GOS ตอนที่ 118 – พลังปีศาจถูกปลุกให้ตื่นขึ้น!

 

วิซ วิซ—!

 

เมื่อรู้ว่ากลีบดอกซากุระที่กำลังโปรยปรายอยู่ แท้จริงแล้วมีความคมราวกับใบดาบ โดฟลามิงโก้จึงไม่กล้าที่ประมาทมันอีกต่อไป และเลือกที่จะหลบเลี่ยงมันอยู่ตลอดเวลา พร้อมๆกับเริ่มโจมตีสวนไปยังร่างของโรจาอีกครั้ง

 

“สมแล้วจริงๆที่โดฟลามิงโก้นั้นได้รับการขนานนามว่าเป็นโจรสลัดที่มีชื่อเสียง …”

 

เมื่อเห็นว่าโดฟลามิงโก้สามารถค้นพบจุดอ่อนของเซมบงซากุระได้อย่างรวดเร็ว และโจมตีสวนกลับมาแทบจะในทันที โรจาก็แทบจะไม่แปลกใจเลย ตรงกันข้าม เขากลับถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก โดฟลามิงโก้นั้นเหมาะสมที่จะเป็นคู่ต่อสู้ของเขาอย่างแท้จริง พรสวรรค์ในการต่อสู้ของโดฟลามิงโก้นั้นสูงส่งอย่างแน่นอน!

 

เพราะเขาสามารถค้นพบจุดอ่อนของเซมบงซากุระซึ่งเป็นสกิลของเหล่ายมทูตได้อย่างรวดเร็ว

 

จุดอ่อนข้อแรกนั้นคือ หลังจากที่ใบดาบถูกแปรเปลี่ยนเป็นกลีบดอกซากุระจำนวนมาก พลังโจมตีของมันก็ลดลง .. อย่างไรก็ตามปัญหานั้นสามารถแก้ได้ด้วยการบีบอัดฮาคิเกราะเข้าไป

 

จุดอ่อนข้อที่สองก็คือ หลังจากที่ปลดปล่อยเซมบงซากุระออกไปแล้ว โรจาจะเหลือเพียงด้ามดาบที่ว่างเปล่าในมือ และร่างที่ไร้ซึ่งอาวุธของเขานั่นแหละคือจุดอ่อน!

 

วิซ—!

 

อย่างไรก็ตาม ความว่องไวของโรจาก็ไม่นับว่าเลวร้าย เขานั้นได้ใช้โซลและเก็ปโปเพื่อหลบหลีกการโจมตีของโดฟลามิงโก้ พร้อมๆกับควบคุมกลีบดอกซากุระ ที่ล่อยลอยอยู่โจมตีไปยังโดฟลามิงโก้เช่นกัน

 

ร่างของทั้งสองกระพริบไปมาอย่างรวดเร็ว บางครั้งก็ปรากฏตัวขึ้นบนท้องฟ้า บางครั้งก็กลับมาบนพื้นดิน โดยมีกลีบดอกซากุระอันงดงามที่กำลังโปรยปรายอยู่เป็นฉากหลัง

 

สิ่งที่น่าหวาดกลัวที่สุดสำหรับโดฟลามิงโก้ก็คือ ทุกๆกลีบดอกซากุระที่พุ่งเข้าโจมตีเข้ามา นอกจากลุกไหม้ไปด้วยเปลวเพลิงแล้ว มันยังเป็นกลีบดอกซากุระสีดำหมึก!

 

หากเมื่อครู่โดฟลามิงโก้สามารถกดดันโรจาได้อย่างสมบูรณ์ แต่บัดนี้ทุกอย่างกลับพลิกผัน! เพราะในเวลานี้กลับกลายเป็นเขาเสียเองที่กำลังถูกกดดันโดยโรจา!

 

เพียงชั่วระยะเวลาสั้นๆ ร่างของโดฟลามิงโก้ก็เริ่มที่จะมีบาดแผลปรากฏขึ้นตามตัวมากขึ้น ขณะที่เสื้อขนสัตว์สีชมพูของเขาถูกเฉือนจนขาดวิ่น

 

ถึงแม้เขาจะไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรมากมาย … แต่แบบนี้มันช่างน่าอับอายยิ่งนัก!

 

“บัดซบ! กลีบดอกซากุระพวกนี้มันแปลกจริงๆ ตกลงว่ามันเป็นพลังของผลปีศาจชนิดไหนกันแน่?”

 

ภายใต้กลีบดอกซากุระที่กำลังโปรยปรายและพุ่งเข้าเชือดเฉือนอย่างต่อเนื่อง โดฟลามิงโก้ทำได้เพียงหลบเลี่ยงมันอยู่ตลอดเวลา แต่ก็จะมีบ้างราวๆสามสี่กลีบที่เขาไม่สามารถหลบได้อย่างสมบูรณ์ จนในตอนนี้ เขาจำเป็นต้องใช้ฮาคิเกราะบีบอัดลงไปยังแขนทั้งแขนแล้วเหวี่ยงกำปั้นออกไปปัดป้องมัน

 

แต่ก็ยังมีกลีบดอกซากุระหลุดรอดการปัดป้องของเขามาได้อยู่ดี มันได้พุ่งเข้าเชือดเฉือนเขาจนเกิดบาดแผลและฉีกกระชากเสื้อของเขาจนขาดวิ่น

 

เมื่อเทียบกับร่างของโรจาที่อยู่ห่างออกไปในขณะนี้ ซึ่งมีเพียงรอยเลือดแห้งๆจากการโจมตีของเขาก่อนที่โรจาจะใช้เซมบงซากุระแล้วนั้น มันแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

 

จากเริ่มแรกที่โดฟลามิงโก้สามารถควบคุมสถานการณ์ได้โดยสมบูรณ์ กลับค่อยๆพลิกผันกลายเป็นเขาที่กำลังถูกกดดันเสียเอง นี่เป็นสิ่งที่โดฟลามิงโก้ไม่อาจคาดคิดได้เลยจริงๆ

 

โดฟลามิงโก้อดไม่ได้ที่จะสูดหายใจลึก ก่อนที่เขาจะร่อนจากกลางอากาศลงมาสู่พื้นดิน พร้อมๆกับท่าทีที่เปลี่ยนเป็นเย็นเยียบ

 

“ฉันต้องขอบอกว่าฝีมือแกช่างน่าทึ่งจริงๆ… ถึงแม้ฉันจะไม่รู้ว่าพลังนี้มาจากผลปีศาจชนิดไหน แต่แกสามารถใช้มันสู้ได้อย่างน่าประทับใจจริงๆ”

 

เมื่อกล่าวถึงจุดนี้ โดฟลามิงโก้ก็เงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนที่ใบหน้าของเขาจะปรากฏรอยยิ้มที่ดูชั่วร้ายขึ้นมาอีกครั้ง ซึ่งภายใต้รอยยิ้มชั่วร้ายนี้มันยังคงแฝงไว้ซึ่งความหยิ่งผยอง

 

“แต่ถ้าแกคิดว่าด้วยพลังเพียงเท่านี้ ก็สามารถที่จะเอาชนะฉันได้แล้วล่ะก็ .. แกคิดผิด! ในโลกใบนี้ยังมีพลังอีกมามายที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าที่แกเคยจินตนาการเอาไว้เสียอีก!”

 

เมื่อกล่าวจบ

 

ร่างของโดฟลามิงโก้ก็พลันปลดปล่อยกลิ่นอายแปลกๆออกมา และเริ่มแพร่กระจายออกไปทั่วทั้งฐานทัพที่กลายเป็นซากปรักหักพัง

 

เงียบ .. ทุกสิ่งจมลงสู่ความเงียบ

 

ทันใดนั้นเอง ตึกที่อยูู่ภายในฐานทัพก็เริ่มบิดเป็นเกลียวก่อนที่จะกลายเป็นเส้นด้ายมากมายนับไม่ถ้วน และภายใต้การควบคุมของโดฟลามิงโก้คลื่นเส้นด้ายจำนวนมหาศาลก็โถมไปยังโรจาทันที!

 

“เอเวอร์ไวท์ — ธนูพันดอก!”

 

ทันใดนั้น พลันปรากฏเส้นด้ายนับหมื่นที่บิดกันเป็นเกลียวคลื่นปลายแหลม จากนั้นพวกมันก็โถมเข้าหาโรจาอย่างรวดเร็ว พร้อมกับปลดปล่อยแรงกดดันอันมหาศาลออกมาขนาดที่ว่าแม้แต่เหล่าทหารเรือที่ล่าถอยออกไปยังเกาะที่อยู่ห่างไกลออกไปก็ยังสัมผัสได้ถึงมัน

 

คลื่นเส้นด้ายสีขาวนับหมื่นเส้น ได้กวาดกลีบดอกซากุระที่กำลังโปรยปรายอยู่รอบๆอย่างบ้าคลั่ง และกลืนกินมันลงไปโดยสมบูรณ์

 

เมื่อมองไปยังฉากนี้ โรจาก็รีบกระโดดหลบคลื่นเส้นด้ายที่พุ่งเข้ามา ก่อนที่จะเว้นระยะห่างจากมัน ขณะเดียวกันดวงตาของเขาก็เป็นประกายพลางจ้องมองดูคลื่นเส้นด้ายตรงหน้า

 

“นี่มัน … พลังของผลปีศาจ … ได้ถูกปลุกให้ตื่นขึ้น?”

 

“ฟุฟุฟุฟุฟุฟุ ดูเหมือนว่าแกจะรู้อะไรบางอย่างมาสินะ ..”

 

โดฟลามิงโก้แลบลิ้นออกมาเลียเลือดแห้งๆอยู่อยู่บนแก้มของเขา พร้อมกับเผยให้เห็นรอยยิ้มที่ดูชั่วร้าย และค่อยๆก้าวเข้าไปหาโรจาที่ยืนอยู่ห่างออกไปเบื้องหน้าเขา

 

ระหว่างทาง ตึกใดก็ตามที่โดฟลามิงโก้เดินผ่าน มันจะถูกแปรเปลี่ยนให้เป็นเส้นด้ายสีข้าวจำนวนนับไม่ถ้วน!

 

พลังจากผลปีศาจของโดฟลามิงโก้ได้ถูกปลุกให้ตื่นขึ้นแล้ว!

 

พลังนี้เป็นพลังที่อยู่นอกเหนือจากพลังปกติของผลปีศาจ มันเป็นการใช้พลังจากผลปีศาจในระดับสูง! ท้องทะเลในโลกวันพีชนั้นมีผู้ใช้พลังจากผลปีศาจมากมาย แต่มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่จะสามารถปลุกพลังของมันให้ตื่นขึ้น! และสามารถแปรเปลี่ยนสภาพแวดล้อมรอบๆตัวเขาได้!

 

เช่นเดียวกับที่โดฟลามิงโก้กำลังทำอยู่ในตอนนี้ เขาไม่ได้ปลดปล่อยเส้นด้ายออกมาจากร่างกายเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป แต่เขาได้แปรเปลี่ยนทุกสิ่งให้กลายเป็นเส้นด้ายจำนวนนับไม่ถ้วน!

 

ตูม ตูม ตูม—!

 

ซากปรักหักพังภายในฐานสาขาที่ 1 ได้แปรเปลี่ยนไปเป็นเส้นด้ายภายใต้การควบคุมของโดฟลามิงโก้ ทำให้ทั่วทั้งพื้นที่บริเวณนี้เต็มไปด้วยคลื่นเส้นด้ายอันไร้ที่สิ้นสุด และเริ่มก่อตัวกันกลายเป็นคลื่นขนาดยักษ์พร้อมกับถาโถมเข้าใส่โรจาอย่างบ้าคลั่ง

 

จำนวนกลีบดอกซากุระนั้นน้อยกว่าเส้นด้ายพวกนี้มากมายนัก มันเยอะจนเรียกได้ว่าสามารถกลืนกินฐานทั้งฐานลงไปได้เลย หากเป็นเพียงเส้นด้ายที่มัดรวมกันสามสี่เส้น เซมบงซากุระของโรจาก็ยังพอที่จะสะบั้นมันลงได้ แต่หากมัดรวมกันจนบิดเป็นเกลียวหลายพันหลายหมื่นเส้นแล้วล่ะก็ …

 

ตึกทั้งหลายภายในฐานได้กลายเป็นเส้นด้าย หากมองดูจากระยะไกล จะดูเหมือนว่าตึกสีขาวกำลังเต้นระบำอย่างบ้าคลั่ง ราวกับงูขาวขนาดยักษ์ที่กำลังโกรธแค้นและต้องการที่จะทำลายล้างโลกทั้งใบ!

 

ทำลายทิ้งซึ่งทุกสิ่งอย่าง!

 

“นี่ .. นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน ..”

 

“ฐานทัพของพวกเรา ..”

 

เหล่าทหารเรือที่อยู่ไกลออกไป เมื่อมองไปยังฉากนี้ พวกเขาก็เผยให้เห็นท่าทีตื่นตระหนกและตกตะลึง! การที่จู่ๆตึกภายในฐานก็ถูกแปรเปลี่ยนให้เป็นเส้นสีขาวจำนวนนับไม่ถ้วน มันมหัศจรรย์มากเกินกว่าที่พวกเขาจะสามารถทำความเข้าใจได้

 

“นี่น่ะหรือ ความแข็งแกร่งของโดฟลามิงโก้? มันจะน่าหวาดกลัวเกินไปแล้ว ..”

 

หน้าผากของหัวหน้าสาขาไทกะเต็มไปด้วยเหงื่อเย็นเยียบที่กำลังไหลพราก สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความว่างเปล่าขณะที่กำลังจ้องมองไปยังงูยักษ์สีขาวที่อยู่ไกลออกไป

 

แม้พวกเขาจะอยู่ห่างไกล แต่ก็ยังสามารถมองเห็นงูยักษ์ตัวนั้นในขนาดมหึมาได้อยู่ดี ซึ่งหากเป็นพวกเขาที่เข้าไปยืนอยู่แทนที่ ก็คงจะเห็นเป็นแค่เพียงจุดดำเล็กๆเท่านั้น!

 

เมื่อมองไปยังโดฟลามิงโก้ที่ได้เผยให้เห็นถึงความแข็งแกร่งอันนน่าสยดสยองแบบเต็มกำลัง หัวใจของเหล่าทหารเรือต่างก็พากันจมลงสู่ความสิ้นหวัง และอดไม่ได้ที่จะเผยให้เห็นถึงความตึงเครียดที่กำลังพุ่งสูงขึ้น จนมิอาจปกิดความกังวลและความตื่นกลัวเอาไว้ได้

 

“ความแข็งแกร่งอันน่าสยดสยองขนาดนี้ … ท่านผู้บัญชาการฐานโรจาจะสามารถรับมือกับมันได้จริงๆน่ะหรือ?”

 

หัวใจของทุกคนต่างเต้นระรัวราวกับกลองชุด

 

ก่อนที่ฐานทั้งหมดจะพังทลายลง พวกเขายังเห็นเปลวเพลิงที่ลุกโชดช่วงอยู่เลย นั่นจึงทำให้ภายในจิตใจของพวกเขารู้สึกว่าโรจาคงจะสามารถต่อกรกับโดฟลามิงโก้ได้

 

แต่ตอนนี้! หลังจากที่โดฟลามิงโก้สามารถปลุกพลังของผลปีศาจให้ตื่นขึ้นมาได้ หัวใจของพวกเขาก็จมลงสู่ความสิ้นหวังโดยสมบูรณ์ตามไปเช่นกัน

 

พลังอันน่าสยดสยองแบบนี้ มนุษย์คนใดกันเล่าถึงจะสามารถต้านทานมันได้?