บทที่ 118: ทิราดัส (2)

 

 

 

ฮันซูรีบมุ่งหน้าตรงไปยังสถานที่ที่เกิดเสียงหลังจากได้ยินเสียงกรีดร้องแปลกประหลาดของกวานแจ

มีคนสามคนอยู่ภายในที่อยู่ของบาทหลวง

คนที่ดูแปลกประหลาดมากที่สุดในบรรดาคนทั้งหมดคือผู้หญิงที่ถูกจับเป็นตัวประกันก่อนหน้านี้

“อ๊ากกก! อ๊ากกกก! ว๊ากกกก!”

“ได้โปรด ทำอะไรสักอย่างที!”

ผู้หญิงที่ดูเหมือนว่าจะเป็นคนเกาหลีกำลังบิดตัวไปมาและแสดงสีหน้าที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด

เธอไม่อาจแม้แต่จะกรีดร้องออกมาเพราะความเจ็บปวดมหาศาลนั้น

แน่นอนว่าคนที่กำลังกรีดร้องอยู่ก็คือกวานแจที่กำลังเฝ้ามองอยู่ข้างๆ เธอ

‘บัดซบ! นี่มันอะไรกัน! มันเกิดอะไรขึ้น! ทำไมกัน!’

กวานแจหัวเสีย

วินาทีที่เขารับรู้ว่าการควบคุมถูกทำลายลง เขาก็ทลายน้ำแข็งออกมาและปลุกภรรยาของเขา มิฮยาง

มันก็ดีจนถึงจุดนั้น

แต่ทำไมภรรยาของเขาถึงได้ดีดดิ้นด้วยความเจ็บปวดแบบนี้?

โซเฟียขมวดคิ้วกับภาพของคนทั้งสองก่อนจะผลักกวานแจถอยไป

“ถอย”

แคร่ก

โซเฟียใช้สกิลจำนวนหนึ่งไปยังสกิลหยกแช่แข็งของเธอก่อนจะแช่แข็งร่างของภรรยาของกวานแจ

แม้ว่าเธอจะเป็นตัวประกัน ร่างกายของเธอก็ควรจะอยู่ในระดับเดียวกับคนที่เพิ่งมาถึงยังเขตสีส้ม

แม้ว่าภูมิคุ้มกันร่างกายของเธอจะลดลง เธอก็ไม่มีทางตายเพราะเรื่องนี้

“ฮึกก…”

กวานแจแสดงสีหน้ารับไม่ได้ออกมากับภาพของภรรยาที่ดูจะหลับลึกไปอีกครั้งภายในน้ำแข็งก่อนจะทรุดตัวลง

‘เธอจะต้องเจ็บปวดแบบนี้ตลอดไปงั้นเหรอ?’

เช่นนั้นการปล่อยให้ภรรยาของเขาหลับใหลไปชั่วนิรันดร์ก็คือตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับเธอ

ฮันซูเดินเข้าใกล้ด้านหลังของกวานแจก่อนจะปล่อยมานาไปกวาดผ่านร่างของผู้หญิงคนนั้น

จากนั้นจึงรู้สาเหตุของความเจ็บปวดของอีกฝ่าย

‘เขาใช้ผู้หญิงคนนี้ในการเก็บของ’

ของเหลวโลหะ

เขาได้เก็บของเหลวสีเงินที่หลงเหลืออยู่เล็กน้อยหลังจากการสร้างร่างให้กับกวานแจไว้ในร่างของผู้หญิงคนนี้

มันคงจะไม่เป็นอะไรถ้าเธอหลับอยู่ แต่วินาทีที่เธอตื่นขึ้นมา ของเหลวในร่างจะเริ่มอาละวาด

“มันคือผลข้างเคียงของการผ่าตัดดัดแปลงร่างกาย เธอจะได้รับความเจ็บปวดมหาศาล”

เธอจะไม่ตายในเมื่อปริมาณของของเหลวนั้นน้อยกว่าในร่างของเขามาก แต่มันก็คงจะเป็นขีดจำกัดแล้ว

เธอจะทรมานกับความเจ็บปวดมหาศาลในวินาทีที่เธอตื่นขึ้นอีกครั้ง

ในขณะที่กวานแจกำลังแสดงสีหน้าเจ็บปวดออกมากับคำอธิบายนั้น ฮันซูก็เอ่ยขึ้น

“ดีเลย”

“อะไรนะ? ไอ้เวรนี่!”

ฮันซูส่ายศีรษะเมื่อขาเห็นว่ากวานแจทำท่าจะต่อยเขา

“ฉันไม่ได้หมายความว่ามันดีสำหรับฉัน แต่ฉันกำลังบอกว่ามันดีสำหรับนาย”

“…?”

กวานแจคำรามในลำคอขณะที่เขาจ้องไปยังปากของฮันซู

ฮันซูไม่ได้เอ่ยอะไรออกมาขณะที่เขาเผยให้อีกฝ่ายเห็นอาการบาดเจ็บของเขา

กวานแจแสดงสีหน้าไม่อยากเชื่อออกมากับบางอย่างสีเงินที่กำลังเดือดปุดกระตุกบิดราวกับแมลงภายในบาดแผลบนแขนของอีกฝ่าย

“นาย… นี่…”

“สถานการณ์ของฉันเองก็คล้ายๆ กัน”

สีหน้าเหลือเชื่อของกวานแจยิ่งรุนแรงขึ้น

‘ไม่มีทาง เขาอดทนต่อความเจ็บปวดนั่นตลอดเวลางั้นเหรอ?’

เขารู้จักความเจ็บปวดนั้นเช่นกัน

ในเมื่อบาทหลวงได้แสดงให้เขาเห็นว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของเขาหากมันล้มเหลว

ความจริงแล้ว ความเจ็บปวดนั่นไม่ใช่สิ่งที่มนุษย์จะสามารถทานทนได้

และภรรยาของเขาก็กรีดร้องออกมาจนคอแทบแตกเช่นกัน

ไม่สิ ความเจ็บปวดของไอ้หมอนี่อาจจะเทียบไม่ได้กับความเจ็บปวดของภรรยาเขาด้วยซ้ำ

แม้ว่าการผ่าตัดดัดแปลงร่างกายของเขาจะเป็นไปได้ด้วยดี ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยของเหลวสีเงิน

‘นายเป็นตัวบ้าอะไรกัน?’

ฮันซูเอ่ยขึ้นขณะมองหน้ากวานแจ

“ทำงานให้ฉัน”

แม้ว่ายารักษาสำหรับการผ่าตัดดัดแปลงร่างกายและยารักษาสำหรับภัยพิบัติแห่งความตายจะแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง วัตถุดิบหลักของพวกมันก็เหมือนกัน

<มาร์กอช ดู ทิราดัส>

มาร์กอชที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดามาร์กอชทั้งหมด

สิ่งที่กินมาร์กอช ดูกราซิโอสเป็นอาหารหลักและมาร์กอช ดู คาปูซิโอ้เป็นของว่าง

‘ถึงมันจะไม่ยากในการหามัน แต่มันก็จะเหมือนกับการยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว จะยังไงก็ตาม มันมีหลายอย่างที่จะใช้มัน’

สมกับที่ได้รับการขนาดนามว่าบาทหลวง มันมียาหายากจำนวนมากที่นักบวชหญิงโอเทออนไม่มีไว้ครอบครอง

ของจากวิหารที่สามารถส่งผลต่อทั้งกรากอซและมาร์กอช

กวานแจครุ่นคิดไปชั่วครู่ในขณะที่ฮันซูสำรวจไปรอบๆ ที่อยู่ของบาทหลวง แต่ไม่นานเขาก็ตัดสินใจได้

‘มันไม่มีเหตุผลที่จะไม่ฟังถ้ามันมีวิธีการที่จะแก้ไขเรื่องนี้จริงๆ ฮึ่มม… ระดับน้ำตาลในเลือดฉันกำลังลดต่ำลง’

กวานแจนำอมยิ้มแกรปไฟต์ แสงเขียว ออกมาก่อนจะเอ่ยขึ้นไปยังฮันซูพร้อมกับโยนมันไป

“นายก็กินซะสิ จะยังไงก็เถอะ ฉันต้องทำอะไรบ้าง?”

“เราต้องการระดับมาร์กอชมากกว่านี้ ฉันหวังว่าฉันจะได้รับความช่วยเหลือจากคนในกิลด์ของนาย…”

คนอ่อนแอไม่จำเป็นในการจับทิราดัส

กวานแจแสดงสีหน้าจนใจออกมา

สี่คนรวมทั้งบาลี รอปเปอร์ตายด้วยน้ำมือของเขา

และสองคนจากดาวไถเองก็ตายในระหว่างนั้นเหมือนกัน

‘อืม พวกมันก็สมควรตายแล้ว’

ถ้าคนพวกนั้นไปอยู่ที่เกาหลี  พวกมันก็จะถูกหมายจับอย่างน้อยสองพันคดี

และนั่นเป็นแค่คดีฆ่ากับข่มขืนเท่านั้น

จะอย่างไรก็เถอะ มันเหลือในกิลด์รีโรรีโรเรแค่สามคนเท่านั้น

“สามคนนั้นก็อาจจะไม่เชื่อฟังด้วย พวกนั้นไม่ได้เชื่อฟังคำสั่งของฉันสักเท่าไหร่อยู่แล้ว”

“อย่ากังวลเลย นายแค่ต้องทำตามคำสั่งของฉัน”

ฮันซูหัวเราะหลังจากที่ส่งพิราบสื่อสารสีแดงไปยังทิศทางหนึ่งพร้อมกับเคี้ยวแสงเขียว

 

 

“นี่มันอะไรกัน ทำไมเขาถึงบอกให้เราหยุดโจมตี”

อาเคลล่า หนึ่งในดาวไถที่ไปยังป่าฮอร์นเพื่อที่จะไล่ล่าอคารอนขมวดคิ้วขณะที่เธออ่านพิราบสื่อสารที่บินเข้ามาหา

อาเคลล่าแสดงสีหน้าไม่พอใจขณะมองไปยังเขาขนาดยักษ์สองเขาที่อยู่ห่างออกไป

‘ฉันไม่อยากอยู่ที่นี่นานขนาดนั้น’

แม้ว่าอาเคลล่าจะวิ่งไปรอบๆ กรากอชราวกับว่ามันเป็นสนามเด็กเล่น ถ้าให้เธอเลือกสถานที่ที่เธอไม่อยากไปมาที่หนึ่ง มันก็คือป่าฮอร์น

ในเมื่อทั้งสองสิ่งที่เธอเกลียดอยู่ที่นี่

‘ฉันไม่รู้ว่านังคนเสียสติ เอนบิ อาริน นั่นจะมาที่นี่’

อาเคลล่ามองไปยังดาวไถอีกสองคนก่อนจะเอ่ยขึ้น

“เราควรจะทำยังไงดี”

อัลทาริมและสตาริงครุ่นคิดไปชั่วขณะก่อนจะส่ายศีรษะ

แม้ว่าพวกเขาจะต้องส่งพวกนั้นเข้าไป มันก็ค่อนข้างจะเป็นปัญหาสำหรับพวกเขาในการต่อสู้แค่พวกเขาสามคน

ในเมื่ออคารอนทั้งห้าค่อนข้างทรงพลัง

มันจะดีกว่าในการรวมตัวและจัดการพวกนั้นแทนที่จะสร้างความลำบากให้ตัวเองเกินไป

“เตรียมตัวไว้ เรามีแต่จะสูญเสียมากขึ้นถ้าสู้ด้วยตัวเอง คนคนนั้นคงจะมีแผนสักอย่าง”

“… หืมมม เขาคงไม่คิดอะไรต่างออกไปหรอกนะ”

ดวงตาสวยของอาเคลล่าหรี่ลงอีกครั้ง

ในเมื่อนี่มันค่อนข้างจะน่าเสียดาย

‘ฉันจะอยู่ในเขตต่ำกว่านี่และเก็บกวาดไปทั่วไปตลอดไม่ได้หรอกนะ’

การผ่าตัดดัดแปลงร่างกาย

เธอได้ถูกดึงดูดโดยพลังนั้นและอยู่ข้างๆ กวานแจ

พลังของร่างกายของเขาที่เพียงพอจะฟื้นฟูกระดูกที่หักในเสี้ยววินาทีและมีชีวิตรอดแม้จะดื่มยาพิษเข้าไปมันช่างดึงดูดใจยิ่งนัก

เขายังสามารถอยู่ใต้น้ำโดยไม่หายใจได้เป็นเวลานานมาก

นี่คือเหตุผลให้เธออยู่ที่นี่และยังไม่ขึ้นไปยังเขตสีเหลืองแม้ว่าจะอยู่ในระดับมาร์กอชมากว่าสี่ปีแล้ว

การเฝ้ารออยู่ที่นี่แม้ว่าจุดหมายจะอยู่ที่ตรงหน้าเธอได้ทำให้เธอรู้สึกกระวนกระวาย

‘มันไม่มีอะไรที่เราทำได้’

“เฮ้ เท้าฉัน ในระหว่างที่เรากำลังพักผ่อน”

“… ครับ”

“เฮียวโระ เจ้าลูกหมา”

อาเคลล่ายื่นเท้าของเธอไปยังชายหนุ่มหน้าตาดีที่เธอเลือกมาด้วยตนเอง

แม้ว่าพลังของเขาจะอยู่แค่ในระดับนักผจญภัยปีห้า เธอก็เลือกเขาเพราะหน้าตาของเขา

‘อืม ฉันคงจะค่อนข้างยุ่งถ้าอยู่ในเขตอื่น ฉันควรจะมีความสุขกับเรื่องนี้สักหน่อย’

เธอรู้สึกดีเมื่อชายหนุ่มที่ดูเหมือนนักแสดงรูปหล่อกำลังเลียเท้าของเธอ

อัลทาริมและสตาริงมองภาพนั้นขณะที่พวกเขาเดาะลิ้น ทว่าก็เริ่มขัดอาวุธของพวกเขา ขวานและกระบองคู่

ในเมื่อพวกเขาจำเป็นต้องทำเพราะคราบเลือดจำนวนมากบนนั้น

“จะยังไงก็เถอะ เราจะรวมตัวกันที่นี่? เราต้องอยู่ที่นี่นานแค่ไหน?”

ทันทีที่อัลทาริมพูดจบ บางอย่างก็พุ่งเข้ามาหาพวกเขาด้วยความเร็วสูง

ฟุ่บบ

อาเคลล่าขมวดคิ้วขณะที่เธอมองห่างออกไป

‘… คนหนึ่งคือผู้นำกิลด์ ใครคือคนที่อยู่ข้างๆ เขา?’

กวานแจมีบางอย่างเกาะมากับเขาขณะที่เขาทะยานมา

ตูมมมม!

ฝุ่นคลุ้งกระจายขึ้นตอนที่กวานแจทิ้งตัวลง

วินาทีที่อาเคลล่ามองไปยังคนที่อยู่ข้างๆ เขาที่ดูเหมือนว่าจะเป็นตัวประกันนั้น

ฮันซูที่มาด้วยท่าทีที่เหมือนด้อยกว่ากวานแจเองก็มองไปยังคนเหล่านั้น

สีหน้าที่ไร้ซึ่งความกังวลแม้แต่น้อย

กวานแจตัวท่วมไปด้วยเลือด และพวกเขามีกันเพียงแค่สองคน

แต่อีกฝ่ายมีสามคน

‘มันเป็นเรื่องจริงที่พวกนั้นไม่ได้ทำเหมือนกับเขาเป็นผู้นำมากนัก’

ท่าทีของคนเหล่านั้นบอกเขาในทันที

ในเมื่อผู้หญิงหนึ่งเดียวในนั้นไม่แม้แต่จะลุกขึ้นยืนขณะที่เธอกำลังให้คนนวดเท้าให้อยู่

‘อืม จะยังไงก็เถอะ ฉันจะปล่อยให้กวานแจจัดการเรื่องนี้ต่อจากนี้ แต่ทำไมเขาต้องโยนฉันแรงขนาดนี้ด้วย’

พลั่กกก!

ฮันซูกลิ้งอยู่บนพื้นหลังจากที่ถูกโยนพร้อมกับถูกมัดด้วยโซ่โลหะ

อาเคลล่ามองไปยังฮันซูที่ถูกโยนลงบนพื้นในขณะที่ถูกจับอย่างสมบูรณ์ก่อนจะนึกถึงบางอย่างได้

‘นี่ใช่คนที่เจ้าแก่จุงซังนั่นพูดถึงรึเปล่า? เด็กใหม่จากเขตสีแดง ดูเหมือนว่าเขาก็จะไม่ได้เก่งขนาดนั้น’

เธอควรจะคิดแบบนั้นเมื่อเธอเห็นฮันซูกลิ้งอยู่บนพื้น

อาเคลล่าหัวเราะเสียงเย็นใส่ฮันซูขณะที่เธอเอ่ยขึ้นกับกวานแจ

“ผู้นำของเราดูจะรู้เรื่องการแปรธาตุอยู่บ้างนะเนี่ย แลกไอ้บ้าสามคนนั่นกับไอ้กระจอกคนหนึ่งแบบนี้”

เขาส่งไอ้บ้าสามตัวจากดาวไถรวมทั้งกอร์ดอนไปไหนแล้วเอาตัวไอ้คนแบบนี้มาแทน?

กวานแจไอออกมาเป็นเลือดขณะที่เขาเอ่ยขึ้น

“แค่ก… พวกเขาตายหมดแล้ว สามคนจากดาวไถ พวกเขาถูกหมอนี่ลอบโจมตี”

“อะไรนะ?”

อาเคลล่าผงะไป

ไอ้หมอนี่แข็งแกร่งจนถึงจุดที่เขาสามารถจัดการคนสามคนจากดาวไถได้ และกระทั่งทำให้กวานแจบาดเจ็บได้ถึงขนาดนี้เลยหรือ?

กวานแจเอ่ยเพิ่มขึ้นเพื่อที่จะอธิบาย

“ไอ้เวรนี่ร่วมมือกับกิลด์คราวน์ เขานำคนระดับมาร์กอชสี่คนรวมทั้งบาลี รอปเปอร์มาด้วย แค่ก…”

“หืมม…”

อาเคลล่าผงกศีรษะอย่างเข้าใจในที่สุด

ในเมื่อคนจากกิลด์คราวน์นั้นค่อนข้างแข็งแกร่ง

พวกเขาไม่ได้แค่นั่งแท่นอันดับสามไว้เฉยๆ

‘ดูเหมือนว่าพวกมันจะลอบโจมตีพวกเขาอย่างสมบูรณ์แบบตอนที่พวกเราแบ่งกำลังของพวกเราออกเป็นสองส่วน ค่อนข้างแข็งแกร่งเลยนะ อืม ถึงจะยังไงเราก็ชนะก็เถอะ’

อาเคลล่าเดาะลิ้นเล็กน้อยก่อนจะเตะคนที่กำลังเลียเท้าของเธอออกไปและเตรียมตัว

“จะยังไงก็เถอะ ทำไมนายถึงเอาตัวหมอนั่นมา? และทำไมนายถึงบอกให้พวกเราหยุดสู้?”

กวานแจแย้มยิ้มอย่างมั่นใจเมื่อได้ยินเช่นนั้น

“อย่าประหลาดใจไปล่ะ ดูเหมือนว่าหมอนี่จะรู้ตำแหน่งของวิหาร ฉันได้ยินมันมาด้วยตัวเองเลย”

“หือ? โดยที่ไม่ได้จับอคารอนสักตัวน่ะนะ?”

“ดูร่างกายของเขาสิ”

อาเคลล่าและอีกสองคนจากดาวไถมองไปยังร่างกายของฮันซูชั่วขณะก่อนจะอุทานออกมา

“อย่างที่คิด…”

มันมีร่องรอยของการผ่าตัดดัดแปลงร่างกายอย่างชัดเจนบนร่างของคนคนนี้

ซึ่งหมายความว่าหมอนี่มีความสัมพันธ์บางอย่างกับอคารอนและวิหารอย่างชัดเจน

และจนถึงจุดที่จดจำตำแหน่งของวิหารได้ ไม่เหมือนกับกวานแจ

‘งั้นมันก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องสู้กับพวกอคารอนแล้ว’

เป้าหมายของพวกเขาคือการผ่าตัดดัดแปลงร่างกาย ไม่ใช่สงคราม

กวานแจยิ้มใส่ทั้งสามก่อนจะเอ่ยขึ้น

“พวกนายเข้าใจใช่ไหม? พวกนายทำได้ดีมาจนถึงตอนนี้ ไม่ใช่ว่ามันถึงเวลารับรางวัลของพวกนายแล้วเหรอ?”

จากนั้นกวานแจจึงเอ่ยเสียงเบากับทั้งสาม

“จริงๆ แล้วมันมีอย่างหนึ่งที่ฉันอยากขอพวกนาย หลังจากที่พวกนายได้รับมันแล้วก็รีบๆ ขึ้นไป”

“…?”

กวานแจยักไหล่เมื่อเห็นสีหน้าสับสนเหล่านั้น

“ตอนที่ฉันรู้ตำแหน่งของวิหารจากหมอนี่ ฉันอยากจะตรงไปทำลายมันเดี๋ยวนั้น ในเมื่อกิลด์อื่นๆ จะมารวมกันเพื่อที่จะได้รับการผ่าตัดดัดแปลงร่างกายถ้าพวกมันได้ยินข่าว แต่มันไม่มีทางที่พวกนายจะยอมรับ”

อาเคลล่าผงกศีรษะ

มันมีระดับบัลลาดิอยู่จำนวนมาก

และการที่พวกเขาทั้งหมดกลายเป็นระดับมาร์กอช

ความแข็งแกร่งที่เป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อการควบคุมจะถูกทำลายในเสี้ยววินาที

“และฉันไม่อาจเพิกเฉยต่อการที่ฉันพบวิหารได้ตลอดเวลา ในเมื่อพวกนายจะไม่อยู่นิ่งๆ แต่เมื่อพวกนายได้รับมันแล้ว พวกนายก็จะแข็งแกร่งกว่าฉันมากๆ”

อาเคลล่าผงกศีรษะ

ในเมื่อเขาพูดได้ถูกต้องอย่างมาก

การที่จะซ่อนความจริงที่ว่าพบวิหารแล้วในขณะที่จะไม่สู้กับพวกอคารอนแม้ว่าพวกนั้นจะอยู่ต่อหน้าพวกเธอ?

พวกเธอเองก็ไม่มีทางที่จะอยู่เฉยๆ

“เพราะงั้นมาทำสัญญากันเถอะ ฉันจะอยู่ที่นี่อีกสักหน่อย พวกนายก็รู้แผนของฉันแล้ว ฉันต้องการจะจับกรากอช แต่ถ้ามีคนที่แข็งแกร่งอย่างพวกนายอยู่มันก็คงยากจะควบคุมคนอื่นๆ เพราะงั้นช่วยขึ้นไปเงียบๆ ที”

ในที่สุดอาเคลล่าก็รู้ความคิดของกวานแจ

ถ้าพวกเขาขึ้นไป งั้นพวกดาวไถทั้งหมดก็จะหายไปและเหลือเพียงแค่กวานแจ

และในเมื่อพวกเขาไม่อาจโจมตีอคารอนได้ การเลื่อนการค้นหาวิหารออกไปย่อมเป็นคำแก้ตัวที่ฟังขึ้น และเขาจะสามารถนำกิลด์ของเขาไปตามที่ต้องการได้ในระหว่างนั้น

‘หมอนี่อยากจะควบคุมกรากอชมากขนาดนั้น? ไอ้เสียสตินี่ มันมีอีกตั้งหลายอย่างถ้านายอยากได้สัตว์เลี้ยงสักตัว’

อาเคลล่าเดาะลิ้นทว่าก็ยังคงผงกศีรษะเมื่อมันไม่มีอะไรแย่เกี่ยวกับเรื่องนี้

พวกเขาก็ไม่มีเหตุผลให้อยู่ที่นี่อีกต่อไปอยู่แล้วถ้าพวกเขาได้รับการดัดแปลง

และมันคงจะเป็นปัญหาสำหรับพวกเขาในการสู้หลังจากที่กองกำลังของพวกเขาถูกหลอก

“ดี งั้นก็ไปกันก่อนเถอะ”

ทุกคนล้วนรู้ว่านิสัยของพวกดาวไถค่อนข้างเลวร้าย ดังนั้นจึงไม่มีใครกล้าเข้ามาใกล้ในตอนที่พวกเขากำลังพักผ่อนอยู่ดี

ดังนั้นแล้ว คนตรงนี้จึงมีเพียงแค่พวกเขาสี่คนและฮันซูที่ถูกจับเป็นตัวประกัน

“ทำไมหมอนี่ถึงได้ตัวสั่นขนาดนี้ล่ะ?”

กวานแจหัวเราะเสียงเย็นเมื่ออาเคลล่าเห็นฮันซูที่ตัวสั่นมาตั้งแต่เมื่อพักก่อนโดยไม่พูดอะไรออกมา

“ดูดีๆ สิ หมอนี่พยายามจะสู้กับฉันหลังจากที่ได้รับการดัดแปลงร่างกายไม่นาน และเพราะแบบนั้นของนั่นถึงได้รวมกับร่างเขายังไม่สมบูรณ์ดีและทำให้ร่างกายของเขายับเยินแบบนั้น”

อาเคลล่าแสดงสีหน้าที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวหลังจากที่มองร่างกายของฮันซูอย่างละเอียด

‘โอ้พระเจ้า… ถ้าเป็นแบบนี้ อวัยวะภายในของเขาทั้งหมดต้องถูกทำลายแน่’

อาเคลล่าพลันลดความระวังตัวต่ออีกฝ่ายลงอย่างมาก

ในเมื่อเธอไม่คิดว่าเขาจะสามารถขยับได้ด้วยความเจ็บปวดมากขนาดนั้นที่แพร่ไปทั่วร่างกายของเขา

‘เราเองก็ควรจะระวังหลังจากที่ได้รับการดัดแปลงร่างกายเหมือนกัน’

“ไปกันเถอะ”

ทั้งห้าคนเคลื่อนย้ายกิลด์ไปยังสถานที่ปลอดภัยก่อนจะเริ่มทะยานร่างไปยังทิศทางหนึ่ง

และฮันซูก็เผยรอยยิ้มจางออกมาขณะที่ถูกจับเป็นตัวประกัน

‘อืม ฉันไม่ได้โกหกจริงๆ นี่ ในเมื่อพวกเขาจะได้รับการดัดแปลงร่างกายจริงๆ’

แน่นอนพวกคนพวกนี้จะตกอยู่ภายใต้การควบคุมของเขาไปในเวลาเดียวกัน ในเมื่อพวกเขาจะได้รับสารควบคุม

ฮันซูปิดเปลือกตาขณะที่เขาคิดถึงนักบวชหญิง โอเทออน ที่น่าจะติดตามพวกเขามาห่างออกไป

 


TL: เมื่อเครื่องมือเก่าเจ๊งก็ต้องหาของใหม่สินะคะ