GOS ตอนที่ 140 – เปลี่ยนไป

 

บางที อาจจะเป็นเพราะเธอรู้ตัวดีว่าไม่สามารถเอาชนะโรจาได้ หรืออาจจะเป็นเพราะก่อนหน้านี้พลังจากผลปีศาจของเธอไม่สามารถทำให้โรจากลายเป็นหิน

 

แฮนค็อกจึงระงับความคิดที่จะต่อสู้กับโรจา เธอค่อยๆปล่อยฟันที่ขบริมฝีปากออก ก่อนที่จะเริ่มตั้งสติ และเอ่ยถามโรจาอย่างตะกุกตะกักว่า

 

“นาย … นายควรจะรู้อยู่แล้วว่าตราประทับรอยเท้ามังกรนี่หมายความว่ายังไง”

 

โรจาพยักหน้าและเอ่ยอย่างแผ่วเบาว่า

 

“เป็นตราประทับทาสของพวกเผ่ามังกรฟ้า”

 

เมื่อได้ยินคำกล่าวที่โรจาเอ่ยออกมาเพียงแค่ไม่กี่คำ หัวใจของแฮนค็อกก็สั่นไหวเล็กน้อย แม้แต่ดวงตาสีฟ้ากระจ่างใสของเธอก็ยังพลอยสั่นไหวไปด้วย

 

ในฐานะที่เป็นถึงจักรพรรดินีโจรสลัด ตัวเธอนั้นจึงเต็มไปด้วยความหยิ่งยะโส ดื้อรั้น และมักจะทำตัวสุดโต่ง แต่แท้จริงแล้วที่เธอทำแบบนั้นก็เพราะหัวใจของเธอมันแสนเปราะบาง และไม่เต็มใจที่จะนึกถึงตราประทับรอยเท้ามังกรตรงกลางหลังที่ไม่สามารถลบล้างออกไปได้

 

ตราประทับทาสของเผ่ามังกรฟ้านั้นไม่สามารถลบออกไปได้ แม้จะตัดชิ้นเนื้อส่วนที่มีตราประทับอยู่ออกไปอย่างสมบูรณ์แล้วก็ตาม แต่สุดท้ายชิ้นเนื้อก็จะงอกกลับมาใหม่ พร้อมกับรอยตราประทับที่กลับคืนมาอีกครั้ง … มันเป็นตราประทับทาสที่จะติดตัวไปชั่วชีวิต … พวกเธอจะกลายเป็นทาสของเผ่ามังกรฟ้าชั่วนิรันดร์!

 

แฮนค็อกและน้องสาวทั้งสองของเธอได้กุเรื่องคำสาปออกมาเพื่อปกปิดตัวตนว่าแท้จริงแล้วครั้งหนึ่งพวกเธอเคยเป็นทาส และหากข่าวนี้รั่วไหลออกไป พวกเธอก็จะไม่สามารถใช้ชีวิตอย่างสงบสุขบนท้องทะเลแห่งนี้ได้อีกเลย

 

นั่นก็เพราะ … ไม่มีใครกล้าที่จะปกป้องทาสของเผ่ามังกรฟ้า

 

หากข่าวนี้ไปถึงหูของเผ่ามังกรฟ้าที่ไม่สนใจเรื่องนี้ มันก็นับว่าโชคดี แต่หากเจอเผ่ามังกรฟ้าที่สนใจเรื่องนี้แล้วล่ะก็ .. แทบจะไม่มีใครปกป้องพวกเธอได้เลย ถ้าจะมีก็คงมีเพียงแค่ 4 จักรพรรดิที่สามารถปกป้องพวกเธอได้ — แต่ทำไมพวกเขาต้องปกป้องดูแลพวกเธอที่เป็นทาสด้วยเล่า?

 

นอกจากนี้ด้วยความหยิ่งยะโสของเธอ เธอจะไม่อยู่ภายใต้คำสั่งของใครเด็ดขาด

 

“แล้วนายจะทำยังไง …”

 

แฮนค็อกไม่เคยเผยให้เห็นถึงท่าทีอันเปราะบางเช่นนี้มาก่อน แม้ในช่วงก่อนหน้านี้ที่โรจาอาศัยอยู่บนเกาะและคอยกลั่นแกล้งเธอ เธอก็ไม่เคยเผยให้เห็นถึงท่าทีแบบนี้ แต่เวลานี้ แม้กระทั่งน้ำเสียงของแฮนค็อกก็ยังสั่นเครือและแฝงไปด้วยความตึงเครียดและความกระวนกระวาย

 

โรจาจ้องมองไปยังท่าทีที่แฮนค็อกแสดงออกมา ในสถานการณ์แบบนี้ เขาเพียงแค่ส่ายหัวแล้วกล่าวว่า

 

“ฉันขอบอกว่าหากเทียบกับตราประทับรอยเท้ามังกรด้านหลังแล้ว … ฉันชอบ ‘ตราประทับคู่’ ด้านหน้าของเธอมากกว่า”

 

ในฐานะที่โรจาไม่ใช่คนในโลกวันพีช แต่เป็นคนจากโลกอื่นที่ถูกส่งเข้ามา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องทาส หรือตราประทับรอยเท้ามังกรของเผ่ามังกรฟ้า เขาก็ไม่ได้รู้สึกรังเกียจใดๆ

 

โรจาคิดว่าเขาควรจะรับผิดชอบที่ทำให้เธอเผยให้เห็นถึงความเปราะบางเช่นนี้

 

“เอ๋?”

 

เมื่อแฮนค็อกได้ยินคำกล่าวของโรจา ใบหน้าของเธอก็พลันเปลี่ยนเป็นตกตะลึง เธอไม่คาดคิดเลยว่าโรจาจะกล่าวแบบนี้ออกมา

 

จุดที่โรจาให้ความสำคัญกลับเป็นจุดที่ตรงกันข้ามกับสิ่งสุดท้ายที่เธอไม่ต้องการให้เขาเห็น หรือเป็นเพราะว่าเธอมัวแต่สนใจแต่รอยตราประทับตรงแผ่นหลัง เลยไม่ทันระวังตัวเอง จนโรจาเห็นไฟหน้าคู่ของเธอ

 

“ฉันเข้าใจความหมายที่เธอถามออกมาหรอกหน่า”

 

เมื่อเห็นใบหน้าที่กำลังตกตะลึงของแฮนค็อก โรจาก็ส่ายหัวเล็กน้อยก่อนที่จะกล่าวต่อว่า

 

“มั่นใจได้เลย ฉันไม่ได้สนใจถึงที่มาของรอยตราประทับนั่น และจะไม่ปล่อยให้เรื่องนี้รั่วไหลออกไปเช่นกัน”

 

เมื่อได้ยินโรจากล่าวประโยคนี้ออกมา

 

ความตึงเครียดภายในจิตใจของสามพี่น้อง แฮนค็อก ธันเดอร์โซเนียร์ และแมรี่โกลด์ก็เริ่มที่จะจางหายไป จนในที่สุดพวกเธอก็เริ่มผ่อนคลายลงและถอนหายใจออกมา

 

สำหรับคนอย่างโรจา ที่ครอบครองฮาคิราชันย์อันแข็งแกร่งและทรงพลัง จนดูราวกับเป็นราชาของโลกใบนี้ มันเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะโกหก หากโรจาบอกว่าจะไม่พูดเรื่องนี้ออกไป ข่าวเรื่องรอยตราประทับของพวกเธอก็จะไม่มีทางรั่วไหลออกไปอย่างแน่นอน

 

หัวใจของแฮนค็อกรู้สึกสั่นไหว หากโรจาต้องการที่จะแพร่งพรายเรื่องนี้ออกไปจริงๆ เธอก็ไม่สามารถหยุดยั้งเขาได้ ด้วยความแข็งแกร่งของเธอในตอนนี้ เธอไม่สามารถหยุดโรจาได้เลย หากความลับนี้รั่วไหลออกไป แฮนค็อกไม่อาจจินตนาการได้เลยว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น

 

เมื่อเทียบกับการที่โรจาได้เห็นไฟหน้าของเธอแล้ว มันไม่สำคัญอะไรเลย

 

“การที่ได้มาพบกับผู้ชายที่มีบุคลิกเฉพาะตัวแบบนี้ ไม่รู้ว่าควรจะพูดว่าโชคดีหรือโชคร้ายกันแน่นะ ว่าไหม เฮบิฮิเมะ”

 

ยายเนียวได้เอ่ยออกมา พร้อมกับเคาะไม้เท้างูของเธอลงบนพื้น ดูเหมือนว่าเธอจะเห็นเหตุการณ์ในครั้งนี้ทั้งหมด

 

“ยายเนียว? โผล่มาได้ยังไง?”

 

เมื่อแฮนค็อกได้ยินเสียงของยายเนียว เธอก็หันไปตามทิศทางของเสียง พร้อมกับกลับคืนสู่ภาพลักษ์ของจักรพรรดินีอีกครั้ง

 

ยายเนียวไม่ได้สนใจคำถามของแฮนค็อก แต่เธอกลับเดินไปหาโรจา ก่อนที่จะหยุดยืนตรงหน้าเขาแล้วกล่าวด้วยความซับซ้อนว่า

 

“หากคุณยินดีที่จะเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ ฉันก็ขอเอ่ยคำขอบคุณแทน เฮบิฮิเมะและน้องสาวทั้งสองของเธอ”

 

แฮนค็อกจ้องมองไปยังยายเนียว ในตอนแรกเธอแทบจะอดกลั้นแรงปรารถนาที่จะจับโยนยายเนียวออกนอกหน้าต่างไปแทบไม่ไหว แต่สุดท้ายแล้ว แฮนค็อกก็ทำได้เพียงแค่ถอนหายใจออกมาเบาๆ ด้วยใบหน้าซับซ้อน และยืนนิ่งๆอยู่ที่เดิม

 

“ก็แค่เรื่องเล็กๆน้อยๆ”

 

โรจาจ้องมองลงไปยังยายเนียว ก่อนที่จะเอ่ยต่อว่า

 

“ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ฉันคงจะต้องขอตัวก่อน และจะกลับมาอีกครั้งหลังจากที่เธอแต่งตัวเสร็จแล้ว”

 

โรจามองไปยังแฮนค็อกพร้อมกับส่งยิ้มให้

 

“โอ้จริงสิ ถ้าเธอต้องการให้ฉันรับผิดชอบ ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้นะ”

 

ช่วงเวลาหลายวันที่โรจาได้อยู่ร่วมกันและพูดคุยกับแฮนค็อก มันจึงเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะไม่เกิดความรู้สึกบางอย่างกับเธอ

 

แต่คำพูดที่เขาบอกว่าจะรับผิดชอบนั้นคือการจับโยนพวกที่ใช้ชื่อของเผ่ามังกรฟ้าก่ออาชญากรรมต่างๆเข้าไปอยู่ในคุกให้หมด และลบสถานะทาสของแฮนค็อก!

 

สำหรับโรจาแล้ว ตราบใดที่เขาสามารถเสริมความแข็งแกร่งจนวิวัฒนาการระบบจิตวิญญาณแห่งดาบเป็นขั้นห้าได้ และสามารถปลดปล่อย ริวจินจักกะ ไม่ว่าสิ่งใด เขาก็คงจะสามารถทำให้ทุกสิ่งที่ปรารถนาลายเป็นจริงได้

 

โรจาหันหลังและเดินจากไป

 

จะรับผิดชอบฉัน?

 

แฮนค็อกจ้องมองไปยังแผ่นหลังของโรจาดวงตาอันงดงามของเธอที่เผยให้ถึงความรู้สึกซับซ้อน โรจารู้แล้วว่าครั้งหนึ่งเธอเคยมีสถานะเป็นทาส จึงทำให้เธอไม่กล้าที่จะไปเผชิญหน้ากับโรจาอีกต่อไป และคงเป็นเรื่องยากที่จะแสดงท่าทีหยิ่งยะโสเหมือนดั่งที่เคยทำมาก่อน

 

 

ณ น่านน้ำที่ห่างออกไปจากเกาะอเมซอนลิลลี่ 3 กิโลเมตร

 

เรือรบได้จอดทอดสมอเรืออยู่เงียบๆ ทันใดนั้นเรือโจรสลัดที่มีงูยักษ์สองตัวคอยลากอยู่ก็ค่อยๆแล่นเข้ามาอย่างช้าๆ ก่อนที่จะหยุดอยู่หน้าเรือรบ

 

หลังจากบอกเรื่องการประชุมผ่านเด็นเด็นมูชิกับแฮนค็อกแล้ว โรจาก็ได้ติดต่อกลับไปยังเรือรบ และอยู่บนเกาะอเมซอนลิลลี่อีกสองวัน ก่อนที่จะให้แฮนค็อกมาส่งเขากลับไปยังเรือรบ

 

วิซ–!

 

ร่างของโรจากระโดดจากเรือโจรสลัดคุจา และกลับมายังดาดฟ้าของเรือรบ

 

เบื้องหลังของโรจา จักรพรรดินีโจรสลัด โบอา แฮนค็อก ได้กระโดดขึ้นไปบนหัวงูยักษ์ที่คอยลากเรือโจรสลัดของเธอ และเจ้างูยักษ์ก็เหมือนจะรู้ว่าต้องทำอะไร มันค่อยๆก้มหัวลงไปยังดาดฟ้าเรือรบ ทำหน้าที่เป็นสะพาน เพื่อส่งแฮนค็อกลงบนเรือรบ

 

แฮนค็อกค่อยๆก้าวลงจากหัวของงูยักษ์อย่างนุ่มนวล แต่คราวนี้เธอไม่ได้มีเจตนาจะใช้พลังปีศาจของเธอเปลี่ยนเหล่าทหารเรือให้กลายเป็นหิน เธอเพียงแค่เดินตามโรจามาอย่างเงียบๆ

 

ภายใต้การนำทางของโรจา ทั้งสองได้เดินเข้าไปในห้องโดยสารของเรือรบและมายังสำนักงานของโรจา

 

หลังจากที่เข้ามาในสำนักงานแล้ว โรจาก็สลัดคราบผู้บัญชาการเรือรบออก เขาบิดขี้เกียจไปมา ก่อนที่จะเดินไปที่โต๊ะ

 

“เกือบจะได้เวลาแล้ว พร้อมแล้วใช่ไหม”

 

“อืม”

 

แฮนค็อกพยักหน้าเล็กน้อย แต่เธอไม่ได้นั่งลงบนเก้าอี้ ได้แต่เพียงยืนอยู่เงียบๆ

 

หลังจากเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ ในเรื่องนิสัยของแฮนค็อก จากเต็ม 100 คะแนน ในมุมมองของโรจา เธอน่าจะได้คะแนนไปซัก 70 คะแนน แล้ว

 

แฮนค็อกในเวลานี้ ไม่ได้จ้องมองโรจาด้วยความเย่อหยิ่งและเย็นชาอีกต่อไป

 

ยิ่งไปกว่านั้น

 

โรจาก็ได้รู้ความลับอันแสนสำคัญที่สุด ที่เธอต้องการปกปิดมันไว้ในจิตใจ ทำให้เธอไม่สามารถแสดงท่าทีดื้อรั้นของจักรพรรดินีต่อหน้าโรจาได้อีกต่อไป