7/10

 

Ep.417

 

ผู้เที่ยงแท้สือหยางเหลียวหลังกลับมาโดยสัญชาตญาณ และเห็นแค่เพียงเงาหมัดกำลังพุ่งตรงมาที่เขา

 

เขาสัมผัสได้ถึงจิตสังการอันรุนแรงที่แผ่ออกมาจากเงาหมัดเหล่านั้น สมองอื้ออึงทำอะไรไม่ถูก ลืมเลือนที่จะหลบหนีหรือป้องกัน

 

ตูม ตูมม ตูมมม!

 

ภายใต้เสียงกระทบรัวๆดั่งห่าฝนสาดลงหลังคา ผู้เที่ยงแท้สือหยางและหมาปีศาจกระหายเลือดถูกระดมชกจนหมอบลงกับพื้น

 

ตำแหน่งที่ทั้งสองเคยยืนอยู่ ฝั่งมนุษย์ถูกเปลี่ยนเป็นแอ่งเลือดเนื้อเลอะเลือน ฝั่งสัตว์กลายพันธุ์แม้ว่ายังไม่ตายในทันที แต่กระดูกทั้งตัวถูกทำลายไปหมดแล้ว ยามหายใจเข้า อากาศที่สูดได้รวยรินลงทุกทีๆ มองยังไงก็ไม่รอด

 

ซูเฉินเหยียดมือและยิงใบมีดสายลมออกไป ตัดหัวหมาป่าปีศาจกระหายเลือด จบชีวิตมันอย่างสมบูรณ์

 

หลังจากสังหารหมาป่าปีศาจกระหายเลือด มีชิ้นส่วนราวๆสิบชิ้นดรอปจากศพมัน

 

มุมปากของซูเฉินยกยิ้มขึ้นเล็กน้อย จากนั้นเริ่มเก็บชิ้นส่วน

 

ครั้งนี้มีศัตรูถูกฆ่าไม่มากนัก แต่มีชิ้นส่วนดรอปค่อนข้างเยอะ รวมๆกันแล้วมากกว่า 130 ชิ้น

 

ใช้เวลาสิบนาทีก็สามารถเก็บชิ้นส่วนจนครบ ซูเฉินขุดหินพลังงานเลเวล 6 สองก้อนจากหมาป่าปีศาจกระหายเลือดและอสูรกลืนฟ้า

 

จากนั้นปลดปล่อย [หมัดดาวตก] อีกครั้ง ทำลายกำแพงค่ายกลที่กักขังเขา แล้วเดินออกจากห้องโถงใหญ่ของภูเขาสือจินอย่างสบายๆ

 

กลับมาถึง [รถศึกอัจฉริยะ] หยางฮ่าวและคนอื่นๆวิ่งเข้ามาล้อมซูเฉิน สอบถามสถานการณ์

 

ซูเฉินอธิบายคร่าวๆ ก่อนเดินไปยังเก้าอี้คนขับ เบนสายตาไปยังหน้าจอควบคุมส่วนกลาง เริ่มใช้สมอง

 

พื้นที่เขตเตอหลินไม่มีซอมบี้หรือสัตว์กลายพันธุ์ ดังนั้นอยู่ต่อไปก็เสียเวลาเปล่า

 

ขณะเดียวกันอีกสองพื้นที่บนเกาะเฉียนหยู จำนวนซอมบี้และสัตว์กลายพันธุ์ก็น้อยนิดจนน่าเวทนา

 

ดังนั้น หากต้องการได้รับชิ้นส่วน เขาจำเป็นต้องออกจากเกาะเฉียนหยู

 

ช่วงเวลานี้ ซูเฉินกำลังตรวจสอบเกาะที่เรียกว่า ‘เจียวซู’

 

พื้นที่ของเกาะเจียวซูมีขนาดเพียงหนึ่งในสามของเกาะเฉียนหยู ทว่ามันอยู่ใกล้กับเกาะเฉียนหยูมากที่สุด

 

หากเขาต้องการออกจากเกาะเฉียนหยู เป้าหมายแรกที่ไป ย่อมต้องเลือกตำแหน่งใกล้เคียง

 

หลังจากระบุเป้าหมายได้แล้ว ซูเฉินหันไปปรึกษากับหวู่หยางและคนอื่นๆ ว่าจะออกจากเกาะเฉียนหยู แม้รู้สึกกังวลใจเล็กน้อย เพราะทุกคนต่างรู้ดี ว่าโลกภายนอกนั้นกว้างใหญ่ไพศาล แต่พวกเขาก็ยังเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น จึงไม่มีใครคัดค้าน

 

“เสี่ยวจือ ค้นหาเส้นทางที่ใกล้ที่สุด มุ่งหน้าไปทะเลทงโหยว” ซูเฉินออกคำสั่ง

 

ทะเลระหว่างเกาะเฉียนหยูกับเกาะเจียวซูถูกเรียกว่าทะเลทงโหยว มันคือเส้นทางที่ดีที่สุดในการไปยังเกาะเจียวซู

 

“รับทราบ”

 

[รถศึกอัจฉริยะ] วางแผนเส้นทาง แล้วเร่งไปข้างหน้า

 

จากนั้น ซูเฉินหยิบ [โพชั่นกายภาพ] ออกมาเพื่อยกระดับเลเวลของทุกคน

 

หวู่หยางและคนอื่นๆเคยเลื่อนขั้นตอนมุ่งหน้าไปยังเมืองอี้เถียน ตอนนั้นเวลาก็ผ่านมาสักพักแล้ว พื้นฐานของพวกเขาน่าจะมั่นคงเรียบร้อย

 

หลังจากดื่ม [โพชั่นกายภาพ ] ทั้งหมดก็ประสบความสำเร็จในการยกระดับ

 

หวู่หยางกับหยางหลิงเทียนกลายเป็นผู้วิวัฒนาการเลเวล 4 ส่วนหยางฮ่าวและคนอื่นๆขึ้นเป็นผู้วิวัฒนาการเลเวล 3

 

หมาป่ากลายพันธุ์ทั้งสามตัวก็ได้กลายเป็นผู้วิวัฒนาการและปรมาจารย์มนตราในเลเวล 3 เช่นกัน

 

สามารถกล่าวได้เลยว่า เมื่อทุกคนก้าวหน้าไปอีกขั้น กำลังรบของทีมซูเฉินได้พุ่งทะยานไปอีกขอบเขตใหญ่

 

ในอนาคต ถึงเวลาเมื่อไปยังเกาะอื่นๆ ด้วยกำลังรบของพวกเขา ก็น่าจะสามารถท่องไปทุกที่ได้อย่างไม่ต้องระมัดระวังตัวมากนัก

 

เมื่อหวู่หยางและคนอื่นๆยกระดับเสร็จแล้ว ซูเฉินก็เปิด [พื้นที่เพาะปลูก]

 

ตอนแรก เขาตั้งใจจะเปลี่ยนหินพลังงานเลเวล 6 ให้ [อุปกรณ์เร่งเวลา]

 

แต่เมื่อเปิดมันขึ้นมา เขากลับได้ยินเสียงของต้นผลอายุวัฒนะกำลังพูดคุยกับเสียงของเด็กสาว

 

ซูเฉินนิ่งงันไปครู่หนึ่ง ก่อนตัดสินใจปลดปล่อยพลังจิตเข้าไปตรวจสอบ

 

เมื่อพลังจิตกระทบลงบนต้นผลแก่นแท้ สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป

 

เห็นแค่เพียงใบหน้าของหญิงสาวคนหนึ่งปรากฏขึ้นบนลำต้นของต้นผลแก่นแท้ มันคล้ายกับรูปลักษณ์ของเด็กสาวอายุห้าถึงหกขวบ ดูน่ารักน่าชังเป็นอย่างยิ่ง

 

8/10

 

Ep.418

 

ต้นผลอายุวัฒนะตระหนักถึงการคงอยู่ของซูเฉิน มันร้องตะโกนด้วยความเคารพว่า “เจ้านาย!”

 

ต้นผลแก่นแท้กระพริบตาครู่หนึ่ง ก่อนร้องตามว่า “พี่ใหญ่ คุณมาแล้วหรอ”

 

เป็นเพราะการสนับสนุนของ [อุปกรณ์เร่งเวลา] เธอถึงได้พัฒนาภูมิปัญญาทางจิตได้อย่างรวดเร็ว

 

หลังจากนั้น เธอก็ได้รู้เรื่องราวคร่าวๆเกี่ยวกับซูเฉินจากปากต้นผลอายุวัฒนะ

 

พูดถึงเรื่องนี้ การที่เธอสามารถมีชีวิตอยู่อย่างสงบสุขมาได้จนถึงวันนี้ และมีสติปัญญาได้อย่างรวดเร็ว ทั้งหมดเป็นเพราะความช่วยเหลือของซูเฉิน เธอจึงรู้สึกขอบคุณซูเฉินจากใจจริง

 

“เสี่ยวโซ่ว ต้นผลแก่นแท้พัฒนาภูมิปัญญาทางจิตแล้วหรอ?” ซูเฉินประหลาดใจเล็กน้อย

 

ตั้งแต่ได้รับต้นผลแก่นแท้มา เพิ่งผ่านไปไม่กี่วันเท่านั้น เพียงระยะเวลาสั้นๆก็สามารถสร้างภูมิปัญญาทางจิต นี่ไม่ได้หมายความว่ามันสามารถออกผลแก่นแท้ได้แล้วหรือ?

 

“เจ้านาย สภาพแวดล้อมของที่นี่สมบูรณ์แบบมากสำหรับสายพันธุ์พืชปีศาจของพวกเรา บวกกับอุปกรณ์ที่สามารถช่วยลดวงจรการเจริญเติบโตให้ระยะเวลาสั้นลง ต้นผลแก่นแท้จึงสามารถเปิดภูมิปัญญาได้รวดเร็วเช่นนี้” ต้นผลอายุวัฒนะอธิบาย

 

ซูเฉินพยักหน้าเล็กน้อย จากนั้นสำรวจดูต้นผลแก่นแท้อีกครั้ง กล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “เสี่ยวหยวนจากนี้ไปเจ้าต้องอาศัยอยู่ที่นี่กับเสี่ยวโซ่ว มีฉันคอยคุ้มครอง ไม่ต้องกังวลว่าจะได้รับอันตรายใดๆอีกต่อไป”

 

“ขอบคุณค่ะพี่ใหญ่”

 

ต้นผลแก่นแท้มีความสุขมาก เธอเริ่มจากขอบคุณเขา จากนั้นกล่าวว่า “พี่ใหญ่ ฉันได้ยินท่านปู่โซ่วบอกว่า พี่ต้องการผลแก่นแท้ เรื่องนี้วางใจได้เลย ฉันจะรีบให้กำเนิดมันโดยเร็วที่สุด”

 

“พยายามเข้าล่ะ แต่จำไว้ให้ดี อย่ารีบร้อนจนถึงขั้นทำลายรากฐานของตัวเอง แบบนั้นเดี๋ยวจะได้ไม่คุ้มเสีย ” ซูเฉินกล่าวอย่างจริงจัง

 

แม้ว่าเขาจะต้องการผลแก่นแท้อย่างเร่งด่วนเพื่อเสริมพลังแห่งจิตวิญญาณ แต่ก็ยังไม่อยากฆ่าไก่เพื่อได้ไข่มา

 

“เข้าใจแล้วพี่ใหญ่” ต้นผลแก่นแท้พยักหน้าอย่างแรง

 

หลังจากนั้น ซูเฉินติดตั้งหินพลังงานเลเวล 6 สองก้อนลงบน [อุปกรณ์เร่งเวลา] แล้วปิด [พื้นที่เพาะปลูก]

 

“พี่เฉิน มาดวลกันซักตาไหม?”

 

เนื่องจากต้องใช้เวลาพอสมควรกว่าจะถึงทะเลทงโหยว หยางฮ่าวเลยชวนซูเฉินเล่นเกมไพ่โต้วตี้จู่

 

“ก็เอาสิ” ซูเฉินไม่ปฏิเสธ

 

 

เวลาต่อมา ทุกคนรวมตัวกันเป็นบางครั้งเพื่อเล่นไพ่โต้วตี้จู่ ไม่ก็ล้อมวงฟังเพลง เพลิดเพลินไปกับช่วงเวลาอันรื่นรมณ์ที่แสนหาได้ยากนี้

 

ในวันที่สิบของการเดินทาง ในที่สุดก็มาถึงทะเลทงโหยว

 

ทะเลทงโหยวกับทะเลหวังโหยว(ทะเลแห่งการหลงเลือน) ค่อนข้างแตกต่างกัน น้ำของทะเลหวังโหยวเป็นสีดำเข้ม ในขณะที่น้ำทะเลทงโหยวเป็นสีฟ้าคราม กล่าวได้ว่าฝ่ายหลังดูสบายตากว่ามาก

 

“เสี่ยวจือ ตอนนี้นายสามารถแล่นในทะเลได้แล้วใช่ไหม”

 

มาถึงชายหาด ซูเฉินเอ่ยถามย้ำกับ [รถศึกอัจฉริยะ] อีกรอบ

 

เขายังจำได้ ว่า [รถศึกอัจฉริยะ] เคยกล่าวเอาไว้ เมื่อไปถึงเลเวล 5 มันจะสามารถแล่นในทะเลได้

 

“เจ้านาย ฉันสามารถแล่นในทะเลได้โดยไม่มีปัญหาใดๆ แค่ความเร็วอาจจะช้ากว่าบนบกเล็กน้อย” [รถศึกอัจฉริยะ] ตอบกลับอย่างมั่นใจ

 

“ดีมาก งั้นเดี๋ยวพวกเราจะลงทะเลกัน มุ่งหน้าไปที่เกาะเจียวซู” ซูเฉินพยักหน้า

 

[รถศึกอัจฉริยะ] ค่อยๆเคลื่อนลงทะเล จากนั้นตามมาด้วยเสียงดัง ‘แคร่ก แคร่ก’ ไม่นาน มันก็เปลี่ยนจากรถศึก กลายเป็นเรือสำราญลำใหญ่

 

แม้ว่ารูปลักษณ์จะเปลี่ยนไป แต่ก็ยังคงดูโดดเด่นเพรียวลมดังเดิม

 

ซูเฉินทิ้งตัวลงบนเก้าอี้คนขับ เลื่อนสายตามองหน้าจอควบคุมส่วนกลาง

 

ถ้าอยากขึ้นไปบนเกาะเจียวซู มันต้องใช้เวลาอย่างน้อยครึ่งเดือน แต่ระหว่างทางเขาจะไม่ยอมเสียเวลาเปล่า เริ่มค้นหาที่อยู่ของสัตว์ทะเล

 

แต่น่าเสียดาย ที่ในรัศมีการตรวจจับ ไม่พบร่องรอยของจุดสีแดงเลย ทว่ากลับปรากฏจุดสีน้ำเงินสองจุดแทน ระยะทางห่างออกไปราวๆ 10 ไมล์

 

ระยะการตรวจจับของ [รถศึกอัจฉริยะ] ปัจจุบันกว้างถึง 500 กิโลเมตร นี่แสดงให้เห็นว่าไม่มีสัตว์ทะเลอยู่ในพื้นที่ 500 กิโลเมตรเลย

 

เรื่องนี้เหนือความคาดหมายของซูเฉิน หลังจากครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง เขาก็กล่าวว่า “เสี่ยวจือ ไปที่จุดสีน้ำเงินสองจุดนั่น”