ตอนที่1 ร้านอาหารเล็กๆในทางเดินตรงเมืองหลวง

ณ ทวีปเฉียนหลง เมืองหลวง ราชอาณาจักรสายลมแห่งแสง

ภายในเมืองถนนคึกคักเต็มไปด้วยผู้คนที่ส่งเสียงไปทั่วทุกแห่ง ทั้งสองด้านเป็นอาคารที่ตั้งตระหง่านสูงมีร้านอาหารและโรงแรมอยู่ทั้งสองด้าน กลิ่นหอมของอาหารที่พ่อครัวปรุงลอยตลบอบอวลอยู่นาน

ภัตตาคารอาหารอันดับหนึ่งในเมืองหลวง ร้านนกฟินิกซ์อมตะมีผู้คนแออัด ธุรกิจก็เป็นไปได้ด้วยดี

ภายในเมืองหลวงอาคารถูกสร้างขึ้นมาอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยแทบจะทุกที่ ถ้าหากท่านไปที่ถนนสายหลักเดินผ่านภัตตาคารร้านนกฟินิกซ์อมตะ จะมีซอยลึกหลังจากเดินไปยี่สิบถึงสามสิบเมตร เดินตรงเข้าไปในซอยเลี้ยวไปทางซ้าย ท่านจะได้เห็นร้านอาหารทั่วไปมีขนาดเล็กๆ

มีสุนัขสีดำนอนอยู่หน้าร้านลิ้นห้อยออกมา ภายในร้านไม่มีแม้กระทั่งลูกค้าเพียงรายเดียว
ทันใดนั้นก็มีชายหนุ่มเดินออกมาจากร้านอาหาร เขาตัวผอมและมีผิวพรรณที่ดูดี ผมสีดำของเขาถูกผูกไว้เป็นทรงหางม้ายาวออกมา ให้ความรู้สึกเป็นระเบียบและเรียบร้อย

“เจ้าดำน้อยได้เวลามากินอาหารแล้ว” ชายหนุ่มบู่ฟงกำลังถือชามกระเบื้องเดินออกมาจากร้าน เขาวางชามไว้ข้างหน้าสุนัขตัวใหญ่ สุนัขตัวใหญ่ที่นอนเซื่องซึมก็กลับมามีเรี่ยวแรงเปิดตากว้างกินอาหารที่วางอยู่ข้างหน้า

หลังจากลูบขนนุ่มและสะอาดของสุนัข บู่ฟงก็ยิ้มแล้วเดินเข้าไปในร้าน

บู่ฟงอายุยี่สิบปี เป็นพ่อครัวธรรมดาที่ทะลุมาจากโลก เขาตื่นมาอีกวันเขาก็มาอยู่ที่ต่างโลกแล้ว ด้วย [ระบบกูร์เมต์] ที่ปรากฏตัวอย่างลึกลับในสมองของเขาของเขา ร้านอาหารเล็กๆนี้ก็ถูกสร้างขึ้นในที่สองที่บู่ฟงมาที่นี่ด้วยความช่วยเหลือของระบบ

นี่ก็หลายเดือนที่เขาตั้งร้านอาหารขึ้นมาก็ยังไม่ลูกค้ารายใดปรากฏตัวออกมาและบู่ฟงก็ชินกับมัน สิ่งที่เขาต้องทำทุกคนคือทำตามคำแนะนำของระบบ [ระบบกูร์เมต์] ซึ่งเป็นการฝึกทีกษะการทำอาหารและแน่นอนเพื่อให้อาหารสุนัขสีดำตัวใหญ่ตัวนี้

เขาไม่รู้ว่าเจ้าสุนัขสีดำตัวใหญ่นี้มาจากไหน เขารู้ว่ามันปรากฏตัวขึ้นหลังจากที่ร้านนี้สร้างขึ้นมาหนึ่งสัปดาห์ ระบบก็เตือนให้บู่ฟงให้อาหารสุนัขเป็นระยะๆ ทุกครั้งที่เปิดร้านสุนัขก็จะรออยู่ข้างนอกเพื่อรอบู่ฟง

พูดตามรง เจ้าสุนัขตัวใหญ่นี้เป็นลูกค้ารายแรกของบู่ฟงแม้ว่าจะมารอกินฟรีก็เถอะ

เมื่อบู่ฟงกลับเข้าไปที่ร้านอาหาร เขามองตรงร้านที่ว่างเปล่าและก็ถอนหายใจออกมา แม้ว่าจะดูเป็นร้านธรรมดา เป็นระเบียบเรียบร้อย มีเนื้อที่สิบตารางเมตร มีโต๊ะและเก้าอี้ไม่มากนักและมันก็เป็นร้านอาหารเล็กๆ

เมื่อเขามองไปที่เมนูที่มีอาหารสามอย่าง บู่ฟงทำได้แต่เพียงถอนหายใจออกมายาวๆ

เมนูที่แขวนอยู่บนแผ่นไม้มีเพียงสามจานเท่านั้น

มันยากที่จะนึกภาพออกว่ามีร้านอาหารชนิดไหนที่มีเมนูเพียงสามจาน และราคาที่บอกเอาไว้…อาจบอกได้ว่าเป็นเรื่องน่าตลก

ในส่วนของผัดผักกับผัดบะหมี่แห้งมีราคาอยู่ที่หนึ่งร้อยเหรียญทอง ในจานของข้าวผัดไข่มันบ้ามาก…..ราคาของมันคือหนึ่งผลึก

ผลึกที่มีเพียงผู้ฝึกยุทธเท่านั้นที่ใช้ ผนึกเดียวก็มีราคาประมาณพันเหรียญทองแล้ว แต่มันก็ไร้ค่าใช้ทำอะไรไม่ได้

สำหรับร้านอาหารขนาดเล็กราคาแบบนี้เป็นเรื่องไร้สาระ

บู่ฟงไม่อยากเชื่อว่าจะมีใครโง่เง่าพอที่สั่งอาหารราคาแพง แม้เขาจะยอมรับว่าอาหารอร่อย เมื่อบู่ฟงพยายามมองไปที่ราคา…เขาคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้

“เพื่อที่เป็นเทพแห่งการทำอาหาร เพื่อที่จะยืนอยู่บนจุดสูงสุดของโลกแฟนตาซี เจ้าจะไม่มีลูกค้ารายแรกของเจ้าได้ยังไงกัน หากเจ้าหาลูกค้ารายแรกได้ภายในหนึ่งเดือนเจ้าจะได้รางวัลจากระบบ”

นี่เป็นภารกิจที่ระบบมอบให้เขาไม่กี่วันหลังจากที่สร้างร้านอาหารเหลือเวลาเพียงสามวันจะถึงเวลาที่กำหนด บู่ฟงมองเข้าไปซอยที่ว่างเปล่าไม่มีใคร

“ดูเหมือนว่าความฝันของข้าที่จะกลายเป็นเทพแห่งการทำอาหารจะต้องถูกทำลายก่อนที่จะได้เริ่มเข้าสู่ก้าวแรก” บู่ฟงดูเวลาแล้วก็ถอนหายใจออกมา เขาลุกขึ้นปิดประตูทางเข้าและก็ปิดร้าน

แต่ละเมนูแต่ละจานไม่สามารถเอาออกมาได้หากไม่ได้รับอนุญาต และยังมีกฏที่เคร่งครัดที่กำหนดเวลาในการเปิด ถึงแม้ร้านอาหารจะเล็กแต่ก็มีกฏระเบียบมากมาย แต่มันเป็นกฏที่ระบบกำหนดมาที่บู่ฟงจะต้องทำตาม

ร้านอาหารปิดตลอดวัน หลังจากที่ล็อคร้านอาหารแล้วบู่ฟงก็กลับไปที่ห้องครัวเพื่อฝึกฝนการทำอาหาร เรียกได้ว่ามีหลายอย่างที่เทคโนโลยีทำให้ไม่ได้ อย่างเช่นการปรุงอาหารติดต่อกัน ระบบจะเติมส่วนผสมให้โดยอัตโนมัติ บู่ฟงต้องทำเพียงแค่ปรุงอาหารเท่านั้น

มุมหนึ่งในห้องครัวมีมนุษย์หุ่นยนต์ หุ่นยนต์ตัวนี้ถูกระบบสร้างคืน หุ่นยนต์จะเอาอาหารกลับไปในระหว่างที่ฝึกซ้อม นอกจากอาหารที่บู่ฟงและสุนัขตัวใหญ่กินแล้ว อาหารที่เหลือจะต้องถูกเก็บบนพื้นที่ในท้องของหุ่นยนต์

หลังจากที่บู่ฟงเปิดไฟ เขาก็เริ่มฝึกทำอาหารอย่างที่เคยทำทุกๆวัน

แม้ว่าบู่ฟงจะอยู่ในโลกแฟนตาซี แต่ห้องครัวที่ถูกสร้างในระบบก็เหมือนห้องครัวสมัยใหม่ที่ถูกสร้างขึ้นมาในโลก

อุปกรณืทุกอย่างที่มีให้เลือกเช่น หม้อทำอาหารไร้ควัน มีดสแตนเลส เขียง เครื่องดูดควัน เตาอบไมโครเวฟ ตู้เย็น….ในความจริงแล้วมันมีมากกว่าในโลกอีก บู่ฟงไม่ต้องเผชิญปัญหาใดๆ เขาเพียงแค่ทำอาหารอย่างที่เขาชอบทำ

เมื่อกลางคืนเข้ามาดวงจันทร์ทั้งสองดวงก็ลอยขึ้น ส่องแสงจันทร์เหมือนม่านที่อยู่บนท้องฟ้า

ด้านหน้าร้านอาหาร เจ้าหมาดำตัวใหญ่ก็นอนอย่างขี้เกียจและมีความสุขหลังจากที่มันกินอาหารเสร็จ เสียงของแมลงดังขึ้นขณะที่มันเฝ้าร้าน

เช้าวันรุ่งขึ้นบู่ฟงตื่นขึ้นมาอย่างเซื่องซึม หลังจากที่เขาอาบน้ำเขาก็เปิดร้านอาหารให้บริการ

ที่แห่งนี้ก็ยังคงว่างเปล่าไม่เห็นแม้กระทั่งวิญญาณ สุนัขสีดำตัวใหญ่ก็นอนอยู่ที่พื้นเหมือนเดิม

ในตอนนี้บู่ฟงอิจฉาุรกิจที่เฟื่องฟูของภัทตาคารฟินิกซ์อมตะที่อยู่นอกซอยขึ้นมาทันที ธุรกิจของพวกเขาดูเหมือนว่าจะมีลูกค้ามากจนเกินไปนประตูพัง

บู่ฟงเริ่มฝันกลางวันว่าธุรกิจของเขาจะประสบความสำเร็จเหมือนภัตตาคารนกฟินิกซ์

“เพิ่อที่โฮสต์จะยืนบนจุดสูงสุดของการทำอาการมรโลกแหนตาซี ท่านไม่ควรที่จะอินฉาร้านอาการอื่นๆ การทำงานอย่างหนักจะช่วยให้อนาคตของท่านสดใสขึ้น”

ระบบส่งเสียงจริงจังดังขึ้นมาในหัวของบู่ฟงมันเตือนความจังของเขา เมื่อใดก็ตามที่เขาอิจฉาภัตตาคารฟินิกซ์อมตะ ระบบจะเริ่มให้กำลังใจเขาทันที

จากการตอบสนองดูเหมือนว่าระบบนี้ค่อนข้างเหมือนมนุษย์

บู่ฟงนั่งอยู่บนเก้าอี้ที่อยู่ด้านนอกร้านอาหาร ในตอนที่เขากำลังเพลิดเพลินกับแสงแดดที่อบอุ่นอย่างสะดวกสบาย เขาไม่ได้ประคองตัวไปด้านข้าง แต่เขานอนขดตัวในเก้าอี้ในตำแหน่งที่สบายที่สุด

ยังไม่มีคนแม้แต่คนเดียวที่ปรากฏตัวมาที่ซอย

“วันอื่นๆก็ไม่ได้มีลูกค้าแม้แต่รายเดียว” บู่ฟงคิดออกมาดังๆ เขาเอียงหัวพูดมันออกมา

เจ้าหมาสีดำตัวใหญ่ที่นอนอยู่บนพื้นเหลือบไปมองบู่ฟงก่อนที่มันจะกลับมาทำท่าทางอย่างเดิม

เมื่อตอนที่บู่ฟงกำลังจะหลับไปเสียงฝีเท้าก็ทำให้เขาตกใจตื่นขึ้น เขาเปิดตาดูอย่างขี้เกียจเห็นชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาเข้ามา เขาสวมเครื่องแบบของผู้ฝึกยุทธ

“หืม? มีคนโง่เข้ามาร้านอาหารที่อยู่ในซอยที่แทบจะไม่มีใครผ่านด้วย?”

ชายหนุ่มผู้นี้ดูดีมากจริงๆ เขามีใบหน้ารูปไข่ เรียวตาสีแดง ริมฝีปากสีแดง หากว่าเขาไม่มีหน้าอกแบนกับที่ตรงเป้าของเขายื่นมา บู่ฟงคงเข้าใจผิดคิดว่าเขาคือหญิงสาวที่ปลอมตัวมา

ดูเหมือนจะเป็นหญิงสาวที่ปลอมตัวมาเ็นผู้ชายในโลกแฟนตาซี

ชายหนุ่มหน้าตาดีคนนี้ดูเหมือนจะสนใจร้านอาหารที่เปิดในตรอกซอกซอยที่ไม่มีใครผ่านไป เขาเริ่มเดินไปที่ร้านอาหารจริงๆ

แต่บู่ฟงก็ยังไม่ลุกขึ้นเขายังคงนั่งอยู่ แม้ว่าเขาจะเข้าไปในร้านอาหารแต่เขาก็ไม่ใช่ลูกค้าตราบใดที่เขาไม่ได้สั่งอาหาร บู่ฟงรู้ดีหากจะทำให้ใครเป็นลูกค้าพวกเขาจะต้องยอมรับราคาอาหารที่บ้าบิ่นนี่เสียก่อน

ตามที่คิดเอาไว้ชายหนุ่มหน้าตาดีเห็นราคาอาหารในเมนูดวงตาของเขาก็เบิกกว้างขึ้นมาเรื่อยๆ เสียงตะโกนแหลมดังขึ้นในซอยที่สงบเงียบ

“โอ้!ให้ตายเถอะ ผัดผักราคาหนึ่งร้อยเหรียญทอง? ข้าวผัดไข่ก็มีราคาหนึ่งผลึกจริงๆเหรอ? เจ้าไม่ได้บ้าไปเพราะความโลภหรอกนะ?”