GOS ตอนที่ 125 – หมัดเหล็ก

 

“ระวังให้ดี”

 

โรจาในตอนนี้เต็มไปด้วยความกระปรี้กระเปร่าเมื่อต้องเผชิญหน้ากับการ์ป เขาก็ปรับจิตวิญญาณของเขาให้อยู่ในสภาวที่พร้อมที่สุด หลังจากที่เสียงของโรจาเงียบลง เขาก็ตวัดดาบไปทางการ์ปทันที

 

“เก็ทสึงะ เท็นโช!”

 

ฟุ้ม–!

 

คลื่นรูปจันทร์เสี้ยวได้ระเบิดออกมาจากปลายดาบ พลังอำนาจของมัน หากเทียบกับในตอนการประเมินขอจบการศึกษา นับว่ารุนแรงกว่าเดิมเป็นอย่างมาก

 

ในช่วงเวลาที่เขาประจำการในเขตเวสต์บลู แม้ว่าโรจาจะไม่ค่อยได้ฝึกฝนพละกำลังร่างกาย แต่สำหรับวิชาดาบแล้ว เขาไม่เคยหยุดฝึกเลยแม้แต่วันเดียว

 

การฝึกฝนวิชาดาบของโรจานั้นคือการเน้นเพิ่มความแข็งแกร่งของแขน และความว่องไวในการปลดปล่อยเฉือนนภา เพื่อให้มันสามารถระเบิดประสิทธิภาพออกมาได้ในระดับสูงสุด แต่ใช้ระยะเวลาสั้นลง  และเพื่อการนั้นโรจาจึงมักจะเข้าสู่ห้วงสมาธิเพื่อทำการตระหนักรู้ถึงมัน

 

นั่นทำให้ในปัจจุบันนี้ โรจาสามารถตวัด 1 ดาบซ้อนทับได้ถึง 11 ครั้ง!

 

นอกจากนี้ โรจายังสามารถควบคุมฮาคิสังเกตุได้ดีขึ้นเป็นอย่างมาก ส่วนฮาคิเกราะ เขาสามารถบีบอัดมันลงบนใบหน้า หน้าอก และแม้กระทั่งน่องหรือส่วนต่างๆในร่างกายเขาก็ใช้สามารถใช้โคกะได้ตามต้องการ!

 

แม้ว่าโรจาจะไม่ค่อยได้ตั้งใจฝึกฝนมัน แต่ดูเหมือนว่าจะเป็นเพราะจิตวิญญาณของเขาที่แข็งแกร่งกว่าคนธรรมดาทั่วไป ทำให้การควบคุมฮาคิเกราะนั้นไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขา แต่ ณ เวลานี้ ตราบใดที่เขากลับมาขยันฝึกฝนให้มากกว่ายิ่งเดิม วันหนึ่งเขาก็จะสามารถควบคุมโคกะให้บีบอัดลงในร่างทั้งร่างได้!

 

เมื่อสามารควบคุมฮาคิเกราะได้ดีขึ้น และเมื่อใช้มันบีบอัดลงในวิชาดาบ พลังโจมตีจากการฟาดฟันในแต่ละครั้งจึงรุนแรงเป็นอย่างยิ่ง!

 

วูซ วูซ–!

 

ตามเส้นทางที่คลื่นจันทร์เสี้ยวได้พุ่งผ่าน พลันเกิดรอยลึกบนพื้นดินเป็นทางยาว — นี่เป็นคลื่นพลังที่แม้กระทั่งพลเรือโทระดับกลางก็ยังไม่กล้าที่จะเผชิญหน้าและยากที่จะต้านทานมัน!

 

“วิชาดาบนี่ … แข็งแกร่งขึ้นกว่าครั้งก่อนมากจริงๆ”

 

การ์ปจ้องมองไปยังคลื่นพลังของโรจา และอดไม่ได้ที่จะกล่าวชื่นชมออกมา พร้อมๆกับตอบสนองไปอย่างเรียบง่าย โดยการเหวี่ยงกำปั้นสวนกลับไป

 

ปัง–!

 

กำปั้นของการ์ปนั้นเปรียบดั่งระเบิดเวลา เมื่อมันปะทะกับเก็ทสึงะ เท็นโชของโรจา ก็พลันเกิดแรงระเบิดอันน่าสยดสยองขึ้น จนฉีกกระชากพื้นดินโดยรอบเป็นรอยลึก

 

ภายใต้กำปั้นของการ์ป ในที่สุดเก็ทสึงะ เท็นโชก็แตกสลายไป

 

“ชิส์ ..”

 

เมื่อมองไปยังฉากนี้ มุมปากของโรจาก็กระตุกเล็กน้อย ความรู้สึกที่ได้เผชิญหน้ากับการ์ป ช่างแตกต่างกับความรู้สึกในตอนที่ต้องเผชิญหน้ากับโดฟลามิงโก้จริงๆ

 

พลังของโดฟลามิงโก้นั้นมีหลากหลายรูปแบบ คล้ายๆกับวิชาดาบของโรจาที่มีทั้งเปลวเพลิง เก็ทสึงะ เท็นโช ฯลฯ

 

แต่รูปแบบการโจมตีของการ์ปมีเพียงรูปแบบเดียว

 

นั่นคือใช้กำปั้นโจมตี!

 

สำหรับการ์ปแล้ว เขาไม่จำเป็นต้องใช้วิชาอะไรให้มันยุ่งยาก เพียงหวดกำปั้นออกไปโจมตี แค่นั้นโลกทั้งใบก็ยอมสยบให้แก่เขาแล้ว!

 

อันที่จริงสไตล์การต่อสู้รูปแบบนี้ค่อนข้างเสียเปรียบเป็นอย่างมาก และมันไม่สามารถต้านทานผู้ใช้พลังจากผลปีศาจได้เลย แต่หากผู้ที่ใช้การโจมตีรูปแบบนี้มีพละกำลังมหาศาลแล้วล่ะก็ — สถานการณ์จะพลิกผลันไปโดยสมบูรณ์!

 

‘กำแพงเพลิง!’

 

เมื่อเห็นว่าคลื่นจันทร์เสี้ยวที่ปลดปล่อยออกไปแบบเต็มพลังกลับถูกทำลายลงได้อย่างง่ายดาย โรจาก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเสียเวลาคิดอะไรอีกต่อไป เขารีบปลดปล่อยวิชาดาบอีกวิชาหนึ่งออกไปทันที

 

เมื่อดาบในมือของโรจาถูกวาดออกไป มันก็พลันบังเกิดเสาเพลิงขนาดยักษ์ กวาดออกไปทั่วทุกทิศทาง

 

ในมังงะ เอสหมัดอัคคีนั้นสามารถปลดปล่อยเสาเพลิงขนาดยักษ์ออกมาได้เช่นกัน แต่ระดับความรุนแรงของเปลวเพลิงนั้นแน่นอนว่ายังห่างไกลจากของโรจา เปลวเพลิงของโรจาในขณะนี้ รุนแรงยิ่งกว่าเปลวเพลิงของผลเมระ เมระสายโลเกียเสียอีก!

 

หลังจากที่ระบบจิตวิญญาณแห่งดาบได้วิวัฒนาการมาเป็นขั้นสี่ พลังเปลวเพลิงของโรจาก็รุนแรงขึ้น ไม่ว่าจะเป็นในด้านของอุณหภูมิที่สูงขึ้นหรือระยะที่ไกลขึ้นเป็นอย่างมากหากเทียบกับในช่วงก่อนหน้านี้

 

แต่ในการต่อสู้กับโดฟลามิงโก้ พลังเปลวเพลิงของโรจานั้นยังคงด้อยกว่าพลังของผลปีศาจที่ถูกปลุกให้ตื่นขึ้นอย่างน้อยก็ 1 – 2 ระดับ

 

“หืม … แม้แต่พลังเปลวเพลิงที่มีที่มาอันแปลกประหลาดนี้ก็ยังแข็งแกร่งขึ้นมาก”

 

เมื่อเผชิญหน้ากับเปลวเพลิงที่กำลังกวาดออกไปทั่วทุกทิศทาง การ์ปก็ฉีกยิ้มออกมา พร้อมกับเหวี่ยงกำปั้นทั้งสองออกไปอย่างลวกๆ

 

บิซ—!

 

ภายใต้พละกำลังอันน่าสยดสยอง ได้บังเกิดแรงอัดอากาศขนาดใหญ่ และกวาดเปลวเพลิงที่พุ่งเข้ามาจนมันแตกกระจัดกระจายออกไปทันที

 

เมื่อต้องเผชิญหน้ากับเปลวเพลิง การ์ปก็ยังไม่คิดที่จะใช้ฮาคิเกราะ ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้ที่ร่างกายมนุษย์จะสามารถต้านทานเปลวเพลิงได้ มันจะต้องส่งผลกระทบต่อตัวเขาอย่างแน่นอน

 

แต่ก็เพียงแค่น้อยนิด

 

เมื่องมองไปยังฉากนี้ ท่าทีของโรจาก็ยังคงสงบ เขาไม่คาดหวังว่าความรุนแรงของพลังเปลวเพลิงของเขาในตอนนี้จะสามารถกดดันการ์ปได้ เพียงแค่พลังเปลวเพลิงของเขาสามารถรบกวนสมาธิของการ์ปให้ได้ซัก 10 % แค่นี้ โรจาก็รู้สึกพอใจมากแล้ว

 

หากต้องการให้เปลวเพลิงรุนแรงพอที่จะทำอันตรายแก่การ์ปได้ เขาก็คงจะต้องเสริมความแข็งแกร่งให้ระบบจิตวิญญาณแห่งดาบจนมันวิวัฒนาการเป็นขั้นห้าแล้วปลดปล่อย ริวจินจักกะ ออกมาให้ได้เสียก่อน

 

“บังไค — เซมบงซากุระ คาเงโยชิ!”

 

โรจาปลดปล่อยสวัสดิกะออกมาโดยไม่ลังเลใดๆ และเขายังคงปลดปล่อยเปลวเพลิงพุ่งออกไปโจมตีการ์ปอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน โรจาก็ปล่อยดาบขาวฮิรุในมือ ลงสู่พื้นดิน

 

สำหรับสกิล(วิชาดาบ)ที่เกิดจากดาบฟันวิญญาณนั้น โรจาสามารถปลดปล่อยมันออกมาได้พร้อมกันสูงสุด ไม่สองก็สามท่า แต่ในกรณีนี้ พลังวิญญาณก็จะถูกสูบออกไปเป็นจำนวนมากเช่นกัน  แม้แต่ในตอนที่สู้กับโดฟลามิงโก้ หลังจากที่โรจาใช้งานทั้งบังไคและเปลวเพลิงควบคู่กัน พลังวิญญาณของเขาก็เหือดแห้งจนต้องหยุดใช้พลังเปลวเพลิง

 

แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับการ์ป — เขาไม่จำเป็นที่จะต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้!

 

ฟุ้ม–!

 

ใบดาบขนาดใหญ่จำนวนมากมายนับไม่ถ้วนได้ปรากฏขึ้นเบื้องหลังของโรจา และพริบตาต่อมาพวกมันก็แปรเปลี่ยนเป็นคลื่นกลีบดอกซากุระที่โปรยปรายอยู่บนท้องฟ้า และพากันถาโถมลงไปยังการ์ปที่อยู่ท่ามกลางเปลวเพลิง!

 

“นี่มันอะไรกัน?”

 

การ์ปจ้องมองไปยังคลื่นกลีบดอกซากุระที่กำลังถาโถมเข้ามาพร้อมกับเผยให้เห็นถึงความประหลาดใจเล็กน้อย แม้ว่ามันจะดูเมือนเป็นเพียงแค่กลีบดอกซากุระจำนวนมาก แต่ด้วยฮาคิสังเกตุของเขา การ์ปสามารถสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าแท้จริงแล้วพวกมันคือใบดาบอันแหลมคม!

 

ดูเหมือนว่าการที่โรจาสามารถโค่นโดฟลามิงโก้ลงได้ ก็คงเพราะพลังนี้

 

พลังนี่มันเกิดจากอะไรกันแน่?

 

หรือว่าจะเป็นพลังจากผลซูปะ ซุปะสายพารามีเซีย .. แถมยังถูกปลุกให้ตื่นขึ้นแล้วด้วย?

 

*(ผลใบมีดของMr.1)

 

การ์ปรู้อยู่เต็มอกว่าโรจานั้นครอบครอง ‘พรสวรรค์’ อันแปลกประหลาด และจนถึงขณะนี้เขาก็ยังไม่สามารถคาดเดาได้ว่าแท้จริงแล้ว พลังของโรจานั้นมีจุดกำเนิดมาจากที่ใด อย่างไรก็ตาม ที่การ์ปทำก็ยังเป็นเช่นเดิม เขาเกร็งกำปั้นแน่น และเหวี่ยงมันออกไป!

 

ตูม–!

 

ภายใต้กำปั้นอันทรงพลังของการ์ป คลื่นกลีบดอกซากุระนับแสนนับล้านกลีบพลันถูกเป่ากระเด็นกระจัดกระจายออกไปทุกทิศทาง ฉากนี้ช่างเป็นฉากที่งดงามตระการตาจริงๆ

 

“แม้แต่กลีบดอกซากุระทั้งหมดที่เกิดจากบังไค ได้ถาโถมลงไปโจมตีเพียงจุดเดียว แถมยังบีบอัดฮาคิเกราะลงไปด้วย แต่การ์ปก็ยังใช้เพียงกำปั้นของเขาสยบมันได้?”

 

เมื่อมองไปยังฉากนี้ มุมปากของโรจาก็กระตุกไม่หยุด

 

ผิดปกติ!

 

นี่การ์ปยังเป็นมนุษย์อยู่จริงๆใช่ไหม? ไม่ต้องสงสัยเลยว่าหากการ์ปได้เผชิญหน้ากับโดฟลามิงโก้ ต่อให้โดลามิงโก้สามารถปลุกพลังจากผลปีศาจให้ตื่นขึ้นได้ มันก็ไร้ประโยชน์อยู่ดี เพราะเส้นด้ายทั้งหมดของเขาคงถูกทะลวงด้วยกำปั้นของการ์ป!

 

ไม่จำเป็นที่จะต้องใช้วิธีโจมตีพิเศษใดๆ เพียงแค่ใช้พละกำลังเพียวๆ แล้วระเบิดมันออกไปยังเบื้องหน้า … นี่มันคือพลังของโคตรนักรบที่ใครๆต่างก็ใฝ่ฝันจะครอบครองชัดๆ!

 

หัวใจของโรจารู้สึกสั่นไหว และเกือบอดไม่ได้ที่จะกระอักเลือดออกมาด้วยความอิจฉา

 

“อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่ากำปั้นของการ์ปเมื่อครู่จะเป็นกำปั้นที่เหวี่ยงออกมาแบบเต็มกำลัง”

 

ในความเป็นจริง

 

โรจาคาดเดาได้ถูกต้อง ตั้งแต่เริ่มการต่อสู้ ในตอนที่การ์ปใช้กำปั้นทำลายเก็ทสึงะ เท็นโชเขาไม่ได้ออมแรงเลยแม้แต่น้อย แต่เหวี่ยงกำปั้นออกไปด้วยพละกำลังทั้งหมดที่มี!

 

เพื่อที่จะสยบการโจมตีของโรจาได้อย่างสมบูรณ์แบบ การ์ปจึงต้องปลดปล่อยพลังทั้งหมดที่มีออกมา มิฉะนั้นเขาคงไม่สามารถสร้างผลกระทบได้มากมายถึงขนาดนี้

 

ส่วนเหตุผลที่ทำแบบนั้น เป็นเพราะว่าการ์ปต้องการให้โรจาได้รับรู้ ว่าในโลกใบนี้ยังมีผู้คนอีกมายมากที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าเขา!