Ep.465

 

“หนี!!”

 

ไม่รู้ว่าใครเป็นคนตะโกนออกมา แต่หลังจบคำนี้ พวกครึ่งออร์คแตกฮือไปทุกทิศทางราวกับคลื่นยักษ์สาดออกไป

 

ขณะที่พวกคลื่นซอมบี้ในสนามรบกลับเลือกพุ่งเข้าหาซูเฉินอย่างไม่กลัวตาย

 

ซูเฉินรู้ดี ว่าเป้าหมายของพวกครึ่งออร์คคือการใช้ซอมบี้หยุดเขา แล้วอาศัยประโยชน์จากโอกาสนี้หลบหนี

 

นับเป็นความคิดที่ดี แต่ซูเฉินมีหรือจะปล่อยให้พวกมันได้ทำในสิ่งต้องการ?

 

เขาเหยียดมือไปข้างหน้าและสะบัดออก ประกายแสงสีทองสว่างวาบจากในข้อมือ ทันใดนั้นลำแสงสองสายหนึ่งทองหนึ่งแดงพุ่งออกไป

 

แสงสีทองแปรเปลี่ยนเป็นเต่ายักษ์ที่มีรูปร่างใหญ่โตดั่งขุนเขา แสงสีแดงเปลี่ยนเป็นยุงสีเลือดขนาดเท่ากำปั้น

 

“เสี่ยวปา เสี่ยวจิน ฆ่าพวกซอมบี้ให้หมด!”

 

ซูเฉินออกคำสั่ง ส่วนตัวเองกระโจนข้ามฝูงซอมบี้ ไล่ตามพวกครึ่งออร์ค

 

“ฮู้มมม!”

 

เต่าทรราชปราณฟ้าร้องคำราม ควบสี่ขาพุ่งเข้ากลางฝูงซอมบี้ ภาพนี้ดั่งรถถังหนักเคลื่อนเข้าบดขยี้มด ทุกที่ที่ผ่าน ซอมบี้ทั้งหมดจะกลายเป็นกองเนื้อเหลว

 

ขณะที่กลวิธีโจมตีของ [จอมเขมือบแห่งบรรพกาล ยุงวัชระ] นั้นเรียบง่ายและเงียบเชียบกว่ามาก นั่นคือการใช้เข็มแหลมทิ่มแทงอย่างต่อเนื่อง

 

เห็นแค่เพียงเส้นแสงสีแดงโฉบไปก็โฉบมาท่ามกลางฝูงซอมบี้ ตัวไหนที่เส้นแสงนี้บินผ่าน พวกมันจะเสียชีวิตลงทันที

 

แม้ความไวในการสังหารจะไม่เท่ากับเต่าทรราชปราณฟ้า แต่ก็ยังถือว่าเร็วมาก

 

ได้เห็นภาพนี้ ฝ่ายมนุษย์ต้องสั่นสะท้านอีกครั้ง

 

“พระเจ้า! พวกมันคือสัตว์กลายพันธุ์กับแมลงสัตว์ร้ายเลเวล 6!”

 

“ชายหนุ่มคนนี้ไม่เพียงมีความแข็งแกร่งในตัวเองเท่านั้น แต่เขายังมีสัตว์เลี้ยงวิญญาณเลเวล 6 อีกถึงสองตัว ไม่น่าเชื่อเลย!”

 

อีกด้านหนึ่ง ซูเฉินไล่ตามพวกครึ่งออร์คทันแล้ว การสังหารอย่างไร้ปราณีเริ่มต้นขึ้น

 

การสังหารนี้ดำเนินเป็นเวลากว่าหนึ่งชั่วโมง เมื่อเสียงกรีดร้องสิ้นสุดลง ที่ราบฉินหลวนก็กลายเป็นเงียบสงัด ได้ยินเพียงเสียงสายลมที่พัดผ่านหู

 

“เขาแข็งแกร่งมาก!”

 

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน ทางฝ่ายมนุษย์ ชายวัยกลางคนที่มีใบหน้าแดงเลือดฝาด ได้เอ่ยด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง

 

พวกต่างเผ่าตัวเตี้ยที่อยู่ข้างๆกลืนน้ำลายอึกใหญ่ลงคอ กล่าวกระซิบ “ซูฉวิน เจ้าคิดว่าชายหนุ่มผู้แข็งแกร่งคนนั้นจะเข้ามาสังหารเผ่าคนแคระของพวกเราหรือไม่?”

 

ได้ยินคำถามนี้ สีหน้าของซูฉวินแปรเปลี่ยนกลับกลาย เริ่มเกิดความวิตกกังวลอย่างเห็นได้ชัด

 

พฤติกรรมของซูเฉินมองไม่ยาก ดูเหมือนเขาจะเกลียดพวกต่างเผ่าและซอมบี้แบบเข้าไส้ ซึ่งนั่นไม่ใช่เรื่องดีเลยต่อเผ่าคนแคระ

 

“หรือว่าพวกนายควรรีบออกไปจากที่นี่ก่อน?” ซูฉวินเตือน

 

“มันสายไปแล้ว” คนแคระถอนหายใจ

 

ไกลสุดลูกหูลูกตา สามารถเห็นได้รางๆว่าซูเฉินกำลังวิ่งมายังทิศทางของพวกเขาด้วยความเร็วปานสายฟ้าฟาด

 

หลังจากสังหารเผ่าครึ่งออร์ค ซูเฉินไม่รีบร้อนเก็บชิ้นส่วน เพราะเขามีเรื่องบางอย่างอยากจะถามเหล่าคนตรงหน้า

 

“ผู้อาวุโส ขอบพระคุณสำหรับความช่วยเหลือ”

 

เมื่อซูเฉินเข้ามาใกล้ ซูฉวินและเผ่าคนแคระกล่าวสำนึกคุณอย่างนอบน้อม

 

ซูเฉินไม่สนใจ เพ่งมองตรวจสอบเผ่าคนแคระ เอ่ยถามเสียงเย็นว่า “พวกแกมาจากเผ่าพันธุ์ไหน?”

 

เขาไม่เข้าใจ ว่าเหตุใดพวกต่างเผ่ากลุ่มนี้ถึงสามารถอยู่ร่วมกันกับมนุษย์ได้ แถมยังดูมีความสัมพันธุ์ที่ค่อนข้างดีต่อกัน

 

“ผู้เยาว์เหอเหอมู่ มาจากเผ่าคนแคระ” ร่างของเหอเหอมู่สั่นสะท้าน โค้งคำนับตอบกลับด้วยความเคารพ

 

“เผ่าคนแคระ … ”

 

ซูเฉินพึมพำ ก่อนหันมามองซูฉวิน “เผ่าคนแคระกับพวกคุณมีความสัมพันธ์กันอย่างไร?”

 

ซูฉวินรีบตอบกลับทันทีว่า “เรียนอาวุโส พวกเรามีความสัมพันธ์แบบหุ้นส่วนกับเผ่าคนแคระ ความสัมพันธ์นี้อยู่มายาวนานหลายทศวรรษแล้ว และยังคงดีเสมอมา”

 

กังวลว่าซูเฉินจะทำอันตรายต่อเผ่าคนแคระ ซูฉวินรีบอธิบายความสัมพันธุ์อย่างละเอียดถี่ถ้วน

 

ซูเฉินปาดจมูกเขา ทบทวนถึงเรื่องนี้

 

พวกต่างเผ่าที่เขาเคยพบเจอในอดีตล้วนโหดร้ายทารุณ แต่เผ่าที่เข้ากันได้ดีกับมนุษย์เช่นเผ่าคนแคระ ซูเฉินเพิ่งเคยได้ยินเป็นครั้งแรก

 

แต่เดิม เขาตั้งใจจะฆ่าพวกคนแคระ แต่พอคิดไปคิดมา หลังจากได้ยินเรื่องนี้แล้วเขาก็ตัดสินใจไม่ลงมือ

 

เพราะคนแคระพวกนี้ไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ อาจกล่าวได้ว่าเป็นสหายของมนุษย์ด้วยซ้ำ

 

ดังนั้นหากให้ลงมือกับอีกฝ่าย เขาทำไม่ได้จริงๆ

 

Ep.466

 

“ทำไมพวกคุณถึงได้มาสู้กับเผ่าครึ่งออร์ค?” ซูเฉินถามด้วยท่าทีที่ผ่อนคลายลง

 

เขามีข้อสงสัยในใจเล็กน้อย ว่าทั้งสองฝ่ายใช่มีเรื่องขัดแย้งทางผลประโยชน์กันหรือไม่?

 

ซูฉวินไม่ลังเล กล่าวอธิบายอย่างตรงไปตรงมา “ผู้อาวุโส พวกเราบังเอิญพบเหมืองขนาดใหญ่ในที่ราบฉิงหลวน เดิมตกลงว่าจะแบ่งกันคนละครึ่ง แต่ภายหลังพวกครึ่งออร์คบอกว่าต้องการฮุบทุกอย่างแต่เพียงผู้เดียว แน่นอนพวกเราไม่ตกลง เลยเป็นอย่างที่เห็น”

 

“แล้วในเหมืองนั่นมีแร่อะไรบ้าง?” ซูเฉินถามด้วยความอยากรู้

 

“มีแร่หลายชนิดอยู่ข้างในนั้น บางชนิดเหมาะสำหรับการสร้างอาวุธ บางชนิดเหมาะสำหรับสร้างเกราะ นอกจากนี้ยังมีแร่บางส่วนเหมาะสำหรับใช้สร้างรถฐานทัพอีกด้วย” ซูฉวินอธิบาย

 

ได้ยินประโยคท้าย หัวใจของซูเฉินกระตุกเล็กน้อย

 

เขารู้สึกว่าคงต้องให้ [รถศึกอัจฉริยะ] มาช่วยระบุ หากแร่ชนิดไหนเหมาะสมแก่การใช้งาน เขาจะได้นำพวกมันมาจำนวนหนึ่ง

 

เกิดความคิดนี้ในใจ ซูเฉินรีบกล่าวต่อว่า “ผู้แข็งแกร่งที่สุดในหมู่พวกคุณคือผู้วิวัฒนาการเลเวล 5 ถูกไหม แล้วแบบนี้ทำไมถึงยังกล้าที่จะสู้กับพวกครึ่งออร์คอีก?”

 

เผ่าครึ่งออร์คมีผู้แข็งแกร่งเลเวล 6 หากซูเฉินไม่บังเอิญตัดสินใจมาที่นี่ เกรงว่าทั้งมนุษย์และเผ่าคนแคระคงถูกกวาดล้างไปแล้ว

 

แค่เพื่อเหมืองแห่งเดียว พวกเขากล้ายอมสละแม้ชีวิตเชียวหรือ?

 

ซูฉวินอธิบายว่า “มนุษย์และเผ่าคนแคระของพวกเรามีผู้แข็งแกร่งเลเวล 6 อยู่เหมือนกัน แต่พวกเขาร่วมมือกันสู้ในเมืองฉิงหยุน ปล่อยให้พวกเรามาต่อสู้ในสงครามนี้”

 

“ถ้าพูดแบบนั้น น่ากลัวว่าผู้แข็งแกร่งเลเวล 6 ของพวกคุณทั้งคู่คงจะพานพบกับความโชคร้ายซะแล้วล่ะ” ซูเฉินส่ายหัว เอ่ยอย่างช่วยไม่ได้

 

สีหน้าของเหอเหอมู่และซูฉวินหม่นหมองลง นั่นคือสิ่งที่พวกเขาคาดเดาไว้เช่นกัน

 

เพราะมิฉะนั้นแล้ว ผู้แข็งแกร่งเลเวล 6 ของเผ่าครึ่งออร์คคงไม่สามารถแยกตัวออกมาจากที่นั่นได้

 

“มีพวกต่างเผ่าหรือซอมบี้ตัวอื่นๆอยู่บนเกาะซูหวูอีกไหม?” ซูเฉินเปลี่ยนเรื่อง

 

จุดประสงค์ของเขาที่มาที่นี่ก็เพื่อได้รับชิ้นส่วนเป็นหลัก ความเป็นความตายของผู้แข็งแกร่งเผ่าคนแคระและมนุษย์ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเขา

 

ซูฉวินครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนตอบไปว่า “หลังจากผู้อาวุโสได้สังหารหมู่เผ่าครึ่งออร์คจนสิ้นซากแล้ว หากไม่นับเผ่าคนแคระ เกรงว่าพวกต่างเผ่าเดียวที่ยังเหลืออยู่บนเกาะซูหวู คงมีแค่เผ่าหุ่นเชิดแห่งเมืองฉิงหยุน แต่พวกเขามักเป็นกลางเสมอมา ไม่มีส่วนร่วมในข้อพิพาทภายนอก”

 

“เผ่าหุ่นเชิด … ” ซูเฉินหรี่ตาลงพลางครุ่นคิด

 

เขายังคงจดจำได้ ย้อนกลับไปที่ภูเขาสือจิน มีชาวเผ่าหุ่นเชิดร่วมมือกับอสูรกลืนฟ้าพยายามที่จะฆ่าเขา

 

เขาจึงไม่มีความรู้สึกประทับใจใดๆต่อเผ่าหุ่นเชิด ดังนั้นตั้งใจว่าหลังจบเรื่องนี้ จะแวะไปเยี่ยมเยือนเมืองฉิงหยุนซักหน่อย

 

“เอาล่ะ พวกคุณออกไปได้แล้ว”

 

ซูเฉินเชิญซูฉวินและคนอื่นๆออกไป ส่วนตัวเองหันมาเก็บชิ้นส่วน

 

คราวนี้เผ่าครึ่งออร์คและซอมบี้ถูกฆ่าตายเป็นจำนวนมาก มีชิ้นส่วนดรอปนับหลายพันชิ้น นี่ทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นมาก

 

ในเวลานั้นเอง [รถศึกอัจฉริยะ] เคลื่อนมาถึงพอดี

 

เมื่อเห็นว่าที่นี่มีแต่ศพของซอมบี้และพวกต่างเผ่ากองเกลื่อนพื้น ดูจำนวนแล้วน่าจะนับหมื่น คนบนรถก็อดสั่นสะท้านไม่ได้

 

เฉินเมิ่งเฟยกลืนน้ำลาย ทอดถอนหายใจจากก้นบึ้งของหัวใจ ‘ดูเหมือนเขาจะแข็งแกร่งกว่าที่ฉันคิดเอาไว้มาก’

 

โดยไม่ต้องรอให้ซูเฉินเรียก หวู่หยางและคนอื่นๆลงจากรถมาขุดหาหินพลังงานทันที

 

สองชั่วโมงต่อมา ซูเฉินเก็บชิ้นส่วนจนครบ แล้วกลับไปยัง [รถศึกอัจฉริยะ]

 

ชิ้นส่วนที่ดรอปในครั้งนี้ไม่มีสีม่วงทอง แต่ปริมาณมากพอควร เกือบทั้งหมดถูกแลกเป็นแต้มพลังงาน

 

ส่งผลให้แต้มพลังงานโดยรวมของซูเฉินทะลุเลข 8 ขึ้นไปแล้ว

 

ซูเฉินเพ่งสายตาจดจ่ออยู่กับหน้าจอควบคุมส่วนกลาง เริ่มค้นหาสถานที่ตั้งของเมืองฉิงหยุน

 

เมืองฉิงหยุนไม่ใหญ่มากนัก ถือว่าเป็นสถานชุมชนขนาดกลาง ห่างจากที่ราบฉิงหลวนราวๆ 1,000 ไมล์

 

เนื่องจากอยู่นอกเหนือขอบเขตการตรวจสอบของ [รถศึกอัจฉริยะ] ดังนั้นไม่ทราบว่ามีหุ่นเชิดกี่ตัวอยู่ในเมืองฉิงหยุน

 

หาข้อมูลล่วงหน้าเสร็จสิ้น ซูเฉินก้าวลงจากรถ ไปช่วยคนอื่นๆขุดหินพลังงาน

 

เวลาผ่านไปจนหินพลังงานทั้งหมดถูกขุดขึ้นมา ทุกคนก็กลับขึ้น [รถศึกอัจฉริยะ] มุ่งหน้าสู่เมืองฉิงหยุน