บทที่ 139: เอลคาเดียน (4)

 

 

 

สีหน้าของเอลคาเดียนเปลี่ยนไปเป็นผิดหวังอย่างรวดเร็ว

‘ข้าคาดหวังในตัวเจ้า ฮันซู อย่างน้อยเจ้าก็น่าจะเข้าใจ…’

ไม่ใช่ว่าเธอเองก็รู้ถึงอันตรายของแผนการนี้หรือ?

แต่พวกเธอต้องการพลังมากถึงขนาดนั้น

“ดูเหมือนว่าเธอเองก็เสียสติไปหลังจากที่มีสิ่งที่ต้องปกป้องอีกมาก”

ฮันซูพึมพำอยู่ภายในหลังจากที่เห็นสีหน้าของเอลคาเดียน

‘ไม่ว่ายังไงเธอก็จะไม่ยอมแพ้งั้นเหรอ’

ฮันซูตัดสินใจและเปิดปากพูดขึ้นขณะที่มองไปยังเอลคาเดียน

“ดูเหมือนว่าในหัวของเธอจะมีหลายเรื่องมากเกินไปให้คิดนะ ลองมอบร่างนั่นกลับไปให้เจ้าของเดิมเป็นไง”

“เจ้ากำลังบอกให้ข้าออกจากร่างนี้?”

ฮันซูผงกศีรษะ

“เผ่าพันธุ์ของพวกเราจะชนะแม้ว่าจะไม่มีพลังนั่น ในเมื่อฉันจะทำให้มันเกิดขึ้น สบายใจแล้วก็ไปซะเถอะ”

แม้ว่าแผนการของเอลคาเดียนจะเป็นไปได้อย่างไร้ปัญหา มันก็ไม่ได้สร้างผลประโยชน์ให้มนุษย์มากมายอะไรขนาดนั้นอยู่แล้ว

ในเมื่อหากแผนการของฮันซูเป็นไปตามที่เขาวางเอาไว้ มนุษย์ก็จะแข็งแกร่งมากพอจนถึงจุดที่พวกเขาจะสามารถบดขยี้อะไรอย่างเดคุโรม่าได้ด้วยเพียงแค่นิ้วโป้งนิ้วเดียว

เหมือนกับที่ฮันซูแข็งแกร่งมากพอที่จะฆ่าเผ่ามังกรได้

ฮันซูมองไปยังเอลคาเดียนที่กำลังมองกลับมาและเอ่ยขึ้น

“เราจะพยายามช่วยเหลือเผ่าพันธุ์ของเธอให้ดีที่สุดอย่างที่เผ่าของเธอช่วยเรา แต่หากมีแผนการของเธออยู่ งั้นเราก็คงจะรักษาพันธมิตรนี้เอาไว้ไม่ได้”

แรงกดดันมหาศาลกดทับมายังดวงวิญญาณของเอลคาเดียน

‘เขาเคยบอกว่าเขาฆ่าเผ่าพันธุ์มังกรสินะ’

เอลคาเดียนขบฟันแน่น

ระหว่างพวกเขาไม่ได้มีความแตกต่างในด้านพลังมากนัก

ในเมื่อดาบแก่นแท้มังกรแข็งแกร่งขนาดนั้น

แต่แรงกดดันนี่ไม่ได้เกิดขึ้นจากความแข็งแกร่งของอีกฝ่าย

มันมาจากส่วนลึกของดวงวิญญาณของผู้ที่ได้เดินทางไปในอบิสอย่างไร้ที่สิ้นสุด จนถึงจุดที่พวกเขาแข็งแกร่งมากพอที่จะฆ่าเผ่าพันธุ์มังกรเหล่านั้น

เอลคาเดียนขมวดคิ้วเล็กน้อยขณะที่เธอตะโกนออกไป

ในตอนนี้ ช่องว่างระหว่างพวกเขาไม่ใช่บางอย่างที่พลังเพียงอย่างเดียวจะไม่สามารถทำลายได้

“ข้าจะเชื่อในมนุษย์ได้ยังไง? เจ้าเชื่อพวกมันรึไง?”

ฮันซูส่ายศีรษะ

“ไม่ต้องเชื่อในมนุษย์ แต่เชื่อใจฉัน”

“…”

“เศษเสี้ยววิญญาณในร่างนั้น ด้วยเศษเสี้ยววิญญาณนั่น เจ้าของเดิมของร่างกายนั่นจะกลายเป็นหนึ่งในเจ็ดราชาที่จะช่วยเหลือเผ่าพันธุ์ของพวกเราในที่สุด แน่นอนว่าอคารอนที่มีราชาผู้นั้นเป็นผู้นำจะถูกปฏิบัติด้วยเช่นมิตรของพวกเรา ล้มเลิกแผนนั่นเถอะ”

ฮันซูเริ่มรวบรวมพลังของเขาขณะที่เขาเอ่ย

‘ถ้าเธอไม่ออกไป งั้นฉันก็จะช่วยบังคับทำให้’

ดาบแก่นแท้มังกรและมงกุฎแห่งหนาม

สองสิ่งนั่นรวมพลังกันผลักดันทารูโฮลออกไปและทำให้เอลคาเดียนครอบครองร่างกายได้

ถ้าเขาดึงเอาดาบแก่นแท้มังกรออกมาจากภายในร่าง เอลคาเดียนก็จะหายไปและทารูโฮลจะกลับมาควบคุมร่างได้อีกครั้ง

เอลคาเดียนถอนหายใจขณะที่เธอมองไปยังฮันซู

และจากนั้นจึงเอ่ยพึมพำด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความเมตตา

“ข้ายังไปไม่ได้ มันมีข้อมูลจำนวนมากที่ข้าต้องส่งต่อ… และอคารอนต้องการผู้นำมากกว่าสิ่งอื่นใดในตอนนี้”

“…”

“ข้ารู้ว่าเจ้าพูดแบบนี้เพราะเจ้ากังวล แต่ข้าจะแสดงให้เจ้าเห็น ความคิดของเจ้าอาจจะเปลี่ยนแปลงไปถ้าเจ้าเห็นข้าทำได้สำเร็จ”

ฮันซูเดาะลิ้นเมื่อเขาเห็นความเด็ดเดี่ยวในดวงตาทั้งสองของเอลคาเดียน

คนประเภทนี้ยิ่งยากจะรับมือ

ในเมื่อพวกเขาไม่ได้ทำมันเพราะความโลภหรือผลประโยชน์

มันคือดวงตาของผู้ที่เชื่อมั่นอย่างสมบูรณ์ว่าความคิดของตัวเองถูกต้องและลงมือเปลี่ยนแปลงสิ่งรอบกายเพื่อที่จะทำให้มันเข้ากับความคิดนั้น

“ดูเหมือนว่าบทสนทนาของเราจะจบลงตรงนี้”

ฮันซูวาดหอกของเขาออกไปทันทีที่สิ้นคำ

เอลคาเดียนฟาดมือขวาของเธอไปยังหอกที่พุ่งเข้ามาหาเธออย่างดุดัน

ก๊องงงง!

แม้ว่าจะเป็นมือและหอกปะทะกัน เสียงราวกับโลหะกระทบกันกลับดังก้องขึ้น

ครึ่กกก

เศษกระดูกของดาบแก่นแท้มังกรคืบคลานไปบนร่างของเอลคาเดียนและได้สร้างโล่เล็กๆ ขึ้นที่เบื้องหน้าฝ่ามือของเธอ

เอลคาเดียนยังคงรักษารอยยิ้มบนใบหน้าเอาไว้ขณะที่เธอเอ่ยออกมา

“อืม ข้ารู้ว่าเจ้าคงจะไม่เข้าใจ งั้นเราก็ควรจะทำเรื่องของเราให้ดีที่สุดนับจากนี้ และอีกอย่างหนึ่ง… มันกำลังอยู่ในระหว่างดำเนินการ”

“ชิ”

ฮันซูเดาะลิ้นอีกครั้งขณะที่เขาเริ่มเหวี่ยงหอกของเขาออกไปเร็วขึ้นกว่าเดิม

ตูมมมมม!

ไม่ช้า ห้องที่มีมรดกของมหาวิหาร <ฮิสทอราน> อยู่ก็ถูกเติมเต็มไปด้วยเสียงดังสนั่น

 

 

 

ครืนนนน

โอเทออนและไอเลนที่กำลังศึกษาอคาดัสภายในอาร์คลาทอรี่ใต้ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ขมวดคิ้วเล็กน้อยกับแรงสั่นสะเทือนที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน

‘เกิดอะไรขึ้น?’

การต่อสู้รุนแรงแบบนั้นไม่ควรจะเกิดขึ้น

อคารอนและมนุษย์ได้สร้างพันธมิตรกันขึ้น และมันไม่มีทิราดัสหรือมาร์กอชอยู่บนลาร์ซาร์

‘อืม เราน่าจะทำงานของเราต่อ’

คำขอที่ผู้นำของพวกเธอ เอลคาเดียน ได้เอ่ยออกมา

<เราทำมันสำเร็จ… เราก็จะสามารถได้ครอบครองพลังใหม่ พลังที่สามารถปกป้องเผ่าพันธุ์ของเราได้!>

โอเทออนหยุดคิดขณะที่เธอมองไปยังเครื่องเคลื่อนย้ายวิญญาณที่อยู่ด้านหน้า

กิ้งงงง

เครื่องเคลื่อนย้ายวิญญาณที่เอลคาเดียนติดตั้งได้ส่องแสงสีขาวแสบตาออกมาขณะที่มันดูดกลืนพลังจากลาร์ซาร์

‘เครื่องเคลื่อนย้ายวิญญาณพร้อมแล้ว’

ตอนนี้ถึงเวลาที่จะเตรียมการขั้นตอนต่อไป

เตรียมวัตถุดิบที่จะเป็นเป้าหมายของเครื่องเคลื่อนย้ายวิญญาณ

โอเทออนมองไปยังร่างของชายที่หมดสติอยู่ที่มุมหนึ่งของอาร์คลาทอรี่

มนุษย์ธรรมดาคนหนึ่ง

มนุษย์ที่ไม่มีอะไรโดดเด่น

นั่นเป็นสาเหตุให้เขาสำคัญมากสำหรับการทดลองนี้

ผลจากเครื่องเคลื่อนย้ายวิญญาณคือสิ่งที่ต้องทำงานได้กับเป้าหมายส่วนมาก

ในเมื่อมันจะไม่มีประโยชน์มากหากมันใช้ได้กับแค่เป้าหมายเฉพาะ

‘อืม มันก็ไม่ได้แค่ธรรมดา’

โอเทออนกัดฟันกรอดเมื่อเธอมองไปยังชายที่นอนอยู่บนพื้น

“นี่คือมันใช่ไหม?”

“ใช่ มันคือคนที่ลอบเข้ามาฉวยโอกาสในตอนที่อคาดัสถูกทำลายและพยายามจะโจมตีพวกเรา

“ไอ้ขยะเอ้ย”

โอเทออนพึมพำเงียบๆ

‘การที่ไอ้สิ่งนี้คือเผ่าพันธุ์เดียวกับฮันซูมันน่าตกใจจริงๆ’

อืม มันไม่มีใครจะมาคร่ำครวญถ้าเจ้าหมอนี่ตาย

และเพราะแบบนี้ เขาก็ยิ่งเหมาะสมกับงานนี้

โอเทออนนำร่างของชายคนนั้นไปนั่งในเครื่องเคลื่อนย้ายวิญญาณ

และขั้นตอนสุดท้าย

“ไอเลน ส่งสิ่งนั้นให้ข้า”

“ค่ะ”

หินสีส้มที่ส่องประกายอยู่ในมือของไอเลน

อัญมณีที่เอลคาเดียนได้เสริมพลังมันเข้าไปอีกสองสามชั้นเมื่อเทียบกับหินปิดกั้น

<หินควบคุม>

โอเทออนค่อยๆ เสียบอัญมณีนั้นเข้าไปในศีรษะของชายที่กำลังนั่งอยู่อย่างระมัดระวัง

สวบบบ

อัญมณีได้เข้าไปในรูที่ถูกสร้างเอาไว้ก่อนบนศีรษะของชายคนนั้นได้อย่างง่ายดาย

จากนั้นโอเทออนจึงเริ่มการทำงานของเครื่องเคลื่อนย้ายวิญญาณขึ้นแบบที่เอลคาเดียนสอนเธอหลังจากที่ทำทุกอย่างเสร็จสิ้น

ครืนนนน

ไม่ช้า เครื่องเคลื่อนย้ายวิญญาณก็เริ่มทำงาน ของเหลวสีแดงเริ่มที่จะถูกดึงเข้าไปในร่างของชายคนนั้น

ไอเลนที่คอยช่วยโอเทออนอยู่พึมพำขึ้นขณะที่เธอมองภาพนั้น

“… แบบนี้จะดีเหรอ?”

วิธีการที่เสียสละผู้อื่นเพื่อพลัง

อคารอนไม่ได้สร้างวิธีการหรือกลยุทธ์ใดๆ ที่ใช้การสังเวยเพื่อพลังมาก่อน

ในเมื่อมันคือสิ่งที่เหยียบย่ำศักดิ์ศรีของพวกเธอ

กลยุทธ์ส่วนมากของอคารอนคือการเสียสละตนเองเพื่อที่จะได้รับพลังที่มากกว่าเดิม

แม้ว่าไอ้หมอนี่จะสมควรตาย แต่หากการทดลองนี้สำเร็จ มันก็ไม่มีอะไรมายืนยันว่าผู้ที่จะมารับการทดลองต่อจะมีเพียงแค่พวกอาชญากร

ในตอนนั้นเอง

ครืนนนนนน

เพดานของอาร์คลาทอรี่สั่นสะท้านอย่างรุนแรง

ขณะที่โอเทออนและไอเลนมองไปยังเพดานอย่างตกใจ เพดานก็ได้ระเบิดออกพร้อมกับบางอย่างที่ร่วงลงมา

‘… นั่นมัน!’

โอเทออนอุทานออกมาอย่างงุนงงเมื่อเธอเห็นตัวตนของผู้ที่กำลังสู้กันอยู่

ทำไมพวกเขาถึงสู้กัน?

เอลคาเดียนใช้ดาบแก่นแท้มังกรอย่างบ้าคลั่งเพื่อที่จะขัดขวางฮันซูเอาไว้ไม่ว่าอย่างไรก็ตามพร้อมกับตะโกนขึ้นเสียงดัง

“ทำการทดลองให้เสร็จไม่ว่าจะยังไงก็ตาม!”

ดาบแก่นแท้นมังกรที่มีร่างอันทรงพลังของทารูโฮลเป็นพื้นฐานนั้นแข็งแกร่งมากเสียจนกระทั่งฮันซูที่มีหอกสายฟ้าและทหารพันเกราะอยู่ยังไม่อาจรับมือได้

ฮันซูที่กำลังไล่ต้อนเอลคาเดียนด้วยคมมีดระบาดและแหวนเนอร์มาฮาตะโกนออกมาอย่างดุดัน

“หยุดมัน!”

ฮันซูไม่รู้ว่ามันจะสำเร็จหรือล้มเหลว

แต่มันจะเป็นปัญหาไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น

หากมันสำเร็จ เอลคาเดียนก็จะสามารถยืนยันตัวเลือกของเธอได้และพยายามจะทำต่อไปในระดับที่มากกว่าเดิม

โอเทออนรู้สึกสับสนเมื่อเธอเห็นคนทั้งสองกำลังยันกันไปมาและตะโกนใส่เธอ

‘ข้าควรจะฟังใคร?’

การที่ฝ่ายหนึ่งเป็นมนุษย์และอีกฝ่ายหนึ่งเป็นอคารอนไม่ใช่เรื่องสำคัญ

ในเมื่ออคารอนติดค้างคนทั้งสองไว้มากเกินกว่าที่ไอ้เรื่องแบบนั้นจะสำคัญ

หนึ่งคือผู้ที่ยอมให้อคารอนยืนหยัดด้วยลำแข้งของตนเองได้

และอีกหนึ่งที่ฉุดอคารอนออกมาเมื่อพวกเขาตกอยู่ในหลุมแห่งความสิ้นหวัง

เอลคาเดียนมองไปยังโอเทออนและแย้มยิ้ม

‘ไม่ใช่ว่ามันชัดเจนหรอกเหรอ’

เธอทำงานหนักขนาดนี้เพื่ออคารอน

แต่ฮันซู สุดท้ายแล้วเขาก็ทำเพื่อมนุษย์

มันไม่มีทางที่พันธมิตรจะมาก่อนเผ่าพันธุ์ของตนเอง

โอเทออน ที่กำลังครุ่นคิดอยู่ตัดสินใจอย่างรวดเร็ว

ซึ่งแตกต่างไปจากความคาดหวังของเอลคาเดียนเล็กน้อย

“ฮึบบบบ!”

ตูมมมม!

โอเทออนตะโกนออกมาขณะที่เธอทำลายเครื่องเคลื่อนย้ายวิญญาณ

เอลคาเดียนส่งเสียงที่แทบจะเป็นกรีดร้องออกมาเมื่อเธอเห็นภาพนั้น

“ทำไม!”

เอลคาเดียนแสดงสีหน้าที่เต็มไปด้วยความไม่เข้าใจและเจ็บปวดออกมาขณะที่เธอมองไปยังโอเทออนที่ทำลายเครื่องเคลื่อนย้ายวิญญาณ

การที่โอเทออนทำตามคำพูดของฮันซูทำให้เธอรู้สึกเจ็บปวดยิ่งกว่าการที่เธอถูกฮันซูโจมตีเสียอีก

ทว่าโอเทออนไม่ได้ทำลายเครื่องจักรลงเพราะเธอคิดว่าเธอต้องเชื่อฟังฮันซู

มันมีเหตุผลที่ต่างออกไปอยู่หน่อย

‘ข้าเข้าใจแล้วว่าความรู้สึกตะหงิดใจตลอดมานี่คืออะไร’

และเมื่อเธอเห็นผู้มีพระคุณทั้งสองสู้กัน เธอก็ตระหนักได้อย่างชัดเจนว่าเธอต้องเข้าข้างฝ่ายไหน

โอเทออนกัดฟันและตะโกนออกไป

“ท่านเอลคาเดียน! นี่ไม่ใช่เส้นทางของพวกเรา อคารอน!”

“อะไรนะ?”

เอลคาเดียนพึมพำด้วยสีหน้าว่างเปล่า

“แม้ว่าจะมีพลัง มันก็ไม่ใช่เผ่าพันธุ์เรา! ตื่นได้แล้ว! เมื่อใดกันที่เผ่าพันธุ์ของเราเสริมสร้างความแข็งแกร่งด้วยการสังเวยผู้อื่นและหยิบยืมพลังจากผู้อื่น!”

โอเทออนฟาดเครื่องเคลื่อนย้ายวิญญาณอย่างบ้าคลั่ง

หากพวกเธอสุญเสียศักดิ์ศรีไป งั้นพวกเธอก็จะไม่ใช่อคารอนอีกต่อไป

พลังและสติปัญญาไม่ใช่สิ่งที่จะตัดสินว่าพวกเขาคือมนุษย์ มาร์กอช หรืออคารอน

กฎของพวกเธอและศักดิ์ศรีที่มาจากกฎเกณฑ์เหล่านั้นได้ทำให้พวกเธอคืออคารอน

เอลคเดียนชะงักไปขณะที่เธอกำลังจะโจมตีโอเทออน

และในเสี้ยววินาทีสั้นๆ นั้นเอง

ตูมมมม!

เครื่องเคลื่อนย้ายวิญญาณส่งเสียงดังลั่นออกมาและระเบิดออกจากการโจมตีสุดท้ายของโอเทออน

เอลคาเดียนที่กำลังสู้กับฮันซูอยู่แสดงสีหน้าหม่นหมองออกมา การที่เธอถูกปฏิเสธและทรยศจากเพื่อนพ้องของเธอได้ทิ่มแทงลึกไปในใจของเอลคาเดียน

‘…ข้าทำทั้งหมดนี่เพื่ออนาคตของพวกเจ้า’

และคำพูดสุดท้ายของโอเทออนทำร้ายเอลคาเดียนอย่างมาก

‘ข้าบิดเบี้ยวไปในเส้นทางที่ผิดพลาดแทนที่จะพัฒนาขึ้นในอบิสเช่นนั้นหรือ?’

เอลคาเดียนส่ายศีรษะขณะที่เธอแสดงสีหน้าขมขื่นออกมา

‘ไม่สิ ข้าไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่ามันคือความผิดพลาดหรือไม่’

แม้ว่าเธอจะไม่อาจสร้างเครื่องเคลื่อนย้ายวิญญาณขึ้นใหม่ได้ มันก็ยังมีเหลืออยู่อีกมาก

ถ้าเธอสามารถแสดงผลลัพธ์ที่ดีออกมาได้ในการทดลองครั้งหน้า งั้นความคิดของฮันซูหรืออคารอนอาจจะเปลี่ยนไป

‘ถ้าการใช้ร่างของมนุษย์คือปัญหา งั้นข้าก็จะหาวิธีอื่น’

สิ่งสำคัญคือความแข็งแกน่งของดวงวิญญาณของเผ่าพันธุ์เหล่านั้น

ฮันซูโจมตีเอลคาเดียนอีกครั้ง

ในเมื่อเขารู้ว่าเอลคาเดียนยังไม่ยอมแพ้

ตูมมมม!

‘ทำให้ทั้งหมดจบลงที่นี่’

เขาต้องดึงดาบแก่นแท้มังกรออกมาจากร่างนั่น

ครืนนน

ไม่ช้า การประลองกำลังก็เกิดขึ้นระหว่างฮันซูและเอลคาเดียน

ในขณะที่คนทั้งสองกำลังจับมืออีกฝ่ายและพยายามผลักกันอยู่นั้นเอง

ครึ่กกก

ออร่าสีดำได้แทรกซึมออกมาจากบางแห่ง

ฮันซูขมวดคิ้วขณะที่ต่อสู้จากออร่าแปลกประหลาดที่จู่ๆ ก็แพร่ออกมา

และสีหน้าของเอลคาเดียนก็เจิดจ้าขึ้น

‘มันสำเร็จ!’

ถ้าเธอสามารถแสดงให้เห็นได้ว่าเธอสามารถควบคุมสิ่งนี้ได้ เช่นนั้นการโน้มน้าวคนอื่นๆ ก็จะเป็นเรื่องง่ายมาก

ครึ่กกกก

บางอย่างได้ผลักซากของเครื่องเคลื่อนย้ายวิญญาณออกและเดินออกมา

และเอลคาเดียนก็มองไปยังชายที่เดินออกมาด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความหวัง

และผลักฮันซูออกไปอย่างรุนแรง

ตูมมมม!

เอลคาเดียนรีบลุกขึ้นหลังจากที่ผลักฮันซูออกไปและเข้าใกล้ชายคนนั้น

กลิ่นอายที่ค่อนข้างแข็งแกร่งแพร่ออกมาจากร่างของชายที่ถูกปกคลุมไปด้วยออร่าสีดำ

ชายคนนั้นไม่ได้ขยับเขยื้อนกล้ามเนื้อแม้แต่น้อยแม้ว่าเอลคาเดียนจะเข้ามาใกล้เขาและทำเพียงจ้องอีกฝ่าย

ฟึ่บ

เอลคาเดียนยืนอยู่ข้างๆ ชายคนนั้นและเอ่ยขึ้น

“ก้มศีรษะและคุกเข่าให้ข้า”

ฟึ่บ

ชายคนนั้นเชื่อฟังคำพูดของเอลคาเดียนโดยไร้ซึ่งความลังเล

‘สำเร็จงั้นหรือ?’

โอเทออนที่แสดงสีหน้าเป็นกังวลอย่างมากออกมารู้สึกสบายใจขึ้นในตอนนี้

ในเมื่อมันคงจะยากในการควบคุมคนที่แพร่กลิ่นอายดหดเหี้ยมเช่นนั้นออกมา

‘จะยังไงก็เถอะ ตอนนี้เธอคงจะอารมณ์ดีอยู่ ในเมื่อการทดลองสำเร็จ’

ในขณะที่โอเทออนกำลังมองไปยังเอลคาเดียน เอลคาเดียนก็มองไปยังฮันซูหลังจากที่ทำให้ชายคนนั้นคุกเข่าแล้ว

ก่อนจะตะโกนขึ้นเสียงดัง

“ฮันซู! ข้าขอร้องเจ้า ได้โปรด!”

จากนั้นเธอจึงฟาดศีรษะของชายที่คุกเข่าอยู่เบื้องหน้าเธอ

ตูมมมม!

“หือ? อะไรกัน?”

โอเทออนตื่นตระหนกเมื่อเธอเห็นภาพนั้น

ทำไมจู่ๆ อีกฝ่ายถึงได้โจมตีทหารที่เชื่อฟังเธอแบบนั้น?

และเธอกำลังขอร้องอะไรเขา?

ในตอนนั้นเอง

วูบบบ

โอเทออนและไอเลนผวาไปกับมือของใครบางคนที่คว้าเอวของพวกเธอเอาไว้อย่างกะทันหันและพาร่างของพวกเธอออกไปอย่างรวดเร็ว

“ฮันซู เจ้าทำอะไรของเจ้า! เกิดอะไรขึ้น!”

ฮันซูขมวดคิ้วเมื่อได้ยินเช่นนั้น

“ฉันจะบอกเธอระหว่างทาง เราต้องเตรียมตัวขณะที่เธอซื้อเวลาให้พวกเรา”

“อะไรนะ?”

ฮันซูแสดงสีหน้าหงุดหงิดออกมากับกลิ่นอายทรงพลังแบบที่ไม่อาจเทียบกับก่อนหน้าได้ที่ระเบิดขึ้นจากด้านหลังของพวกเขา

“บางอย่างที่ไม่ควรโผล่หัวมาโผล่หัวมาจริงๆ แล้ว”

 

 

 

“นี่มันอะไรกัน เธอรู้ได้ยังไง?”

ครืนนน

ชายคนนั้นมองไปยังเอลคาเดียนด้วยสีหน้าแปลกประหลาดหลังจากที่โจมตีเธอ

ขณะที่กำมือของเอลคาเดียนที่ฟาดหัวของเขาเอาไว้แน่น

กร๊อบบบ

มือของนักผจญภัยธรรมดาๆ ได้ทำให้ดาบแก่นแท้มงกรรอบกำปั้นของเอลคาเดียนร้าว

เอลคาเดียนกัดฟันกรอด

ผู้อยู่อาศัยทั่วไปของอีกโลกอาจจะไม่รู้ แต่ฮันซูและเธอคือผู้ที่เคยเดินทางในอบิส

มีหรือที่พวกเธอจะไม่รู้ว่าหมอนี่กำลังเล่นละครอยู่?

เอลคาเดียนคิดถึงบทสนทนาที่พวกเธอสื่อสารผ่านวิธีการพิเศษของอคารอนขณะที่พวกเธอจับมือกันก่อนหน้า

เธอจะขัดขวางมันไว้ที่นี่และฮันซูจะไปเตรียมการ

‘ข้าจะเอาชีวิตของข้าเข้าแลกและหยุดมันไว้ที่นี่ โปรดรีบเข้า หลังจากที่ทุกอย่างสิ้นสุดลง… และเรายังมีชีวิตอยู่ ข้าจะมอบคำขอโทษที่จริงใจที่สุดของข้าให้สำหรับความยโสของข้า’

“ฮึบบบบ!”

ตูมมมม!

เอลคาเดียนกัดฟันแน่นและโจมตีชายที่อยู่เบื้องหน้าเธอ

 

 


TL: หาขี้มาให้ปู่เฉย