…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ถังซิ่วที่ได้ยินเสียงสอบถามของถังเกาเชิงเองก็ได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า

“ตอนที่พวกเราได้ไปลอบสังหารคนตระกูลซันเองก็ได้เรียกค่าไถ่พวกมันและให้พวกมันโอนเงินมาให้ผมแต่ก็เป็นจำนวนไม่มากนัก ประมาณ6-7ร้อยล้าน จริงๆแล้วผมเองก็กำลังจะไปไถ่เงินตระกูลหยางอยู่พอดีแต่น่าเสียดายที่ปู่โทรมาเสียก่อน ”

“ค๊อก ค๊อกก ….”

ถังเกาเชิงเองก็ไม่รู้ว่าควรจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี ไอ้หลานคนนี้จะฆ่าคนแล้วยังจะไปไถเงินเขาได้อีก นี่มันสุดยอดจริงๆ

“ซิ่วน้อย ตอนนี้ตระกูลของเราอ่อนแอกว่าตระกูลเหยามาก รออีกไม่กี่ปีและเมื่อได้เวลาแล้วเราจะไม่ยอมแพ้อย่างแน่นอน หลังจากนี้ก็ยังมีเวลาให้หลานไปไถเงินพวกมันได้อีกส่วนเรื่องเงิน6-7ร้อยล้านนั้นก็ให้หลานเก็บไว้แล้วกัน ถือว่าเป็นค่าแรงที่ปู่ให้”

ถังซิ่วได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า

“เอางั้นก็ได้ครับ ในเมื่อเรื่องพวกนี้จบแล้วผมก็จะกลับไปที่เซี่ยงไฮ้ในวันพรุ่งนี้ แล้วปู่จะให้ผมมอบอำนาจให้ใคร ? ”

“ให้เหว่ยน้อยแล้วกัน”

ถังซิ่วได้ตอบกลับไปว่า

“ไม่มีปัญหาครับ หากว่าปู่ไม่มีเรื่องอะไรแล้วงั้นผมวางสายก่อนนะ ”

“อื่ม”

การสนทนาได้สิ้นสุดลง

ถังซิ่วเองก็ได้ส่ายศีรษะเล็กน้อยหลังจากที่วางสายไป หลังจากนั้นเขาก็ได้โทรไปหาหัวหน้าตระกูลฮ่วง ฮ่วงจินฟูพร้อมทั้งบอกว่าเรื่องความขัดแย้งได้จบลงแล้วดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องใช้หน่วยข่าวกรองของตระกูลฮ่วงแล้ว

ในช่วงเย็น

ถังซิ่วได้พาถังเหว่ยไปที่ตระกูลฮ่วงพร้อมกับทานอาหารค่ำกับหัวหน้าตระกูลฮ่วงก่อนที่จะกลับมาที่โรงแรมมรกต

“บอสครับ ”

เห่ยหลงเองก็ได้ยืนอยู่ที่หน้าโรงแรมพร้อมกับที่เห็นว่าถังซิ่วกลับมาแล้วนั้นก็ได้เดินมาต้อนรับเขาด้วยท่าทางร่าเริง

ถังซิ่วได้พยักหน้าให้กับเขาแล้วพาเห่ยหลงไปที่ห้องก่อนที่จะนั่งลงบนโซฟาแล้วพูดว่า

“เห่ยหลง นายโชคดีเป็นอย่างมาก ตอนนี้ตระกูลเหยาได้ยอมแพ้แล้วและความขัดแย้งของตระกูลพวกฉันเองก็จบลงแล้ว นายทำได้ดีมากและฉันเองก็จะทำตามสิ่งที่ได้พูดเอาไว้ ฉันจะให้โอกาสที่ดีกับนาย”

เห่ยหลงเองก็ได้พูดออกมาด้วยความตื่นเต้นว่า

“ขอบคุณครับบอส”

ถังซิ่วได้โบกมือพร้อมทั้งพูดออกมาว่า

“ฉันจะต้องไปจากจังหวัดกวนหยางในวันพรุ่งนี้และโอนอำนาจไปให้กับถังเหว่ย เขาจะช่วยนายขยายถิ่นของนาย หลังจากนี้ในอีกไม่กี่ปีหากว่านายมีความสามารถพอก็คงจะสามารถยึดครองตำแหน่งผู้มีอำนาจใต้ดินที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดกวนหยางได้ อย่างไรก็ตามมีบางเรื่องที่ฉันจะขอให้นายให้สัญญากับฉัน”

ร่างกายของเห่ยหลงเองก็สั่นสะท้านพร้อมกับพูดออกมาอย่างรวดเร็วว่า

“บอสครับ พูดมาได้เลย ผมจะปฏิบัติตามอย่างแน่นอน”

ถังซิ่วได้ส่ายศีรษะพร้อมทั้งพูดออกมาว่า

“อย่าเพิ่งตอบตกลงสิ คำขอของฉันนั้นง่ายมากๆคือ ห้ามเป็นคนชั่วโดยเด็ดขาด ห้ามบังขับขืนใจหญิงสาวมาขายตัว ห้ามเปิดบ่อนพนัน ไม่ว่านายจะทำธุรกิจอะไรก็ได้แต่ห้ามสามอย่างนี้ หากว่านายกล้าที่จะผิดเงื่อนไขนี้ก็ไม่จำเป็นต้องรอตำรวจมาจัดการเพราะฉันจะเป็นคนตัดหัวนายเอง”

เห่ยหลงเองก็ได้พูดออกมาอย่างลังเลว่า

“บอสครับ ผมสามารถยอมรับเงื่อนไขที่คุณว่ามาได้แต่………. กำลังของผมมีจำกัดและมันรวมไปถึงเงินทุนด้วย หากว่าผมต้องการที่จะคุมทั้งจังหวัดก็คง……..”

ถังซิ่วได้พูดออกมาว่า

“ขอเงินมาฉันก็ให้ ขอคนมาฉันก็จะให้”

จิตวิญญาณของเห่ยหลงเองก็สั่นสะท้านพร้อมกับพูดออกมาทันทีว่า

“บอสครับ ผมเข้าใจแล้ว คุณไม่ต้องเป็นห่วงได้เลยว่าผมจะไขว่คว้ามาไว้ให้ได้และไม่ว่าอนาคตของธุรกิจผมจะเป็นเช่นไรผมก็จะแบ่งเงิน2ใน3ให้แก่บอส”

ถังซิ่วได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า

“นายเป็นคนที่ฉลาดมาก ฉันเริ่มกังวลแล้วสิว่านายจะสร้างปัญหาให้ฉันในอนาคตหรือเปล่า ? ”

เห่ยหลงเองก็ได้ฝืนยิ้มออกมาแล้วพูดว่า

“บอสก็พูดเกินไป หากเทียบกับพลังของบอสและตระกูลถังแล้วอย่าว่าแต่จังหวัดกวนหยางเลย ต่อให้ลูกน้องของผมไปสร้างประเทศเป็นของตัวเองก็ไม่สามารถเป็นคู่มือให้คุณได้ ! ผมได้ยินมาว่า………..ตระกูลซันเสียหายหนักมากๆ”

ถังซิ่วได้ยิ้มออกมาพร้อมทั้งโบกมือแล้วพูดว่า

“แหม่ ฉันแค่ล้อเล่นหรอกน่า ส่วนเรื่องเงินรายปีที่นายต้องจ่ายนั้นฉันขอแค่1ใน3ก็พอแล้ว เงินนั่นนายเองก็เอาไปให้กับผู้รับผิดชอบของตระกูลถังที่จังหวัดกวนหยางซะ ……..นี่ถือว่าตระกูลถังได้ลงทุนกับนายแล้วกัน”

“ได้ครับ ”

เห่ยหลงเองก็ได้ยิ้มออกมาอย่างมีความสุขพร้อมกับพยักหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ถังซิ่วได้โบกมือให้กับเขาพร้อมกับพูดว่า

“เอาล่ะ ถ้าไม่มีเรื่องอะไรแล้วนายก็กลับไปได้แล้ว เมื่อถังเหว่ยได้รับอำนาจของที่นี่ไปแล้วเขาก็จะไปหานายเอง ”

ขณะที่เห่ยหลงได้จากไปนั้นถังเหว่ยเองก็ได้เดินเข้ามาในห้อง ถังซิ่วได้อธิบายเรื่องของเห่ยหลงให้ถังเหว่ยฟังและก็ได้เตือนเขาว่าให้ระวังตัวไว้มากๆ

ถังเหว่ยเองก็ได้ฝืนยิ้มออกมาแล้วพูดว่า

“น้องชาย เท่าที่ฉันรู้มาคือเห่ยหลงนั้นไม่ใช่จำพวกที่เป็นมิตรซักเท่าไหร่ เขาเป็นคนที่โหดเหี้ยมและไม่มีคุณธรรม นายฆ่าพี่น้องของเขาไปถึงสองคนทว่าเขากลับไม่ได้ใส่ใจแม้แต่น้อย เขาสนใจเพียงแค่ผลประโยชน์เท่านั้น หากว่ายังเก็บเขาเอาไว้ก็จะสร้างปัญหาอย่างแน่นอน”

ถังซิ่วได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า

“จริงๆแล้วคนประเภทนี้ควบคุมง่ายมาก เรามีตระกูลถังที่คอยกดดันเขาเอาไว้และฉันเชื่อว่าเขาคงไม่กล้าทำอะไรอย่างแน่นอน หากว่าเขาใฝ่หาผลประโยชน์เราก็จะให้ผลประโยชน์แก่เขา ตราบใดที่เขามีความสามารถพอก็สามารถใช้เป็นเครื่องมือของตระกูลเราได้ในอนาคต อย่างไรก็ตามเราก็ต้องแอบช่วยเหลือเขาอย่างลับๆ ”

“ฉันเข้าใจแล้ว ”

ถังเหว่ยเองก็ได้พยักหน้าพร้อมกับพูดต่อว่า

“แล้วนายจะออกจากจังหวัดนี้ในวันพรุ่งนี้งั้นหรอ ? ไม่ใช่ว่านายส่งใบลาที่มหาวิทยาลัยแล้วงั้นหรอ ? ”

ถังซิ่วได้ตอบกลับไปด้วยรอยยิ้มว่า

“จริงๆแล้วฉันเองก็มีเรื่องที่ต้องจัดการที่เซี่ยงไฮ้เหมือนกัน ในเมื่อตอนนี้ก็ไม่ได้มีเรื่องอะไรแล้วดังนั้นฉันอยู่ต่อไปก็ไม่ได้อะไร ฉันรีบกลับไปจัดการงานของฉันดีกว่า ”

ถังเหว่ยเองก็ได้ถามออกมาด้วยความประหลาดใจว่า

“มีเรื่องอะไรงั้นหรอ ? ทำไมไม่เคยได้ยินนายพูดถึงเลย? ”

ถังซิ่วได้พูดออกมาว่า

“ฉันได้เปิดโรงบ่มไวน์ขึ้นในเมืองสตาร์ซิตี้ วันนี้เป็นวันจัดงานประกวดไวน์ในรอบหลายๆปีและไวน์ของฉันเองก็ได้ถูกนำไปเปิดตัวที่นั่น ฉันเองก็หวังว่ามันจะโด่งดังจากงานในครั้งนี้ ”

ถังเหว่ยเองก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาแล้วพูดว่า

“ดูเหมือนว่านายจะทำธุรกิจไว้มากมายเชียวนะ เอาล่ะ ที่นี่ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของฉันเอง นายไม่ต้องเป็นห่วงหรอก ”

จังหวัดกวนหยาง สนามบิน

เหยาซินหัวและลูกน้องคนสนิทของเขากำลังนั่งรอเวลาขึ้นเครื่อง อารมณ์ของเขาบูดเป็นอย่างมาก จริงๆแล้วเขาได้นำผู้เชี่ยวชาญมามากมายเพื่อจะทำลายตระกูลถังร่วมกับตระกูลซันและเกือบจะทำลายมันจนสิ้นซากอยู่แล้ว

อย่างไรก็ตาม

สถานการณ์เองก็ไม่ได้เป็นไปอย่างที่เขาได้คาดหวังเอาไว้ กลับกลายเป็นว่าตระกูลถังเองก็ได้ตอบโต้พร้อมกับทำให้ตระกูลของเขาได้รับความเสียหายจนเกือบทำให้ตระกูลซันสูญสิ้น

นี่มันน่าอับอาย

สงครามครั้งนี้คือความอับอายของเขา

เขาไม่ต้องการที่จะกลับไปยังเมืองหลวงแต่เป็นเพราะท่านชายได้ออกคำสั่งมาเองซึ่งคำสั่งคือให้เขายุติสงครามครั้งนี้พร้อมกับยอมแพ้กับให้ตระกูลถัง มันเป็นอะไรที่ทำให้เขาเกือบจะกระอักเลือดออกมา

“นายน้อยครับ”

ชายรูปร่างกำยำเองก็ได้วิ่งมาอย่างรวดเร็ว

เหยาซินหัวเองก็ได้ขมวดคิ้วพร้อมกับถามออกมาด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำว่า

“มีเรื่องอะไร ? ”

ชายรูปร่างกำยำคนนั้นเองก็ได้พูดว่า

“เราได้ไปสืบสวนมาเรียบร้อยแล้ว หลังจากที่ถังหยุนเป็งได้กลับไปที่จังหวัดซูซู่แล้วคนที่รับผิดชอบต่อจากเขาคือเด็กหนุ่มที่ชื่อถังซิ่ว เขาเป็นหัวหอกในการนำคนมาบุกโจมตีพวกเรา”

ถังซิ่ว ?

เหยาซินหัวเองก็ได้ขมวดคิ้วพร้อมกับถามออกมาว่า

“ฉันพอรู้จักคนในตระกูลถังอยู่บ้าง แต่ฉันไม่เห็นเคยได้ยินชื่อมันมาก่อนเลย ? ”

ชายคนนั้นเองก็ได้ตอบกลับไปว่า

“ถังซิ่วเป็นลูกชายแท้ๆของถังหยุนเด่ หลายปีมานี้เขาได้อยู่ที่โลกภายนอกและเพิ่งจะพบกับเขาเมื่อสองเดือนที่ผ่านมานี้ หลังจากนั้นก็ได้เข้าร่วมพิธีเคารพหลุมศพบรรพชน ปีนี้เขาอายุ20ปีและได้ยินมาว่าเพิ่งจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ได้ที่หนึ่ง ก่อนหน้านี้เขาเพิ่งจะมาถึงที่นี่ได้ 2 วันและอำนาจทั้งหมดเองก็ได้ถูกโอนไปให้เขา ”

เหยาซินหัวเองก็ได้มีท่าทางเปลี่ยนไปพร้อมกับพูดออกมาว่า

“จากที่ฟังมานี่คู่ต่อสู้ของฉันคือถังซิ่ว ? ยิ่งไปกว่านั้นคือเด็กอายุ20ปี ? ที่แม่งเพิ่งจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ได้งั้นหรอ ? ”

“ครับ ”

หลังจากที่ชายคนนั้นเห็นท่าทางบูดบึ้งของเหยาซินหัวแล้วก็ได้ตอบออกมาตามตรง

เหยาซินหัวเองก็เงียบไปครู่หนึ่งก่อนที่จะยิ้มออกมาพลางส่ายศีรษะแล้วพูดว่า

“ไม่คิดเลยว่าตระกูลถังมันจะซ่อนไพ่ไว้มากมายถึงได้มีเด็กที่โดดเด่นขนาดนั้น แต่ฉันก็ยังเชื่อว่าคนที่ได้รับอำนาจที่นี่จริงๆไม่ใช่ถังซิ่วแต่เป็นคนอื่น คิดจริงๆหรือว่าไอ้เด็กนั่นมันจะชนะฉันได้ ? ”

ชายคนนั้นเองก็ได้พูดออกมาด้วยเสียงกระซิบว่า

“นายน้อยครับ หลังจากที่ได้รับข่างสารแล้วผมเองก็คิดเรื่องนี้เหมือนกันจึงได้ส่งคนไปสอบสวนเรื่องของถังซิ่วที่เมืองสตาร์ซิตี้ เขาเป็นคนที่ธรรมด๊า~~ธรรมดามากๆเพียงแค่โชคของเขาดีเท่านั้นที่สามารถรู้จักกับคนที่มีอำนาจ”

เหยาซินหัวเองก็ได้ถามออกมาว่า

“ใครกัน ? ”

ชายคนนั้นเองก็ได้ตอบกลับไปว่า

“นายน้อยตระกูลหลงของเมืองสตาร์ซิตี้ หลงเจิ้งหยู นายใหญ่ของบริษัทร้อยคุณธรรมเภสัช เฉินซีซ่ง อ่อใช่ เขาเป็นเพื่อนกับลูกชายหัวหน้าตระกูลหยวน หยวนเจิ้งซวนด้วยครับ ”

เหยาซินหัวเองก็ได้ส่ายศีรษะพร้อมกับพูดว่า

“ดูเหมือนว่ามันจะพอมีความสามารถอยู่บ้างนะแต่ว่าโชคของมันโครตจะดีเลย มันไม่คุ้มค่าแก่การสนใจหรอก ทิ้งเรื่องการสืบสวนเกี่ยวกับถังซิ่วและให้มุ่งไปที่ใครที่เป็นผู้สั่งการที่อยู่เบื้องหลัง ”

เซี่ยงไฮ้ คอนโดหลินหยวน

ฮั่นชิงหวูได้ขับรถ Audi a4 สีแดงไปลงทะเบียนที่ป้อมยามก่อนที่จะขับเข้าไปข้างในอย่างรวดเร็ว หลังจากที่เธอได้รับกุญแจที่ถังซิ่วฝากมากับเยวี่ยไคแล้วด้วยเหตุผลที่ว่าเธอยังไม่ได้ให้ค่าเช่าแก่ถังซิ่วจึงไม่ได้มาที่นี่ ตอนนี้เธอว่างพอดีเลยจึงได้มาลองดูที่ก่อน

“หวังว่าเด็กนั่นจะหาที่ดีๆให้ฉันอยู่นะไม่เช่นนั้นหลังจากที่เขากลับมาแล้วฉันจะจัดการเขาไม่น้อยเลย”

ฮั่นชิงหวูเองก็ได้เดินเข้าไปในตึกทันทีหลังจากที่อ่านที่อยู่จากจดหมาย

“มันดูดีเกินไปหรือเปล่า ? ที่นี่ดูไม่เหมือนว่าจะพอสำหรับค่าเช้าที่ฉันจ่ายไปเลยนะ ”

ฮั่งชิงหวูรู้สึกแบบนี้ทันทีหลังจากที่เดินเข้าไปในสำนักงานและเห็นชายหญิงที่แต่งตัวดูมีระดับอยู่มากมายซึ่งการตกแต่งภายในนั้นให้ความรู้สึกที่หรูหราเป็นอย่างมาก

“ชั้นที่ 27”

ฮั่นชิงหวูเองก็ได้ขึ้นลิฟท์ไปที่ฉัน 27 ก่อนที่จะมองไปที่ห้องที่อยู่ตรงทางเดิน เธอได้เดินเข้าไปพร้อมกับไขกุญแจทันที

“สวรรค์ !!! มันหรูหราเกินไปหรือเปล่า ? ”

เมื่อเธอเดินเข้าไปในห้องแล้วก็พบกับบรรยากาศภายในก่อนที่ดวงตาของเธอจะเบิกกว้างด้วยความรู้สึกไม่อยากจะเชื่อ