Ep.20

 

“เอ๋? ว่าแต่เจ้าลูกกลมๆก้อนใหญ่ที่อยู่ตรงนี้หายไปไหนซะแล้วล่ะ?” เด็กสาวตัวน้อยที่เรียกตัวเองว่าอี้อี้หันมองไปรอบๆด้วยความสงสัย เอ่ยปากถามฉู่เซวียน “อี้อี้เคยใช้มันช่วยวิวัฒนาการน่ะ”

 

“เอ่อ … ” ฉู่เซวียนพูดไม่ออกไปพักหนึ่ง ไม่รู้จะสรรหาคำใดมาอธิบาย แต่โชคยังดีที่เขาหัวไว ใช้เวลาคิดไม่นานก็ยิ้มแล้วพูดว่า “เจ้าสิ่งนั้นมีประโยชน์กับฉันมาก ฉันเลยเอามันไปแล้ว” 

 

“อย่างงั้นเองหรอ …. ” อี้อี้งึมงำ ขมวดคิ้วคล้ายกำลังครุ่นคิด ก่อนเอ่ยว่า “ไม่เป็นไร เจ้าสิ่งนั้นไม่มีประโยชน์กับอี้อี้แล้ว พี่ชายเอามันไปเถอะ” 

 

มองไปยังรอยยิ้มไร้เดียงสาของสาวน้อยในอ้อมอกเขา ฉู่เซวียนเริ่มบังเกิดความรู้สึกผิดที่หลอกลวงเธอ

 

“แต่ยังไงก็เถอะ พวกเรารีบออกไปดีกว่า ข้างนอกทะเลาะกันเละเทะไปหมดแล้ว” จู่ๆอี้อี้ก็เอ่ยกับฉู่เซวียน ในดวงตาไร้เดียงสาของเธอ ราวกับว่าสงครามนองเลือดนี้ไม่มีความหมายอะไรเลย

 

ณ เวลานี้ ฉู่เซวียนกระจ่างแจ้งแก่ใจแล้ว ว่าสาวน้อยที่ดูน่ารักไร้เดียงสาคนนี้นี่แหละ คือเสาหลักของเมืองตงเฉิงตัวจริงเสียงจริง!

 

เขายิ้มเจื่อน โยนความคิดฟุ้งซ่านไว้เบื้องหลัง ยกอี้อี้วางบนไหล่ แล้วเดินออกจากตึก

 

“อ้อจริงสิ อี้อี้ เธอคือคนที่พวกซอมบี้เรียกกันว่าซอมบี้ลอร์ดใช่รึเปล่า” ระหว่างทาง ฉู่เซวียนเอ่ยถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น

 

อี้อี้ซึ่งนั่งอยู่บนไหล่เขาผงกหัวยอมรับ อย่างไรก็ตาม ใบหน้าน้อยๆของเธอกลับแสดงท่าทีลำบากใจ “แต่ตอนนี้อี้อี้ได้รับบาดเจ็บ ยังออกแรงไม่ได้”

 

เมื่อซอมบี้ทั้งสองออกมาจากตึก การต่อสู้ระหว่างสองฝ่ายกำลังอยู่ในสภาวะเดือดจัด จนไม่มีใครทันสังเกตพวกเขา

 

บรึ้ม!

 

ขณะนั้นเอง เหนือขึ้นไปกลางอากาศ ลูกไฟก้อนโตที่มีรัศมีหลายสิบเมตรเกิดการระเบิดอย่างรุนแรง ซอมบี้เลเวล 5 หลายตัวหลบไม่ทัน ถูกลูกไฟกลืนกิน สลายกลายเป็นเถ้าในชั่วพริบตา

 

“สังหารซอมบี้เลเวล 5 หลายตัวในการโจมตีเดียว หลิงหวู่ซวง นี่นายตัดผ่านสำเร็จแล้วหรอ?”

 

เห็นภาพนี้ ชายร่างใหญ่ที่อยู่ไม่ไกลอุทานขึ้น

 

“เดาไม่ผิดแล้วคังหยาน เสียใจด้วยนะที่ฉันไวกว่านายหนึ่งก้าว ก้าวสู่ขอบเขตใหม่ได้สำเร็จแล้ว”

 

รอยยิ้มกริ่มที่ดูเย่อหยิ่งผุดขึ้นตรงมุมปากของผู้ใช้พลังธาตุไฟที่ชื่อหลิงหวู่ซวง ก่อนหันไปมองซอมบี้สาวในชุดดำตรงหน้า เอ่ยด้วยน้ำเสียงเหยียดหยาม “ก่อนหน้านี้ฉันแค่เล่นกับเธอเท่านั้น มู่อ้าวซวง คิดจริงๆหรือว่าเธอจะรับมือฉันได้?”

 

เห็นภาพนี้ ใบหน้าของอี้อี้เผยท่าทีวิตกกังวลขึ้นทันที  “ไม่ได้การแล้ว พี่สาวมู่สู้เจ้าหมอนั่นไม่ไหว”

 

ฉู่เซวียนพอได้ยินคำนี้ ก็เกิดความลังเลเล็กน้อย แต่ไม่นานก็ตัดสินใจได้ทันที ว่าจะช่วยเหลือซอมบี้ตนนั้น แม้นี่จะเป็นการสร้างความขัดแย้งกับเหล่าผู้ใช้พลังก็ตาม

 

เพราะท้ายที่สุดแล้ว ปัจจุบันตัวเขาเองก็เป็นซอมบี้เช่นกัน แล้วอีกอย่างในมุมมองของเขา เหล่าซอมบี้เลเวลสูงถึงอย่างไรยังมีเลือดมีเนื้อ แต่ไอ้ผู้ใช้พลังพวกนี้ทำเป็นปิดตามองไม่เห็น แล้วอาศัยเพียงความแตกต่างทางเชื้อชาติเข้ารุกราน 

 

นี่แสดงให้เห็นว่าวิสัยทัศน์ของผู้บัญชาการสูงสูดของฝั่งผู้รอดชีวิตในยุคนี้คับแคบเพียงใด

 

อย่างไรก็ตาม ด้วยพลังรบของเขาในตอนนี้ มันแทบไม่สามารถสร้างผลกระทบใดๆในสนามรบได้เลย 

 

ดังนั้น ฉู่เซวียนเลยตัดสินใจเอ่ยถามระบบ 

 

‘ระบบ นายมีวิธีไหนที่พอจะช่วยซอมบี้ตัวนั้นได้บ้าง?’ ฉู่เซวียนเอ่ยถามในใจ 

 

“เจ้าของร่างสามารถขอยืมพลังจากอี้อี้ได้ชั่วคราว เพราะพลังของพวกคุณทั้งสองมาจากแหล่งเดียวกัน แม้จะได้รับผลกระทบอยู่บ้าง แต่ไม่ต้องกังวลว่าพลังที่ถ่ายเทมาจะถูกปฏิเสธ” ระบบตอบกลับ

 

ได้ยินคำนี้ ดวงตาของฉู่เซวียนสว่างไสวขึ้นทันใด 

 

“อี้อี้ ฉันขอยืมพลังเธอหน่อยสิ แค่ชั่วคราวก็พอ จะได้ออกไปช่วยพรรคพวกของเธอไง ” ฉู่เซวียนเอ่ยกับอี้อี้บนไหล่เขา  

 

“ไม่มีทาง” ได้ยินคำขอนี้ อี้อี้ส่ายหัวรัวๆ  แล้วอธิบายว่า “พี่ชายทนพลังของอี้อี้ไม่ไหวหรอก”

 

“ไม่ต้องกังวล” ฉู่เซวียนกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ฉันไม่เคยทำอะไรที่ตัวเองไม่มั่นใจ ถ้าพูดไปแล้วแสดงว่าฉันทำได้แน่นอน” 

 

“นี่ … งั้นก็ได้” หลังจากลังเลเล็กน้อย ในที่สุดอี้อี้ก็ตอบตกลง

 

เห็นแค่เพียงฝ่ามือน้อยๆของเธอแนบลงบนอกฉู่เซวียนอย่างแผ่วเบา

 

ทันใดนั้นฝ่ายหลังพลันสัมผัสได้ถึงพลังงานบางอย่างที่ราวกับมหาสมุทรไหลเข้าสู่ร่างกายเขา  

 

“ตรวจพบพลังงานที่คล้ายคลึงกัน เปิดโหมดฟิวชั่นอัตโนมัติ …. ”

 

“ฟิวชั่นเสร็จสิ้น พลังรบในปัจจุบันของเจ้าของร่าง : ซอมบี้ลอร์ดขั้นสูง (เสมือน) ระยะเวลาคงอยู่ : 2 นาที”