GOS ตอนที่ 148 – จมลงสู่ก้นทะเล

 

พลังวิญญาณอันมหาศาลไหลบ่าไปยังเซมบงซากุระ คาเงโยชิอย่างบ้าคลั่ง

 

คลื่นกลีบดอกซากุระนับล้านได้มาหลอมรวมกันบนมือของโรจาที่ยืนอยู่บนผิวทะเล ก่อนที่จะแปรเปลี่ยนรูปร่างกลายเป็นดาบเล่มหนึ่ง พร้อมกับมีปีกขนาดยักษ์งอกออกมาจากตัวดาบราวกับปีกของเทพเจ้า โดยมีโรจายืนอยู่เบื้องหลัง

 

แรงกดดันอันน่าหวาดหวั่นพลันปรากฏขึ้น จนราวกับโลกทั้งใบหยุดนิ่ง

 

“นี่คือวิชาดาบที่แข็งแกร่งที่สุดของแกอย่างงั้นสินะ”

 

แจ็คแห่งภัยแล้งยืนอยู่บนดาดฟ้าเรือโจรสลัดที่บัดนี้กลายเป็นซากปรักหักพัง ใบหน้าของเขายังคงสงบ แต่กลิ่นอายที่ปลดปล่อยออกมาพลันเปลี่ยนเป็นบ้าคลั่ง ทำให้ในเวลานี้ร่างของแจ็คนั้นดูราวกับเป็นภูเขาขนาดใหญ่

 

แจ็คได้ใช้ฮาคิเกราะครอบคลุมทั่วทั้งร่างกายของเขาจนร่างทั้งร่างแปรเปลี่ยนเป็นมันวาวและมีสีดำราวหมึก ยิ่งร่างของเขากระทบกับแสงแดด มันก็ยิ่งดูเปล่งประกาย

 

ทหารบนเรือรบต่างจ้องมองไปยังโรจาและแจ็ค ความแข็งแกร่งและแรงกดดันที่ทั้งสองปลดปล่อยออกมา ทำให้พวกเขาอดไม่ได้เลยที่จะเผยให้เห็นประกายแห่งความตื่นตระหนกอยู่ในสายตา

 

วิซ–!

 

ช่วงเวลาต่อมาร่างของโรจาก็พุ่งเข้าหาแจ็คอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นเส้นแสงสีชมพูอ่อนๆ หากมองจากระยะไกลจะดูราวกับผืนผ้าไหมที่กำลังล่องลอยอยู่ในบนท้องฟ้า ขณะเดียวกันโรจาก็ยกดาบที่เกิดจากคลื่นกลีบดอกซากุระนับล้าน สูงขึ้นเหนือหัว แล้วสับลงไปที่แจ็ค

 

“ฮ่า—!”

 

แจ้งแห่งภัยแล้งคำรามลั่น พร้อมกับใช้เคียวคู่ในมือทั้งสองข้างวาดสวนกลับไปด้วยพละกำลังอันมหาศาลราวกับว่าสามารถพลิกผืนแผ่นดินทั้งผืนได้

 

บิซ—!

 

เมื่อดาบของโรจาปะทะกับเคียวคู่ของแจ็คแห่งภัยแล้ง พลันเกิดแสงสว่างวาบจนแม้แต่แสงจากดวงอาทิตย์ยังกลายเป็นเป็นริบหรี่

 

กลิ่นอายอันน่าสยดสยองหายไปอย่างฉับพลัน ราวกับว่ากลิ่นอายเหล่านั้นได้กระจัดกระจายออกไปทั่วชั้นฟ้า

 

ตูม—!

 

ในที่สุด ท่ามกลางความเงียบอันน่าแปลกประหลาดจนชวนให้ขนหัวลุก พลันเกิดเสียงระเบิดดังสนั่นราวกับว่าต้องการฉีกกระชากสวรรค์และโลกให้แยกออกจากกัน ตามมาด้วยคลื่นโซนิคบูมอันน่าสยดสยองกวาดกระจายออกไปทั่วทุกทิศทาง

 

คลื่นโซนิคบูมที่ว่านี้ รุนแรงถึงขั้นทำให้ ใต้ท้องทะเลเบื้องล่างที่ลึกลงไปเกิดการปั่นป่วน และก่อให้เกิดคลื่นขนาดมหึมาราวกับคลื่นสึนามิ

 

บนท้องฟ้า ในมือของโรจายังคงกำดาบที่เกิดจากคลื่นกลีบดอกซากุระนับล้าน เขาอัดพลังวิญญาณลงไปในดาบเล่มนี้อย่างต่อเนื่อง และโหมโจมตีไปข้างหน้าอย่างบ้าคลั่ง

 

ทางด้านแจ็คแห่งภัยแล้ง เขาระเบิดเสียงคำรามก้อง — เขานั้นต้องการที่จะฝืนต้านทานการโจมตีในครั้งนี้ แต่ภายใต้คลื่นกลีบดอกซากุระนับล้านที่ถูกหลอมรวมและโหมโจมตีไปยังจุดๆเดียว ประจวบกับการโจมตีแบบเต็มกำลังของโรจา ในที่สุดแจ็คก็ต้องพบกับความพ่ายแพ้!!

 

ปัง–!

 

แจ็คแห่งภัยแล้ง หนึ่งสามภัยพิบัติแห่งกลุ่มโจรสลัดร้อยอสูรไคโด ได้ถูกคมดาบของโรจาที่เกิดจากคลื่นกลีบดอกซากุระนับล้านสะบั้นกลางอากาศ ก่อนเขาจะร่วงตกลงไปกระแทกเข้ากับหัวเรือโจรสลัดที่เป็นรูปแมมมอส เข้าอย่างจัง!

 

ตูม—!

 

เกิดเสียงระเบิดดังสนั่น ทั้งแจ็ค ทั้งหัวแมมมอสยักษ์บนเรือโจรสลัดของเขา ต่างร่วงตกทะเล แล้วจมหายไปทั้งคู่ แรงปะทะในครั้งนี้ทำให้กระดูกงูที่แข็งราวกับเหล็กกล้าก็ไม่สามารถทนรับแรงกดดันได้อีกต่อไป จนในที่สุดมันก็เริ่มงอและพังทลายลง

 

แคร๊ก ..

 

เรือโจรสลัดขนาดใหญ่ที่ได้เกิดรอยร้าวไปทั่วลำเรือ ก่อนที่มันจะแยกออกจากกันเป็นส่องท่อน แล้วค่อยๆอัปปางลงสู่ก้นทะเลและทำให้ผืนทะเลบริเวณนั้นกลายเป็นหลุมลึกขนาดใหญ่

 

ท้องทะเลค่อยๆกลืนกินเรือโจรสลัดแมมมอส และเหลือทิ้งไว้เพียงเศษไม้มากมายนับไม่ถ้วนที่ยังคงล่องลอยอยู่บนผิวทะเล

 

หนึ่งในสามภัยพิบัติแห่งกลุ่มโจรสลัดร้อยอสูร

 

แจ็คแห่งภัยแล้ง … ได้พ่ายแพ้และจมลงสู่ก้นทะเล!

 

ฟุ้ม …

 

เนื่องด้วยเรือโจรสลัดขนาดใหญ่ได้อัปปางลง จึงก่อให้เกิดคลื่นขนาดมหึมากวาดกระจายออกไปรอบๆ เหล่าทหารเรือบนเรือรบต่างพากันคว้าระเบียงเรือรบหรือสิ่งต่างๆรอบตัวเพื่อป้องกันไม่ให้ตัวเองถูกคลื่นทะเลกลืนกิน แล้วจมหายไปในก้นทะเลภายใต้แรงกระแทกในครั้งนี้

 

กลีบดอกซากุระนับล้านที่กระจัดกระจายไปทั่วท้องฟ้า ค่อยๆเลือนหายไป ก่อนที่ดาบขาวฮิรุจะกลับคืนสู่รูปร่างเดิม จากนั้นโรจาก็เก็บมันลงในฝัก

 

“มันจมลงไปใต้ทะเล?”

 

โรจาที่กำลังยืนอยู่บนท้องฟ้า ได้จ้องมองลงไปยังทะเลเบื้องล่างที่เต็มไปด้วยเศษซากเรือโจรสลัดแมมมอสอย่างไม่แยแส

 

แจ็คนั้นเป็นเผ่ามนุษย์เงือก แม้ว่าเขาจะกินผลปีศาจเข้าไป ซึ่งทำให้ไม่สามารถขยับเขยื้อนตัวได้เมื่อถูกน้ำทะเล แต่โรจารู้ดีว่าเขายังไม่ตาย เนื่องจากเผ่ามนุษย์เงือกนั้นสามารถหายใจในน้ำได้ หรือในอีกความหมายนึงก็คือ หากไม่มีใครลงไปใต้ทะเลเพื่อช่วยเหลือแจ็ค เขาก็จะไม่มีวันได้กลับขึ้นมาอีก

 

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าโรจากับแจ็คจะสู้กันบนผืนดิน ไม่ใช่ในท้องทะเลเหมือนดั่งครั้งนี้ แต่แจ็คก็ไม่อาจต้านทานการโจมตีด้วย ชูเคย์ ของโรจาได้อยู่ดี แม้ว่ามันจะไม่สามารถทำให้เขาถึงตายได้ แต่แจ็คจะต้องได้รับบาดเจ็บอย่างแน่นอน ต่อให้ผิวของแจ็คจะหยาบและหนา หรือมีพลังป้องกันอันแข็งแกร่งสักเพียงใด แต่มันก็คงไม่สามารถต้านทานการโจมตีที่มีความรุนแรงเทียบเท่ากับกำปั้นของการ์ปได้!

 

ตอนนี้แจ็คได้จมลงไปในท้องทะเล และที่สำคัญมันยังเป็นช่วงที่เกิดคลื่นขนาดมหึมา ทำให้โรจาไม่สามารถระบุได้ว่าแจ็คถูกพัดหายไปที่ไหน และฮาคิสังเกตุของเขาก็ยังไม่แข็งแกร่งพอที่จะตรวจสอบลงไปใต้ทะเลลึก

 

พอแค่นี้ดีกว่า …

 

การออกค้นหาแจ็คที่จมอยู่ในก้นทะเล ในเวลานี้มันอันตรายเกินไป

 

โรจาส่ายหัว เขายังคงรอจนคลื่นทะเลสงบลง จึงกลับไปยังเรือรบ

 

เหล่าโจรสลัดใต้บังคับบัญชาของแจ็คถูกกำราบลงอย่างสมบูรณ์ ร่างของพวกมันเต็มไปด้วยเลือด แม้จะมีบางคนที่ยังไม่ตายแต่ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส

 

เรือโจรสลัดแมมมอสถูกทำลายลงด้วยฝีมือของโรจา และจมลงสู่ก้นทะเลไปพร้อมๆกับแจ็คแห่งภัยแล้ง

 

“พลังวิญญาณของฉันเพิ่มสูงขึ้นจากครั้งก่อนมากจริงๆ”

 

โรจารู้สึกได้ถึงพละกำลังร่างกายและพลังวิญญาณที่ถูกสูบออกไป ก่อนที่จะพยักหน้าเล็กน้อย หากจะให้พูดอย่างเคร่งครัด การต่อสู้ในครั้งนี้หากเทียบกับในตอนที่สู้กับโดฟลามิงโก้ นับว่าเป็นการต่อสู้ที่รุนแรงกว่ามาก โรจาได้ปลดปล่อยเก็ทสึงะ เท็นโช ออกไปอย่างต่อเนื่อง

 

แต่ในการโจมตีครั้งสุดท้าย หลังจากที่เขาใช้ ชูเคย์ ซึ่งสูบพลังวิญญาณออกไปอย่างมหาศาล โรจากลับพบว่าเขายังเหลือพลังวิญญาณอีกราวๆ 30 เปอร์เซ็นในร่างกาย ขณะที่ในตอนที่สู้กับโดฟลามิงโก้ เขาแทบจะไม่เหลือพลังวิญญาณอยู่ในร่างกายเลยหลังจบการต่อสู้

 

“มันตกลงไปในทะเล?”

 

“ไอ้บัดซบนั่นมันเป็นผู้ใช้พลังจากผลปีศาจ มันคงจะตายไปแล้ว”

 

เหล่าทหารเรือบนเรือรบได้สติกลับมาอีกครั้ง หลังจากที่ตกอยู่ในความโกลาหลจากคลื่นทะเล และต่างพากันจ้องมองลงไปยังทะเลเบื้องล่าง

 

การที่เหล่าทหารเรือได้เห็น โจรสลัดที่เป็นถึงหนึ่งในสามภัยพิบัติ ซึ่งมีค่าหัวสูงถึง 860 ล้านแบรี่ ถูกโรจากำราบลงโดยสมบูรณ์ และจมลงสู่ก้นทะเล ส่งผลกระทบต่อจิตใจของพวกเขาเป็นอย่างมาก

 

สมญานาม ดาบภูติ ได้ขจรขจายออกไปทั่วท้องทะเล แต่นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาความแข็งแกร่งที่แท้จริงของโรจา ต้องรู้นะว่า ปัจจุบันนี้แม้ความแข็งแกร่งของโรจาจะยังไม่เทียบเท่ากับพลเรือเอก แต่ก็อยู่ไม่ไกลแล้ว

 

แม้กระทั่งเหล่าพลเรือตรีในนิวเวิลด์และเหล่าเจ้าหน้าที่ ต่างก็พากันตกตะลึงเมื่อต้องพบกับความแข็งแกร่งระดับนี้

 

เรือรบได้แล่นออกจากน่านน้ำบริเวณนี้ทันที พวกเขาไม่มีแม้แต่ความคิดที่จะกู้ซากเรือโจรสลัดแมมมอสที่จมลงสู่เบื้องล่าง

 

เพราะที่นี่อยู่ติดกับอาณาเขตของหนึ่งในสี่จักรพรรดิ ร้อยอสูรไคโด

 

หลังจากที่แจ็คแห่งภัยแล้งและเหล่าโจรสลัดใต้บังคับบัญชาของเขาได้พลาดท่าและจมลงสู่ก้นทะเล เรือรบก็ไม่คิดจะเก็บกวาดพื้นที่รอบๆเหมือนดั่งครั้งก่อน และรีบจากไปทันที

 

เมื่อ อีกสองในสามภัยพิบัติได้ทราบข่าว และเดินทางมาถึงจุดที่แจ็คปะทะกับเรือรบ ใบหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนเป็นน่าเกลียด เพราะพื้นที่แห่งนี้กลายเป็นเงียบสงบอย่างสิ้นเชิง และเหลือทิ้งไว้เพียงเศษซากไม้ที่ล่องลอย!