– การตรอมใจของนักปราชญ์

*กว่าจะได้แปล กว่าจะแปลจบ ซะนานเลย*

「ออกไปข้างนอก?」

ทาเคดะจุนเปย์ที่ออกจากชั้นของดรายแอดกำลังยืนอยู่ในพื้นที่ลึกลับสีขาว

ด้านหน้าของจุนเปย์ คือผู้ที่ทำให้เขาต้องเข้ามาอยู่ในโลกประหลาดแห่งนี้ เทพเจ้าโชตะผู้ซึ่งมีชีวิตอันเป็นนิรันด์และมีอายุมากกว่า 300ล้านปี

ในช่วงเวลาอันแสนยาวนาน การมีเวลาว่างมากเกินไปทำให้เกิดความเบื่อหน่าย ยิ่งกว่านั้นเขายังไม่สามารถตายได้

เขาอยู่ในชุดแจ็คเก็ตหนังสีดำตามปกติ และสวมกางเกงหนังรัดติ้วเหมือนเคย

「เร็วจริงๆที่นายใกล้ก็จะได้กลายเป็นผู้เล่นแล้ว」

จุนเปย์มีใบหน้าที่งุนงง ในขณะที่เทพเจ้ากล่าวด้วยรอยยิ้ม

「ผู้เล่น……?」

ก่อนที่จุนเปย์จะได้ถามอะไร เทพเจ้าก็โบกมือขัดจังหวะทันที

「เร็วเกินไปที่จะอธิบายตอนนี้ มีโอกาสสูงที่นายจะตายก่อนที่ไปถึงจุดนั่น ลืมมันไปก่อนแล้วกัน」

「ดูเหมือนว่าผมยังไม่จำเป็นต้องรู้?」

「ก็ประมาณนั้นแหละ อืมตั้งแต่นายได้เข้าสู่มิติที่แตกต่างนี้ ลองนึกถึงมอนสเตอร์ที่นายฆ่าทุกตัว พวกมันต่างได้รับความแข็งแกร่งมาจากอิทธิพลของราชาปีศาจ นายเองก็ได้รับความแข็งแกร่งจากราชาปีศาจเช่นกันยอดเยี่ยมจริงๆ」

จุนเปย์มีสีหน้าไม่พอใจและพูดอย่างไม่สบอารมณ์

「 ท่านเห็นว่าเรื่องที่ผ่านมามันเป็นสิ่งที่น่ายินดีงั้นเหรอ」

「อาฮะ〜……」

เทพเจ้าผิวปาก

「 ?」

「จริงๆแล้วฉันคิดว่านายจะเปลี่ยนไปหลังจากผ่านเรื่องพวกนั่นไปแล้วซะอีก น่าสนใจจริงๆ ในขณะที่มือเปื้อนเลือด และดิ้นรนอยู่ในนรกแห่งความตายอันเน่าเหม็นแห่งนี้ ดูเหมือนว่านายยังคงมีมโนธรรมหลงเหลืออยู่ ฉันคิดว่านั่นไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำหรอกนะ」

เทพเจ้าตบไหล่จุนเปย์และพยักหน้าหลายครั้ง

จุนเปย์ที่กำลังอยู่ในอารมณ์ฉุนเฉียวปัดมือของเทพเจ้าออก

「ท่านต้องการอะไร? จะดีมากถ้าท่านจะพูดต่อเกี่ยวกับมัน จากนั้นจะได้ปล่อยผมออกไปจากที่นี่สักที」

「แหมเย็นชาจัง นี่เป็นการพบกันครั้งแรกของเราหลังจากตอนนั้นเลยนะ สุภาพกับฉันหน่อยสิ?」

「สุภาพ? …… ไม่ใช่ว่าเรื่องบัดซบที่เกิดขึ้นกับผมทั้งหมดมันเป็นเพราะท่านเหรอ? 」

「โอ้ นายเกลียดฉัน?」

จุนเปย์จ้องหน้าเทพเจ้าเขม่งโดยที่ไม่กระพริบตา

「จริงๆแล้ว แค่ดีดนิ้วฉันก็สามารถระเบิดร่างของนายให้เละเป็นเศษเนื้อได้จำได้ใช่มั้ย?」

จุนเปย์ย้อนนึกถึงเหตุการณ์สยองของคิโดะที่เกิดจากโชตะผู้อัญเชิญพวกเขามาในวันนั้น ฉับพลันสีหน้าของจุนเปย์ก็ปรากฏความหวาดกลัว แต่มันก็เกิดขึ้นเพียงชั่วครู่ก่อนที่เขาจะกลับเป็นแน่วแน่ตามเดิม

「ตั้งแต่ที่ผมกินเนื้อโนไลฟ์คิง ผมก็ตัดสินใจแล้ว」

「ตัดสินใจ?」

「สำหรับพวกที่ชอบใช้กำลังข่มเหงคนที่อ่อนแอกว่าราวกับสิ่งของ….. ผมจะไม่ยอมก้มหัวให้พวกมันอีกต่อไป ไม่ว่าจะเป็นคิโดะ หรือแม้แต่ท่านก็ตาม」

ชั่วขณะหนึ่ง ประกายแสงได้หายไปจากดวงตาของเทพเจ้า

และเมื่อความรู้สึกที่กลั้นไว้หลุดออกมา เขาก็เริ่มหัวเราะราวกับน้ำป่าที่ไหลกระแทกจนเขื่อนแตก

「ฮ่าฮ่า ฮ่าฮ่าฮ่า !! ฮุฮุฮุ ฮ่าาาาฮ่าาาาาฮ่าาาาา !! 」

เขาหมอบอยู่ที่พื้นและทรุดตัวลง

เทพเจ้าทิ้งตัวลงกลิ้งไปมาในขณะที่จับท้อง น้ำตาที่มาจากการหัวเราะเริ่มเล็ดออกมาจากหางตา

「ฮ่า ฮ่า ฟุฟุ !! ฮว่าาาฮ่า!…… ท้องของฉัน …… มัน ฮั้วฮ่าฮ่าฮา !! 」

จุนเปย์ถูกทิ้งให้อยู่อย่างนั้น ในขณะที่เทพเจ้ายังคงหัวเราะต่อไป

หลังจากผ่านไปไม่กี่นาทีของการกลิ้งไปรอบๆ

เขายืนขึ้นสูดลมหายใจเข้าลึกเพื่อทำให้ตัวเองสงบและเริ่มพูด

「งืม นายนี่มันเยี่ยมจริงๆーーฉันชอบนาย」

「ท่านจะบอกได้หรือยังว่าจริงๆแล้วมีเรื่องบ้าอะไรถึงมาที่นี่? 」

「อืมใช่ ใช่แล้วมันเกี่ยวกับเรื่องนั้น มีข่าวร้ายอยู่เรื่องหนึ่ง」

เทพเจ้าพูดด้วยโทนเสียงที่ไม่แยแสต่อสิ่งใด

ーーชายผู้ที่ไม่แยแสต่อชีวิตใดๆของมนุษย์ กำลังจะพูดเกี่ยวกับ『ข่าวร้าย』

จุนเปย์รู้สึกไม่สบายใจทันทีหลังจากได้ยินมัน

「ข่าวร้าย……?」

「ใช่แล้วหละ ข่าวร้ายสำหรับนาย หรือแม้กระทั่งสำหรับฉัน มันสำคัญมาก」

「 ……รีบพูดต่อสิ」

เทพเจ้ายิ้มอย่างมีเลศนัย

「คนที่เข้ามาในเขาวงกตนี้ มีกี่คนที่ได้กินเนื้อของโนไลฟ์คิง?」

「ผมจะรู้มั้ย!」

เทพเจ้าแลบลิ้นยาวๆออกมาเลียริมฝีปาก

「นักผจญภัยที่เดินเข้ามาเองหรือถูกโยนเข้ามาในฐานะเครื่องบวงสรวง จำนวนทั้งหมดของพวกเขาคือ 400,882 คน และภายในจำนวนนี้ นอกเหนือจากนายมีอยู่ 15 คนที่กินเนื้อนั่นเข้าไป」

“โอ้ ” ช่วยไม่ได้ที่จุนเปย์จะส่งเสียงตกใจออกมา

「 ตามปกติมันไม่สามารถกินได้ ดังนั้นสกิลต้านทานสถานะผิดปกติจึงเป็นสิ่งจำเป็น มันแทบเป็นไม่ได้เลยสำหรบพิษที่รุนแรงของมัน นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมนายถึงยังมีชีวิตรอดอยู่มาได้ถึงตอนนี้」

เทพเจ้าพูดกับเขาอย่างเย็นชา

「เป็นไปได้ไหมที่บางคนจะมีความสามารถต้านทานสถานะผิดปกติติดตัวมาตั้งแต่แรก?」

หลังจากคิดถึงเรื่องนี้อยู่ครู่หนึ่ง จุนเปย์ก็ยังคงพูดต่อ

「แล้วเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขา? พวกเขาสามารถเคลียร์เขาวงกตได้หรือเปล่า?

เทพเจ้าพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชืดเช่นเดียวกับอากาศในวันนี้

「ทุกคนตายหมดแล้ว หนำซ้ำยังตายง่ายๆด้วย」

「เอ่อ?」

「ถ้าฉันจำไม่ผิด มีคนอธิบายให้นายฟังไปแล้วหนิ? ว่าอัตรารอดในเขาวงกตคือ 0% 」

「ทั้งหมด 15 คน และทั้งหมดนั่น? ประโยชน์ของพิษมีมากขนาดไหนผมรู้ดี แล้วทำไม?… 」

「พูดง่ายๆว่า ในเขาวงกตชั้นจากนี้ไป ผลของพิษต่อระบบประสาทที่นายมี จะไม่มีผลอะไรมากนักนายคงไม่คิดว่ามันจะง่ายเหมือนตอนสู้กับบอสอย่างเซอร์เบอรัสตลอดเวลาหรอกนะ ?」

ーーคำพูดของเทพเจ้าส่งผลต่อความคิดเดิมของจุนเปย์เป็นอย่างมาก

「เดี๋ยวนะ เกี่ยวกับพิษ ท่านบอกว่ามันจะไม่มีผลอะไรเหมือนเดิมแล้ว? 」

เสียงคำถามของจุนเปย์เจือปนไปด้วยความไม่อยากเชื่อ ในขณะที่เทพเจ้าพยักหน้า

「ถูกต้อง? อย่าบอกนะว่านายกำลังคิดว่า ‘มันไม่จริง’ หวังว่านายคงไม่โง่ขนาดนั้นใช่มั้ย?」

「เอ่อ อันที่ผมคิดว่ามันไม่จริง แล้วถ้าจะว่ากันแบบนี้ท่านด่าผมมาเลยดีกว่า」

หลังจากหยุดคิดชั่วคราว จุนเปย์ก็ยอมรับมันอย่างจนใจ

「โดยทั่วไปแล้วมันจะเป็นแบบนั้น」

เทพเจ้าพูดว่า “อืม …… ” หลังจากคิดบางอย่าง

「ถึงจะพูดแบบนั้น แต่ฉันแค่บอกว่าผลกระทบของพิษจะน้อยลง ไม่ใช่ว่ามันจะหายไปหมดซะเมื่อไหร่」

จุนเปย์ดูโล่งใจขึ้นเล็กน้อย

「 แต่ความจริงที่ทุกคนซึ่งมีสกิลพิษต่างตายไปหมดแล้วก็ยังเหมือนเดิม」

“ฮ่าฮ่า” เทพเจ้าหัวเราะชอบใจ

「ท่ามกลางเหล่ามอนสเตอร์ มีบางตัวที่มีความสามารถลบล้างผลของพิษได้นายรู้มั้ย? 」

ก่อนหน้านี้เทพเจ้าพูดว่าประโยชน์ของพิษยังไม่หายไปทั้งหมด

แต่ในลมหายใจเดียวกัน เขาก็พูดออกมาอีกว่ามีมอนสเตอร์บางตัวสามารถลบล้างผลของพิษได้

ถึงจุนเปย์จะมีสถานะต้านทานสิ่งผิดปกติ แต่การต้านทานและการลบล้างมีความหมายแตกต่างกันมาก

ด้วยวิธีการพูดจาอ้อมค้อมวกวน (กวนตีน) ของเทพเจ้า มันทำให้ความโกรธของจุนเปย์เพิ่มขึ้น

「ท่านกำลังเล่นสนุกบ้าๆอะไรอยู่ ? ท่านไม่ได้บอกหรอกเหรอว่าผลกระทบของมันยังไม่ไร้ประโยชน์ ? 」

「นี่เป็นเรื่องที่น่ากังวลใจ และในความเป็นจริงฉันไม่ได้โกหก จากนี้ไปจะเป็นเรื่องยากสำหรับพิษที่จะมีผล เนื่องจากมีบางอย่างที่สามารถลบล้างมันได้ นั่นหมายถึง อาจมีคนที่ยังได้รับผลกระทบจากมัน และบางคนที่ไม่ได้รับผลกระทบอะไรเลย ฉันพูดรู้เรื่องขึ้นมาบ้างแล้วหรือยัง ?」

「……?」

「ยกตัวอย่างเวลาที่เจอเซอร์เบอรัส การปล่อยให้มันกินมือข้างหนึ่ง จากนี้ไปกลยุทธ์แบบนั้น นายจะไม่รู้เลยว่ามันจะได้ผลหรือเปล่า ดังนั้นนายไม่อาจทำเหมือนเดิมได้ ถ้านายยังดื้อรั้นที่จะทำเหมือนเดิม นายอาจจะไม่เสียแค่มือรู้มั้ย?」

「ผมคิดว่าท่านแค่ฆ่าเวลาอยากสนุกไปวันๆด้วยการล้อเล่นมากกว่า ถึงกลยุทธ์ของผมจะเป็นแบบนั้น แต่อย่างน้อยที่ผ่านมาผมก็ไม่เคยพลาดถูกมั้ย」

「เล่นสนุก นายพูดแบบนั้นได้ไง! ถึงมันจะทำเพื่อความมันสนุก แต่ฉันก็ทำเพื่อนายนะ การทำให้นายสนุกก็เป็นส่วนหนึ่งในความสนุกของฉันเหมือนกัน」

เทพเจ้าคิดหาเหตุผลไร้สาระให้ตัวเองก่อนจะพยักหน้าอย่างจริงจัง

「ท่านพูดว่า ทำให้ผมสนุก」

「หรือบางทีมันคงจะเป็นโชคชะตาที่ไม่อาจปฎิเสธได้ของนาย」

「โชคชะตาของผม……?」

ส่ายหัวเบาๆ เทพเจ้ามีท่าทีลำบากใจราวกับว่าว่าเขากำลังคิดถึงบางสิ่งบางอย่าง

「ไม่ บางทีมันอาจเหมาะกว่าที่จะเรียกว่าการแปรเปลี่ยน」

เพราะเทพเจ้าเป็นคนแบบนี้ จึงช่วยไม่ได้ที่จุนเปย์ไม่อาจเข้าใจสิ่งที่เขากำลังพยายามพูดทั้งหมด (คนแปลก็เช่นกัน)

ยังไงก็ตาม เขายังพยายามถามคำถามเพื่อทำความเข้าใจให้มากเท่าที่จะทำได้

หลังจากคิดเกี่ยวกับสิ่งที่เด็กคนนี้พูด สรุปได้ว่าถ้าเขาพลาด เขาจะต้องตาย

「ขอโทษนะ ท่านช่วยอธิบายเพิ่มให้มากกว่านี้หน่อยได้ไหม? 」

เทพเจ้าศีรษะราวกับว่าเขาไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้อีก

「เอาจริงจังนะ มีกฎบางอย่างในเขาวงกตนี้ที่ฉันไม่สามารถฝืนได้ หนึ่งในกฎเหล่านั้นเขียนไว้ว่า 『เป็นไปไม่ได้ที่จะเคลียร์』 มันคือสิ่งที่บังคับใช้กับนายตอนนี้ และทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฏ」

「กฎ? ก่อนหน้านี้ไม่เห็นท่านบอกอะไรเกี่ยวกับมันเลย? 」

เทพเจ้าเอียงศีรษะของเขาราวกับสับสน

「ฉันจะอธิบายให้ฟังง่ายๆสักหน่อยแล้วกัน ตั้งใจฟังนะ? ไม่จำกัดจำนวน ประตูสู่เขาวงกตแห่งนี้มีไว้สำหรับมนุษย์ทุกคนที่ถึงเกณฑ์ตามกำหนด ลักษณะของเขาวงกตแห่งนี้จะต้องมีการเปิด…..อืมถ้าฉันอธิบายมากกว่านี้นายคงจะตกใจ ดังนั้นนายจำไว้แค่นี้็พอ เพื่อให้สามารถเคลียร์เขาวงกตนี้จำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือจากใครบางคน แม้ว่าความเป็นไปได้เกือบจะเป็นศูนย์ แต่จริงๆแล้วมันก็ไม่น่าจะเป็นศูนย์อย่างสมบูรณ์ ยังไงก็ตาม มีปัญหาหนึ่งที่ต้องรู้ ถ้าสเตตัสของนายเป็นแบบนี้ยังไงก็ไม่สามารถผ่านชั้นต่อไปได้」

「ไม่สามารถผ่านได้? 」

「นายเทแต้มไปที่สเตตัสใดสเตตัสหนึ่งมากเกินไป」

「……?」

「ยิ่งนายก้าวไปยังชั้นต่อไปเรื่อยๆมอนสเตอร์ก็จะยิ่งแข็งแกร่งขึ้นตาม ดังนั้นวัตถุทุกสิ่งทุกอย่างในช่องมิติเขาวงกตจะถูกปรับเปลี่ยนให้เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นผนังกำแพงหรือประตูทางเข้าจะมีความทนทานมากขึ้น มันคงตลกน่าดูถ้านายไม่สามารถเปิดประตูด้วยแรงทั้งหมดได้เนื่องจากมันหนักมากเกินไป ตั้งแต่แรกดันเจี้ยนก็ไม่ได้สร้างขึ้นสำหรับผู้ที่มีพลังอ่อนแออยู่แล้ว และแน่นอนไม่มีใครคาดคิดว่าจะมีมนุษย์ธรรมดาคนไหนสามารถเข้าถึงได้」

「หมายความว่า?」

「ผู้ที่สร้างเขาวงกตนี้ขึ้น ไม่ได้คิดว่าจะมีใครเทแต้มสเตตัสได้สุดขั้วมากเท่านาย ดังนั้นฉันจึงปรากฏตัวที่นี่เพื่อยื่นมือเข้าช่วยแก้ปัญหานี้」

จุนเปย์เริ่มคุยด้วยเสียงที่มีน้ำโหเล็กน้อย

「 มันจะดีกว่านี้มาก ถ้าท่านเลิกพูดจาอ้อมค้อมซะที」

เทพเจ้าส่งโน๊ตให้จุนเปย์

「นี่คือข้อมูลจำเป็นสำหรับสิ่งต่างๆเช่นการเปิดประตูหรือลักษณะภายในชั้น ตัวอย่างเช่นนายจะสามารถทนความร้อนจากแม๊กม่าได้แค่ไหน ต้องมีสเตตัสอะไรบ้างถึงจะผ่านมันไปได้ แม้นายจะใช้สมองคิดหรือฉลาดยังไงก็ตาม สเตตัสเป็นสิ่งพื้นฐานที่มีประโยชน์โดยไม่ต้องพึ่งอุปกรณ์เสริมใดๆ มันเป็นไปไม่ได้หากปราศจากสเตตัสที่เหมาะสม พูดได้เลยว่าหากนายไม่เข้าใจเรื่องพวกนี้ มันคงยากที่จะสามารถมีลมหายใจอยู่ได้ในชั้นถัดไปต่อจากนี้」

จุนเปย์มีสีหน้าที่ค่อนข้างทำใจได้ยาก

「ถ้าจะให้ผมแก้ไขสเตตัสตามบันทึกนี่ อย่างน้อยก็ต้องใช้เลเวลอีกเป็นร้อยเลเวล หากท่านเพิ่มเลเวลของผมได้ด้วยพลังของเทพเจ้าหรืออะไรก็แล้วแต่ผมจะขอบคุณมาก」

เทพเจ้าส่ายศีรษะ

「ฉันไม่สามารถช่วยนายได้อย่างโจ่งแจ้งขนาดนั้น」

「ท่านรู้หรือเปล่า? ที่แย่ที่สุดคือพวกที่พูดเพียงอย่างเดียวแต่ไม่ยอมช่วยทำอะไรเลย」

เทพเจ้าหัวเราะอย่างสบายอารมณ์

「ฮ่า ๆ ! นี่เป็นแค่เรื่องกล้วยๆถ้าอาชีพนักล่าสกิลถูกยกระดับขึ้น」

「ยกระดับอาชีพ? แต่ค่าพื้นฐานที่กำหนดให้ผมมาคือ ไร้อาชีพ…」

「ค่าพื้นฐานเป็นสื่งที่กำหนดขึ้นตอนนายเกิด ความหมายคือ มันจะกำหนดอาชีพให้ตามบางอย่างที่นายกำลังเป็นอยู่ แต่นั่นเป็นเพียงการกำหนดในตอนเริ่มต้น อาชีพสามารถเปลี่ยน หรือเลื่อนขั้นได้หากนายผ่านเงื่อนไขที่กำหนด ยกตัวอย่างเช่น จากค่าความเร็วของนายตอนนี้ นายควรจะเปลี่ยนเป็นอาชีพขั้นสูงของสายโจร」

「พอมานึกดู ลูกน้องของคิโดะก็เคยพูดทำนองนี้เหมือนกันว่าเมื่อมีค่าสเตตัสจำนวนหนึ่งหลังจากที่เป็นนักผจญภัยระดับ A จะสามารถบรรลุเงื่อนไขสำหรับอาชีพขั้นสูงได้หรืออะไรสักอย่างนี่แหละ」

「ถูกต้อง สิ่งที่เรียกว่าสมาคมนักผจญภัยมีทักษะที่สามารถเลื่อนขั้นอาชีพได้ เพียงแค่นายบรรลุเงื่อนไขหรือข้อกำหนดสำหรับอาชีพนั้นๆ นั่นเป็นเหตุผลที่ทุกคนมีเป้าหมายที่จะกลายเป็นนักผจญภัยระดับ A ให้เร็วที่สุด」

จุนเปย์ถอนหายใจ

「 มันไม่มีประโยชน์ถ้าทำไม่ได้ เพราะผมยังติดอยู่ในเขาวงกตนี้」

เทพเจ้ายักไหล่และกล่าวว่า

「 นายจำเป็นต้องไปที่โลกภายนอกและเลื่อนระดับขั้นชีพ」

ทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบพักหนึ่ง

「ผมสามารถออกไปได้? 」

「ได้สิ แต่เป็นเพียงชั่วคราวเท่านั้นนะ จิตวิญญาณของนายถูกกลืนกินในฐานะเครื่องบวงสรวงเขาวงกตไปแล้ว และฉันไม่สามารถแทรกแซงชะตากรรมได้」

「กลืนกืนที่ว่าท่านหมายถึง ? 」

เทพเจ้าไม่ตอบคำถามนั้น แต่วางมือไว้บนไหล่ของจุนเปย์

「นายมีระยะเวลาหกเดือน ไม่ว่าว่านายจะได้รับอาชีพขั้นสูงหรือไม่ นายก็จะถูกบังคับให้กลับมาที่นี่」

「ถ้าสมมุติผมไม่ได้รับอาชีพขั้นสูง ท่านวางแผนจะทำยังไงต่อ」

「อืมม ? ฉันจะหัวเราะแล้วพูดว่า「จงตายอยู่ในเขาวงกตนี้ไปซะ」หึหึ หลังจากนั้นฉันกับนายจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก และฉันก็จะหาของเล่นชิ้นอื่นต่อไป」

「……ผมเข้าใจแล้ว」

「อ่าใช่แล้วมันเกี่ยวกับเรื่องนั้น เหตุผลที่ฉันเข้าข้างนายก็ไม่มีอะไรมากหรอก ฉันแค่อยากรู้เกี่ยวกับอะไรบางอย่าง」

「ท่านอยากรู้เรื่องอะไร 」

「ーーฉันเคยบอกนายไปก่อนหน้านี้ไง ฉันอยากเห็นเกมส์การแก้แค้นของนาย นั่นคือสิ่งที่ฉันสนใจมากที่สุดในตอนนี้」

จุนเปย์ตกอยู่ในอาการตะลึงก่อนจะอ้าปากค้าง

「……?」

“งืมงืม” เทพเจ้าพยักหน้าหลายครั้ง

「ฉันจะพูดมันซ้ำอีกครั้ง จริงๆแล้ว ไม่ว่านายจะตายอยู่ในเขาวงกต ตายในงานเทศกาล หรือจะถูกฆ่าตายอยู่ข้างนอก ไม่ว่าแบบไหนมันก็น่าสนุกทั้งนั้นแหละ. แต่ที่ยอดเยี่ยมกว่านั้นคือ ตอนนี้นายก้าวไปถึงระดับเหนือมนุษย์แล้ว ฉันหละอยากรู้จริงๆว่านายจะจัดการกับอดีตเพื่อนร่วมชั้นของนายหรือคนอื่นๆยังไงーーแค่คิดมันก็ทำให้ความตื่นเต้นของฉันพุ่งปรี๊ดแล้วรู้มั้ย นี่เป็นสิ่งที่ฉันโหยหาอย่างแท้จริง!」

และเขาก็ยังคงพูดต่อ

「ーーและที่สำคัญที่สุด ฉันอยากเห็นสิ่งนั่น! ฉันจะไม่ยอมให้นายตายก่อนสิ่งนั่น !! ถ้านายจะตายช่วยตายหลังจากที่กลับมาในเขาวงกตนี้ด้วย !! 」

จุนเปย์ทำหน้างงๆ เนื่องจากยิ่งมากเรื่องราวยิ่งซับซ้อนดูสับสน

「งั้น ……ผมต้องทำยังไงบ้างเพื่อออกไปข้างนอก ? 」

เทพเจ้ายืนยิ้ม

「ยังไงก็ตามฉันไม่สามารถบอกนายได้」

「อะไรกัน! ท่านจะปล่อยผมทิ้งไว้ที่นี่เหรอ!」

เทพเจ้าไม่สนใจคำทักท้วงของจุนเปย์ที่กำลังโวยวาย

「เน่〜ฉันมีอะไรจะบอก」

「?」

เทพเจ้าหันหน้าเข้าหาจุนเปย์และยืดตัวไปกระซิบข้างๆหู

ด้วยการกระซิบของพระเจ้าทำให้ลมหายใจของเขาสัมผัสเข้ากับใบหูของจุนเปย์

「นายอยากรู้มั้ยว่าทำไมถึงมีการสร้างเขาวงกตนี้?」

「การสร้างเขาวงกต? 」

ขณะที่ผลักเทพเจ้าออกให้พ้นตัว เพื่อขจัดความรู้สึกน่าขนลุกที่เกิดบนใบหูของเขาออก จุนเปย์ก็คิดถึงคำพูดของเทพเจ้า

ณ เขาวงกตแห่งนี้สำหรับจุนเปย์ได้ยอมรับว่ามันเป็นการลงโทษที่เลวร้ายที่สุดในโลก

ถึงแม้ว่าคุณจะไม่ได้ใส่ใจ แต่ที่นี่เต็มไปด้วยสิ่งแปลกประหลาดมากมายนั่นคือความจริง

ตั้งแต่ชั้นแรกก็มีมอนสเตอร์ที่ผิดหลักต่อระบบนิเวศของโลกภายนอก ทำไมพวกมันถึงอยู่ภายในถ้ำแห่งนี้เท่านั้น

เป็นความจริงที่เขาอยากจะรู้เรื่องราวเกี่ยวกับมัน