GOS ตอนที่ 138 – กลับไปยังเกาะอเมซอนลิลลี่อีกครั้ง

 

“ไม่ … ยังมีอีกเรื่องหนึ่ง”

 

เซนโงคุมองไปยังโรจากำลังจะเดินจากไปพร้อมกับเอ่ยออกมาว่า

 

“หลังจากนี้ เธอจะต้องกลับไปยังเกาะอเมซอนลิลลี่อีกครั้ง”

 

“ทางรัฐบาลโลกกำลังจะจัดประชุมเพื่อหารือกับทุกคนที่เข้ารับตำแหน่งเป็น7เทพโจรสลัด และคาดว่าโจรสลัดเหล่านั้นจะต้องไม่มาเข้าร่วมประชุมอย่างแน่นอน อีกอย่างในปัจจุบันนี้ก็ยังไม่มีเหตุการณ์อะไรที่สำคัญๆ ดังนั้นเพื่อความสะดวกและความสบายใจพวก 7เทพโจรสลัด จึงได้ข้อสรุปว่าให้ประชุมกันผ่านทางวิดีโอ”

 

“เธอจะต้องนำ เด็นเด็นมูชิที่สามารถรับ-ส่งภาพวิดีโอได้ ไปส่งให้แฮนค็อกที่เกาะอเมซอนลิลี่อีกครั้ง”

 

“รับทราบแล้ว”

 

โรจาพยักหน้า เขาเข้าใจดีว่าหากพวก7เทพโจรสลัดที่พึ่งรับตำแหน่งถูกบังคับให้ไปร่วมประชุมกับทางรัฐบาลโลก มันคงจะดูไม่ดีนัก บางทีเพียงเขาอาจจะเกิดการกระทบกระทั่งกันก็ได้ ดังนั้นการประชุมกันผ่านวิดีโอจึงเป็นอะไรที่เหมาะสมที่สุด

 

กล่าวได้ว่าความแข็งแกร่งของเหล่า7เทพโจรสลัดนั้น ไม่ได้อ่อนแอเลยแม้แต่น้อย

 

ตัวอย่างเช่น โดฟลามิงโก้ แม้เขาจะแข็งแกร่งน้อยกว่ายศพลเรือเอกอยู่ระดับหนึ่ง แต่หากต้องสู้กันแบบตัวต่อตัว พลเรือเอกก็คงไม่สามารถโค่นเขาลงได้ในระยะเวลาสั้นๆ

 

การเอาชนะกับการฆ่านั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

 

ยิ่งมิฮอว์คตาเหยี่ยวที่เป็นถึงจอมดาบที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกยิ่งไม่ต้องกล่าวถึง แม้โรจาจะไม่สามารถคาดคะเนความแข็งแกร่งของเขาได้อย่างถูกต้อง แต่อย่างน้อยมิฮอว์คก็น่าจะมีความแข็งแกร่งพอๆกับยศพลเรือเอก ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่ได้รับสมญานามอันยิ่งใหญ่อย่าง จอมดาบที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก มาครอบครองหรอก

 

ดังที่ได้กล่าวมา หากเจ็ดเทพโจรสลัดทั้งหมดได้มารวมตัวกัน คงจำเป็นที่จะต้องให้พลเรือเอกทั้งสาม รวมไปถึงเซนโงคุ และทหารเรืออาวุโสคนอื่นๆมาคอยคุมเชิง จึงจะสามารถจัดการประชุมขึ้นมาได้อย่างปลอดภัย แต่อย่างไรเสีย มันก็คงไม่พ้นที่จะต้องเกิดเรื่องวุ่นวายขึ้นอย่างแน่นอน ในตอนนี้เรื่องแบบนั้นจึงยังคงเป็นไปไม่ได้

 

ถึงแม้ในตอนนี้รัฐบาลจะได้รับความร่วมมือจากเจ็ดเทพโจรสลัด แต่ต่อไปในอนาคตผู้ที่แข็งแกร่งพอๆกันอีกมากมายก็อาจปราฏตัวขึ้นมา นอกจากนั้นยังมีสี่จักพรรดิอยู่อีก ไม่มีทางที่พวกโจรสลัดจะหมดสิ้นไปจากโลกใบนี้อย่างแน่นอน

 

ความคิดเหล่านี้ไหลผ่านเข้ามาในจิตใจของโรจา แต่เขาก็ทำได้เพียงส่ายหัวเล็กน้อย ก่อนที่จะโยนความคิดนี้ทิ้งไปและเดินออกจากสำนักงานของเซนโงคุ

 

แม้โรจาจะไม่ใช่พวกสนใจเรื่องความสมดุลหรือการถ่วงดุลอำนาจของโลก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะไม่เข้าใจเกี่ยวกับมัน ตราบใดที่เขาคิดเรื่องนี้อย่างจริงจัง เขาจะสามารถเข้าใจมันได้อย่างง่ายดาย … แต่โรจาก็ขี้เกียจเกินไปที่จะทำอย่างนั้น

 

หากไม่ใช่เพราะเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับแฮนค็อกที่เป็น1ใน7เทพโจรสลัด และเขามีความชื่นชมในตัวเธอและกำลังเพลิดเพลินกับการมอบบทเรียนให้อยู่แล้วล่ะก็ โรจาจะไม่เก็บเรื่อง7เทพโจรสลัดมาใส่หัวเลย

 

 

หลังจากที่ออกจากสำนักงานของเซนโงคุ โรจาก็ตรงกลับไปยังบ้านของเขา หลังจากที่พักผ่อนไปวันนึงเต็มๆ โรจาก็เริ่มต้นช่วงเวลาแห่งการฝึกฝนอันน่าเบื่อหน่ายอีกครั้ง

 

ซึ่งเขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม

 

ก่อนหน้านี้เขาสามารถทนการฝึกฝนอันแสนน่าเบื่อได้อย่างสมบูรณ์โดยไร้ซึ่งความรู้สึกใดๆ แต่คราวนี้ การฝึกฝนอันแสนน่าเบื่อกลับทำให้เขารู้สึกกระวนกระวายและมักจะปรากฏภาพของหญิงงามคนหนึ่งเข้ามาในจิตใจของเขาตลอดเวลา

 

ความทรงจำในเกาะอเมซอนลิลลี่  ความทรงจำที่ยากจะลบเลือน ได้ไหลผ่านเข้ามาในจิตใจของเขาอย่างต่อเนื่อง

 

โรจาไม่ได้เกลียดความรู้สึกนี้ เมื่อเขาได้ถูกส่งมายังโลกวันพีช และได้พบกับแฮนค็อกเป็นครั้งแรก เขาก็รู้สึกชื่นชมในความงดงามของเธอ และรู้สึกว่าเธอช่างสมบูรณ์แบบยิ่งกว่าในมังงะเสียอีก

 

สิ่งเดียวที่ทำให้โรจายังคงรู้สึกเป็นตัวของตัวเองอยู่ก็คือ ความรู้สึกโกรธเล็กน้อยที่ต้องอาศัยอยู่บนเกาะอเมซอนลิลลี่หลายวัน และต้องใช้ทั้งไม้อ่อน ไม้แข็งเพื่อมอบบทเรียนให้แก่แฮนค็อก จนในที่สุดเธอก็ยอมเซ็นรับตำแหน่ง7เทพโจรสลัด

 

ในช่วงระยะเวลานั้น

 

มีหลายครั้งที่เขาได้พูดคุยกับเธออย่างใกล้ชิด โรจาระรึกถึงกลิ่นกายอันหอมหวลของเธอที่ไหลผ่านเข้ามาในลมหายใจ ใบหน้าอันงดงาม และผิวที่เรียบเนียนราวกับหยก แม้ภายนอกโรจาจะไม่เผยให้เห็นถึงท่าทีหรือความรู้สึกใดๆ แต่ภายในของเขารู้สึกได้ถึงหัวใจที่เต้นไม่เป็นจังหวะ

 

เขามิใช่นักบุญที่สามารถนั่งนิ่งเป็นพวกไร้ความรู้สึก แต่มันเป็นเพราะจิตวิญญาณของเขาแข็งแกร่งกว่าคนอื่นๆ จึงทำให้เขาสามารถควบคุมอารมณ์ได้ดี จนมันไม่ได้แสดงออกไปสู่ภายนอก

 

ในเวลาเดียวกัน อีกด้านหนึ่ง บนเกาะอเมซอนลิลลี่

 

แฮนค็อกยังคงเฝ้าระรึกถึงช่วงเวลาไม่กี่วันที่ผ่านมาที่มิอาจลบเลือนออกไปจากภายในจิตใจของเธอ มันเป็นความทรงจำช่วงเวลาที่โรจาอาศัยอยู่บนเกาะอเมซอนลิลลี่ ทุกๆวันโรจามักจะปรากฏตัวขึ้นข้างกายเธอและแย่งกินอาหารที่เธอกำลังจะใส่เข้าปาก และก่อนนอนทุกคืนเขาก็จะแอบมาดักรอเธออยู่ทุกครั้ง

 

สองสามวันที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นเวลากิน หรือเวลานอน เธอมักจะเผลอหันไปมองรอบๆโดยไม่ตั้งใจ

 

แฮนค็อกคิดว่าภาพเหล่านั้นจะค่อยๆเลือนหายไปช้าๆตามกาลเวลา แต่มันกลับตรงกันข้าม ทั้งรูปร่าง หน้าตา ของโรจา เธอไม่อาจลบเลือนมันออกไปได้เลย

 

เธอไม่รู้ว่าทำไมภาพของโรจาที่ยืนอยู่บนเรือรบและดูราวกับเป็นราชาของโลก หรือช่วงเวลาสั้นๆที่เขาพยายามกลั่นแกล้งเธอโดยบอกว่ามันเป็นการ ‘มอบบทเรียน’ หรือแม้แต่ช่วงเวลาที่เขากล่าวว่าเขาไม่คิดจะทำงานรับใช้รัฐบาลโลก ถึงได้ติดตรึงอยู่ในจิตใจของเธอ

 

ยิ่งเธอคิดถึงมัน

 

แฮนค็อกก็เผยให้เห็นถึงท่าทีที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง ไม่ว่าจะเป็นในด้านการกระทำ หรือคำพูด

 

 

หนึ่งเดือนต่อมา

 

ทางรัฐบาลโลกได้คัดเลือกคนที่จะมาอยู่ในตำแหน่ง7เทพโจรสลัดเรียบร้อยแล้ว

 

ในมังงะ เดิมทีโดฟลามิงโก้นั้นปล้นเรือขนเงินของเผ่ามังกรฟ้า เพื่อบีบบังคับให้รัฐบาลโลกมอบตำแหน่ง 7 เทพโจรสลัดให้แก่เขา แต่ในเวลานี้ดูเหมือนว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม

 

ผู้ที่ได้รับตำแหน่ง7เทพโจรสลัดในปัจจุบันก็คือ

 

เครื่องจักรสังหาร — บาโซโลมิว คุมะ!

 

จอมดาบที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก — มิฮอว์คตาเหยี่ยว!

 

เฮบิฮิเมะ — จักรพรรดินีโจรสลัด โบอา แฮนค็อก!

 

ปีศาจสวรรค์ — ดองกี้โฮเต้ โดฟลามิงโก้!

 

บุตรแห่งมหาสมุทร — อัศวินแห่งท้องทะเล จินเบ!

 

ราชาแห่งเงา — เก็กโค โมเรีย!

 

ราชาแห่งทะเลทราย — คร็อกโคไดล์!

 

ทั้ง7คนล้วนเป็นโจรสลัดที่มีชื่อเสียง และอาศัยอยู่ในแกรนไลน์ ทุกคนเซ็นรับตำแหน่งเป็น7เทพโจรสลัด และอยู่ภายใต้การควบคุมของทางรัฐบาลโลก!

 

ข่าวนี้ทำให้ทั่วท้องท้องทะเลเกิดความปั่นป่วน

 

หลังจากนั้นผ่านไปอีกสองสามวัน โรจาก็ได้แล่นเรือรบออกจากศูนย์ใหญ่อีกครั้ง เพื่อมุ่งหน้าไปยังเกาะอเมซอลลิลลี่

 

เขาจะได้พบกับแฮนค็อกอีกครั้ง

 

ณ เวลานี้โรจากำลังยืนอยู่เงียบๆบนดาดฟ้า ใบหน้าของเขายังคงเรียบเฉย แต่บางอย่างภายในจิตใจกลับบังเกิดความรู้สึกที่ลึกซึ้งและแตกต่างไปจากเดิม

 

“พลเรือโทโรจา!”

 

เสียงของผู้ช่วย ทำให้โรจาหลุดออกจากภวังค์ความคิด

 

“พวกเรากำลังจะมาถึงน่านน้ำในระยะสามกิโลเมตรของเกาะอเมซอนลิลลี่แล้วครับ ตามข้อตกลงพวกเราไม่สามารถเข้าไปใกล้มากกว่านี้ได้ … ”

 

“อืม ไปทอดสมอเรือตรงน่านน้ำก่อนที่จะเข้าถึงระยะสามกิโลเมตร”

 

โรจาพยักหน้าให้ผู้ช่วยของเขา

 

ผู้ช่วยพยักหน้ารับ แล้วสั่งให้เรือรบค่อยๆชะลอความเร็ว จนหยุดลงในที่สุด

 

ในเขตทะเลคาล์มเบลนั้นเต็มไปด้วยจ้าวแห่งท้องทะเล ซึ่งเป็นเรื่องที่อันตรายมากๆ หากจะทอดสมอลงกลางทะเลในจุดที่ไม่ใช่ชายฝั่ง แม้ว่าจะมีหินไคโรถูกฝังอยู่ใต้ท้องเรือเพื่อสร้างความสับสนให้แก่จ้าวแห่งท้องทะเลที่อยู่เบื้องล่างแล้วก็ตาม แต่หากทอดสมอทิ้งไว้เป็นระยะเวลานานๆ ในที่สุดก็จะถูกพวกมันพบเข้าอยู่ดี

 

แน่นอน

 

หากโรจายังคงอยู่ที่นี่ มันก็ไม่นับว่ามีอันตรายใดๆ

 

ปัจจุบันนี้ หากโรจาได้เผชิญหน้ากับจ้าวแห่งท้องทะเล เขาก็เพียงแค่ใช้ฮาคิราชันย์ใส่มัน ทำให้จ้าวแห่งท้องทะเลหมดสติไปหรือบังคับให้มันยอมจำนน แค่นั้นก็เพียงพอแล้ว

 

ช่วงระยะเวลาที่แล่นเรือเข้ามาในคาล์มเบล โรจาปลดปล่อยฮาคิราชันย์ออกมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อบังคับจ้าวแห่งท้องทะเลให้ยอมจำนน และมาช่วยปกป้องเรือรบ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่าแปลกใจก็คือ บนเกาะอเมซอนลิลลี่กลับไม่มีการเคลื่อนไหวหรือส่งเสียงใดๆออกมาเลย ราวกับว่าไม่สนใจเรือรบที่จอดอยู่ที่นี่

 

“เกิดอะไรขึ้นกันแน่?”

 

ภายใต้สายตาอันน่าหวาดกลัวของโรจา ทำให้จ้าวแห่งท้องทะเลทั้งสี่ที่ยอมจำนนและว่ายวนอยู่รอบๆเรือรบรู้สึกกระสับกระส่าย โรจาจ้องมองไปยังเกาะอเมซอนลิลลี่ที่อยู่ห่างไกลออกไป ที่ไร้ซึ่งเสียงและการเคลื่อนไหวใดๆ จนอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วเข้าหากัน

 

แม้ว่าเรือรบจะไม่ได้จอดเทียบท่าบนเกาะอเมซอนลิลลี่ แต่ก็อยู่ห่างออกไปเพียงแค่สามกิโลเมตรเท่านั้น หากไม่ใช่คนตาบอด ก็จะต้องมองเห็นเรือรบของพวกเขาอย่างแน่นอน

 

“มีบางอย่างผิดปกติ”

 

หลังจากที่รออยู่ครู่หนึ่ง แต่ก็ยังไม่มีเสียงใดๆเกิดขึ้น โรจาก็หันไปพูดดกับผู้ช่วยของเขาแล้วกล่าวว่า

 

“ฉันจะไปยังเกาะอเมซอนลิลลี่ ทอดสมอเรือรบเอาไว้ที่นี่และรอจนกว่าฉันจะกลับมา ฉันจะให้จ้าวแห่งท้องทะเลสาม 3ตัว คอยปกป้องเรือรบลำนี้ เพราะฉะนั้นไม่ต้องกังวลไป”

 

กล่าวจบ โรจาก็ไม่รอให้ผู้ช่วยของเขาเอ่ยปาก เขากระโดดลงมาบนหลังของจ้าวแห่งท้องทะเลตัวหนึ่ง ก่อนที่จะกระทืบเท้าบนหลังของมันหนึ่งครั้ง และดูเหมือนว่าจ้าวแห่งท้องทะเลตัวนั้นจะเข้าใจความหมายที่เขาสื่อ มันได้มุ่งหน้าตรงไปยังเกาะอเมซอนลิลลี่ทันที

 

ส่วนจ้าวแห่งท้องทะเลที่เหลือไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ แต่ยังคงว่ายวนเวียนอยู่รอบๆเรือรบ เพื่อทำหน้าที่ปกป้องเรือที่มันได้รับมอบหมายจากโรจา