บทที่ 119: ทิราดัส (3)

 

 

 

โกววว

ป่าฮอร์น

ต้นไม้จำนวนมากที่สูงใหญ่กว่าร้อยเมตรอยู่ระหว่างเขาทั้งสอง

มันมีสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ที่เคลื่อนไหวผ่านต้นไม้เหล่านี้ขณะที่ทำลายพวกมันลง

กร๊อบบ

แคร่กกก

มาร์กอช ดู กราซิโอส ฟาดศีรษะของพวกมันลงกับพื้นและกัดผิวของกรากอชออกมาเช่นที่พวกมันมักจะทำ

เพื่อที่จะกินของเหลวในร่าง

ฉัวะ

โกวว?

กราซิโอสแสดงสีหน้างุนงงออกมาขณะที่พวกมันกำลังกัดพื้น

ในเมื่อของเหลวที่ควรจะไหลทะลักออกมากลับไม่ปรากฏขึ้นแม้แต่น้อย

มาร์กอชขมวดคิ้วขณะที่พวกมันคำราม

มันรู้ว่าทำไมจึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น

มันคือยามที่ของเหลวร่างกายของสิ่งที่พวกมันอาศัยอยู่กำลังขาดแคลน

บางอย่างแบบนี้จะเกิดขึ้นเพราะเรื่องนั้น

โกววววว!

มาร์กอช ดู กราซิโอสที่ทำตัวเหมือนเป็นจ่าฝูงแหงนศีรษะของมันขึ้นก่อนจะคำราม

พวกมันก็แค่ต้องเคลื่อนย้ายไปยังสถานที่ที่มีของเหลวมากกว่านี้หากมันมีไม่เพียงพอ

แม้ว่ามันอาจจะไม่มีที่ตรงนี้ สถานที่ที่มีมากกว่านี้จะปรากฏขึ้นยามที่พวกมันมุ่งหน้าตรงไปยังทางหาง

โกวววว!

ในตอนนั้นเอง เสียงร้องก็ได้ดังก้องไปทั่วทั้งป่า

ไม่ช้า กราซิโอสนับร้อยตัวก็เริ่มเคลื่อนไหว

เพื่อที่จะค้นหาสถานที่ที่ของเหลวร่างกายจะปรากฏขึ้น

เพื่อที่จะค้นหาสถานที่ที่ฝูงของพวกมันจะสามารถมีชีวิตรอดได้

และสถานที่ที่พวกมันกำลังมุ่งหน้าไปก็มีมนุษย์ครอบครองอยู่

 

 

บุ๋ง บุ๋ง บุ๋ง

กวานแจเดาะลิ้นไปยังถังน้ำสีเงินขนาดยักษ์ที่กำลังทำงาน

สามคนนั้นเตรียมตัวที่จะกระโดดออกมาในทันทีที่มีบางอย่างน่าสงสัยเกิดขึ้น

สามคนนั้นหวาดระแวงว่าหากหนึ่งในพวกเขาเสร็จสิ้นการดัดแปลงก่อนจะสร้างอันตรายให้กับอีกสองคน ดังนั้นพวกเขาจึงตัดสินใจเข้าไปพร้อมกัน

ในเมื่อพวกเขาก็แค่ต้องจัดการกวานแจหากอีกฝ่ายพยายามที่จะทำอะไรผิดปกติ

แต่มันไม่สำคัญหรอก

ในเมื่อวิธีการควบคุมได้เริ่มต้นขึ้นพร้อมกับการผ่าตัดดัดแปลงร่างกาย

หลักฐานคือดวงตาที่เบิกกว้างของพวกเขากำลังปิดลงอย่างช้าๆ

‘ความโลภที่มากเกินไปของพวกนายจะกลับมารัดคอพวกนายในอนาคต’

กวานแจเมินคนทั้งสามขณะที่เขามองไปยังฮันซูที่แสร้งทำเป็นว่านอนนิ่งอยู่บนพื้นอย่างไม่อาจขยับได้

ก่อนจะคิดถึงข้อเสนอของฮันซู

“ทิราดัส ทิราดัสงั้นเหรอ… ฉันเคยแค่ได้ยินเกี่ยวกับมัน แต่การที่ไอ้ตัวแบบนี้มีอยู่จริง”

กวานแจพึมพำขณะที่มองไปยังฮันซู

เขาไม่เคยเห็นทิราดัสด้วยตนเอง

เหตุผลที่เขารู้เกี่ยวกับทิราดัสนั้นเป็นเพราะประโยคหนึ่งจากหนังสือ

สิ่งที่หนึ่งในรุ่นพี่ของพวกเขา คังเต้ ได้ทิ้งเอาไว้ในรูปแบบของหนังสือ

<ถ้าพวกนายเข้าไปลึกในป่าฮอร์น งั้น… พวกนายก็จะได้เห็นสัตว์ประหลาดที่แท้จริง บางอย่างที่ฉีกกระชากหัวใจของมาร์กอชและดื่มกินเลือดของกรากอช ไม่มีใครควรจะไปลึกถึงขนาดนี้ที่นั่น>

‘ถึงจะบอกแบบนั้น… ใครจะเข้าไปลึกถึงขนาดนั้นในป่าฮอร์นกัน?’

ในเมื่อมันมีสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งจำนวนมากอยู่ภายในป่าฮอร์น มันจึงมักจะถูกใช้เป็นพื้นที่ล่าสำหรับกิลด์ระดับสูง

มันกระทั่งมีป้ายเตือนจากกิลด์รีโรรีโรเรอยู่ใกล้กับป่า รวมทั้งป้ายเตือนจากกิลด์ที่แข็งแกร่งที่สุด <ครอส> ก็ตั้งอยู่ใกล้ๆ

และป้ายเตือนที่แตกต่างกันไปสิบสองป้ายสำหรับการล่าก็ถูกตั้งไว้ทั่วป่าฮอร์น และมันมีตำแหน่งที่นักผจญภัยระดับสูงที่ไม่สังกัดกิลด์มักจะเข้าไปบ่อยๆ อยู่

สถานที่ที่มีกองกำลังของมนุษย์มารวมตัวกันมากที่สุด

และมีคนอยู่จำนวนมากเช่นกัน

แต่ไม่มีใครเข้าไปลึกในป่าฮอร์น

ในเมื่อป่าฮอร์นนั้นเป็นที่เลื่องลือเกี่ยวกับมาร์กอชจำนวนมหาศาล

มันมีอาหารจำนวนมากสำหรับมาร์กอช ในเมื่อมันมีเส้นเลือดที่มีของเหลวร่างกายอยู่บริเวณหัวมากกว่า และหากต้องการที่จะโม้เพิ่มอีกสักหน่อย จำนวนมาร์กอชที่นี่มากเสียจนในขณะที่คุณกำลังสู้อยู่กับอีกตัว อีกตัวก็จะวิ่งเข้ามาหาคุณเลยล่ะ

‘ถ้าไอ้ตัวนั้นกินมาร์กอชพวกนี้ งั้น… มันก็คงจะตัวใหญ่มากใช่ไหม?’

เขาถูกบอกว่ามันกินมาร์กอชเหล่านี้ที่สูงหลายกิโลเมตร

มันอาจจะใหญ่พอๆ กับภูเขาลูกเล็กๆ

‘ฉันไม่รู้ว่าเราจะจับไอ้ตัวแบบนั้นได้ยังไง’

ในขณะที่กวานแจกำลังเดาะลิ้น ฮันซูก็ปัดฝุ่นบนร่างพร้อมลุกขึ้นจากพื้น

ซึ่งหมายความว่าทั้งสามคนที่กำลังได้รับการผ่าตัดดัดแปลงร่างกายข้างในถังน้ำได้หลับใหลไปแล้ว

กวานแจเอ่ยถามฮันซู

“นายจะทำอะไรต่อ? ตอนนี้มีสิบคนแล้วรึเปล่า?”

ตัวเขา พวกที่ถูกเสริมพลังอีกสาม ฮันซู และห้าเสาหลักของอคารอน

รวมแล้วสิบคน

“ถ้าเรามองแค่ตัวทิราดัส งั้น… มันก็เป็นไปได้อยู่”

“ซึ่งหมายความว่ามันเป็นไปไม่ได้”

กวานแจขมวดคิ้ว

ถ้าพวกเขานึกถึงแค่ทิราดัสตัวเดียว งั้นมันก็เป็นไปได้

ซึ่งหมายความว่ามันไม่มีทางที่จะรับมือกับมาร์กอชที่พวกเขาจะเจอในระหว่างทาง

ในเมื่อทิราดัสอาศัยอยู่ในส่วนลึกที่สุดของป่า

“นายจะรับมือกับกองกำลังอื่นๆ ที่เรามียังไงล่ะ?”

ในสมองของกวานแจ พวกเขาต้องการคนระดับมาร์กอชอย่างน้อย 15-20 คนเพื่อที่จะฝ่ามาร์กอชในระหว่างทางไป

แน่นอนว่ามันอาจจะพอถ้าพวกเขารวบรวมทุกคนในกิลด์หกอันดับแรก รวมทั้งพวกที่เดินทางด้วยตัวเอง

แต่เขามั่นใจว่ามันก็ยังคงเป็นไปไม่ได้ที่จะฆ่าทิราดัสแม้ว่าพวกเขาจะเติมเต็มตำแหน่งทั้งยี่สิบหลังจากที่จับคนพวกนั้นมาแล้ว

“นายพยายามจะยึดครองพื้นที่หรืออะไรแบบนั้นรึไง? ถ้านายต้องการจะรวบรวมคนระดับมาร์กอชมากขนาดนั้น งั้นอย่างน้อยนายก็ต้องรวบรวมพื้นที่ทั้งหมดที่นี่ให้ได้”

ทีมในฝันแบบนั้นจะเป็นไปไม่ได้นอกจากที่พวกเขาจะบดขยี้ทุกกิลด์ลงไปใต้ฝ่าเท้าของพวกเขา

ฮันซูถอนหายใจเมื่อได้ยินเช่นนั้น

จากนั้นเขาจึงเอ่ยขึ้นกับกวานแจ

“มัน… อาจจะเป็นไปได้เพราะนาย น่าเสียดาย”

“อะไรนะ?”

“นายกินแกรปไฟต์มากเกินไป”

“นายพูดอะไรของนายเนี่ย?”

 

 

กัปตันของหน่วยช๊อคทรูปเปอร์ของกิลด์รีโรรีโรเร คานช์ ถอนหายใจและเช็ดดาบของเขาในขณะที่เขากำลังพักผ่อนอยู่กลางป่าฮอร์น

“เจ้าพวกคนจากดาวไถไปไหนกันหมด? หลังจากที่ทิ้งพวกเราไว้ที่นี่”

“ฮี่ ถ้านายถูกจับได้ว่าพูดแบบนั้น นายจะตาย”

ขณะที่เพื่อนของเขาที่อยู่ข้างๆ เอ่ยหยอกเขา เขาก็เอ่ยตอบด้วยท่าทีหดหู่

“พวกเขาอาจจะยอดเยี่ยมมากๆ แต่พวกนั้นจะมีสกิลหรือได้ยินสิ่งที่อยู่ไกลออกไปหลายพันกิโลเมตรได้ยังไง จะยังไงก็เถอะ ไม่ใช่ว่าเราไม่มีทางรับมือกับอคารอนได้เลยถ้าไม่มีพวกนั้นเหรอ?”

เมื่อเอ่ยจบ คานช์ก็มองผ่านต้นไม้ไปยังอคารอนที่กำลังจ้องมองมายังเขาและกลุ่มของเขา

แม้ว่าเขาจะอยู่ในระดับสุดยอดของระดับบัลลาดิ อคารอนพวกนั้นก็อยู่ในระดับมาร์กอช

มันมากเกินไปสำหรับพวกเขา

อาเคลล่ากับกวานแจไปที่ไหนกัน?

‘มีแค่หลังจากที่ฆ่าพวกนั้น ฉันจึงจะสามารถได้รับการผ่าตัดดัดแปลงร่างกายหรืออะไรสักอย่างและขึ้นไป เจ้าพวกนั้นไปทำบ้าที่ไหนกันแน่?’

ในขณะที่คานช์ขมวดคิ้วและจ้องไปยังอคารอน ความวุ่นวายก็เกิดขึ้นใจกลางกลุ่มของพวกอคารอน

“…!!!”

“…วิ่ง…!”

“รีบไปเร็วๆ เข้า… กรากอซ… ตรงนั้น…”

เสียงมันดังเสียจนพวกเขาสามารถได้ยินได้

อคารอนตะโกนใส่กันและจากนั้นจึงเริ่มรีบวิ่งกระจายไปทุกทิศทาง

ไม่ใช่ทางหุบเขานี้ ที่เป็นตำแหน่งของพวกเขา แต่เป็นเส้นทางที่แตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง

คานช์ตกใจเมื่อเห็นภาพนั้นก่อนจะลุกขึ้นยืนเช่นกัน

หากเจ้าพวกนั้นหนีไปและหลบซ่อน งั้นจะเกิดอะไรขึ้นกับสิ่งที่พวกเขาทำมาจนถึงตอนนี้?

‘คิมกวานแจ ไอ้เวรนี่ ไม่แม้แต่จะจัดการพวกนั้นให้เสร็จๆ และทำงานของนายให้เรียบร้อยในฐานะของหัวหน้ากิลด์!’

คานช์รีบลุกขึ้นและตะโกน

“พวกนั้นกำลังพยายามออกจากป่าฮอร์น! สร้างทีมแกะรอย หน่วยสอง สี่ เจ็ด ขัดขวางทางของพวกนั้นไปยังพื้นที่ยี่สิบ หน่วยที่หนึ่งมากับฉัน!”

‘ฉันต้องหาสาเหตุว่าทำไมพวกนั้นถึงหนีไป’

แม้ว่าคานช์จะคร่ำครวญเยอะ เขาก็ได้เติบโตขึ้นค่อนข้างมากหลังจากเดินทางไปในอีกโลกกว่าเจ็ดปี

กิลด์รีโรรีโรเรรีบสร้างหน่วยแกะรอยและเตรียมตัว

‘ดี พวกเขาพร้อมกันหมดแล้ว’

คานช์แสดงสีหน้าพึงพอใจออกมาขณะที่เขามองไปยังหน่วยที่หนึ่งที่ใส่ชุดเตรียมพร้อมรบและยืนอยู่ข้างหลังเขา

ทีมสามสิบคนที่สร้างขึ้นจากแค่คนระดับบัลลาดิ

คนที่เขาลากเข้ามาอยู่ใต้เขาเพื่อที่จะมีอำนาจขึ้นบ้างในกิลด์

เขาอาจจะฆ่าคนระดับมาร์กอชได้สักคนด้วยพลังขนาดนี้

แม้ว่าพวกนี้ทั้งหมดจะค่อนข้างเสียสติ แบบนี้กลับดีกว่า

‘ในเมื่อยิ่งพวกนี้เสียสติมากแค่ไหน มันก็ยิ่งต่อสู้ได้ดีขึ้นเท่านั้น’

“ไปกันเถอะ! แค่แกะรอยของพวกนั้นแล้วค่อยรวมตัวกับทีมแกะรอย”

จากนั้นคานช์จึงทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้า

เขากำลังจะตรวจสอบสถานการณ์จากมุมสูง

แม้ว่าเขาจะไม่ค่อยทำแบบนี้ในเมื่อเขาจะเปิดเผยตำแหน่งของตนเองให้กับลูกกิลด์คนอื่นๆ แต่ตอนนี้มันไม่สำคัญแล้ว

คานช์พาร่างของตนเองขึ้นไปยังระดับห้าร้อยเมตรก่อนจะมองไปยังร่องรอยของอคารอน

และจากนั้นจึงรีบตะโกนลงไปข้างล่าง

“หนีไป! ไปยังป้ายเตือนที่สอง! ป้ายเตือนที่สอง! กราซิโอสกำลังแตกตื่น!”

อาคูล รองหัวหน้าหน่วยที่หนึ่งขมวดคิ้วเมื่อได้ยินเสียงตะโกนของคานช์

และป้ายเตือนที่สองได้อยู่ในตำแหน่งตรงกันข้ามกับทิศทางที่อคารอนกำลังวิ่งไปอย่างสิ้นเชิง

ซึ่งหมายความว่าพวกเขากำลังจะยอมปล่อยอคารอนไปอย่างสมบูรณ์

‘บ้าบออะไรกัน ทำไมการที่กราซิโอสกำลังมาถึงได้กลายเป็นปัญหา?’

อาคูลแสดงสีหน้างุนงงออกมา

มาร์กอช ดู กราซิโอสที่มีจำนวนมากที่สุดตัวค่อนข้างใหญ่ แต่พวกมันเชื่องช้า ดังนั้นแล้วพวกมันจึงไม่ได้เคลื่อนไหวเร็วแบบนั้น

และพวกมันยังไม่ชอบที่จะเคี้ยวมนุษย์ ดังนั้นแล้วพวกมันจึงไม่อันตราย

‘ตลก ไอ้การฆ่าตัวแบบนั้นแล้วยังเรียกตัวเองว่าระดับมาร์กอช’

คนอื่นๆ อาจจะหวาดกลัวระดับมาร์กอช แต่เขาไม่เคยกลัว

และงานอดิเรกของเขาก็คือการเฉือนแผ่นหลังของกราซิโอส

วินาทีที่อาคูลเค้นเสียงออกมากับเรื่องนี้ พื้นก็เริ่มที่จะสั่นไหว

อาคูลผวาไป

ในเมื่อมันไม่ใช่แรงสั่นสะเทือนที่จะเกิดขึ้นเมื่อมาร์กอชเคลื่อนไหวช้าๆ

โกวววว!

ในตอนนั้นเอง เสียงคำรามดังลั่นก็ปรากฏขึ้นห่างออกไป

จากตำแหน่งนับร้อยที่เวลาเดียวกันฃ

จากนั้นหน้าผาที่อคารอนกำลังหลบซ่อนอยู่ก็ถูกทำลายในเสี้ยววินาที

ตูมมม!

อาคูลตื่นตระหนกขณะที่เขาเริ่มวิ่งหนี

“ว๊ากกกก!”

โกวววว!

สัตว์อสูรนับร้อยที่สูงหลายกิโลเมตรกำลังตื่นตระหนกบ้าคลั่ง

อาคูลตระหนักได้ในที่สุดว่าทำไมคนอื่นๆ ถึงได้หวาดกลัวระดับมาร์กอช

‘เจ้าพวกนั้นฆ่าไอ้ตัวแบบนี้เนี่ยนะ?!?!’

มันมีความแตกต่างมหาศาลระหว่างการที่พวกมันยืนอยู่อย่างสงบและเวลาที่พวกมันบ้าคลั่ง

ในเมื่อภูเขาถล่มและพื้นดินแตกระแหง

ต้นไม้ที่ถูกกระแทกโดยร่างของมาร์กอชกระเด็นออกไปราวกับอุกกาบาตร ลูกกิลด์ที่อยู่ขวางทางมันได้ถูกเปลี่ยนกลายเป็นเนื้อบดไป

‘ทำไมพวกมันถึงได้รีบขนาดนี้!’

อาคูลหลบเศษไม้ขณะที่เขากัดฟันกรอด

กราซิโอสนับร้อยเหลือบมองไปยังด้านหลังของพวกมันราวกับว่าพวกมันพยายามสุดชีวิตที่จะหนีจากบางอย่าง

ท่าทางแบบเดียวกับพวกเขาพยายามหนีไปจากพวกกราซิโอส

สิ่งมีชีวิตแบบไหนที่จะทำให้เจ้าพวกนี้หวาดกลัวจนแทบเสียสติได้

‘ฉันไม่เคยเห็นไอ้ตัวแบบนั้นมาก่อนเลยนะ?’

แคร่ก

ในตอนที่อาคูลแสดงสีหน้างุนงงออกมาและมองไปยังด้านหลังของเขา

ฟิ้ววว

บางอย่างได้ปรากฏตัวขึ้นในอากาศขณะที่กระพือปีกของมัน

‘หือ?’

อาคูลหรี่ตามอง

ในเมื่อมันตัวเล็กมาก

ไม่สิ มันไม่ได้ตัวเล็กขนาดนั้น

ในเมื่อเทพโลหะสูงสิบเมตรนั้นตัวใหญ่กว่ามนุษย์มาก ทั้งยังดูแข็งแกร่งกว่ามาก

แต่นี่คือเมื่อเทียบกับมนุษย์

เมื่อเทียบกับกราซิโอส พวกเขาไม่อาจเป็นได้แม้แต่แมลงที่ดูดเลือดจากวัวด้วยซ้ำ

‘นั่นมัน?’

ในตอนนั้นเอง

เทพโลหะกลางอากาศก็พลันหายตัวไป

ดวงตาของอาคูลไม่แม้แต่จะมองทัน

ฉัวะ

โกวววว!

ในตอนนั้นเอง กราซิโอสเพศผู้ตัวยักษ์ที่อยู่หลังสุดก็ร้องออกมาอย่างเจ็บปวด

และจากนั้น บางอย่างก็ได้ทะลวงหัวใจของกราซิโอสขณะที่มันวิ่งหนี

เทพโลหะที่หายไปจากสายตาของอาคูล

ตูมมม

กราซิโอสที่ดูเหมือนว่าจะเป็นจ่าฝูงของพวกมันล้มลงโดยไม่มีโอกาสแม้แต่จะกรีดร้อง

และสิ่งที่ทะลวงหัวใจใหญ่โตนั้นก็หัวเราะออกมาขณะที่มันเริ่มเคี้ยวสิ่งที่อยู่ในมือของมัน

อาคูลรู้สึกได้ถึงสันหลังที่เย็นวาบขณะที่เขาวิ่งเพื่อที่จะหนีออกไป

กี้

ในตอนนั้นเอง

เทพได้ขมวดคิ้วเมื่อมันเห็นอาคูลวิ่งหนีไป

มันดึงสิ่งที่มันกำลังเคี้ยวอยู่ภายในปากออกมาก่อนจะขว้างมันออกไป

ฉึก

“…อึก? อุกกก…”

อาคูลแสดงสีหน้าเหลือเชื่อออกมากับสิ่งที่ทะลวงผ่านหัวใจของเขา

เศษกระดูกเล็กจ้อยที่ดูเหมือนจะเป็นของกราซิโอส

และสายตาพร่าเลือนของเขาก็เห็นสิ่งมีชีวิตที่ราวกับสัตว์ป่าโยนบางอย่างไปทุกทิศทางราวกับว่ามันพยายามที่จะจับทุกสิ่ง

 

 

 

“เมื่อมาร์กอชอพยพ ทิราดัสจะออกมา แม้ว่ามันจะง่ายขึ้นสำหรับฉัน…”

ฮันซูพึมพำ

มาร์กอช ดู ทิราดัส

มันจะมีชีวิตรอดจากการกินมาร์กอชตัวเดียวไปหนึ่งปีเต็มๆ

ดังนั้นแล้วนักล่าตัวนี้จึงไม่ค่อยเคลื่อนไหวขณะที่มันหลับใหลอยู่ในส่วนลึกที่สุดของป่า

แต่มันมีช่วงเวลาที่ไอ้ตัวนี้ออกมาอาละวาด

การเคลื่อนย้ายครั้งใหญ่ของมาร์กอช

เมื่อมาร์กอชเดินทางไปยังส่วนตัวของกรากอชเพื่อหาอาหาร ไอ้ตัวพวกนั้นจะเริ่มฆ่า ไม่ใช่เพื่ออาหาร แต่เหมือนกับ <การล่า>

เป้าหมายของการล่าครั้งนี้คือมาร์กอชทุกชนิดนอกจากทิราดัส

“จะมีคนตายจำนวนมาก ดังนั้นแล้วเราต้องรีบจับมัน ตั้งสติแล้วไปกันเถอะ ในเมื่อการดัดแปลงของพวกเขาเสร็จแล้ว”

“…”

กวานแจเหม่อมองไปยังท้องฟ้าในขณะที่ฟังคำพูดของฮันซู

 

 


TL: ลาสบอสออกมาแล้วว