1/2
Ep.101 – เรดาร์สมบัติ
[เมือกพลังงานสไลม์] วัตถุดิบทั่วไปเกรด 2
“นี่มันอะไรกัน? เปิ่นหวังกินได้ไหม?”
หมาหวังยื่นหน้าเข้ามาใกล้ แลบลิ้นเลียมัน
“ฮ่ง! รสชาติแย่มาก ไม่อร่อยเลย!” ฮัสกี้ตาเหลือกแล้วล้มลงกับพื้น ขาสี่ข้างกระตุกทำท่าคล้ายพร้อมสลบเหมือดได้ทุกเมื่อ เอ่ยเหมือนกำลังจะขาดใจ “เปิ่นหวังรู้สึกเหมือนพึ่งเลียหนูตายมาสิบวัน ลิ้นชาไปหมด ไม่รู้สึกอะไรอีกแล้ว!”
ฮังอวี่อดไม่ไหว เตะฮัสกี้ไปป้าบหนึ่ง “ฉันอยากผ่ากะโหลกสุนัขของนายดูจริงๆ ข้างในนั้นมันอาจกลวงก็ได้”
“ฮ่ง! แต่เจ้านาย เปิ่นหวังไม่เข้าใจ ทำไมเจ้านายต้องมาฆ่ามอนสเตอร์ที่กินไม่ได้ตัวนี้ด้วย?” ฮัสกี้ลุกพรวดขึ้นประท้วงทันที “ถ้าการล่าไม่ใช่เพื่ออาหาร แบบนั้นมันก็ไร้ความหมาย”
“เจ้าหมา นายจะไปรู้อะไร”
ฮังอวี่ไม่เคยทำสิ่งที่ไร้ความหมาย
เขามีเหตุผลที่ต้องรวบรวมเมือกพลังงานสไลม์
ฮังอวี่ประคับประหงมมันราวกับกลัวว่าจะแตก ค่อยๆใส่ลงในมิติเก็บของอย่างระมัดระวัง
“เมือกนี่คือสารสกัดจากสไลม์ มันมีความเข้มข้นสูง เหนียวหนืดไม่ด้อยไปกว่ากาวตราช้าง!”
“อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่กาว ข้างในบรรจุพลังงานสูงเอาไว้ เป็นของเหลวไวไฟและสามารถระเบิดได้”
“สรุปคือกินไม่ได้อยู่ดีถูกไหมเจ้านาย?”
เจ้าสิ่งนี้สามารถแยกได้เป็นสองส่วนคือเมือก และก้อนพลังงานที่อยู่ข้างใน
หากนำเมือกของมันไปเจือจางด้วยน้ำ จะเกิดการะละลายตัวกลายเป็นของเหลวที่เหมือนกับน้ำมันเบนซิน สามารถใช้เป็นเชื้อเพลิง แก้ปัญหาพลังงานที่กำลังขาดแคลนของมนุษย์ได้
ส่วนก้อนพลังงานที่อันแน่นไปด้วยพลังงานข้างใน เมื่อนำไปเจือจางลงสิบเท่าจะได้ของเหลวที่เหมือนกับน้ำมันดีเซล สามารถใช้ทดแทนน้ำมันดีเซลได้ 100% เพิ่มพลังขับเคลื่อนให้หัวรถจักร หรือใช้ในการปั่นกระแสไฟฟ้าได้
ของเหลวจากเมือกสไลม์ไม่เพียงมีความเสถียรในการเผาไหม้เท่านั้น แต่มันยังเป็นเชื้อเพลิงบริสุทธิ์ไร้มลพิษ 100% ไม่ปล่อยก๊าซพิษออกมา
นี่คือแหล่งพลังงานระดับต่ำจากโลกวิญญาณที่สามารถนำไปใช้งานได้ง่ายๆ และมีประโยชน์มากในระยะแรก เป็นสิ่งที่ต่อไปในอนาคตจะนําความช่วยเหลืออันยิ่งใหญ่มาสู่มนุษยชาติ
ฮังอวี่ทราบที่อยู่ของเจ้าสิ่งนี้มาจากข้อมูลภายในของอาจารย์ซู มีสไลม์จำนวนมากอยู่ภายในสถานีรถไฟใต้ดินจินหยินโข่ว แต่การที่เขามามรวบรวมเมือกสไลม์ในตอนนี้ไม่ใช่เพื่อพลังงาน แต่เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการบุกค่ายมนุษย์หมูป่า ดังที่เคยกล่าวไว้ก่อนหน้านี้
มนุษย์หมูป่ากลัวไฟ และเมือกนี้สามารถนำเข้าสู่โลกวิญญาณได้!
เมื่อของเหลวจากเมือกติดไฟ จะทำให้เกิดการเผาไหม้ในพริบตา สร้างแรงปะทะไม่ด้อยไปกว่าระเบิดมือ!
เมือกสไลม์เหนียวมาก หากขว้างโดนตัวเป้าหมายจะติดหนึบ ส่งผลให้เกิดการเผาไหม้อย่างต่อเนื่องและรุนแรง แสบร้อนถึงทรวงอย่างแน่นอน!
ต่อให้มอนสเตอร์มนุษย์หมูป่าเป็นถึงเลเวล 5 ต่อให้พวกมันมีผิวหนาเนื้อหยาบและแสนดุร้าย หรือต่อให้พวกมันมีระดับเจ้าถิ่น สุดท้ายก็จะกลายเป็นหมูย่าง!
ค่ายมนุษย์หมูป่าเป็นค่ายใหญ่ ข้างในนั้นน่าจะมีหมูป่านับพันตัว พวกเหล่าจ้าวประเมินขอบเขตความห่างชั้นของพลังรบต่ำไป ครั้นพวกเขาบุกเข้าหักร้างถางพง จะต้องมีคนตายหลักสิบปลายๆหรือหลักร้อยแน่นอน
ดังนั้นการต่อสู้ในครั้งนี้จะลุยซึ่งๆหน้าไม่ได้ มันต้องใช้ไหวพริบ!
…
หนึ่งคนหนึ่งหมาเดินลงไปในสถานีรถไฟใต้ดิน
“ฮ่ง ทำไมเจ้าสไลม์ตัวนี้มันถึงได้ตัวโตขนาดนี้!”
ฮัสกี้พบก้อนเมือกขนาดใหญ่เบื้องหน้ามัน ขนาดของสไลม์ข้างหน้าใหญ่เท่ารถครึ่งคัน ทั้งๆที่ตัวก่อนมีขนาดแค่ลูกบาสเก็ตบอลเท่านั้นเอง มอนสเตอร์ประเภทเดียวกัน แต่ขนาดจะต่างกันมากไปหน่อยไหม?
“สไลม์มีเอกลักษณ์เฉพาะอย่างหนึ่ง พวกมันสามารถรวมร่างกันได้ เจ้าตัวโตที่นายเห็น น่าจะเป็นสภาพรวมร่างของสไลม์เลเวล 2 เจ็ดถึงแปดตัว พลังรบของพวกมันน่าจะอยู่ในเลเวล 4”
“หลังจากรวมร่าง สไลม์ไม่ใช่แค่ได้รับพลังชีวิตของตัวอื่นๆทับซ้อนกันเท่านั้น แต่ค่าสเตตัสของมันก็จะซ้อนทับเช่นกัน ตอนนี้ถึงฉันใช้หน้าไม้โครงกระดูก ก็ยากที่จะโค่นเจ้าหมอนี่ลง ถึงจะสร้างดาเมจได้ แต่คงเสียลูกศรไปหลักสิบปลายๆหรือหลักร้อยลูก”
“ถึงเวลาสมุนของนายออกโรงแล้ว”
“พยายามอย่าให้พวกสุนัขป่าได้รับบาดเจ็บ สั่งพวกมันแค่ให้กัดแล้วกระชากเนื้อสไลม์ออกมาก็พอ”
หวังเอ๋อรับฟังและคิดตาม เข้าใจความหมายของฮังอวี่ทันที ยกอุ้งเท้าสุนัขขึ้นวางเหนือคิ้ว “รับทราบ!”
ฮัสกี้แหงนหน้าหอนขึ้นฟ้า ฝูงสุนัขป่า 18 ตัวเข้ารุมล้อม พวกมันตกอยู่ภายใต้การควบคุมของหวังเอ๋อ ตีวงเข้ารุมขย้ำสไลม์ยักษ์อย่างไร้ปราณี
สุนัขป่าไม่สามารถสร้างดาเมจให้กับสไลม์ยักษ์ได้เลยแม้แต่น้อย แต่สไลม์ยักษ์เมื่อถูกรุมกัด ร่างของมันเริ่มถูกฉีกเป็นชิ้นๆ
เศษสไลม์ตกลงพื้น ค่อยๆไหลมารวมตัวกันอีกครั้ง กลายเป็นสไลม์เลเวล 2
สไลม์เลเวล 2 ที่พึ่งรวมตัวยังไม่ทันได้ทำอะไร
หวือ หวือ หวือออ!
ลูกศรสามดอกยิงออกไป ปลิดชีพมันในวินาทีเดียว!
สไลม์ยักษ์เริ่มมีขนาดเล็กลงเรื่อยๆ
เนื่องจากสไลม์เชื่องช้าเกินไป มันจึงไม่สามารถทำร้ายสุนัขป่าได้ ค่อยๆถูกแบ่งออกทีละนิดทีละหน่อย
จากนั้นเมื่อพวกเศษไหลมารวมตัวกัน ฮังอวี่ก็ไล่ยิงพวกมันทีละตัว สุดท้ายถูกกำจัดลงในที่สุด
การรบครั้งนี้เก็บเกี่ยวเมือกพลังงานได้ 8 ก้อน!
“ฮ่ง! เจ้านาย ความสามารถในการสั่งการของเปิ่นหวังเป็นยังไงบ้าง?” หวังเอ๋อพ่นน้ำลายกระดิกหางอย่างมีความสุข “พวกสุนัขป่าไม่ได้รับบาดเจ็บเลยแม้แต่ตัวเดียว!”
“ครั้งนี้ทำได้ดีมาก ในที่สุดสุนัขเอาแต่เล่นก็มีประโยชน์บ้างเสียที” ฮังอวี่ลูบหัวสุนัขเพื่อให้กำลังใจ จากนั้นหยิบโพชั่นฟื้นพลังจิตออกมา “ดื่มนี่สิ พักซักหน่อย แล้วไปลุยกันต่อ”
หวังเอ๋อควบคุมฝูงสุนัขป่า จำเป็นต้องใช้สกิลอย่างต่อเนื่อง
กระบวนการนี้สิ้นเปลืองพลังจิตและพลังงานงทางกายภาพเป็นอย่างมาก จำต้องได้รับการเติมพลังจิตอย่างสม่ำเสมอ
…
ฮังอวี่คอยเดินนำหวังเอ๋อไปตลอดทาง ภายใต้การร่วมมือกันระหว่างมนุษย์และสุนัข สไลม์ยักษ์อีกตัวจบชีวิตลง
สไลม์ตัวเล็กที่แยกออกมาถูกหน้าไม้โครงกระดูกยิงใส่อย่างไร้ปราณี
ฮังอวี่รวบรวมเมือกพลังงานสไลม์ได้หลายสิบชิ้น
กระบวนการเช่นนี้ดำเนินต่อไปเรื่อยๆจนมิติเก็บของส่วนใหญ่ถูกพวกมันกินพื้นที่ไปกว่าครึ่ง ฮังอวี่จึงตัดสินใจว่าจะกลับ แล้วพรุ่งนี้ค่อยมาใหม่
“ฮ่ง!” จู่ๆฮัสกี้แหกปากร้องออกมาด้วยความตื่นเต้น
ฮังอวี่เหลือบมองมัน “เป็นอะไร? โรคพิษสุนัขบ้ากำเริบหรอ?”
ฮัสกี้ร้องดีอกดีใจ “เจ้านาย! เปิ่นหวังไม่ได้เป็นโรคพิษสุนัขบ้า แต่ได้กลิ่นสมบัติ มีสมบัติอยู่ในบริเวณนี้!”
“จริงหรอ? แล้วมันอยู่ทางไหน”
ฮังอวี่เข้าใจดีถึงความสามารถในการรับกลิ่นของหวังเอ๋อ ตัวมันไม่ใช่แค่เรดาร์หามอนสเตอร์ แต่ยังเป็นเรดาร์หาสมบัติด้วย
หวังเอ๋อส่ายหัวสุนัข “มันอยู่ไกลไปหน่อย เลยระบุตำแหน่งที่แน่นอนยังไม่ได้ ยังไงก็ตาม เปิ่นหวังได้กลิ่นมันตั้งแต่ไกลๆ แปลว่านี่อาจไม่ใช่สมบัติธรรมดา ฮ่ง!”
ก็มีเหตุผลนะ
ฮังอวี่ยกมือขึ้นลูบคางพลางครุ่นคิด
สมบัติจากโลกวิญญาณจะปรากฏขึ้นแบบสุ่มบนโลกนี้ ตัวอย่างเช่นผลไม้แห่งปัญญาที่หวังเอ๋อกินเข้าไป
ในเมื่อหวังเอ๋อได้กลิ่นมัน แล้วฮังอวี่จะปล่อยให้หลุดมือไปได้อย่างไร? เขาสั่งให้มันบอกทางทันที
หนึ่งคนหนึ่งหมาลัดเลาะไปตามเขาวงกตใต้ดินอันซับซ้อน ฮังอวี่เดินวกไปวนมาเหมือนยุงบิน
สถานที่ใต้ดินแห่งนี้ใหญ่โตมาก สุดท้ายเลยต้องให้ฮัสกี้สลับเป็นผู้นำทางแทน
สไลม์ยักษ์กระจายตัวอยู่ทุกหนแห่ง บางครั้งมันปรากฏตัวเป็นฝูง อย่างน้อย 7-8 ตัว
การโจมตีของสไลม์ค่อนข้างเชื่องช้า ทว่าเมื่อมันอยู่รวมกันมากๆก็ยังค่อนข้างน่ากลัว
อีกอย่าง พวกมันสามารถเกาะได้ตามทุกส่วนของถ้ำ ไม่ว่าจะเป็นเหนือหัวบนเพดาน หรือด้านข้างบนผนัง
วิธีการโจมตีหลักของพวกมันคือพ่นกรด หากบังเอิญถูกตัวที่ห้อยอยู่เหนือหัวโจมตีเข้า ต่อให้เป็นฝูงสุนัขป่าของหวังเอ๋อก็ไม่สามารถทำอะไรได้
นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้มีสุนัขป่าบางตัวต้องจบชีวิตลงระหว่างทาง
แต่โชคของฮังอวี่ยังคงแข็งแกร่ง ด้วยหน้าไม้โครงกระดูกธาตุน้ำแข็ง จึงสามารถแก้ปัญหาได้สำเร็จทุกครั้ง … จนตอนนี้รวบรวมเมือกสไลม์มาได้เกือบ 100 ชุดแล้ว มิติเก็บของใกล้เต็มจนแทบล้น
หากกองเมือกพลังงานเหล่านี้ถูกจุดไฟพร้อมกัน มันอาจระเบิดรถถังได้เลย
“ยังไม่ถึงอีกหรอ?”
“ฮ่ง! เจ้านายไม่ต้องกังวล พวกเราใกล้ถึงแล้ว!”
ระหว่างทั้งสองกำลังพูดคุย สภาพแวดล้อมก็เริ่มเปลี่ยนไป มันเริ่มชื้นมากขึ้น มีน้ำหยดลงจากเบื้องบน คล้ายอยู่ในถ้ำป่าฝนเขตร้อน เริ่มมีกระทั่งทางน้ำใต้ดินไหลผ่าน มีหลายสิ่งที่เหมือนไม้ผุเน่าๆลอยอยู่เหนือผิวน้ำ
หากฮังอวี่ไม่ระวัง อาจพลาดท่าถูกโจมตีได้
อย่างไรก็ตามเขามีหวังเอ๋อตามมาด้วย ดังนั้นไม่ต้องกังวลเรื่องนี้
“ฮ่ง! เจ้านาย มีมอนสเตอร์ตัวใหม่ เหมือนจะเป็นจระเข้ตัวยักษ์!”
“จระเข้?” ฮังอวี่ยกหน้าไม้ขึ้นสูง กวาดมองไปบนธารน้ำ แล้วยิงออกไปยังบางสิ่งที่เหมือนกับขอนไม้เน่าๆที่ลอยอยู่บนผิวน้ำ
เจ้าสิ่งที่ลอยอยู่เฉยๆตรงนั้นได้รับบาดเจ็บ มันดิ้นทันที ตัวอื่นๆที่อยู่ใกล้เคียงเริ่มเคลื่อนไหว น้ำกระเซ็นเผยโฉมร่างที่จมอยู่ใต้น้ำออกมา
ปรากฏว่ามันคือจระเข้ยักษืที่มีขนาด 4-5 เมตร!
ฮังอวี่ขมวดคิ้ว เจ้าพวกนี้เป็นมอนสเตอร์ตัวใหม่จริงๆ แถมยังดูอันตราย
หรือว่าสมบัติที่หวังเอ๋อบอก … จะต้องฝ่าพวกมันไป?
