บทที่ 123: ลาร์ซาร์ (1)

 

 

 

พรึ่บ พรึ่บ พรึ่บ

เจนนิเฟอร์ ผู้จัดการพื้นที่ 98 ของกิลด์โอโคเนลลี่ผงกศีรษะเมื่อเธอเห็นพิราบสื่อสารนับร้อยบินว่อนอยู่ห่างออกไป

พิราบสื่อสารบินไปมานั้นหมายความว่าคนระดับสูงของกิลด์ที่พวกเขาต้องรายงานได้รวมตัวอยู่ที่นั่น

ไคล์ รองผู้จัดการพื้นที่ 98 ที่ยืนอยู่ข้างๆ เจนนิเฟอร์แสดงสีหน้าไม่สบายใจออกมาขณะที่เขามองไปยังเจนนิเฟอร์ที่กำลังอารมณ์ดี

“เราจะสู้กับกิลด์ครอสหรือรีโรรีโรเรจริงๆ เหรอ? มันไม่ได้ให้ความรู้สึกดีเลยนะ”

สองผู้แข็งแกร่ง สองระดับปานกลาง และสองคนอ่อนแอ

นี่คือกิลด์ที่ปรากฏอยู่บนหลังกรากอช

มันมีความแตกต่างในแต่ล่ะขั้นอยู่ในระดับหนึ่ง

และนั่นเป็นสาเหตุให้กิลด์ของพวกเขาต้องกังวลกับหลายๆ เรื่องมาจนถึงตอนนี้

แม้ว่าพวกเขาจะได้เปรียบอยู่ในตอนนี้ การต่อสู้กับคนพวกนั้นก็ยังคงสร้างความหวาดกลัวให้กับเขาอยู่ดี

เจนนิเฟอร์ตบหัวของไคล์

เพี้ยะ!

“โอ้ย!”

“ไอ้โง่ แล้วเมื่อไหร่ที่โอกาสจะมาถ้าไม่ใช่ตอนนี้?”

ข่าวที่กิลด์รีโรรีโรเรเป็นหนึ่งในสามกิลด์ระดับกลางและสูญเสียกำลังคนไปอย่างมากจากการปะทะกับกิลด์คราวน์แพร่กระจายไปรอบๆ

และยิ่งไปกว่านั้น เมื่อพวกดาวไถได้มาที่นี่เพื่อที่จะควบคุมทิราดัสในขณะที่กำลังล่าพวกอคารอนอยู่

เหมือนกับกิลด์ครอส

พวกนั้นให้ความสนใจกับทิราดัสในเมื่อพวกนั้นคือคนที่แข็งแกร่งที่สุด และทั้งกิลด์ของพวกเขาไม่อาจที่จะตอบสนองต่อการบุกรุกอย่างกะทันหันของทิราดัสและมาร์กอชจำนวนมหาศาลได้จนกิลด์ของพวกเขาตกอยู่ในความโกลาหล

มันเป็นเหตุผลว่าทำไมตอนนี้ถึงเป็นจังหวะนั้น

ในเมื่อพวกเขารู้ว่าคนพวกนั้นได้รับความสูญเสียมหาศาลจากเหตุการณ์นี้

แม้ว่านั้นจะถูกโจมตีอย่างหนักหน่วงและยังคงอยู่ในความสับสน แต่เมื่อเวลาผ่านไปพักหนึ่งและทุกอย่างสงบลง ผู้คนก็จะเริ่มรวมตัวกันใต้เอนบิ อารินหรือกวานแจ

พวกเขาต้องลงมือก่อนหน้านั้น

“แต่… ถ้าเราปะทะกัน งั้นไม่ใช่ว่าหัวหน้าแอเรียลก็จะตกอยู่ในอันตรายด้วยเหรอ?”

“อะกิกูววว นายนี่กังวลหลายเรื่องซะจริงนะ”

เจนนิเฟอร์แสดงสีหน้ารำคาญอย่างมากออกมา

“เจ้าพวกนั้นจะลงมือง่ายๆ แบบนั้นเลยเหรอ? ในสถานการณ์แบบนี้เนี่ยนะ? พวกนั้นคงจะหยุดหลังจากที่แบ่งของรางวัลกัน อย่ากังวลขนาดนั้นเลย เราก็แค่จะไปเฝ้าดู”

มันอาจจะต่างออกไปถ้าหากพวกเขาอยู่ตัวคนเดียว แต่เมื่อขนาดของกิลด์ขยายใหญ่ขึ้น เขตปลอดภัยที่พวกเขาจะได้รับการปกป้องจากระดับบัลลาดิและระดับมาร์กอช รวมทั้งมีของเหลวร่างกายให้ใช้ก็จะกลายเป็นสิ่งสำคัญ

มันไม่ใช่ว่าพวกเขาควบคุมพื้นที่ตามขนาดของกิลด์

ยิ่งพวกเขาได้พื้นที่ครอบครองมากเท่าไหร่ คนที่พวกเขาจะรวบรวมได้ก็ยิ่งมากขึ้นและขยายขนาดของกิลด์ได้อย่างมั่นคง

และยิ่งอยู่ในอีกโลกที่คนส่วนมากในกิลด์จะถูกเปลี่ยนออกในราวๆ ทุกสามปี

กิลด์รีโรรีโรเรได้รบกวนกิลด์ของพวกเขาอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นมันจึงไม่มีโอกาส

และเพราะแบบนั้นเอง กิลด์ครอสจึงได้ผลประโยชน์เช่นกัน

พวกเขาต้องยึดครองพื้นที่ในโอกาสนี้

กิลด์ทั้งสองอาจจะไม่พอใจ แต่มันไม่มีอะไรที่พวกเขาจะทำได้

‘ใช่แล้ว สมดุลมันควรจะเสียนานแล้ว ถ้าเราโชคดี เราอาจจะสามารถครอบครองได้สามหรือสี่…’

ตูมมมม!

ในขณะที่เจนนิเฟอร์กำลังหัวเราะ คลื่นกระแทกที่สั่นสะท้านไปทั้งป่าได้ปรากฏขึ้นห่างออกไป

คลื่นกระแทกและเสียงนั้น

มันคือการปะทะกันระหว่างระดับมาร์กอช

สีหน้าของเจนนิเฟอร์หม่นหมองลงเมื่อเธอรับรู้ถึงมันได้

‘พวกเขาปะทะกัน?’

เรื่องจะเปลี่ยนไปถ้ามันกลายเป็นแบบนี้

‘เราจะช้าไม่ได้! เราต้องรีบไปช่วย!’

เจนนิเฟอร์ถุยน้ำลายลงบนพื้นก่อนจะรีบวิ่งไปยังสนามรบ

 

 

ตูมมม!

“โอ้ย!”

แอเรียลมึนงงจากแรงกระแทกรุนแรงและกระเด็นลอยถอยหลังไป

พลั่ก

เพื่อนของแอเรียลจากกิลด์โอโคเนลลี่รับร่างที่กระเด็นออกไปของแอเรียลก่อนจะรีบเอ่ยถามขึ้น

“เธอโอเคไหม?”

“เวรเอ้ย ฉันดูโอเคสำหรับนายไหมล่ะ… โอยย”

แอเรียลกัดฟันขณะที่ตวาดออกไป

มันให้ความรู้สึกเหมือนอวัยวะภายในของเธอทั้งหมดถูกบดขยี้จนเละ

การโจมตีจากหอกเพียงแค่ครั้งเดียว

การโจมตีครั้งเดียวนั้นได้ทะลวงผ่านสกิลป้องกันสามชั้นของเธอที่เธอสร้างปกคลุมร่างเอาไว้

ในเวลาเดียวกัน อาร์ติแฟคที่เธอได้รับมาจากส่วนลึกของป่าฮอร์น <โล่แห่งความยุติธรรม> ถูกทำลายจนแตกเป็นสามชิ้น

‘นั่นมันบ้าอะไรกัน? มันมีอะไรแบบนั้นในการผ่าตัดดัดแปลงร่างกายด้วยรึไง?’

แอเรียลกระอักเลือดออกมาขณะที่เธอมองไปยังฮันซู

ทั่วทั้งร่างของอีกฝ่ายถูกครอบคลุมไปด้วยเกล็ดสีทอง

และออร่าสีดำที่ส่องประกายอยู่เหนือเกล็ดสีทองนั้น

มันดูเหมือนกับมังกรปีศาจสีทอง

และแรงกดดันที่แพร่ออกมาจากร่างกายของเขาได้ทำให้เธอรู้สึกเหมือนทั่วทั้งร่างของเธอถูกกดลงไปที่พื้น

มันให้ความรู้สึกเหมือนมังกรปีศาจกำลังจ้องมองมายังเธอ

‘… ถ้าเราสู้กับพวกนั้น เราจะตายกันหมด’

เหตุผลที่พวกเธอสามารถยื้อเอาไว้ได้แม้ว่าจะอ่อนแอกว่านิดหน่อยในด้านของพลังนั้นเป็นเพราะเธอ

เธอที่สามารถถ่วงเวลาเอาไว้ได้จนกำลังสนับสนุนมาถึง

แม้ว่าจะเกิดการปะทะกันขึ้นที่นี่ กำลังเสริมก็จะยังคงมาและเธอจะสามารถฉวยโอกาสนั้นในการกำจัดคนพวกนี้ทั้งหมดได้

แต่หากเป็นเช่นนี้ พวกเธออาจจะตายกันหมดกระทั่งก่อนที่ลูกกิลด์เธอจะมาถึง

อำนาจสำคัญ แต่มันจะสำคัญก็ต่อเมื่อเธอยังคงมีชีวิตอยู่

‘เวรเอ้ย… ฉันต้องซื้อเวลาก่อน’

แอเรียลโยนโล่ที่เธอถือเอาไว้ออกไป ยันตัวลุกขึ้นยืนก่อนจะตะโกน

“ไอ้เวรเสียสตินี่! โจมตีพวกเราโดยไม่แม้แต่จะเตือน!”

ฮันซูแสยะยิ้มก่อนจะเอ่ยขึ้น

“เธอหมายความว่าไงที่ว่าไม่เตือน ฉันบอกเธออย่างชัดเจนแล้วนะว่ามันเป็นไปไม่ได้ คนที่บอกว่าไปจากที่นี่ไม่ได้คือเธอเอง”

เขาต้องพาอคารอนไปยังแท่นบูชาลึกในป่าฮอร์นและควบคุมกรากอช

จากนั้นเขาต้องมุ่งหน้าไปยังสิงโตขาว ลาร์ซาร์

เขาจะปล่อยให้คนพวกนี้เอาตัวอคารอนไปจากเขาได้ยังไง?

แอเรียลสูดลมหายใจเข้าออก

จากนั้นเธอจึงมองไปยังคนรอบๆ เธอและถอนหายใจก่อนจะเอ่ย

“เวรเอ้ย งั้นเราก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว ไปเถอะ ไอ้บัดซบเอ้ย เราทำอะไรไม่ได้”

มันก็น่าเสียดายที่จะปล่อยคนพวกนี้ไป แต่เธอไม่มีความมั่นใจ

ความมั่นใจว่าจะสามารถยื้อเอาไว้ได้จนกว่ากำลังเสริมจะมาถึง

แอเรียลถอนหายใจ แสดงสีหน้ายอมแพ้ขณะที่เธอเปิดทางสู่ส่วนลึกของป่าฮอร์น

‘เฮ้อ เราออกไปได้ซะที’

อาเคลล่าแสดงสีหน้ากระวนกระวายออกมาอยู่ด้านหลัง ทว่าจากนั้นจึงถอนหายใจโล่งอก

แม้ว่าจะเป็นระดับมาร์กอชก็ไม่ได้ไร้เทียมทาน

ถ้าพวกเธอไร้เทียมทาน งั้นทำไมพวกเธอถึงต้องเข้าร่วมกิลด์ด้วยล่ะ?

เธอไม่ต้องการที่จะสู้กับคนที่กำลังล้อมพวกเธอด้วยแนวรบจากทุกทาง ทว่าโชคดีที่แอเรียลเปิดทาง

‘ใช่แล้ว ไปกันเถอะไอ้บ้าเอ้ย ไม่ว่าแกจะแข็งแกร่งแค่ไหน แกก็จะถูกรั้งอยู่ที่นี่ถ้าแกสู้’

ทว่าฮันซูพังความหวังของอาเคลล่าลงจนหมดสิ้น

“นั่นก็เป็นไปไม่ได้”

ตูมมมม!

ฮันซูเหวี่ยงหอกของเขาและฟาดแอเรียลอีกครั้งหลังจากที่ลดระยะห่างระหว่างตัวเขากับอีกฝ่ายลง

แอเรียลที่ระแวงอยู่ก่อนจากการปะทะก่อนหน้าและมีเพื่อนๆ อยู่ข้างๆ ทำให้เธอรอดชีวิตมาได้อย่างหวุดหวิด

กร๊อบบ

ทว่าเธอไม่อาจหลีกเลี่ยงการที่แขนทั้งสองข้างของเธอจะหักได้

‘อึกกก…’

แอเรียลกัดฟันกรอดจากความเจ็บปวดที่แล่นมาจากแขนทั้งสองที่หักของเธอก่อนจะตวาดออกไปพร้อมกับถอยหลัง

“นายทำแบบนี้ทำไม! ฉันบอกให้นายไปแล้วนี่!”

“เธอจะเข้ามาตอนไหนก็ได้ แต่การออกไปเป็นอีกเรื่องหนึ่ง”

‘มันเคยเป็นประโยคประจำตัวของคังเต้ วันนี้มันค่อนข้างน่าฟังนะเนี่ย’

ฮันซูหัวเราะขณะที่เขามองไปยังแอเรียล

กิลด์รีโรรีโรเรและกิลด์ครอสอาจจะยากที่จะแสดงพลังของทั้งกิลด์ออกมาได้ไปสักระยะ

ในเมื่อพวกเขาถูกโจมตีจนแหลกสลายเป็นเศษซากมากเกินกว่าที่จะนำมาประกอบขึ้นใหม่ได้

มันจะกลายเป็นเรื่องน่ารำคาญอย่างมากถ้ามีกิลด์อื่นมาลอบโจมตีพวกนั้นหลังจากที่สร้างพันธมิตรกันขึ้น

‘มันอาจจะต่างออกไปถ้าพวกเขาไม่ได้มุ่งร้ายกับพวกเรา แต่ อย่างน้อยฉันก็ควรจะทำให้พวกเขาไม่อาจทำอะไรได้’

พิราบสื่อสารไม่ใช่อะไรที่สะดวกเหมือนโทรศัพท์

มันมีขีดจำกัดว่าคนคนหนึ่งจะส่งข้อความหาได้กี่คน และจะรับข้อความได้กี่คน

ดังนั้นแล้ว หากเขาทำลายตำแหน่งที่พิราบสื่อสารทั้งหมดมารวมตัวกันลง การสื่อสารภายในกิลด์ก็จะหยุดชะงักลงไปช่วงหนึ่ง

แล้วทำไมฮันซูจะต้องปล่อยคนเหล่านั้นไปเมื่อพวกเขามาอยู่ต่อหน้า

และยิ่งไปกว่านั้น เมื่อคนเหล่านี้อาจจะสร้างทีมมาแกะรอยพวกเขา

‘บัดซบ’

แอเรียลมองไปรอบๆ

พวกเธอมีระดับมาร์กอชอยู่สิบสามคน

แต่คู่ต่อสู้มีหกคนจากกิลด์ครอส สามคนจากกิลด์รีโรรีโรเร และกระทั่งมีอคารอนห้าตนไม่รวมตัวฮันซู

‘ถ้าเป็นแบบนี้เราจะออกไปไม่ได้’

แอเรียลแสดงสีหน้าสิ้นหวังไปชั่วขณะก่อนจะนึกถึงบางอย่างขึ้นได้แล้วตะโกนไปยังอคารอนที่อยู่ด้านหลัง

“อคารอน! ไอ้พวกสารเลว! พวกแกบอกว่าพวกแกมีศักดิ์ศรีและจะไม่โจมตีคนอ่อนแอ! และพวกแกก็ยังพูดว่าพวกแกจะไม่เข้าร่วมในสงครามของเผ่าพันธุ์อื่น! พวกแกยังเป็นนักรบอยู่รึเปล่า!?”

ทารูโฮลทำเพียงยักไหล่เมื่อได้ยินเช่นนั้น

“ของพวกนั้นก็สำคัญ แต่… กฎบอกว่าเราต้องช่วยเหลือสหายที่กำลังตกอยู่ในอันตราย ไม่ว่าข้าจะมองอย่างไร มันก็ดูเหมือนว่าสหายของข้ากำลังตกอยู่ในอันตราย”

จากนั้นทารูโฮลจึงมองไปยังฮันซู

ฮันซูพยักหน้า

“นั่นเป็นความจริง หัวใจฉันเต้นแรงมากเลยตอนนี้ คู่ต่อสู้ของฉันแข็งแกร่งเกินไป”

“งั้นเหรอ? งั้นข้าก็ควรจะช่วยเจ้า”

“ไอ้พวกสารเลว…”

อาเคลล่าเดาะลิ้นใส่แอเรียลที่ใบหน้าเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง

เพราะเธอเองก็อยู่ในสถานการณ์คล้ายๆ กัน

มันไม่มีความแตกต่างระหว่างเธอกับแอเรียลที่ชีวิตของพวกเธอพลิกผันไปสู่จุดที่เลวร้ายที่สุดหลังจากที่มายุ่งกับเจ้าคนที่ชื่อฮันซูตรงนั้นมากนัก

‘มันค่อนข้างน่าเศร้าที่จะมองอยู่แบบนี้แต่ฉันจะทำอะไรได้ ฉันไม่ได้อยู่ในจุดที่จะมากังวลเกี่ยวกับคนอื่น’

อาเคลล่าหยุดคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ขณะที่เธอพุ่งตรงไปยังแอเรียลโดยที่ร่างกายถูกควบคุมด้วยกลิ่น

 

 

“เฮ้ออ…”

ใบหน้าของแอเรียลฉายชัดถึงความยอมแพ้ขณะที่ร่างที่ถูกมัดแน่นของเธอกำลังถูกลากไป

‘บ้าเอ้ย พวกนี้ลงมือหนักจริงๆ’

แอเรียลขมวดคิ้วกับความเจ็บปวดที่แผ่ซ่านไปทั่วร่างของเธอ

ความแตกต่างของพลังมันมากเกินไป

เธอคิดว่าเธอจะสามารถถ่วงเวลาได้ในระดับหนึ่ง แต่มันคือความเข้าใจผิดอย่างใหญ่หลวง

พวกเธอถูกกระทืบจนเละกระทั่งก่อนที่เพื่อนๆ ของพวกเธอจะสามารถมาล้อมฮันซูและกลุ่มของเขาได้ขณะที่ตอนนี้พวกเธอถูกแบกอยู่บนหลังของอคารอนหลังจากที่ถูกมัดเป็นแหนมและถูกพาไปที่ไหนสักแห่ง

ในตอนนั้นเองที่ลูกกิลด์โอโคเนลลี่ปรากฏขึ้นในสายตาของพวกเธอ

“ไอ้หัวหน้ากิลด์เวรนั่น!”

ลูกกิลด์ที่กัดฟันกรอดขณะที่พุ่งเข้ามาหาพวกเธอ

คนจำนวนค่อนข้างมากกำลังโจมตีเข้ามา แต่แอเรียลทำเพียงส่ายศีรษะ

ในเมื่อเธอรู้อย่างชัดเจนว่าอะไรจะเกิดขึ้น

‘และพวกนี้ก็ไม่ได้ทำเพียงช่วยฉันหรืออะไรแบบนั้นจริงๆ’

ตูมมมม!

หอกเพียงเล่มเดียวทลายแนวรบของกิลด์โอโคเนลลี่

“อ๊ากกกก!”

ลูกกิลด์โอโคเนลลี่ล้มลงกลิ้งบนพื้นและกรีดร้องออกมาด้วยความทรมานจากสปอร์ที่ระเบิดออกจากหอกนั้น

วินาทีที่แนวรบพังลง ฮันซูและกลุ่มของเขาก็พุ่งตัวผ่านไป

แอเรียลมองไปยังภาพนั้นก่อนจะถอนหายใจ

‘มันไม่มีทางที่พวกเขาจะสามารถขัดขวางพวกนี้ได้’

มันไม่มีทางพอแม้ว่าพวกเขาจะได้รับคำสั่งจากเธอและทำมันอย่างระมัดระวัง แต่คนพวกนี้ทั้งหมดกำลังพุ่งเข้ามาด้วยตนเอง

พวกเขาทำไม่ได้

แอเรียลเอ่ยขึ้นกับฮันซูที่วิ่งอยู่หน้าสุดอย่างไม่เต็มใจ

“… คุณจะช่วยปล่อยพวกเราไม่ได้เหรอ? จะอย่างไรเราก็ไม่มีค่าในฐานะตัวประกันสักเท่าไหร่อยู่แล้ว! และ… มันไม่มีเหตุผลให้พวกเราไล่ตามพวกคุณตราบเท่าที่คุณยังอยู่กับพวกเขา”

มันคงจะเป็นข่าวที่ลือกันไปทั่วกรากอชแล้ว

<ถ้าได้รับการผ่าตัดดัดแปลงร่างกาย คุณก็จะได้รับพลังมหาศาล! และวิธีการอยู่ในมือของพวกอคารอน!>

ความจริงแล้ว การผ่าตัดดัดแปลงร่างกายไม่ได้เป็นที่รู้จักในวงกว้างขนาดนั้นจนถึงตอนนี้

ในเมื่อคนเพียงคนเดียวที่ได้รับมันคือกวานแจ และเขาไม่มีโอกาสในการแสดงพลังของเขามากนักหลังจากที่สร้างกิลด์ของเขาขึ้น

แต่นี่มันต่างออกไป

มันมีความแตกต่างระหว่างข่าวลือและการเห็นมันด้วยสายตาตนเอง

ทุกคนรู้ว่าเจ้าฮันซูนั่นแข็งแกร่งขึ้นอย่างมากในระยะเวลาสั้นๆ

และตำแหน่งของอคารอนเองก็สามารถมองเห็นได้

ถ้าก่อนหน้าพวกเขาค้นหาพวกนั้นอย่างสบายๆ ตอนนี้พวกเขาก็จะค้นหาพวกนั้นอย่างบ้าคลั่ง

‘และ มันไม่มีทางที่กิลด์จะกระทั่งทำเหมือนพวกเราเป็นตัวประกัน’

ช่วงเวลาเดียวที่ลูกกิลด์จะเรียกหัวหน้ากิลด์ว่าเป็นหัวหน้าก็คือช่วงเวลาที่หัวหน้ากิลด์สามารถควบคุมกิลด์ได้

ทำไมกิลด์จะรู้สึกกดดันเมื่อหัวหน้าของพวกเขาถูกจับเป้นตัวประกันในเมื่อหัวหน้าคนนั้นไม่อาจแม้แต่จะทำอะไรได้?

“ฉันรู้ว่าพวกเธอไม่มีคุณค่าในฐานะตัวประกัน”

แอเรียลรู้สึกงุนงงกับคำพูดของฮันซู

“… หา? งั้นทำไม?”

ในตอนนั้นเอง

เสียงคำรามทุ้มต่ำและสูงส่งได้ดังขึ้นจากท้องฟ้า

โกวววววววว

“มันเริ่มต้นแล้ว”

ฮันซูหัวเราะกับเสียงที่ดังก้องห่างออกไป

กรากอซคำรามเสียงดังเสียจนถึงจุดที่ก้อนเมฆสลายหายไป

ในขณะที่ฮันซูและทารูโฮลกำลังต่อสู้กับทิราดัสและดึงดูดความสนใจของมัน โอเทออนได้ไปถึงยังแท่นบูชาและเริ่มจัดการกรากอซ

ตอนนี้พวกเขาแค่ต้องมุ่งหน้าไปยังลาร์ซาร์

มันคงจะใช้เวลาราวๆ 1 อาทิตย์เพื่อที่จะไปถึงที่นั่น

แต่เหล่าแมงเม่า ผู้คนที่ต้องการพลังจากการดัดแปลงจะไม่ยอมอยู่เฉยๆ ในระหว่างนั้น

‘ช่วงนี้ฉันจะเล่นกับพวกนายไปก่อน พวกนายไม่ควรเข้ามาในป่าลึกขนาดนี้ พวกนายก็รู้’

ฮันซูหัวเราะกับภาพของลูกกิลด์นับพันที่เร่งรีบเสียจนไม่มีกระทั่งระดับมาร์กอชนำมาขณะที่พวกเขาพุ่งเข้ามาในป่า

 


TL: คุณปู่ที่กลัวหลานๆ เหงาเลยไปเล่นด้วย//ผิด

ปล.โบนัสค่า