GOS ตอนที่ 130 – เซเฟอร์และภารกิจ

 

ไม่กี่วันต่อมา

 

ระบบ 7 เทพโจรสลัดก็ได้ถูกก่อตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการโดยรัฐบาลโลก ทันทีที่ผู้คนทราบข่าว โลกก็ตกลงสู่ความวุ่นวาย เหล่ากองกำลังมากมายนับไม่ถ้วนต่างหันเหความสนใจมายังเรื่องนี้ และพากันพูดคุยเกี่ยวกับมัน

 

ส่วนทางด้านโรจา ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาเขาก็ยังคงฝึกฝนเพิ่มพละกำลังร่างกายโดยการยกที่ยกน้ำหนัก 30 ตัน

 

การฝึกโดยการยกน้ำหนัก 30 ตัน ค่อนข้างได้ผลดีเยี่ยม เพราะสองสามวันต่อมาพละกำลังร่างกายของเขาก็เพิ่มสูงขึ้น ที่สำคัญมันยังช่วยให้วิชาเฉือนนภารุนแรงขึ้นอีกด้วย และในเวลานี้โรจาสามารถตวัดดาบเดียวซ้อนทับ 11 ครั้งได้โดยสมบูรณ์ ส่วน ตวัดดาบเดียวซ้อนทับ 12 ครั้ง เกือบจะใกล้ความเป็นจริงแล้ว

 

และแล้วในที่สุด โรจาก็ฝึกฝนจนสามารถตวัดดาบเดียวซ้อนทับ 12 ครั้งได้อย่างสมบูรณ์ โดยไร้ซึ่งอุปสรรคใดๆ

 

เมื่อข่าวเรื่อง 7 เทพโจรสลัดไปถึงหูของโรจา เขาก็ไม่ได้รู้สึกแปลกใจอะไรเป็นพิเศษ เนื่องจากเขาเคยคาดเดามาก่อนแล้วว่ามันจะต้องปรากฏขึ้นเร็วๆนี้

 

‘ดูเหมือนว่าประวัติศาสตร์ในโลกวันพีชจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง โดฟลามิงโก้จะต้องเป็นหนึ่งในตัวเต็งที่จะได้เป็น 7 เทพโจรสลัดที่ทางรัฐบาลโลกเล็งไว้ ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจเลยที่ถึงแม้เขาจะถูกจับ แต่ก็มีคำสั่งให้ปล่อยตัวออกมา’

 

ความคิดนี้ได้ผ่านเข้ามาในจิตใจของโรจา ขณะที่เขากำลังยกที่ยกน้ำหนัก 30 ตัน เป็นการวอร์มอัพร่างกาย

 

ไม่กี่วันก่อน การ์ปได้เดินทางออกจากศูนย์ใหญ่ และกล่าวเพียงสั้นๆว่าจะกลับไปยังทะเลอีสต์บลูเพื่อดูแลหลาน นอกจากนี้เขายังรีบกลับไปด้วยท่าทีกังวลเป็นอย่างมาก โรจาคาดว่าอาจจะเป็นเพราะการ์ปก็ไม่เห็นด้วยกับระบบ 7 เทพโจรสลัดเช่นกัน ดังนั้นเขาจึงรู้ไม่ดีที่จะมีส่วนร่วมเกี่ยวกับเรื่องนี้ เลยไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับท้องทะเลแห่งนี้เป็นระยะเวลาสั้นๆ

 

ในห้องฝึกฝน

 

จู่ๆประตูห้องก็ถูกเปิดออก พร้อมๆกับได้ปรากฏร่างของชายที่มีผมสีม่วงกำลังเดินเข้ามาด้วยความรู้สึกผิดหวังและโดดเดี่ยว

 

โรจาหันไปมองเขาด้วยความประหลาดใจ ก่อนที่จะยิ้มออกมาอย่างเป็นมิตรแล้วกล่าวว่า

 

“เซเฟอร์เซนเซย์ ผมไม่คิดเลยว่าจะได้พบกับเซนเซย์ที่นี่”

 

“ก็ไม่มีอะไรมากหรอก ฉันมาหาเธอนั่นแหละ”

 

เซเฟอร์เดินคาบซิการ์เข้ามา ก่อนที่จะนั่งลงข้างๆโรจา

 

โรจาวางที่ยกน้ำหนัก 30 ตันลง จากนั้นก็นั่งลงข้างเซเฟอร์แล้วกล่าวว่า

 

“ดูเหมือนว่าเซนเซย์จะไม่พอใจเรื่องระบบ 7 เทพโจรสลัดใช่ไหมครับ”

 

ใบหน้าของเซเฟอร์ดูซีดเซียว จนในเวลานี้โรจาไม่อาจมองเห็นราศีของอดีตพลเรือเอกจากตัวเขาเลย ดูเหมือนว่าเซเฟอร์กับการ์ปนั้นจะมีความคิดเห็นเหมือนกัน เพียงแต่เซเฟอร์ยังคงเลือกที่จะอยู่ที่นี่ ส่วนการ์ปนั้นขอออกจากศูนย์ใหญ่ชั่วคราว โดยทิ้งคำพูดไว้เพียงแค่ว่าจะกลับไปยังอีสต์บลูเท่านั้น

 

หลังจากที่ลองเชื่อมโยงเรื่องทุกอย่างเข้าด้วยกัน โรจาก็พอจะคาดเดาอารมณ์ของเซเฟอร์ได้

 

“เธอคาดเดาได้ถูกต้อง ฉันจะไปพอใจกับเรื่องแบบนั้นได้ยังไง! ระบบนี้มันไม่ควรที่จะเกิดขึ้น ความยุติธรรมกับความชั่วร้ายจะอยู่ร่วมกันได้อย่างไร? … แต่ฉันไม่สามารถทำอะไรเพื่อเปลี่ยนแปลงระบบบ้าๆนี้ได้เลย”

 

เซเฟอร์ยิ้มออกมาอย่างเย้ยหยัน น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกโดดเดี่ยวและผิดหวัง

 

ระบบ 7 เทพโจรสลัดนี้ได้รับการอนุมัติและดำเนินการทุกอย่างโดยรัฐบาลโลก แล้วจะนับประสาอะไรกับเขาซึ่งเป็นเพียงอดีตพลเรือเอก .. บางทีต่อให้ตัวเขาในเวลานี้ยังคงเป็นพลเรือเอกอยู่ แต่ก็เกรงว่าจะไม่สามารถคัดค้านการอนุมัติในครั้งนี้ได้อยู่ดี

 

หลายวันที่ผ่านมา เซเฟอร์ได้พยายามคัดค้านเรื่องนี้จากหลายช่องทาง เขาได้เข้าไปพบกับผู้คนในกองทัพเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น อาโอคิยิ อาคาอินุ โมมอนก้า และทหารเรือยศอาวุโส เพื่อล่ารายชื่อส่งไปยังรัฐบาลโลก ว่าพวกเขานั้นไม่ยอมรับระบบ 7 เทพโจรสลัด แต่มันก็ไร้ประโยชน์

 

ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เซเฟอร์อดสงสัยไม่ได้ว่า แท้จริงแล้วกองทัพเรือนั้นคืออะไร? แล้วรัฐบาลโลกต้องการอะไรกันแน่?

 

รัฐบาลโลกนั้นเป็นตัวแทนแห่งความยุติธรรมจริงๆน่ะหรือ?

 

หรือว่ารัฐบาลโลกนั่นแหละที่เป็นตัวแทนแห่งความชั่วร้ายเสียเอง และต้องการที่จะควบคุมโจรสลัดที่มีชื่อเสียงจากทั่วโลก?

 

“ผมเข้าใจความรู้สึกของเซนเซย์นะ”

 

โรจาที่นั่งอยู่ข้างๆกล่าวพร้อมกับส่ายหัว

 

ในกองทัพเรือ ทหารเรืออาวุโสเกือบทั้งหมดนั้นเป็นลูกศิษย์ของเซเฟอร์ ในมุมมองของเซเฟอร์ที่เขายังคงไม่เกษียนตัวเองและเลือกที่จะยังทำงานอยู่ในกองทัพนั้นเป็นเพราะเขาต้องการที่จะรับใช้ความยุติธรรมและคอยฝึกฝนเหล่าเด็กๆ แต่เมื่อเขาเห็นเด็กๆต้องร่วมเดินทางไปกับความชั่วร้าย เขาจึงค้านหัวชนฝา

 

(ประมาณว่าเห็นเด็กๆที่เขาฝึกฝนมากับมือไปเป็นพันธมิตรกับโจรสลัดที่ชั่วร้าย)

 

แต่เมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างกระทันหันแบบนี้ เซเฟอร์จึงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกผิดหวัง

 

หากโรจาจำไม่ผิด ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าเซเฟอร์จะถูกโจมตีโดยเหล่าโจรสลัด เล่าบิงเกือบทั้งหมดหมดของเขาจะต้องพบกับจุดจบ และมีเพียงไอน์และบินซ์เพียงสองคนเท่านั้นที่รอดชีวิตมาได้ ส่วนเซเฟอร์นั้นถูกตัดแขนจนขาดสะบั้น

 

หลังจากนั้นอีกไม่กี่ปีต่อมา ก็ได้เกิดสงครามครั้งใหญ่ขึ้น และโจรสลัดที่โจมตีเซเฟอร์ก็ได้รับการแต่งตั้งให้เป็น7เทพโจรสลัด และนั่นทำให้เซเฟอร์รู้สึกผิดหวังเป็นอย่างมากกับกองทัพเรือและรัฐบาลโลก จนในที่สุดเขาก็กลายเป็นคนที่มีความคิดเหมือนกับอาคาอินุ ที่ต้องการจะฆ่าโจรสลัดทั้งหมดบนโลกใบนี้!

 

โรจาไม่รู้ว่าจะกล่าวอะไรออกไปดี เขานั้นแตกต่างจากเซเฟอร์ เป็นคนที่ถูกส่งมาจากโลกอื่น เมื่อเข้ามายังโลกใบนี้ โรจาก็มีมุมมองที่ชัดเจนเป็นของตัวเองว่า สำหรับเขาแล้วโลกใบนี้นั้น ไม่ว่าจะเป็นกองทัพเรือหรือโจรสลัด ความยุติธรรมหรือความชั่วร้าย ก็ไม่อาจที่จะตีตรวนความคิดของเขาและบังคับให้เขาทำในสิ่งที่ใจไม่ปรารถนาได้

 

แต่เซเฟอร์นั้นต่างออกไป

 

สำหรับเซเฟอร์ที่กำลังผิดหวังและโดดเดี่ยวนั้น โรจาจะกล่าวปลอบโยนเขาด้วยคำว่า ไม่เป็นไร มันก็คงจะไม่ดีนัก

 

เซเฟอร์พ่นควันซิการ์ออกจากปาก แล้วตบลงบนไหล่ของโรจา พร้อมกับประกายเล็กๆที่ปรากฏขึ้นในแววตาของเขา ก่อนที่จะถอนหายใจออกมาแล้วกล่าวว่า

 

“อย่างไรก็ตาม สุดท้ายแล้วฉันคงไม่สามารถเปลี่ยนแปลงผลลัพธ์ในครั้งนี้ได้”

 

“โรจา ฉันหวังว่า … เธอจะสามารถเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ได้ในอนาคต”

 

เปลี่ยนแปลงโลกใบนี้!?

 

เมื่อได้ยินคำกล่าวของเซเฟอร์ ภายในจิตใจของโรจาก็พลันปรากฏภาพบางอย่างขึ้นมา

 

“ความมั่งคั่ง ชื่อเสียง และอำนาจ ผู้ที่ครอบครองทุกอย่างบนโลกใบนี้ คือราชันย์แห่งกองทัพเรือ มังกี้ D โรจา คำนึงที่เขาพูดไว้ก่อนตายที่ทำให้ผู้คนต่างพากันมุ่งสู่ท้องทะเล ‘สมบัติของฉันน่ะหรือ? ถ้าอยากได้ก็เอาไปสิ ไปหาเอาเลย! ฉันเอาทุกอย่างไปไว้ที่นั่นหมดแล้ว!!’ ”*

 

*(เป็นคำพูดของโกล D โรเจอร์ ตอนโดนประหาร แต่โรจามันมโนเอาแล้วเอามาดัดแปลงเป็นคำพูดของตัวเอง)

 

ต้องการพลังหรือไม่? ต้องการที่จะแข็งแกร่งหรือเปล่า? หากเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของกองทัพเรือ ฉันจะมอบทุกสิ่งทุกอย่างที่ฉันมีให้แก่กองทัพ … จากนั้นก็จะเปิดศักราชกองทัพเรืออันยิ่งใหญ่ในโลกใบนี้!

 

แค่ก แค่ก ..

 

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ โรจาก็สำลักออกมา ก่อนที่จะรีบโยนความคิดนี้ทิ้งไว้เบื้องหลัง

 

เซเฟอร์ที่กำลังจ้องมองไปยังโรจาและสังเกตุเห็นท่าทีแปลกๆของเขา พร้อมทั้งดวงตาที่เป็นประกาย จึงเอ่ยถามออกไปว่า

 

“เป็นอะไรรึเปล่า?”

 

โรจาสูดหายใจลึก หลังจากที่โยนความคิดแปลกๆทิ้งไป ท่าทีของเขาก็กลับมาเป็นปกติอีกครั้งก่อนที่จะกล่าวว่า

 

“ไม่มีอะไรครับ ถ้าเซนเซย์พูดแบบนั้นแล้วล่ะก็ เชื่อมือผมได้เลย ยุคสมัยต่อไปผมจะเป็นคนสร้างมันขึ้นมาเอง!”

 

เมื่อเซเฟอร์มองไปยังโรจาที่กล่าวว่าจะสร้างยุคสมัยใหม่ขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม ใบหน้าของเขาก็เผยให้เห็นถึงความพึงพอใจ พร้อมๆกับความผิดหวังและความโดดเดี่ยวค่อยๆจางหายไป

 

หลังจากที่ตบไหล่ของโรจาแล้ว เซเฟอร์ก็ลุกขึ้นยืน ก่อนที่จะหันหลังเดินจากไป แม้ว่าแผ่นหลังของเขายังคงเผยให้เห็นถึงความผิดหวังและโดดเดี่ยวอยู่บ้าง แต่มันก็ดูลดน้อยไปลงมากหากเทียบกับก่อนหน้านี้

 

อย่างไรก็ตาม

 

มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเปลี่ยนแปลงยุคสมัย มันเป็นเรื่องยากยิ่งกว่าการที่เขาได้รับการเลื่อนยศเป็นพลเรือเอก และยากยิ่งกว่าการกำจัดสี่จักรพรรดิเสียอีก!

 

แม้โรจาจะมีพรสวรรค์อันโดดเด่น แต่มันก็ยังคงห่างไกลที่จะเปลี่ยนแปลงยุคสมัยได้ แต่บางที … ในอนาคตข้างหน้า โรจาก็หวังว่าเขาคงจะทำมันได้สำเร็จ

 

‘หวังว่าฉันคงจะมีชีวิตอยู่จนกว่าจะถึงวันนั้น’

 

เซเฟอร์คิดในใจ ก่อนที่จะเดินออกจากห้องฝึกฝน

 

โรจาเดินไปส่งเซเฟอร์หน้าประตู และเฝ้ามองเซเฟอร์เดินจากไป เซเฟอร์นั้นเคยทุ่มเทสั่งสอนเขา แน่นอนว่าโรจาจะไม่มีวันลืม ดังนั้น เขาจะไม่ยอมให้เซเฟอร์สูญเสียความนึกคิดของเขาไป และก้าวเข้าสู่เส้นทางของการทำลายตัวเอง

 

ขณะเดียวกันโรจาก็กำลังเตรียมจะเดินกลับเข้าไปยังห้องฝึกฝน แต่ในตอนนั้นเอง เขาก็เห็นว่าได้มีร่างๆหนึ่งวิ่งตรงเข้ามาหาเขา

 

“พลเรือโทโรจา!”

 

ร่างที่วิ่งตรงมานั้นคือผู้ช่วยของเขานั่นเอง และในมือของผู้ช่วยก็เต็มไปด้วยเอกสาร ดูเหมือนว่ามันจะเป็นเอกสารที่ระบุถึงภารกิจของโรจา

 

“พลเรือโทโรจา ที่แท้ทคุณก็อยู่ที่นี่นี่เอง นี่เป็นภารกิจใหม่ที่พึ่งได้รับ …”

 

“ภารกิจใหม่?”

 

โรจาหยิบเอกสารมาอ่าน ด้วยท่าทีไม่แยแส แต่พริบตานั้นเอง ท่าทีของเขาก็เผยให้เห็นถึงความประหลาดใจ

 

“ภารกิจนี่มัน … ฉันไม่คาดคิดเลยว่าจะได้รับภารนี้ .. นี่มันน่าสนใจจริงๆ”

 

นี่คือภารกิจแรกที่โรจาได้รับหลังจากที่ได้เลื่อนยศขึ้นเป็นพลเรือโทของศูนย์ใหญ่ ระดับความยากของภารกิจนี้ แม้ไม่สูงอะไรมากมายนัก และไม่ใช่ภารกิจต่อสู้ … แต่ก็เป็นไปได้ว่าอาจจะเกิดการต่อสู้ขึ้นเมื่อเขาได้เดินทางไปถึง

 

ภารกิจของเขาก็คือมุ่งหน้าไปยังเกาะๆหนึ่งเขตทะเลคาล์มเบล เพื่อไปเชิญ ‘หญิงงาม’ คนหนึ่งมาเป็น 1ใน7เทพโจรสลัด

 

เกาะๆนั้นมีชื่อว่า อเมซอนลิลลี่ หรืออีกชื่อหนึ่ง — ‘เกาะสตรี’ ซึ่งผู้คนที่อยู่อาศัยทั้งหมดบนเกาะล้วนแล้วแต่เป็นผู้หญิงและไม่มีผู้ชายอาศัยอยู่เลยแม้แต่คนเดียว

 

และคนที่เขาจะต้องไปเชิญมาเป็น 1ใน 7 เทพโจรสลัดก็คือ .. เฮบิฮิเมะ(องค์หญิงอสรพิษ) — โบอา แฮนค็อก!