จี้ฮ่าวเปิดประตูออกมา เห็นจี้หวู่กำลังยืนกอดอกอยู่หน้าประตู
“ฮ่า! ”
จี้หวู่จองไปที่จี้ฮ่าวที่ตัวเล็กกว่าเขา ด้วยท่าทางหยิ่งผยอง หัวเราะเสียงดัง
“จี้ฮ่าว ข้าจะฆ่าแกที่พิธีบูชา! ”

จี้ฮ่าวมองไปที่จี้หวู่ เขายิ้มมุมปากและพูดเย้ยหยัน

“ฆ่าข้า? คนที่เกือบจะถูกข้าฉีกเป็นชิ้นๆเมื่อวาน กับบอกว่าต้องการจะฆ่าข้า ข้าไม่คิดว่าเจ้าจะทำได้ ”

จี้หวู่กัดฟันแล้วมองไปที่จี้ฮ่าว เขาดูโกรธจนลูกตาแทบจะหลุดออกมา เมื่อวานเขาแพ้ให้กับจี้ฮ่าวที่ตัวเล็กกว่าและระดับพลังต่ำกว่า จนถึงขั้นเลือดอาบต่อหน้าพ่อของเขา และเหล่าผู้อาวุโส สำหรับเขา นี้คือสิ่งที่น่าอับอายขายหน้าที่สุดในชีวิต เขาไม่กล้าแม้จะแต่จะสู้หน้าพ่อของเขา

“เจ้าสารเลวนี้ ” จี้หวู่เหวียงหมัด พยายามจะชกจี้ฮ่าว ขณะนั้นมีผู้หญิงรูปงาม เดินมาจากทางด้านหลังจี้หวู่ จับแขนของเขาและดึงกลับไปอย่างนุ่มนวล ผู้หญิงคนนี้ดูบอบบางแต่ทรงพลัง
หลังจากถูกดึงกลับไป จี้หวู่เดินโซเซถอยหลังไปสิบก้าว และล้มลงไปบนพื้น เขานั่งอยู่บนพื้นอย่างอับอาย

“ท่านแม่ ข้าจะอัดเจ้าคนสารเลวนี้ ” จี้หวู่ตะโกน
“เฮ้ ไอ้เจ้าบ้า แกกำลังพูดถึงใคร ” จี้ฮ่าวยืนกอดอก มองไปที่ผู้หญิงที่ยืนอยู่ด้านหน้าและหัวเราะ
จี้หวู่พยายามจะพูดบางอย่าง แต่หลังจากที่แม่ของเขาทำหน้าดุ เขาก็อยู่ในความสงบ

ผู้หญิงหรี่ตามอง จี้ฮ่าวตั้งแต่หัวจรดเท้า และพูดว่า

“ช่างเป็นเด็กที่น่ารักเหมือนกับแม่ของเจ้า แต่ตัวเล็กและอ่อนแอ ดูแลแขนและขาที่ผอมแห้งของเจ้า นั่นไว้ดีๆ ระวังสัตว์ป่าจะงาบมันไป ”

จี้ฮ่าวมองที่ผู้หญิงคนนั้น นางดูสูงกว่าชิงฟูเล็กน้อย ถ้าเปรียบเทียบกับชิงฟูที่ดูอ่อนโยนและเป็นคนใจดี แต่ผู้หญิงคนนี้ดูเป็นคนอารมณ์ร้าย นางมีรูปร่างที่เซ็กชี่และน่าหลงใหล ริมฝีปากสีแดง และตาคมสีน้ำตาลเข้มดูมีเสน่ห์ แต่ก็ดูอันตราย

“ข้าไม่เชื่อว่าจะมีสัตว์ป่าในโลกนี้ ที่จะฉีกแขนของข้าได้ ” จี้ฮ่าวจ้องไปที่ผู้ หญิงคนนั้น และพูดต่อว่า

“แต่ข้าว่าคนที่ควรจะระวังคือยายมากกว่า มีพวกงูเน่าจากเผ่านาคาทมิฬมาป้วนเปี้ยนแถวนี้บ่อยๆ คิดดูถ้ายายถูกจับตัวไปจะมีพวกงูเน่านั่น มาหายายที่เตียงเป็นร้อยทุกคืน ”

สีหน้าของผู้หญิงคนนั้นเปลี่ยนไป นางเริ่มไม่สบอารมณ์ “ยายงั้นรึ? ข้าดูเหมือนพวกคนแก่น่าเกลียด คนอื่นๆในเผ่างั้นรึ? ” นางไม่แม้แต่จะเอ่ยถึงพวกเผ่านาคาทมิฬที่จี้ฮ่าวพูดถึง

“ไอ้เด็กเวร แกนะแก! ” จี้หวู่ตะโกน
“กล้าดียังไงมาเรียกแม่ข้าแบบนั้น ” รอยสักบนแขนทั้งสองข้างของเขาเปล่งแสงขึ้น โล่และขวานปรากฏออกมาที่มือของเขา

ขณะที่จี้หวู่กำลังจะโจนใส่จี้ฮ่าวนั้น เจ้าหมีขนสีทองแดง มายืนอยู่ที่ด้านหลังของจี้ฮ่าว ดูราวกับภูเขาลูกย่อมๆ มันจ้องไปที่จึ้หวู่ พร้อมกับน้ำลายไหล ราวกับว่ามันกำลังจ้องเนื้อที่แสนอร่อย

“เฮ้ เจ้านั่นมันอะไรนะ” จี้หวู่ช็อค หลังจากได้เห็นเจ้าหมี เขาล้มลงเหมือนกับกบที่ถูกจองโดย อสรพิษ และเขาไม่สามารถจะขยับ เขาถอยหลังมา 2 ก้าวและล้มลงที่พื้นอีกครั้ง

ถึงแม้มันจะอ้วนและดูขี้เกียจก็ตาม แต่เจ้าหมีตัวนี้เป็นสัตว์แห่งพันธสัญญาของจี้เซีย ระดับความแข็งแกร่งของมันใกล้เคียงกับระดับจอมเวทย์เลยทีเดียว

มันเป็นไปไม่ได้ที่จี้หวู่ระดับแค่นักเวทย์ฝึกหัด จะไม่หวาดกลัวเจ้าหมีที่กำลังจ้องอยู่

ผู้หญิงคนนั้นโบกมือของนางในอากาศ จากนั้นบรรยากาศที่น่ากลัวจากเจ้าหมี ก็หายไปจนหมดสิ้น นางจองไปที่จี้ฮ่าวด้วยอารมณ์ที่เยือกเย็น และพูดว่า
“เด็กน้อย เจ้าคิดว่าเจ้าอายุเท่าไหร่กัน ไม่รู้เหรอว่าผู้ชายควรจะปฏิบัติกับผู้หญิงยังไง ชิงฟู ข้ามาที่นี่เพื่อพบเจ้า เจ้าจะปล่อยให้เด็กนี่มันพูดจากเหลวไหลต่อไปงั้นเหรอ? ”

“ฮาฮ่า… ” ผู้หญิงหัวเราะเยาะเย้ย และสะบัดมือของนาง ทันใดนั้นมีพงอะไรบางอย่างลอยออกมาจากแขนเสื้อ ก่อให้เกิดเป็นหมอกตรงไปที่จี้ฮ่าว

จี้ฮ่าวได้กลิ่นแปลกๆ เขารู้ได้ทันทีมันคือสมุนไพรที่มีพิษร้ายแรง จี้ฮ่าวถอยหลังออกมาอย่างรวดเร็ว เจ้าหมียืนขึ้นและคำราม สร้างกระแสลมราวกับพายุออกมาจากปากของมัน สกัดหมอกพิษไว้ชั่วขณะ ผู้หญิงสะบัดนิ้วของเธออีกครั้ง หมอกพิษแยกออกเป็นสองกลุ่ม ตรงไปที่จมูกของเจ้าหมี

“เจียงเหยา เจ้าก็น่าจะรู้ ข้าแค่ทำยาเอาไว้ช่วยชีวิตคน ข้าไม่รู้อะไรเกี่ยวกับยาพิษของเจ้า ”
ชิงฟูถอนหายใจ หมอกสีเขียวกระจายไปทั่วทั้งห้องและห่อหุ้มหมอกสีเทาไว้ หมอกสีเขียวกับสีเทารวมตัวกันอย่างรวดเร็ว แล้วหายไปในอากาศ

ใบหน้าแสนสวยของเจียงเหยา เปลี่ยนเป็นบูดเบี้ยวและพูดอย่างเยือกเย็นว่า
“ชิงฟู ฉันประหลาดใจจริงๆ หลังจากที่คุณถูกทำให้จุดชีพจร มันทำให้พลังของคุณอยู่แค่ระดับนักบวชขั้นเเรก และตอนนี้คุณเป็นเพียงแค่ คนทำยาเท่านั้น ”

ชิงฟูนิ่งเงียบ ในขณะที่จี้ฮ่าวอยู่ด้านหลังเจ้าหมีและดึงหางของมัน เพื่อไม่ให้มันไปทำร้ายเจียงเหยาและพูดว่า “ มันเป็นความจริงที่ท่านแม่ของข้า พลังตกจากระดับนักบวชขั้นสูง แต่เธอยังมีพรสวรรค์ในการทำยาต่างๆ นางคอยช่วยรักษาและถอนพิษให้กับคนในเผ่า ความรู้ความสามารถในการทำยาของนาง มันมาจากนิสัยของนางที่คอยคิดค้นสิ่งใหม่ๆอยู่เสมอ ”

เจียงเหยายิ้มและตะโกนอีกครั้ง
“พี่ใหญ่จี้เซีย ข้ามาที่นี่เพื่อเยี่ยมเยือน แต่เจ้ากับปล่อย ให้เจ้าเด็กนี่มาต่อปากต่อคำกับข้า? ”

จี้เซียนิ่งเงียบ ชิงฟูพูด “เจียงเหยา เจ้ามาเยี่ยมหรือมาเพื่อท้าทายเรากันแน่ ถ้าเจ้าต้องการคุยอะไร ไปคุยที่พิธีบูชา และถ้าเจ้าต้องการเหนือกว่าข้าในการทำยา ก็แสดงมันที่พิธีบูชาเลยเป็นยังไง? ”

เจียงเหยาหัวเราะและจองไปที่ชิงฟู เธอพูดด้วยเสียงต่ำๆและนุ่มนวล
“ตกลง ข้าจะทำตามที่เจ้าพูด เจ้ากับข้า เรามีหลายอย่างที่ต้องสะสางกันที่พิธีบูชา หลังจากนั้นสามีของข้า จะได้ขึ้นเป็นหัวหน้าของเผ่ากาอัคคี! ”

จี้ฮ่าวไอและพูดว่า “เฮ้ จี้เซียพ่อของข้าคนเดียวเท่านั้นที่จะเป็นหัวหน้านักรบของเผ่ากาอัคคี ”

เจียงเหยายิ้มด้วยความมุ่งร้าย ทันใดนั้นเธอยกแขนขึ้น และหันมือไปทางจี้ฮ่าวในลักษณะงอนิ้วมือเข้ามา เล็บของ เจียงเหยา สร้างสายลมที่คมกริบ พุ่งตรงไปยังหน้าของจี้ฮ่าว ห่างเพียงหนึ่งฟุต จี้ฮ่าวไม่สามารถลืมตาขึ้นมาได้ สายลมนั่นส่งกลิ่นที่น่าสะอิดสะเอียน เห็นได้ชัดว่าในลมนั่นมีพิษ

เจียงเหยาตะโกน “เจ้าหนูน้อย นี้คือสิ่งที่พูดกับผู้ใหญ่งั้นรึ? ”

เจียงเหยาเป็นระดับนักบวชขั้นสูงและ ค่อนข้างถนัดในการใช้พิษ จี้ฮ่าวขยับถอยออกมาในขณะที่เขายังไม่สามารถลืมตาได้

ทันโดนั้นชิงฟูปรากฏตัวต่อหน้าเจียงเหยา นางอ้างปากและพ่นไข่มุกออกมา มันส่องแสงสีขาวเป็นประกาย ไข่มุกพุ่งไปโดนมือของเจียงเหยาเข้าอย่างจัง
เจียงเหยากรีดร้องและชักมือกลับอย่างรวดเร็ว ราวกับถูกไฟ เธอมองดูไข่มุกอย่างละโมบและพูดว่า

“ไข่มุกมู่เชิง ช่างเป็นสมบัติที่ล้ำค่า น่าละอายที่ของมีค่าเช่นนี้อยู่กับเจ้า ข้าจะรอเจอเจ้าที่พิธีบูชา ”

เจียงเหยาพูดจบและใช้มือขวาจับไปที่ไหล่ของจี้หวู่ จากนั้นที่ก็กลายเป็นควัน แล้วหายวับไป

ชิงฟูหยิบไข่มุกมู่เชิงใส่ปากของนาง นางเดินโซเซเกือบจะล้มลงบนพื้น จี้ฮ่าวลืมตาขึ้นมา เขาเห็นเลือดไหลออกมาจากปากของชิงฟู ชั่วครู่ตาของจี้ฮ่าวเปลี่ยนเป็นสีแดงและกับมาปรกติ

เสียงของจี้เซียลอยมาจากในห้อง “ฮ้าว เข้ามาข้างใน ลูกยิ่งกินอาหารไม่เสร็จ ”
จี้เซียพูดต่อโดยเสียงต่ำๆ
“พวกเขากล้าดียังไงมาทำแบบนี้กับพวกเรา พวกเขาคิดจริงๆรึว่าข้าเป็นขยะ? ”

จี้ฮ่าวเดินกลับเข้ามาอย่างเงียบๆและหยิบเนื้อเริ่มกินมันต่อ