GOS ตอนที่ 123 – สมญานาม

 

อึก อึก …

 

หนวดขาวที่กำลังกระดกเหล้าทั้งเหยือกอยู่ เมื่อได้ยินคำพูดที่มัลโก้ตะโกนออกมา เขาก็วางเหยือกลง ก่อนที่คิ้วทั้งสองจะยกสูงขึ้นแล้วกล่าวว่า

 

“จะตื่นเต้นอะไรนักหนา ทหารเรือที่มีความแข็งแกร่งมากพอที่จะโค่นโดฟลามิงโก้ลงได้ก็คงจะเป็นหนึ่งในสามพลเรือเอกนั่นแหละ … ใช่ไหม?”

 

แม้สถานะของโดฟลามิงโก้ะจะด้อยกว่าเหล่าสี่จักรพรรดิ แต่เขาก็เป็นถึงหนึ่งในโจรสลัดที่แข็งแกร่งที่สุดในท้องทะเล แม้กระทั่งตัวหนวดขาวเอง ก็ยังได้ยินชื่อเสียงของโดฟลามิงโก้มาไม่น้อย

 

ตั้งแต่ที่การ์ปไม่ได้ออกปราบปรามโจรสลัดในท้องทะเล และเซนโงคุได้เลื่อนยศเป็นจอมพลเรือ ตามมาด้วยอาโอคิยิ คิซารุ และอาคาอินุ ได้เลื่อนยศเป็นพลเรือเอก ก็แทบจะไม่มีเหตุการณ์ใดๆที่ใหญ่มากพอที่จะสั่นคลอนท้องทะเลแห่งนี้ได้อีกเลย

 

สำหรับหนวดขาว ยุคสมัยของการ์ปและเซนโงคุนั้นเป็นยุคที่รุ่งเรืองที่สุดแล้วของกองทัพเรือ ส่วนสามพลเรือเอกในปัจจุบันนี้นั้นเป็นเพียงเด็กอมมือในสายตาเขาเท่านั้น

 

“ไม่ .. ไม่ใช่พวกเขา”

 

มัลโก้ส่ายหัวแล้วกล่าวต่อว่า

 

“แต่เป็นคนที่ค่อนข้างน่าสนใจเล็กน้อย”

 

“โอ้?”

 

เมื่อได้ยินคำกล่าวของมัลโก้ ท่าทีของหนวดขาวก็เผยให้เห็นถึงความสนใจ

 

เห็นแบบนั้น มัลโก้ก็ยิ้มออกมาแล้วเฉลยออกไปว่า

 

“ทหารเรือที่โค่นโดฟลามิงโก้ลงนั้นคือญาติของการ์ป ชื่อของเขาคือ มังกี้ D โรจา”

 

“โอ้ … ที่แท้ก็ญาติของเจ้าการ์ปนี่เอง”

 

ใบหน้าของหนวดขาวเผยให้เห็นถึงความรู้สึกประหลาดใจ ก่อนที่สายตาของเขาจมลึกลงไปในห้วงความคิด และอดไม่ได้ที่จะพึมพำออกมาว่า

 

“โรเจอร์ เซนโงคุ แล้วก็เจ้าการ์ป …”

 

“นี่ก็ผ่านมาตั้ง 12 ปีแล้ว นับตั้งแต่ช่วงเวลาในตอนนั้น ไม่น่าแปลกที่จะมีทหารเรือที่แข็งแกร่งปรากฏตัวขึ้น เพราะขนาด เจ้าพวกเด็กอมมือที่ครั้งหนึ่งเป็นเพียงลูกเรือของโรเจอร์ก็ยังเติบโตจนกลายเป็นคนที่ยิ่งใหญ่ถึงหลายคน”

 

หนวดขาวพึมพำออกมาเบาๆ ดูเหมือนว่าเขากำลังระรึกถึงช่วงเหตุการณ์ต่างๆในอดีตที่เคยผ่านมา

 

เมื่อได้ยินเสียงพึมพำของหนวดขาว เหล่าโจรสลัดที่นั่งอยู่ข้างๆก็ต่างพากันหยุดดื่ม และหันไปตั้งใจฟังหนวดขาวและมัลโก้อย่างเงียบๆ

 

ในปัจจุบันนี้ บางทีคงมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่แข็งแกร่งมากพอที่จะสร้างปัญหาให้แก่หนวดขาวได้ และหนึ่งในนั้นก็คือเจ้าเด็กอมมือที่ครั้งหนึ่งเป็นเพียงลูกเรือของโรเจอร์ นามของเขาก็คือ หนึ่งในสี่จักรพรรดิ แชงคูสผมแดง

 

“การที่สามารถโค่นโดฟลามิงโก้ลงได้ เจ้าปีศาจน้อยจากกองทัพเรือก็คงจะเป็นคนที่โดดเด่นไม่เบา … อย่างไรก็ตาม หากมันคิดที่จะครอบครองท้องทะเลในโลกใบนี้แล้วล่ะก็ … มันยังคงเร็วเกินไป”

 

เมื่อกล่าวถึงจุดนี้ หนวดขาวก็ฉีกยิ้มออกมา พร้อมๆกับท้องฟ้าที่จู่ๆก็พลันมืดมัว เมฆเบื้องบนเริ่มแยกออกจากกัน เนื่องจากจิตคุกคามได้ถูกปลดปล่อยออกมา

 

“นั่นสิ มันยังคงเร็วเกินไป”

 

มัลโก้ที่ยืนอยู่ข้างหนวดขาวก็ยิ้มออกมาเช่นกัน

 

ส่วนโจสและคนอื่นๆบนเรือรบต่างก็พากันยิ้มออกมา นี่ไม่ใช่เพียงรอยยิ้มธรรมดาๆ แต่มันเป็นรอยยิ้มที่เผยให้เห็นถึงความมั่นใจในฝีมือของตนเอง!

 

ปีศาจน้อยได้ปรากฏตัวขึ้นในกองทัพเรือ ก็แล้วอย่างไรเล่า?

 

พวกเขานั้นเป็นถึงกลุ่มโจรสลัดหนวดขาว แม้แต่สี่จักรพรรดิคนอื่นๆก็ยังยอมรับว่าพวกเขานั้นแข็งแกร่งเป็นอันดับหนึ่ง แม้แต่พวกดองกี้โอเต้แฟมิลี่ก็ยังไม่อยู่ในสายตาพวกเขา และหากพวกเขาต้องการ ก็สามารถทำลายล้างพวกมันให้หายไปเมื่อไหร่ก็ย่อมได้

 

เหนือกว่าโดฟลามิงโก้นั้นยังมีเหล่าสี่จักรพรรดิ!

 

ในโลกใบนี้ ยังมีคนที่แข็งแกร่งอยู่อีกมากมาย โดฟลามิงโก้เป็นเพียงแค่หนึ่งในตัวตนเหล่านั้นเท่านั้น!

 

ปัจจุบันโรจาได้กลายเป็นหนึ่งในคนที่กลุ่มโจรสลัดหนวดขาวกำลังให้ความสนใจ

 

ยกเว้นก็แต่หนวดขาว เพราะในสายตาองเา โรจาที่พึ่งปรากฏตัวึ้นมานั้นยังไม่โดดเด่นเท่ากับ อาโอคิยิ อาคาอินุ และคิซารุ  นาดสามพลเรือเอก หนวดก็ยังมองพวกเาเป็นเพียงแค่เด็กอมมือ ส่วนโรจานั้นไม่ต้องกล่าวถึง

 

 

แม้ว่าความแข็งแกร่งของโดฟลามิงโก้จะด้อยกว่าสี่จักรพรรดิในนิวเวิลด์ แต่ในเรื่องธุรกิจโลกใต้ดินเขานั้นเป็นบุคคลทีมีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก!

 

แต่ชื่อเสียงของโรจาในโลกใต้ดิน ในเวลานี้มันได้ก้าวข้ามชื่อเสียงองดองกี้โฮเต้แฟมิลี่ และก้าวข้ามโดฟลามิงโก้ซึ่งเป็นหนึ่งในโจรสลัดที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกไปเรียบร้อยแล้ว

 

แม้เขาจะยังไม่ได้ทำอะไรเลยบนท้องทะเลแกรนไลน์ แต่โรจาก็ได้ทำให้ทั่วทั้งแกรนไลน์สั่นสะเทือนไปแล้ว!

 

ซึ่งมิใช่การสั่นสะเทือนเพียงแค่ครั้งเดียว แต่มันมากถึงสองครั้ง!

 

ในฐานะที่เป็นตัวตนสำคัญที่ทำให้เกิดเกตุการณ์ในครั้งนี้ จึงทำให้ไม่มีใคร ไม่รู้จักชื่อของโรจา

 

และไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ผู้คนต่างพากันตั้งสมญานามให้แก่เข

 

ดาบภูติ

 

ภูติที่ว่านี่ไม่ได้หมายถึงภูติผีปีศาจ แต่หมายถึงวิชาดาบที่โรจาใช้นั่นเอง

 

หลังจากนั้น สมญานามนี้ก็แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็วทั่วท้องทะเล

 

แม้กระทั่งเหล่าพลเรือโทในกองทัพเรือ ก็ยังมีน้อยคนนักที่จะได้รับสมญานามเป็นของตัวเอง และได้รับการยอมรับจากผู้คนนับไม่ถ้วน

 

มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นในกองทัพเรือที่ได้รับสมญานาม ตัวอย่างเช่น ..

 

การ์ป หมัดเหล็ก จ้าวกลยุทธ์เซนโงคุ จอมวางแผนซึรุ และแขนดำเซเฟอร์ …

 

แต่ละคนที่ครอบครองสมญานาม ล้วนแล้วแต่เคยสร้างความตกตะลึงไปทั่วท้องทะเลและต่างเป็นชื่อที่โจรสลัดนับไม่ถ้วนให้ความยำเกรง!

 

แม้ว่าในสายตาของหลายๆคน โรจานั้นยังหนุ่มเกินไป และยังอ่อนแอเมื่อเทียบกับการ์ป เซนโงคุ และคนอื่นๆแต่โรจานั้นมีความแข็งแกร่งที่แสนจะทรงพลังตั้งแต่ยังหนุ่ม ดังนั้นตราบใดที่เขายังไม่พ่ายแพ้เขาก็จะปีนป่ายขึ้นไปสู่จุดสูงสุดได้ในอนาคต!

 

หนึ่งในเหล่าคนที่แข็งแกร่งที่สุดบนท้องทะเล จะต้องมีชื่อของโรจาอยู่ในนั้น!

 

ในเวลานี้ โรจา ซึ่งเป็นตัวการที่ก่อให้เกิดพายุกำลังกลับไปยังศูนย์ใหญ่มารีนฟอร์ดด้วยเรือรบของการ์ป

 

โรจามาประจำการเป็นผู้บัญชาการฐานที่ 1 เขตทะเลเวสต์บลู แม้จะน้อยกว่าครึ่งปี ซึ่งเป็นเวลาอันแสนสั้น แต่เขากลับสร้างความประทับใจให้แก่เหล่าทหารเรือมากกว่าผู้บัญชาการฐานคนก่อนเสียอีก

 

โดยเฉพาะทหารเรือในฐานสาขาที่ 1 ที่ได้ประทับความทรงจำเกี่ยวกับโรจาลึกลงไปในจิตใจ

 

หลังจากที่โรจาได้จากไป เหล่าทหารเรือในฐานสาขาที่ 1 ต่างก็เริ่มพากันฝึกฝนและพยายามยกระดับความแข็งแกร่งของตัวเอง เพื่อที่จะได้ก้าวเข้าสู่แกรนไลน์และเดินตามรอยของโรจาเพื่อสร้างชื่อเสียงให้แก่ตน!

 

 

บนเรือรบ

 

ในห้องพักชั้นบนสุด การ์ปกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้พร้อมกับกำลังแกะถุงอะไรบางอย่างอยู่ ขณะที่ โรจากำลังนั่งอยู่ตรงข้ามกับเขาพร้อมกับยกชาขึ้นมาจิบ

 

บนโต๊ะที่คั่นกลางระหว่างทั้งสอง มีเอกสารวางอยู่

 

ซึ่งไม่มีใครรู้ว่ามันมาวางอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่


การ์ปยัดขนมเซมเบ้ลงในปาก ก่อนที่จะหยิบเอกสารบนโต๊ะขึ้นมาอ่าน แล้วยิ้มออกมาพร้อมกับกล่าวว่า

 

“โรจา ความวุ่นวายราวกับพายุคลั่งที่แกเป็นคนก่อขึ้นในครั้งนี้ ไม่ใช่เรื่องเล็กๆเลย และดูเหมือนว่าข่าวพวกนี้คงไม่มีทางจางหายไปในระยะเวลาอันสั้น จากนี้ไปเหล่าศัตรูที่แกจะต้องเผชิญ คงจะแข็งแกร่งยิ่งกว่าโดฟลามิงโก้ … เตรียมตัวเตรียมใจเอาไว้ให้ดีด้วยล่ะ”

 

“นั่นแหละที่ผมต้องการ”

 

โรจากล่าวพร้อมกับยิ้มให้การ์ป มันเป็นรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความมั่นใจและความภูมิใจในฝีมือของตน

 

ระหว่างการต่อสู้กับโดฟลามิงโก้ อาการบาดเจ็บของโรจาค่อนข้างสาหัส แต่มันก็ยังเล็กน้อยเมื่อเทียบกับโดฟลามิงโก้ และหลังจากพักฟื้นไม่กี่วัน โรจาก็กลับมาฝึกฝนได้ตามปกติ

 

ผู้คนในโลกวันพีช ส่วนใหญ่จะมีร่างกายที่แข็งแกร่ง ต่อให้พวกเขาเป็นเพียงคนธรรมดาก็ตาม  บางทีต่อให้ถูกดาบฟันใส่ หนังหลุดลอก หรือเกิดบาดแผลขนาดใหญ่จนเลือดสาดกระเซ็น พวกเขาก็สามารถฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว ยิ่งโรจาที่มีศักยภาพร่างกายมากกว่าคนปกติ ยิ่งไม่ต้องกล่าวถึง

 

จุดสำคัญของการต่อสู้ในครั้งล่าสุดนี้ก็คือ หลังจบการต่อสู้ โรจาเหลือพลังงานร่างกายอยู่เป็นจำนวนมาก แต่พลังวิญญาณของเขานั้นถูกใช้ไปจนเกือบหมด หากเขาต่อสู้ยืดเยื้อไปมากกว่านี้ บางทีสุดท้ายแล้วพลังวิญญาณของเขาอาจจะหมดลง และเป็นฝ่ายแพ่ายแพ้เสียเอง

 

หลังจากการต่อสู้ในครั้งนี้ ทำให้โรจาตัดสินใจจำกัดการใช้พลังวิญญาณของเขา เพื่อที่เขาจะได้สามารถนำมันมาใช้ในการต่อสู้ได้เมื่อยามจำเป็น

 

ในเวลาเดียวกันเขาก็สามารถคาดคะเนได้ในที่สุดว่าความแข็งแกร่งของเขาในเวลานี้อยู่ในระดับไหน

 

ปัจจุบันเขาสามารถโค่นโดฟลามิงโก้ลงได้ แม้ว่าจะได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่เขาก็สามารถเอาชนะได้โดยไม่จำเป็นต้องมีคนช่วยเหลือ!

 

นั่นหมายความว่า ความแข็งแกร่งของเขาในตอนนี้อยู่ในระดับ ‘กึ่งพลเรือเอก’

 

กึ่งพลเรือเอก

 

เป็นความแข็งแกร่งที่อยู่ในระดับพลเรือโทระดับสูง แต่ยังคงมีความห่างชั้นกับยศพลเรือเอกอยู่มากโข

 

ความแข็งแกร่งของโรจาในตอนนี้ถึงแม้จะไม่สามารถบดขยี้พลเรือโทระดับสูงได้โดยสมบูรณ์ แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับยศพลเรือเอก เขาก็จะไม่พ่ายแพ้ในระยะเวลาสั้นอย่างแน่นอน