GOS ตอนที่ 129 – ระบบเจ็ดเทพโจรสลัด

 

ห้องฝึกฝนชั้นสามของศูนย์ใหญ่จะแบ่งออกเป็นห้องฝึกฝนธรรมดาและห้องฝึกฝนที่สร้างจากหินไคโร ซึ่งห้องฝึกฝนที่สร้างจากหินไคโรจะต้องจ่ายแต้มคุณูปการมากกว่าห้องฝึกฝนธรรมดาในการเข้าฝึก แต่สำหรับโรจาที่ได้แต้มคุณูปการมามากมายจากทะเลเวสต์บลู มันจึงไม่เป็นปัญหาสำหรับเขา

 

เมื่อเข้าไปยังห้องฝึกฝนที่สร้างจากหินไคโรโรจาก็พบกับความประหลาดใจ เมื่อเห็นว่า ภายในห้องนี้มีที่ยกน้ำหนักขนาด 30 ตันวางอยู่ด้วย! แต่มันกลับมีขนาดเล็กยิ่งกว่าที่ยกน้ำหนักขนาด 20 ตันในห้องฝึกฝนชั้นสองเสียอีก!

 

ก่อนหน้านี้ที่ยกน้ำหนักที่โรจาเคยเจอ มีน้ำหนักสูงสุดอยู่แค่ 20 ตันเท่านั้น! หรือว่าบางที … นี่อาจจะเป็นสิ่งประดิษฐ์ใหม่ของ ดร.เวก้า พังค์?

 

แต่โรจาก็ขี้เกียจเกินไปที่จะต้องมัวเสียเวลาคิดหาแหล่งที่มาของมัน เขาจึงตรงเข้าไปหาที่ยกน้ำหนัก 30 ตัน ก่อนที่จะเริ่มยกมันเพื่อฝึกฝนพละกำลังร่างกายที่ไม่ได้ฝึกมาเสียนาน แม้ช่วงหลังๆมานี้ทุกๆการต่อสู้ของเขาจะเน้นไปทางใช้พลังวิญญาณมากกว่าพละกำลังร่างกาย แต่การมีพละกำลังร่างกายที่เพิ่มมากขึ้นไว้ใช้ในกรณีฉุกเฉินก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร

 

เวลานี้โรจาเลือกที่จะใช้ที่ยกน้ำหนัก 30 ตันในการฝึกฝน เพื่อที่จะตรวจสอบว่าขีดจำกัดของเขาในตอนนี้อยู่ที่เท่าไหร่

 

ระหว่างที่โรจากำลังฝึกฝนอยู่ที่ชั้นสาม

 

ณ ชั้นบนสุดของป้อมปราการยักษ์ศูนย์ใหญ่มารีนฟอร์ด

 

นอกเหนือจากเซนโงคุที่อยู่ในห้องแล้ว ยังมีสามพลเรือเอก อาโอคิยิ คิซารุ และอาคาอินุ นั่งอยู่อีกด้วย ไม่ใช่เพียงเท่านั้น แม้กระทั่งการ์ป จอมวางแผนซึรุ และอดีตพลเรือเอกเซเฟอร์ก็ยังมารวมตัวกันที่นี่

 

นี่คือการประชุมระดับสูง ที่พลเรือโทธรรมดาๆไม่มีสิทธิ์ให้เข้าร่วม

 

มีเพียงพลเรือโทที่มีสถานะพิเศษเท่าเทียมกับพลเรือเอก อย่างการ์ปหรือซึรุ ฯลฯ เท่านั้นที่สามารถเข้าร่วมได้

 

“นี่คือคำสั่งจากทางฝั่งรัฐบาลโลก เกี่ยวกับเรื่องของโดฟลามิงโก้”

 

เซนโงคุได้วางเอกสารลงตรงหน้าพวกเขา ถึงแม้ว่าเขาจะไม่อยากปล่อยตัวโดฟลามิงโก้ที่พึ่งสามารถจับกุมตัวมาได้ แต่ในเมื่อเป็นคำสั่งจากทางรัฐบาลโลก จึงได้แต่จำใจทำตามเท่านั้น

 

สำหรับเซนโงคุแล้ว ไม่ว่าทางรัฐบาลโลกจะมีคำสั่งอะไรลงมา เขาก็จะทำตามอย่างเชื่อฟังโดยไม่คิดที่จะตั้งคำถามเกี่ยวกับมัน

 

ส่วนการ์ป ณ เวลานี้เขากำลังนั่งหลับอยู่บนเก้าอี้ ดูเหมือนว่าเขาจะไม่แยแสเรื่องนี้แม้แต่น้อย ตรงกันข้าม ทางด้านเซเฟอร์ เขากลับดูไม่มีความสุขเลย ก่อนหน้าที่เขาได้โต้เถียงเรื่องนี้กับเซนโงคุมายกใหญ่ ในขณะเดียวกันก็พยายามติดต่อไปยังรัฐบาลโลกเพื่อขอคำอธิบาย แต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้

 

เมื่อเซเฟอร์เห็นว่าไม่ว่าอย่างไรเขาก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงคำสั่งนี้ได้ เขาก็ทำได้เพียงถอนหายใจออกมา และเผยให้เห็นถึงความผิดหวังเล็กน้อยในสายตา ก่อนที่จะไม่กล่าวอะไรออกมาอีก

 

“เอาล่ะ เรื่องของโดฟลามิงโก้พอแค่นี้ก่อน ตอนนี้เรามีเรื่องที่สำคัญกว่าต้องคุยกัน …”

 

เซนโงคุกล่าวด้วยเสียงทุ้มต่ำ ก่อนที่จะหยิบเอกสารขึ้นมาอีกครั้ง พร้อมเผยให้เห็นถึงสีหน้าที่เคร่งขรึม

 

“นี่เป็นเอกสารคำสั่งจากทางรัฐบาลโลก ที่พึ่งได้รับการเซ็นอนุมัติ ว่าจะให้ก่อตั้งระบบใหม่ที่จะขึ้นตรงต่อรัฐบาลโลกและไม่อยู่ภายใต้การควบคุมของกองทัพเรือ ระบบนี้จะรับฟังแต่คำสั่งจากทางรัฐบาลโลกเท่านั้น”

 

“ระบบนี้ มีชื่อว่า ระบบชิชิบุไค”*

 

*(7เทพโจรสลัด)

 

นี่นับว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่จากทางรัฐบาลโลก ที่นอกเหนือจากกองทัพเรือแล้ว ยังมี ‘ขุมพลัง’ อิสระเพิ่มขึ้นมาอีกขุมพลังหนึ่ง มาคานอำนาจกับทางกองทัพเรือ เรื่องนี้ทำให้ท่าทีของ คิซารุ อาคาอินุ และคนอื่นๆเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม

 

เซนโงคุวางเอกสารลงบนโต๊ะ ก่อนที่จะค่อยๆหันไปมองทุกคนที่อยู่ที่นี่แล้วหยุดลงตรงเซเฟอร์ จากนั้นก็ค่อยๆกล่าวอธิบายเกี่ยวกับระบบนี้เพียงสั้นๆ

 

ระหว่างที่เซนโงคุกล่าวอธิบาย เหล่าผู้คนที่อยู่ในห้องต่างก็พากันตกตะลึง

 

“นี่มันเรื่องตลกอะไรกัน!?”

 

เซเฟอร์เป็นคนแรกที่ไม่สามารถระงับสติอารมณ์ของตัวเองได้ เขากระแทกฝ่ามือลงบนโต๊ะด้วยความโกรธจนเกิดรอยแตกเป็นทางยาว ก่อนที่จะลุกขึ้นยืนแล้วกล่าวต่อว่า

 

“โจรสลัดแบบถูกกฏหมาย? ไม่ว่าจะปล้น หรือจัดตั้งกองกำลังเป็นของตัวเองก็ถูกกฏหมาย!? นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน เจ้าพวกรัฐบาลโลกมันคิดอะไรกันอยู่ ฉันไม่เห็นด้วยกับระบบบ้าๆแบบนี้!”

 

“นี่เป็นความต้องการของห้าผู้คุมกฏจริงๆน่ะหรือ?”

 

นอกเหนือจากท่าทีไม่พอใจของเซเฟอร์แล้ว ท่าทีของอาคาอินุก็มืดมนไม่ต่างกัน

 

ภายใต้ระบบ 7 เทพโจรสลัด เหล่าโจรสลัดที่มีชื่อเสียงจะมารวมตัวกันอยู่ภายใต้คำสั่งของรัฐบาลโลก ไม่ว่าจะปล้นหรือทำอะไรที่ผิดกฏหมาย ทางกองทัพจะไม่สามารถออกไปปราบปรามหรือทำอะไรกับพวกมันได้ทั้งนั้น

 

สิ่งเดียวที่7เทพโจรสลัดต้องทำก็คือ เมื่อถูกทางรัฐบาลโลกเรียกตัว พวกมันจะต้องทำตามคำสั่ง และไม่จำเป็นที่จะต้องเห็นหัวคนจากทางกองทัพ

 

โจรสลัดแบบถูกกฏหมาย … นี่มันเรื่องไร้สาระชัดๆ!

 

“นี่เรื่องจริงใช่ไหม … ฉันไม่คิดเลยว่า ..”

 

คิซารุถือเอกสารบนโต๊ะด้วยมือข้างหนึ่ง ก่อนที่จะเอนตัวพิงเก้าอี้ แล้วกล่าวออกมาอย่างจนปัญญา

 

สายตาของอาโอคิยิเปลี่ยนเป็นมืดมน ก่อนที่จะกล่าวด้วยเสียงทุ้มต่ำว่า

 

“รัฐบาลโลก … ต้องการอะไรกันแน่?”

 

เซนโงคุดูเหมือนว่าจะคาดการณ์ไว้ก่อนแล้วว่าทุกคนจะต้องมีท่าทีแบบนี้ เขาจึงหันไปมองทุกคนอย่างสงบก่อนที่จะกล่าวว่า

 

“โลกในปัจจุบันนี้ … ในแกรนไลน์ได้กำเนิดกองกำลังขนาดใหญ่ที่เรียกตัวเองว่าสี่จักรพรรดิขึ้น”

 

“นอกเหนือจากเหล่าสี่จักรพรรดิแล้ว ยังมีกองกำลังอย่างพวกดองกี้โฮเต้แฟมิลี่อีก มันจึงเป็นการยากที่จะรักษาสมดุลของท้องทะเลเอาไว้ได้ด้วยกองกำลังของกองทัพเรือเพียงลำพัง”

 

“กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ ระบบ 7 เทพโจรสลัดนี้จะช่วยลดแรงกดดันให้แก่ทางกองทัพเรือ และเป็นการให้โจรสลัดต่อสู้กับเหล่าโจรสลัดด้วยกันเอง”

 

เซนโงคุกล่าวด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ และได้พยายามอธิบายคำสั่งของรัฐบาลโลกในมุมมองของเขา

 

“ฉันไม่เห็นด้วย!”

 

เซเฟอร์คำรามออกมาด้วยความโกรธ

 

“ที่เป็นแบบนี้ก็เป็นเพราะพวกรัฐบาลโลกไม่สามารถจัดการกับโจรสลัดพวกนั้นได้ เลยต้องการให้พวกมันมาอยู่ในการควบคุมซะเองโดยแลกกับการให้ทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกมันทำถูกกฏหมาย!!”

 

“แต่ถ้าพวกเขาจัดการไม่ได้ แล้วทำไมถึงไม่ให้พวกเราจัดการ! พวกเราเป็นทหารเรือแต่กลับต้องปล่อยผ่านการกระทำผิดกฏหมายของพวกโจรสลัดที่อยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐบาลโลก .. แล้วแบบนี้ตัวอักษร ยุติธรรม ที่อยู่เบื้องหลังเสื้อคลุมของพวกเรามันจะไปมีความหมายอะไร!”

 

การที่มีคำสั่งให้โจรสลัดในระบบ 7 เทพโจรสลัดนั้นสามารถทำทุกอย่างได้อย่างถูกกฏหมาย เป็นสิ่งที่เซเฟอร์รับไม่ได้

 

เซนโงคุจ้องมองไปยังใบหน้าที่เต็มไปด้วยความโกรธของเซเฟอร์ แต่เขาก็ไม่รู้ว่าจะระงับความโกรธนั้นลงได้อย่างไร จึงทำได้เพียงสูดหายใจลึกแล้วกล่าวว่า

 

“เซเฟอร์ .. ทางรัฐบาลโลกได้อนุมัติเรื่องนี้ไปเรียบร้อยแล้ว …”

 

การที่ทางรัฐบาลโลกได้อนุมัติแล้ว … นั่นหมายความว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะลบล้างคำสั่งนี้

 

“อนุมัติไปแล้ว แล้วมันจะทำไม? ปู่คนที่ไม่ยอมรับ! ไม่ยอมรับเรื่องนี้อย่างแน่นอน”

 

ท่าทีของเซเฟอร์ตอนนี้เต็มไปด้วยความโกรธและความเกลียดชัง เขากระแทกฝ่ามือลงบนโต๊ะอีกครั้งจนมันแตกเป็นเสี่ยงๆ ก่อนที่จะหันหลังแล้วเดินออกจากห้องประชุมไปโดยไม่เหลียวกลับมามองอีกเลย

 

ถึงแม้เซเฟอร์จะจากไปแล้ว แต่บรรยากาศคุกรุ่นในห้องประชุมก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะลดลงเลยแม้แต่น้อย

 

ส่วนซึรุ เธอนั้นเห็นด้วยกับข้อเสนอที่ให้จัดตั้งระบบ 7 เทพโจรสลัดนี้ เพราะเธอเข้าใจสถานการณ์ปัจจุบันของท้องทะเลแห่งนี้เป็นอย่างดี จึงไม่ได้กล่าวอะไรออกมา ได้แต่นั่งจิบชาอยู่เงียบๆ

 

เซนโงคุได้จ้องมองไปยังแผ่นหลังของเซเฟอร์ที่พึ่งทำลายโต๊ะลงด้วยความโกรธ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกหลากหลาย ถึงแม้เขาจะรู้อยู่แล้วว่ามันต้องเกิดเหตุการณ์แบบนี้ แต่เขาก็ไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรอยู่ดี

 

หลังจากที่สูดหายใจลึก เซนโงคุก็ไม่ได้ไล่ตามเซเฟอร์ไป แต่เขาหันไปมองการ์ปที่ในเวลานี้ได้ตื่นขึ้นมาแล้ว เพราะเสียงกระแทกโต๊ะของเซเฟอร์

 

“นายได้ยินแล้วสินะการ์ป …”

 

“ไม่ ฉันไม่ได้ยินอะไรเลย”

 

การ์ปหาวออกมา แล้วใช้นิ้วก้อยแคะหูของเขา ก่อนที่จะลุกขึ้นยืนแล้วกล่าวว่า

 

“โอ้จริงสิ ช่วงนี้ฉันอยากจะขอหยุดยาว กลับไปเลี้ยงหลานของฉันที่อีสต์บลู ว่าแล้วก็ขอตัวก่อนนะ”

 

กล่าวจบ การ์ปก็เดินหายออกจากห้องประชุมไปทันที

 

ในห้องประชุมเวลานี้มีเพียงซึรุที่กำลังนั่งจิบชาอยู่ และสามพลเรือเอกที่กำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่างและเผยให้เห็นถึงท่าทีแตกต่างกันออกไป

 

เซนโงคุที่ยืนดูเซเฟอร์และการ์ปเดินจากไปก็ส่ายหัวออกมา ก่อนที่จะถอนหายใจอีกครั้งแล้วนั่งลง พร้อมกับเหลือบลงไปมองเอกสารที่อยู่บนโต๊ะ

 

“มาประชุมกันต่อเถอะ …”

 

“หัวข้อต่อไปก็คือ เราจะเลือกใครมาเป็น 7 เทพโจรสลัดดี และจะมีวิธีคัดเลือกยังไง”