…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ห้องโถงขนาดใหญ่ซึ่งถูกตกแต่งอย่างหรูหรา พื้นห้องถูกปูด้วยไม้สีครีมพร้อมกับเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆนาๆซึ่งเป็นของแบรนด์เนม โซฟาเองก็ไม่ได้มีราคาน้อยๆและสิ่งที่น่าตกใจที่สุดคือทีวีจอ60นิ้วซึ่งสามารถดูหนังที่บ้านได้แบบสบายๆ

“นี่มันหรูหราเกินไปแล้ว”

ฮั่นชิงหวูได้ถอดรองเท้าพร้อมทั้งสำรวจห้องต่างๆ ใบหน้าที่สวยงามของเธอเองก็แสดงความตกตะลึงซึ่งเธออดถอนหายใจออกมาไม่ได้

เธอคำนวณดูแล้วว่าคอนโดหลังนี้มีพื้นที่อย่างต่ำ 250 ตารางเมตร 5ห้อง 3 ห้องโถง ห้องครัวและห้องออกกำลังกายซึ่งที่ระเบียงเองก็มีพื้นที่หลายตารางเมตร

เธอรู้ถึงราคาบ้านที่เซี่ยงไฮ้ดีซึ่งแต่ละตารางเมตรนั้นเป็นเงินเป็นทองทั้งนั้น บ้านแบบนี้ต้องมีราคาสูงลิ่วอย่างแน่นอน

หลังจากนั้นเธอเองก็ได้ฝืนยิ้มออกมาพร้อมกับโทรไปหาถังซิ่ว หลังจากผ่านไปไม่นานก็มีคนรับสาย

“ถังซิ่ว นี่เธอไม่ได้แกล้งฉันเล่นใช่ไหม ? บ้านของเพื่อนเธอนี่………”

“คุณไม่ชอบงั้นหรอ ? ”

ถังซิ่วได้ตอบกลับไป

ฮั่นชิงหวูเองก็ได้ฝืนยิ้มออกมาพร้อมกับพูดว่า

“ไม่ใช่ฉันไม่ชอบ ฉันชอบมันมากๆเพราะที่นี่เป็นบ้านระดับหรูหราที่มีพื้นที่กว่า250ตารางเมตร บ้านที่หรูหราขนาดนี้แต่เธอกลับบอกว่าให้เช่าเดือนละไม่กี่พันเนี่ยนะ ? ”

ถังซิ่วได้พูดออกมาว่า

“หากว่าคุณพอใจก็พอแล้ว ! ผมบอกไปแล้วไงว่าเขาแค่อยากให้มีคนมาอยู่เท่านั้น อย่าได้ไปสนใจว่าราคาเท่าไหร่หากว่าคุณไม่อยากอยู่ก็ไม่เป็นไร”

ฮั่นชิงหวูได้พูดออกมาอย่างรวดเร็วว่า

“อยู่สิ ใครบอกว่าฉันไม่อยู่กัน ได้รับผลประโยชน์ขนาดนี้แล้วใครจะไม่เอากัน เอางี้หลังจากที่เธอกลับมาที่เซี่ยงไฮ้แล้วฉันจะให้เงินค่าเช่าครึ่งปีกับเธอ”

“ได้”

ถังซิ่วได้ตอบกลับไปพร้อมกับวางสายทันที

ฮั่งชิงหวูที่ได้ยินเสียงสัญญาณขาดไปนั้นอดไม่ได้ที่จะแสดงสีหน้าหงุดหงิดออกมาอย่างไรก็ตามบ้านที่หรูหราขนาดนี้ก็ทำให้เธอยิ้มออกมาอยู่ดี

เช้าวันรุ่งขึ้น

แสงแรกแห่งยามเช้าได้สาดส่อง ศูนย์การค้าระดับโลกที่เซี่ยงไฮ้

ที่นี่เต็มไปด้วยไวน์กว่าหลายร้อยแบรด์ที่ถูกเรียงรายเอาไว้ที่โต๊ะ พ่อค้าไวน์เองก็ได้มาจากทั่วทุกแห่งในประเทศนี้ ผู้คนมากมายเองได้มองไปที่ไวน์ชั้นที่ถูกจัดวางอยู่บนโต๊ะ

ที่เค้าเตอร์ 0246

คังเซี่ยได้นั่งอย่างสงบพร้อมกับมองไปที่ฝูงชนที่มาและจากไปเพราะไวน์แห่งนิรันด์ของบริษัทเธอนั้นยังไม่มีชื่อเสียงซึ่งทำให้มีคนมากมายได้แต่มองทว่าก็ยังไม่มีใครมาสั่งซื้อแม้แต่คนเดียวยิ่งไปกว่านั้นคือป้ายราคาที่แสดงอยู่ก็ทำให้คนมากมายเยาะเย้ย

“ได้ยินบริษัทถังผู้สูงส่งไหม ? ไวน์บ้านี่มีราคาถึง18888 หยวน นี่มันเรื่องตลกอะไรกัน ? ไม่รู้จริงๆเลยว่าบอสของพวกเขามันโง่หรือเปล่า ไม่มีชื่อเสียงแต่กลับขายในราคาสูงเสียดฟ้าแบบนี้ ”

“ไวน์บางประเภทเองก็มีราคาที่สูงเสียดฟ้าทว่าไวน์แห่งนิรันด์อะไรนี่มันกลับไม่กลัวคนอื่นหัวเราะหรือไงกัน นี่มันเป็นไวน์ถลุงเงินเลยชัดๆ”

“ขวดละ 18888 ? นี่มันเกินไปหรือเปล่า ? มันใช้อะไรเป็นตัวบ่มกัน ? ”

“เมื่อรังมันใหญ่พอเราก็สามารถพบนกได้ทุกประเภท ดูเหมือนว่าบริษัทนี่จะต้องถูกหัวเราะเยาะอย่างแน่นอน ราคาอะไรจะขนาดนั้น”

“ไปกันเถอะ อย่าไปสนใจมันเลย”

“………”

คังเซี่ยเองก็ได้นั่งฟังความคิดเห็นของคนเหล่านี้ด้วยท่าทางที่นิ่งเงียบ ซูเขวียนที่ยืนอยู่ข้างๆเองก็ได้พยายามยิ้มออกมาแบบไม่สนใจเสียงความคิดเห็นรอบข้าง

“นี่ ? คุณปู่ ไวน์นี่น่าสนใจจริงๆ ไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อนแต่กลับมีราคาถึง18888 เลย อย่าบอกนะว่ามันดีเสียกว่าไวน์หวูเหลียงเย่น่ะ ? ”

เสียงที่สดใสของหญิงสาวได้ดังขึ้น

ชายชราได้เดินมาถึงที่เค้าเตอร์พร้อมกับมองไปที่ขวดไวน์เหล่านั้นด้วยสายตาที่ประหลาดใจ เขาลังเลอยู่ก่อนที่จะมองไปที่ซูเขวียนแล้วถามว่า

“น้องชาย ไวน์นี่บ่มจากที่ไหน ? แล้วสามารถทดลองดื่มได้ไหม ? ”

ซูเขวียนได้ตอบกลับไปด้วยรอยยิ้มว่า

“ลุงครับ มันถูกบ่มขึ้นที่เมืองสตาร์ซิตี้ในจังหวัดชวนฉิง ส่วนเรื่องทดลองดื่มนี่คงให้ไม่ได้เพราะเรากลัวว่าคนที่ไม่รู้รสชาติไวน์จะทำให้ไวน์เสียเปล่าๆยิ่งไปกว่านั้นเราไม่ได้สนใจเรื่องการขายที่นี่เท่าไหร่นักแต่ต้องการทำให้มันมีชื่อเท่านั้น”

ชายชราเองก็ได้ยกนิ้วโป้งขึ้นมาพร้อมชื่นชมว่า

“มีความกล้าพร้อมกับความมั่นใจมากๆ ในเมื่อเป็นเช่นนั้นก็ดี ฉันเองก็เป็นคนที่หลงใหลในรสชาติของไวน์เช่นกัน หากว่าเธอบอกว่าไม่ให้ลองชิมแล้วฉันจะขอซื้อขวดหนึ่งเป็นไง ? หากพูดกันตามตรงแล้วไวน์ที่ทำให้ฉันรู้สึกสงสัยได้ในปีนี้ก็มีไม่มากนักซึ่งไวน์ของเธอนี่ทำให้ตาเฒ่าคนนี้สงสัยเป็นอย่างมาก”

ซูเขวียนเองก็หันหน้ากลับไปมองที่คังเซี่ย

คังเซี่ยได้ยืนขึ้นจากโต๊ะพร้อมกับมองไปที่ชายคนนั้นก่อนที่เธอจะพูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า

“ลุงค่ะ ไวน์ทั้งสี่ขวดที่เรานำมานั้นจำเป็นต้องเก็บไว้สองขวดส่วนที่เหลืออีกสองขวดนั้นเราจะใช้อย่างไรก็ได้ เอางี้แล้วกันฉันจะให้ลุงฟรีๆไปเลยหนึ่งขวด หากว่าลุงคิดว่าไวน์นี่รสชาติดีแล้วก็ช่วยบอกต่อด้วยแล้วกันนะคะ ”

ชายชราคนนั้นเองก็ได้พยักหน้าด้วยรอยยิ้ม

“แน่นอนอยู่แล้ว”

เมื่อพูดจบ

ชายชราคนนั้นก็ได้หยิบขวดไวน์ขึ้นมาก่อนที่จะพูดกับหลานสาวว่า

“หลิงน้อย เอาแก้วไวน์มาหน่อย”

หญิงสาวที่อายุ17-18ปีเองก็ได้เปิดกระเป๋าออกมาพร้อมกับเอาแก้วออกมา 4 ใบ แล้วส่งให้ชายชรา

ชายชราคนนั้นก็ได้เปิดจุกไวน์ออกพร้อมกับเทมันลงเพียงแค่ครึ่งแก้วเท่านั้น ทันใดนั้นเองที่เขาได้แต่จ้องมองพร้อมทั้งแสดงสีหน้าที่ประหลาดใจออกมา

“กลิ่นหอมและสดชื่น นี่ขนาดยังไม่ได้ลองชิมนะแต่ตาเฒ่าคนนี้กลับโดนดึงดูดโดยสิ่งเหล่านี้แล้ว”

ชายชราคนนั้นเองก็ได้ถอนหายใจออกมาพร้อมกับจิบไป หลังจากผ่านไปไม่นานท่าทางของเขาก็เปลี่ยนเป็นตกตะลึงพร้อมทั้งใบหน้าที่แดงซ่านด้วยความรู้สึกช๊อค คังเซี่ยและซูเขวียนเองก็ได้ยิ้มออกมาก่อนที่ชายชราคนนั้นจะหลับตา

“ปู่ค่ะ อย่าปล่อยให้หนูเดาอยู่สิ มันเป็นอย่างไรบ้างค่ะ ”

หญิงสาวคนนั้นเองก็ได้ดึงแขนเสื้อของชายชราพร้อมทั้งถามออกมาด้วยความอยากรู้

ดวงตาทั้งสองของชายชราเองก็ได้เบิกกว้างพร้อมกับชื่นชมออกมาว่า

“เป็นไวน์ที่ดีมาก ตาเฒ่าคนนี้เองก็เคยดื่มไวน์มามากมายแต่มีแค่ไวน์ประเภทเดียวที่สามารถเทียบกับไวน์ขวดนี้ได้”

ซูเขวียนเองก็ยิ้มออกมาพร้อมพูดว่า

“ลุงครับ ลุงล้อผมเล่นหรือเปล่า ? ผมเองก็ดื่มไวน์มามากมายแต่ยังไม่เห็นไวน์ไหนที่สามารถเทียบกับไวน์ของเราได้เลย ”

ชายชราเองก็ได้ยิ้มออกมาพร้อมพูดว่า

“เมื่อประมาณ 40กว่าปีก่อนฉันได้ไปที่เฉินหนงเจียและพบกับไวน์เห่าซี่ เคยได้ยินไหม ? น่าเสียดายที่มีโอกาสดื่มได้เล็กน้อยและถูกจู่โจมโดยลิงก่อนที่จะต้องหนีไป รสชาติของไวน์นั่นยังติดอยู่ที่ปลายลิ้นของฉันไม่จางหาย ฉันเองก็คิดว่าในโลกนี้จะไม่มีไวน์ไหนที่เทียบกับมันได้แล้วเสียอีก ”

ซูเขวียนได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า

“ผมเองก็เคยได้ยินไวน์เห่าซี่มาเหมือนกันแต่ก็ไม่เคยดื่มแม้แต่น้อย ลุงครับ ในเมื่อลุงคิดว่าไวน์ของเรารสชาติดีดังนั้นก็ช่วยป่าวประกาศออกไปด้วยแล้วกันนะ ”

ชายชราเองก็ได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า

“ไม่ต้องเป็นห่วง ฉันทำตามคำสัญญาเสมออย่างไรก็ตามฉันสามารถซื้อจากที่นี่ก่อนได้ไหม ? เอาตามราคาที่เขียนอยู่เลย”

คังเซี่ยได้ยิ้มออกมาพร้อมกับพูดว่า

“ขอบคุณที่ลุงชอบไวน์ของเรานะคะทว่าเราไม่สามารถซื้อแบบส่วนตัวได้ หากว่าลุงชอบก็ต้องรอจนกว่าจะจบงานประกวดนี้แล้วเราจะมีตัวแทนอยู่ทั่วประเทศ เมื่อถึงเวลาแล้วลุงสามารถซื้อได้ทันที”

ชายชราเองก็ได้พูดออกมาด้วยความประหลาดใจว่า

“มีตัวแทนจำหน่ายเป็นของบริษัทงั้นหรอ ?”

คังเซี่ยได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า

“ใช่แล้วค่ะ”

ชายชราคนนั้นเองก็ได้ยกนิ้วโป้งขึ้นมาชื่นชมแล้วถอนหายใจออกมาว่า

“สุดยอดจริงๆ ส่วนใหญ่ไวน์ที่นำมาที่นี่ล้วนแต่ส่งไปให้คนอื่นขายทว่าไวน์ของพวกเธอกลับมีตัวแทนเป็นของตัวเอง นี่มันเยี่ยมไปเลย ”

คังเซี่ยได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า

“นี่เป็นคำสั่งของบอสเราค่ะ เราเองก็ทำได้แค่ฟังเขาเท่านั้น”

ชายชราเองก็ได้พยักหน้าพร้อมกับถามว่า

“บอสของพวกเธอคือ ? ”

คัวเซี่ยได้ตอบกลับไปว่า

“ต้องขอโทษจริงๆค่ะ บอสของเราไม่ค่อยจะยุ่งเรื่องบริษัทนักและเขาเองก็เป็นคนที่ไม่อยากเป็นจุดสนใจซึ่งเราไม่สามารเปิดเผยชื่อของเขาได้ หากว่าคุณรอต่อไปก็จะได้ยินชื่อของเขาอย่างแน่นอน”

ชายชราเองก็ได้หัวเราะออกมาพร้อมพูดว่า

“ดูเหมือนว่าบอสของพวกเธอจะเป็นคนที่สุดยอดไปเลยนะอย่างไรก็ตามเรามาตกลงอะไรกันหน่อยไหม ? ฉันชอบไวน์นี่เป็นอย่างมากและในเมื่อเราพบกันที่นี่เธอช่วยขายให้ฉันก่อนได้ไหม ? ฉันไม่ได้ต้องการเยอะ เอาแค่10ลังก็พอ หากว่าฉันดื่มหมดแล้วจะมาซื้อใหม่”

“นี่…..”

คังเซี่ยเองก็ลังเลเป็นอย่างมาก

ชายชราได้เอานามบัตรออกมาพร้อมกับส่งให้คังเซี่ยแล้วพูดว่า

“สาวน้อย นี่นามบัตรของฉัน”

คังเซี่ยได้รับบัตรมาพร้อมกับกวาดตามาก่อนที่ท่าทางของเธอจะเปลี่ยนไป

“คุณคือผู้อาวุโสดู่ ? บอสของเวดกรุ๊ป ?”

ดู่คุนเองก็ได้ยิ้มออกมาพร้อมกับพูดว่า

“ไม่คิดเลยว่าสาวน้อยจะรู้จักฉันด้วย จริงๆแล้วฉันเองก็เป็นเหมือนบอสของเธอที่ไม่ค่อยจะออกมาโชว์ตัวนัก ?”

คังเซี่ยได้เอานามบัตรออกมาพร้อมกับยื่นให้เขาแล้วพูดว่า

“ผู้อาวุโสดู่ ก่อนหน้านี้เราได้เคยคุยโทรศัพท์กันแล้ว”

ดู่คุนเองก็ได้ชะงักไปพร้อมกับรับนามบัตรของเธอกลับมา คิ้วของเขาขมวดเข้าหากันก่อนที่จะพูดออกมาด้วยความสับสนว่า

“คังเซี่ยที่ฉันรู้จักก็มีแค่ผู้จัดการทองคำ อย่าบอกนะว่า………”

คังเซี่ยได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า

“หากว่าไม่มีอะไรผิดพลาดคนนั้นก็คือหนูเอง อย่างไรก็ตามหนูไม่กล้าเรียกตัวเองว่าผู้จัดการทองคำหรอกค่ะ ”

ดู่คุนได้สำรวจเธอพร้อมทั้งพูดออกมาด้วยคามสับสนว่า

“ฉันยังจำได้อยู่เลยว่าเคยโทรไปขอให้เธอมาเป็นผู้จัดการของบริษัทเราทว่ากลับถูกปฏิเสธกลับมา”

คังเซี่ยได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า

“จริงๆแล้วหนูเองก็เพิ่งออกมาจากบริษัทหนึ่งและเหนื่อยมากแล้วถึงได้อยากจะพักผ่อนบ้าง”

ดู่คุนที่สามารถยืนยันสถานะของเธอได้แล้วนั้นจึงได้พูดออกมาด้วยความนับถือว่า

“ไม่คิดเลยว่าบอสของบริษัทถังผู้สูงส่งจะสามารถรับสมัครเธอได้ นี่ถือว่าเป็นโชคของเขาเลยนะ ”

คังเซี่ยได้ตอบกลับไปด้วยรอยยิ้มว่า

“ผู้อาวุโสดู่ ในเมื่อคุณต้องการที่จะซื้อไวน์ของเราดังนั้นหนูจะรับผิดชอบขายให้คุณ10ลังเองทว่าเราเองก็ไม่ได้นำมันติดมาด้วยดังนั้นคุณจะต้องส่งคนไปเอาที่เมืองสตาร์ซิตี้ด้วยตัวเอง”

“ไม่มีปัญหา ”

ดู่คุนด้วยพูดออกมาด้วยรอยยิ้ม