GOS ตอนที่ 107 – โจมตี

 

เมื่อนึกถึงเรื่องของลูฟี่ โรจาก็อดที่จะคิดไม่ได้ว่าบางทีในเวลานี้ 1ใน4 จักรพรรดิแชงคูสผมแดง อาจจะออกจากครึ่งหลังของแกรนไลน์แล้วไปยังหมู่บ้านฟูฉะ ในเขตทะเลอีสต์บลู เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้ลูฟี่อยากจะเริ่มผจญภัยในท้องทะเลในฐานะโจรสลัดแล้วก็ได้

 

“ฉันควรจะต้องไปเตือนลุงการ์ปดีไหมนะ ว่าให้เขากลับไปยังเขตทะเลอีสต์บลูเพื่อที่จะได้หยุดแชงคูส จากนั้นลูฟี่ก็จะไม่ได้พบกับแชงคูส และไม่มีแรงบันดาลใจที่อยากจะเป็นโจรสลัด … อ่า .. การที่สามารถเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ในโลกใบนี้ได้โดยการกระทำเพียงเล็กน้อยนี่มันช่างรู้สึกดีจริงๆ”

 

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้โรจาก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาเบาๆ แล้วกล่าวด้วยท่าทีสบายๆว่า

 

“น่าเสียดาย แทนที่จะทำอะไรที่เหมือนกับการวางแผนแบบนั้น ฉันชอบใช้ความแข็งแกร่งสยบทุกสิ่ง และเปลี่ยนโลกให้เป็นไปตามที่ฉันต้องการมากกว่า”

 

โรจาลุกขึ้นยืน ก่อนที่จะบิดขี้เกียจและหยิบดาบขาวฮิรุที่วางอยู่ใกล้ๆขึ้นมา

 

เขาได้ทำให้โฮโนสึกะหายไปจากโลกใบนี้ตลอดกาลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

 

โฮโนะสึกินั้นอยู่กับเขามาตั้งแต่เขายังเป็นแค่เพียงคนอ่อนแอ เวลานี้ใบดาบของมันได้รับความเสียหายในระดับหนึ่ง และดูเหมือนว่าโครงสร้างภายในของมันกำลังเสื่อมสภาพ หากตลอดเวลาที่ผ่านมา เขาไม่ได้ใช้ฮาคิเกราะบีบอัดลงไปแล้วล่ะก็ เกรงว่าใบดาบคงจะแตกสลายไปตั้งนานแล้ว

 

โรจาไม่สามารถซ่อมแซมมันได้ เขาไม่คิดที่จะใช้งานมันหรือมอบให้กับใครอีก ดังนั้นเขาจึงโยนมันลงสู่ก้นทะเล เพื่อให้มันได้พักผ่อนเสียที

 

ในอนาคตต่อจากนี้ ในโลกวันพีช 21ดาบชั้นยอดจะไม่มีอยู่อีกต่อไป และจะเหลือเพียง 20 ดาบชั้นยอด ที่ไร้ซึ่งโฮโนะสึกิ

 

ปัจจุบันนี้ดาบคู่กายของโรจาได้กลายเป็นดาบขาวฮิรุ 1 ใน 12ดาบชั้นเลิศ หากเปรียบเทียบกับโฮโนะสึกิ ดาบเล่มนี้ดีกว่ามาก

 

ไม่ว่าโรจาจะใช้พลังเปลวเพลิง ใช้เก็ทสึงะ เท็นโช ก็ไม่น่าจะสร้างความเสียหายให้กับใบดาบ และมันคงสามารถต้านทานหรือรองรับทุกสกิลในระบบจิตวิญญาณแห่งดาบของเขาได้

 

การที่จู่ๆเขาก็ได้ครอบครองดาบเล่มนี้ ทำให้โรจาอารมณ์ดีเป็นอย่างมาก

 

เพียงแต่เมื่อคิดว่าตอนนี้ระบบจิตวิญญาณแห่งดาบของเขาได้วิวัฒนาการมาจนถึงขั้นสี่ และเมื่อมันไปถึงขั้นห้าจนสามารถปลดปล่อยริวจินจักกะได้แล้วล่ะก็ … หลังจากที่ใช้ปลดปล่อยชิไคซึ่งมีอุณหภูมิร้อนแรงถึง 6000 องศาและมีอุณหภูมิพอๆกับพื้นผิวของดวงอาทิตย์ ซึ่งเปลวเพลิงขนาดนี้มันคงไม่ใช่แค่หลอมละลายใบดาบธรรมดาๆที่ทำจากเหล็ก แต่มันคงทำให้ใบดาบระเหยหายไปเลย …

 

ต่อให้เป็นดาบขาวฮิรุ โรจาเกรงว่า หากเขาไม่ควบคุมเปลวเพลิงให้ดี บางทีมันคงยากเกินไปที่จะทนรับพลังอำนาจขนาดนั้น ไม่ใช่ว่า 12 ดาบชั้นเลิศนั้นไม่ดี แต่เป็นเพราะพลังริวจินจักกะนั้นแข็งแกร่งเกินไปต่างหาก!

 

พลังอำนาจของมันมหาศาลจนยากที่จะรองรับไหว

 

เมื่อดูจากวัสดุที่ใช้สร้างดาบเล่มนี้แล้ว โรจาไม่มั่นใจเลยว่าฮิรุจะทนรองรับมันได้ไหวจริงๆรึเปล่า

 

 

พริบตาเดียวเวลาก็ล่วงเลยไปอีกสองวัน

 

ช่วงเวลานี้ความวุ่นวายในโลกใต้ดินในเขตทะเลเวสต์บลูก็ค่อยๆลดลง ไม่มีกองกำลังใต้ดินใดตื่นตระหนกอีก พวกมันเลือกที่จะอยู่เงียบๆ และไม่คิดที่จะเผชิญหน้ากับทางกองทัพเรือ

 

เหล่าตัวแทนกองกำลังใต้ดินที่ถูกจับก็ยังคงเงียบเช่นกัน พวกมันเลือกที่จะอยู่เฉยๆและรอ .. รอดูว่าดองกี้โฮเต้แมิลี่คิดจะทำอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องนี้

 

การที่กองกำลังใต้ดินไม่กล้าออกมาเผชิญหน้ากับกองทัพเรือตรงๆ ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะ ทางดองกี้โฮเต้ยังไม่กระทำการใดๆเลย แต่พวกมันคิดว่าหากดองกี้โฮเต้ลงมือจริงๆแล้วล่ะก็ ฐานทัพเรือสาขาที่ 1 ก็คงจะไม่สามารถต่อกรได้

แม้ความวุ่นวายในโลกใต้ดินเขตเวสต์บลูจะค่อยๆลดลง แต่นั่นก็เป็นเพราะหลายคนเริ่มใจเย็นลงและเลือกที่จะเฝ้าดูพายุครั้งใหญ่ที่กำลังจะเกิดขึ้น!

 

สิ่งที่พวกเขาทำได้ก็เพียงแค่เฝ้าดู เฝ้าดูฐานทัพเรือสาขาที่ 1 เขตทะเลเวสต์บลู … ถูกทำลาย!

 

 

ณ เกาะบานาร์

 

ในขณะนี้ อาวุธ และทรัพยากรทั้งหมดบนเกาะถูกขนไปบนเรือรบเรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้การสอบปากคำโจรสลัดของดองกิโฮเต้ก็จบลงแล้วเช่นกัน

 

โจรสลัดของดองกิโฮเต้ที่ถูกจับ ต่างก็พยายามปิดปากเงียบ แต่ถึงแม้พวกมันจะพยายามปิดปากเงียบแค่ไหน สุดท้ายสินค้าที่ซ่อนเอาไว้ก็ถูกค้นจนเจออยู่ดี

 

แทบไม่มีอะไรหลุดรอดไปได้เลย

 

หลังจากที่ทุกอย่างเสร็จสิ้น โรจาก็ได้ออกคำสั่งให้เรือรบแล่นออกจากเกาะบานาร์และเตรียมเดินทางกลับไปยังฐานสาขาที่ 1 เพื่อรอส่งมอบทรัพยากรที่ยึดมาให้แก่เรือรบที่ทางศูนย์ใหญ่ส่งมา

 

เกือบจะในเวลาเดียวกัน

 

ไม่ไกลจากน่านน้ำบริเวณนั้น ได้ปรากฏเรือโจรสลัดลำหนึ่งกำลังแล่นมายังเกาะบานาร์ เหนือเสากระโดงเรือลำนั้น มีธงประจำกลุ่มของดองกี้โอเต้แฟมิลี่กำลังโบกสะบัดอยู่ … ถูกต้อง! เรือโจรสลัดลำนี้เป็นเรือของไดอาเมนเต้นั่นเอง!

 

“ท่านไดอาเมนเต้ พวกเราได้รับข้อมูลล่าสุดมาว่าเรือรบได้แล่นออกจากเกาะบานาร์แล้ว”

 

“นี่พวกเรามาช้าไป?”

 

ไดอาเมนเต้นั่งอยู่บนโต๊ะกลม พร้อมกับผ้านุ่มๆที่ที่อยู่ในมือของเขา ทันใดนั้นดวงตาของไดอาเมนเต้ก็เป็นประกาย ก่อนที่ผ้านุ่มๆนั้นจะแปรเปลี่ยนกลายเป็นดาบอันแหลมคม

 

“หากไปทวงคืนทรัพยากรที่ถูกยึดไปบนเกาะไม่ทัน ก็ไปทวงคืนเอาระหว่างทางแล้วกัน”

 

“รับทราบครับ! ท่านไดอาเมนเต้”

 

“พวกมันจะต้องกลับไปยังฐานสาขาที่ 1 ในเขตทะเลเวสต์บลูแน่ๆ ตามข้อมูลที่พวกเราได้รับมา พวกมันมีเรือรบขนาดกลางสองลำ และเรือรบขนาดเล็กอีกสองลำ และเนื่องจากต้องขนทรัพยากรจำนวนมาก เรือรบก็ไม่น่าจะสามารถแล่นด้วยความเร็วเต็มพิกัดได้ … “

 

“และพวกเราก็อยู่ไม่ไกลจากเส้นทางเดินเรือของพวกมัน นั่นหมายความว่าเราสามารถสกัดกั้นพวกมันได้ก่อนที่จะแล่นเรือกลับไปยังฐานสาขาที่ 1 ได้แน่นอน!”

 

“ดี … ดีมาก รีบไล่ตามพวกมันไป!”

 

ไดอาเมนเต้กล่าวอย่างเย็นชา

 

ลูกเรือโจรสลัดพยักหน้ารับ ก่อนที่จะหันหลังเดินจากไป

 

หลังจากที่พวกมันได้เป็นลูกเรือโจรสลัดของกลุ่มดองกี้โฮเต้แฟมิลี่ แม้ว่าจะได้ยินว่าต้องแล่นไปสกัดกั้นเรือรบของทางกองทัพ พวกมันก็ไม่ได้เผยให้เห็นถึงท่าทีตึงเครียดเลยแม้แต่น้อย

 

มีเรือรบมากกว่าหนึ่งลำที่เคยถูกทำลายลงโดยดองกี้โฮเต้แฟมิลี่ และมีเกาะมากกว่าหนึ่งเกาะที่เคยถูกกลุ่มดองกี้โฮเต้กวาดล้าง ส่วนจำนวนเมืองที่พวกมันเคยทำลาย … นั้นมากมายจนเกินจะนับไหว

 

ชื่อเสียงอันโหดเหี้ยมของดองกี้โฮเต้แฟมิลี่นั้น ไม่ได้มีแค่ในเรื่องธุรกิจใต้ดิน แต่มันเกิดจากการฆ่าอย่างไร้ความปราณีในระหว่างการต่อสู้บนท้องทะเลนับครั้งไม่ถ้วน!

 

ที่นี่เป็นเพียงทะเลเวสต์บลู ดังนั้นจึงไม่น่ามีทหารเรือที่แข็งแกร่งอยู่ ลูกน้องของไดอาเมนเต้ต่างก็น้อมรับคำสั่งในการบุกทวงคืนสินค้าของพวกมันอย่างกระตือรือร้น

 

เรือรบขนาดกลาง 2 ลำ และเรือรบขนาดเล็กอีก 2 ลำ กำลังแล่นอยู่ โดยเว้นระยะห่างกันเล็กน้อยเพื่อความปลอดภัย และแล่นไปด้วยความเร็วคงที่

 

ในเวลานี้ ฐานสาขาที่ 1 อยู่ไม่ไกลแล้ว

 

ณ ห้องโดยสารชั้นบนสุดบนเรือรบขนาดกลาง

 

โรจากำลังนั่งอยู่เพียงลำพังพร้อมกับยืนพิงหน้าต่างและชื่นชมท้องทะเลสีครามที่เปล่งประกายสะท้อนแสงจากเบื้องบน พร้อมๆกับใช้มือข้างหนึ่งเท้าคางของเขา

 

การที่โรจาบุกทำลายเกาะบานาร์ และจับกุมตัวแทนระดับสูงของกองกำลังใต้ดินเป็นจำนวนมาก ได้สร้างการสั่นสะเทือนให้แก่โลกใต้ดิน และข่าวเกี่ยวกับตัวตนเขาก็เริ่มแพร่กระจายออกไปแล้วในตอนนี้

 

ถึงแม้ดองกี้โฮเต้แฟมิลี่จะน่าหวาดกลัว แต่กองทัพเรือก็น่าหวาดกลัวไม่แพ้กัน ดังนั้น ท่ามกลางกระแสน้ำอันเชี่ยวกราด กองกำลังใต้ดินจึงระบายความไม่พอใจไปลงกับทางดองกี้โอเต้แทน และยุติความร่วมมือและธุรกิจต่างๆที่ทำร่วมกัน

 

ในกรณีนี้โรจาคาดว่าทางดองกี้โฮเต้คงจะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก

 

อย่างไรก็ตาม

 

จากการบุกทำลายฐานที่มั่นและกวาดล้างเกาะบานาร์ จนกระทั่งบัดนี้ ที่โรจากำลังจะแล่นเรือกลับไปยังฐานสาขาที่ 1 เขากลับไม่ได้รับข่าวใดๆเกี่ยวกับพวกดองกี้โฮเต้เลย แถมยังไม่ถูกพวกมันบุกโจมตีอีกด้วย

 

การที่โดฟลามิงโก้ยังคงนิ่งเฉยอยู่แบบนี้ นี่ไม่ใช่ลักษณะนิสัยของเขาแบบในมังงะ!

 

โรจาจ้องมองไปยังท้องทะเลอันไร้ที่สิ้นสุดจากทางหน้าต่าง ก่อนที่ความคิดของเขาจะลอยหายไปกับสายลม

 

ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน

 

จู่ๆโรจาก็ได้ยินเสียงเคาะประตู และเมื่อเขาเอ่ยอนุญาติให้เข้ามา ประตูสำนักงานก็ถูกกระแทกเปิดออกทันที พร้อมกับนาวาเอกที่วิ่งเข้ามาด้วยความตื่นตระหนกและกล่าวออกมาอย่างร้อนรนว่า

 

“ท่านครับ แย่แล้ว!!”