควบคุมพวกมัน เปลี่ยนเป็นสมุนให้ลงไปจัดการแทน

 

“พวกไร้สมองที่คิดปล้นเจ้านายต้องพบจุดจบแบบนี้!”

 

“ฮ่ง! แต่พูดก็พูดเถอะ เจ้าหมอนี่ทำของดรอปเยอะมาก สงสัยจังว่าเจ้านายจะให้รางวัลอะไรกับเปิ่นหวัง!”